กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เซราฟิมตะโกนเสียงดังทำเอาท้องฟ้าและพื้นดินสั่นไหว สีหน้าของเหล่าทหารขาวซีด ทหารบางรายที่ไม่ได้อยู่แนวหน้าและขลาดกลัวเริ่มสวดภาวนาไปพร้อมกับชาวบ้าน พวกเขาล้วนอยากให้เรื่องร้ายที่กำลังดำเนินไปนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน และเมื่อตื่นขึ้น ความวินาศทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็จะหายไป
ทว่าคำภาวนาเป็นเพียงคำภาวนาในตอนนี้
แม้เทพีจะมีอยู่จริง และสิ่งที่ทรงอำนาจกว่ามนุษย์กับมังกร รวมถึงเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ที่มีตัวตนรับรู้ได้หรือไม่ ทั้งหลายอาจรับรู้ได้ถึงเหตุโลกาวินาศที่ดำเนินไปอยู่นี้ พวกท่าน ๆ เหล่านั้นก็เพียงเฝ้ามองโดยไม่แทรกแซง
แม้ชะตาของชีวิตอาจถูกลิขิตไว้ได้โดยผู้เหนือกว่าที่ไม่ได้ร่วมในสงครามครั้งนี้ แต่เจ้าชะตาที่ต่างอยู่ในโลกแห่งนี้ต่างหากที่จะเป็นผู้เลือกและเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของพวกเขาเอง ผู้อาศัยอยู่ในโลกอย่างแท้จริงอย่างเหล่ามนุษย์จำนวนมากและเผ่าพันธุ์อื่นเท่านั้นที่จะต้องดิ้นรนหากอยากให้โลกดำเนินต่อไป
บาเร็ตต้ามองเด็ก ๆ แวมไพร์ที่กอดกันตัวสั่น นางพาพวกเขามาหลบในรังมังกรแห่งจุดจบ หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยหากโลกนี้ไม่ถึงกาลอวสาน
เหล่าแวมไพร์มีจุดอ่อนอยู่มากแม้จะมีพลังที่กล้าแข็ง พวกแวมไพร์ทั้งแพ้แร่มิลธิล และยังแพ้ต่อพวกเวทศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งบาเร็ตต้าที่รู้สึกได้ถึงตัวตนของเซราฟิมตอนที่อีกฝ่ายจะปรากฏตัว นางก็รู้โดยสัญชาตญาณว่านางแพ้ทางให้เซราฟิม
สัญชาตญาณอาจเป็นเหตุผลที่ดูไร้สาระ ถ้าให้นางต้องอธิบายกับคนที่ไม่อยากจะเชื่อและคิดว่านางเป็นคนขี้ขลาดในสงครามครั้งนี้ นางคงจะต้องชี้ให้เขาตระหนักว่าพลังโจมตีของเซราฟิมเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์
แม้ใจของบาเร็ตต้าจะอยากสู้ร่วมกับซินเทียร์และเมย์ แต่นางคงทำได้เพียงอธิษฐานให้ทั้งสองกลับมาได้อย่างปลอดภัย
“ขอให้มันเป็นฝันทีเถอะ” เสียงของทหารสวดภาวนา
“เฮ้ย พระเจ้าไม่ช่วยอะไรอยู่แล้ว เพราะแบบนั้นเราจะมามัวภาวนาเพื่ออะไร ไอ้โง่” เพื่อนนายทหารพูดขัดขึ้นมา
“ขนาดปืนใหญ่เนเมซิสยังพ่าย มีแต่ต้องหนีเท่านั้น ไม่งั้นตาย”
“หนีเรอะ หนีไปไหนกันล่ะ”
“ก็ต้องไปกันก่อน ถ้าอยู่ตรงนี้ก็มีแต่ตายกับตาย กูยังมีลูกมีเมียที่ต้องดูแล” คนหนึ่งแหกปากและวิ่งทิ้งทุกคนไป
“ข้าก็มีเหมือนกัน ถ้ามัวแต่สวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าก็เปล่าประโยชน์” อีกคนหนึ่งวิ่งแยกไปเช่นกัน
เปลวเพลิงสีนิลของซินเทียร์พุ่งใส่เซราฟิมอย่างแรง ร่างนั้นสะบัดตัว เมื่อหน้ากากไม่ปิดบังใบหน้าอยู่ ทุกคนก็ได้ยลโฉมของเซราฟิม จริง ๆ แล้วใบหน้านั้นมีความอ่อนหวาน ดูสวยงามอย่างน่าตะลึง
พิจารณาจากรูปลักษณ์ เซราฟิมควรจะเป็นสตรีที่งดงามที่สุด แต่ก็น่ากังขาในเรื่องเพศ เพราะเซราฟิมนั้นควรไม่มีเพศ
ปีกหกข้างแผ่ออก ขนบนปีกนั้นสีดำ
เปลือกตาของเซราฟิมตอนนี้ยังปิดอยู่
“ขอแจ้งเตือน ศัตรูที่อยู่ข้างหน้ามีมวลพลังเวทมหาศาลมิอาจจะประเมินได้” ราฟาเอลทำให้ตระหนักถึงความอันตรายของสิ่งที่เผชิญหน้าอยู่
“ราฟาเอล มีทางจัดการกับมันไหม”
“ไม่มีทางหรอก”
“วิเคราะห์สิ วิเคราะห์จนกว่าจะรู้”
“ศัตรูมาจากมิติอื่น ถ้าจะวิเคราะห์คงต้องใช้เวลานานหน่อย”
“ต้องวิเคราะห์จนกว่าจะรู้วิธีจัดการ”
เซราฟิมลืมตาขึ้น ซินเทียร์ผงะเพราะรู้สึกได้ถึงจิตต่อสู้ที่รุนแรงแผ่ออกมา นางตั้งท่าเตรียมการต่อสู้ เมย์ที่อยู่ในโหมดอาภรณ์แห่งภูตตั้งท่าพร้อมจะสนับสนุนซินเทียร์
“แรงกดดันนี่มัน..” เมย์อ้าปากพะงาบ ๆ ขืนตัวไว้
แรงกดดันที่มหาศาลมาจากจิตต่อสู้นั่นเอง เมย์รู้สึกว่าร่างตนเหมือนกับโดนภูเขาทั้งลูกหล่นทับ ฝืนยืนด้วยความลำบาก มิอาจจะขยับได้ ส่วนซินเทียร์นั้นยังพอจะหายใจออก นางยืดตัวขึ้นขืนพลังที่รู้สึกได้อย่างรุนแรงจากอีกฝ่ายที่มีสีหน้าผ่อนคลาย
“ความหิวกระหายของข้า ไม่มีที่สิ้นสุด” เซราฟิมกล่าวขึ้น
เสียงของนางดูสงบและใสกว่าในทีแรก
แต่ก็มีความน่าสะพรึงที่ทำให้ขนบนกายของทุกคนที่ได้ยินลุกชัน
เหล่าราชามังกรพากันเข้าไปโจมตีในจังหวะที่ซินเทียร์กะพริบตา ลมหายใจของเหล่าราชามังกรถูกปัดให้พ้นไปด้วยมือเรียวเล็กและพลังที่มองไม่เห็นของเซราฟิม
ซินเทียร์ใช้จังหวะที่เหล่ามังกรปล่อยลมหายใจมังกรเพื่อบดบังทัศนวิสัยของอีกฝ่าย โจมตีเข้าใส่
แต่หมัดของซินเทียร์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีนิลถูกหยุดได้อย่างง่ายดาย
การโจมตีของซินเทียร์ไม่ได้จบที่หมัดแต่เพียงอย่างเดียว ลูกเตะของซินเทียร์ตามมาเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแรง และคราวนี้ได้ผล ร่างใหญ่ยักษ์ของอีกฝ่ายล้มลง แต่ชั่ววินาทีที่ซินเทียร์ลิงโลด ร่างนางก็ปลิวคว้างไปเพราะโดนโจมตีกลับ ดีว่าเมย์พุ่งมารับซินเทียร์ไว้ทัน
ซินเทียร์ไอออกมา ตับไตไส้พุงสะเทือนไปหมด แต่เพราะร่างกายของนางแข็งแกร่งจึงไม่มีอาการช้ำในหรือกระอักเลือดออกมา
“ขอบใจมากนะเมย์ที่รับไว้” ซินเทียร์ซึ้งใจ
ซินเทียร์แค้นใจเซราฟิม ฝีมือของมันถือว่ายากจะรับมือ ราชามังกรเองกระเด็นไปคนละทิศละทาง เรียกว่าไม่มีคนที่ตั้งรับอยู่ได้ อัศวินมังกรถอยไปอยู่ห่างออกไป เขาดูเหมือนจะเป็นคนที่น่าจะได้รับแรงกระแทกเมื่อครู่น้อยที่สุดด้วย ทางเขาพุ่งกลับไปหาเซราฟิมอีกครั้งอย่างไม่ขลาดกลัว
“อะนิหิเรชั่นเบรก ลมหายใจแห่งการสูญสิ้น” เอนกลับมาโจมตีอีกครั้ง
“เมเทโอ สกาเล็ต ดาวหางสีชาด” เทอร่าดราก้อนโจมตีอย่างเต็มกำลังเพื่อสนับสนุนเอน
“ภูมิปัญญา ไร้ขอบเขต ไรโดเบรก” การโจมตีของราชามังกรแห่งปัญญาเกิดขึ้นตามมา
“เพลิงสีเลือด เพลิงโลหิต ราชามังกรแดง”
“กาลเวลาแห่งการสูญสิ้น ไทม์ออฟเอ็กติงชั่น” รินเนะใช้เวทกาลเวลาโจมตีใส่เซราฟิม
“กระบวนท่าปราบมังกรผ่าสวรรค์”
“อสุนีบาตเฉือดเฉือน เวทผสานศรอาทิตย์อัสดง”
การโจมตีในรอบนี้รุนแรงพอจะสร้างบาดแผลให้เซราฟิมได้ เมย์ที่รั้งซินเทียร์ไว้ก่อนเริ่มฉุกใจคิดหลังเห็นการโจมตีของเหล่าราชามังกร ดูเหมือนการโจมตีปกติจะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับเซราฟิมได้ แต่พอมีพลังเวทของเหล่าราชามังกรที่ผสมพลังเวทธรรมชาติเข้าไป เซราฟิมแสดงความเสียหายออกมา
“ซินเทียร์ คือข้ามีอะไรบางอย่างที่อยากลอง ช่วยคุ้มกันให้หน่อย”
“มีแผนเหรอ ไหนว่ามาสิ” ซินเทียร์จ้องเมย์ “ไม่ใช่ให้ร่วมมือโดยไม่บอกอะไรข้าก่อน”
เมย์เอะใจว่าซินเทียร์กำลังนึกถึงตอนที่ตนแอบไปรับบททดสอบโดยไม่ได้แจ้งก่อนล่วงหน้า ในตอนนั้นหลังผ่านการทดสอบมาแล้ว ในค่ำคืนที่เร่าร้อนก่ายกอดกัน ซินเทียร์ให้เมย์สัญญาว่าจะไม่มีความลับในตอนที่ต้องเสี่ยงอันตราย
“แผนมีอยู่ว่า ช่วยใช้ลมหายใจมังกรซัดข้าไปที่เซราฟิมที”
“แล้วไงต่อ” ซินเทียร์ถามอย่างคาดคั้น
“ทำตามแม่หนูนี่เถอะ ลูกข้า” เอนโฉบมาหยุดอยู่ใกล้ “ต้องเชื่อใจคนที่ตัวเองรักสิ”
“ฮึ” ซินเทียร์สะบัดเสียง และถอนหายใจแรง “ก็ได้ ๆ”
เมย์ยิ้มออก
ด้านหนึ่งของสนามรบที่กระจายอยู่ทั่วโลก ราชาอาเธอร์ถือดาบเอ็กซ์คาลิเบอฟาดฟันศัตรูไม่หยุด เพื่อนสนิทอย่างซีโร่ผูู้ที่ราชาอาเธอร์ก็ไว้ใจคอยร่วมรบอยู่เคียงข้าง ระวังหลังให้อยู่ตลอด
“ฝีมือตกไปเยอะเลยนะ เป็นไก่คออ่อน” ซีโร่พูดกับราชาอาเธอร์เมื่อหลังทั้งสองมาชนกันเข้า
“คงงั้น” ราชาอาเธอร์ถีบศัตรูตัวหนึ่งออกไป และฟาดดาบกวาดตัวอื่น ๆ จนกระเด็น เขาเบี่ยงหน้ามาพร้อมกับชำเลืองหางตามองซีโร่ “ใครจะไปเหมือนไอ้ตัวคลั่งสงครามอย่างเจ้า ฝีมือคมแม้อายุจริงก็ไม่ใช้น้อยแล้ว เจ้าจะเป็นอสูรอยู่แล้ว”
“อยากหนุ่มแน่นกันตลอดจริงไหมเอาไว้หลังจากเสร็จศึกนี้จะพาไปดื่มให้เมา จนต้องลากกลับ ฮ่าฮ่า”
“สองคนนี้ไม่เครียดกันเลยเนาะ ในสงครามนะเฮ้ย แทนที่จะเครียดแต่กลับยิ้มได้เนาะ” ผู้กล้าของประเทศหนึ่งกล่าวแทรก เขาบุกทะลวงมาเป็นกำลังให้ทั้งสอง
“หุบปาก!!!” ทั้งสองสหายพูดพร้อมกัน
เมย์รวบรวมพลังเวทจากธรรมชาติ แล้วให้สัญญาณกับซินเทียร์
เมื่อสิ้นสุดสัญญาณ ซินเทียร์ชักดาบออกมาอัดเปลวเพลิงลงไป แล้วก็พุ่งกายเข้าไปฟาดฟันเซราฟิม การจู่โจมของนางประสานกับอัศวินมังกร จนเกิดช่องโหว่ขึ้น การต่อสู้อย่างฮึกเหิมของทั้งคู่ทำให้บรรดาผู้คนที่พอสู้ได้ในละแวกรอบข้างไม่เพียงจ้องมอง แต่พวกเขาเสี่ยงชีวิตพุ่งเข้ามา
บางคนโดนอสูรจัดการไปก่อน แต่บางคนก็เก่งพอที่จะโจมตีใส่เซราฟิมบ้าง
ไม่มีมนุษย์คนอื่นจะทำให้เซราฟิมบาดเจ็บ แต่ก็ทำให้เสียสมาธิไปบ้าง เมย์อาศัยจังหวะที่จับได้ว่าเซราฟิมเปิดช่องว่าง พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วของอาภรณ์ภูตสายฟ้าไรเด็น
“นี่ไง เป็นไปตามที่คิดเลย” เมย์พูดด้วยความดีใจ
การโจมของเมย์สร้างบาดแผลให้กับเซราฟิมได้
“อ๋อ ที่แท้เจ้าจะใช้เวทธรรมชาตินี่เอง” ซินเทียร์ตามมายืนเคียงข้างเมย์
“เวทธรรมชาติสร้างความเสียหายให้กับเจ้านี่ได้” เมย์สรุปอย่างมั่นใจ
หกราชามังกรและผู้คนร่วมต่อสู้กับซินเทียร์ จำนวนผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นราวใบไม้ร่วง แต่ก็ดูเหมือนมีความหวังขึ้นมาเพราะเซราฟิมเริ่มมีบาดแผลเพิ่มมากขึ้น เหล่าทวยเทพที่ตัวตนอยู่ในมิติอื่นและไม่แยแสมากนักกับเหตุการณ์ในโลกนี้ในช่วงแรก ๆ นั้น เวลานี้ยังต้องหันมาดูเพื่อเป็นประจักษ์พยานถึงเหตุการณ์ที่ดำเนินไปและกำลังจะเกิดขึ้น
เสียงฟ้าร้องเป็นเหมือนเสียงกลองลั่นทัพ
เหล่ามนุษย์ที่ก่อนหน้านี้หวาดกลัวและเริ่มสิ้นหวัง ตอนนี้กลับมามีแรงฮึดขึ้น
“เพลิงราชามังกรสีชาด เอาไปกินซะ ไอ้ตัวน่าหงุดหงิดเอ๊ย”
“รุ่งเช้าแห่งการสูญสิ้น เอ็กเทนชั่น ออฟ ดอน”
“ไทม์ออฟเอ็กติงชั่น ช่วงเวลาแห่งการสูญสลาย”
“เมเทโอ ออฟเดด ดาวหางแห่งความตาย”
“อะมิคเบรก ลมหายใจแห่งการลบล้าง”
สงครามครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่มังกรช่วยเหลือมนุษย์ ทั้งสองเผ่าพันธุ์ร่วมมือกันอย่างสามัคคี
“พวกแกแข็งแกร่งเหมือนเดิม” เซราฟิมย้อนคิดถึงความหลังครั้งก่อน ตอนนั้นมันถูกทำให้ต้องล่าถอยกลับไป
ประตูมิติต้องใช้พลังมหาศาลเพื่อเปิดออก เซราฟิมใช้เวลาอยู่นานหลังจากสงครามครั้งที่แล้วเพื่อรวบรวมพลังมาสำหรับการเปิดประตูมิติอีกครั้ง นางมาถึงที่นี่พร้อมกับตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่พลาดอีก ร่างใหญ่นั้นปล่อยรัศมีที่ปัดกวาดร่างทุกร่างที่อยู่รอบข้างให้กระเด็นไป และดึงทุกร่างที่ลอยอยู่บนฟ้าให้ร่วงหล่น
“ครั้งนี้พวกแกก็ร่วงจากฟากฟ้าแล้ว” เท้าของเซราฟิมตามกระทืบชีวิตที่บนพื้น
ขนนกจำนวนมากพุ่งจากร่างเซราฟิมราวกับห่าธนูที่พุ่งเข้าหาเป้าหมาย มีคนต้องตายอีกมาก
“ไอ้พวกกิ้งก่า ร่วงไปซะ” สีหน้าของเซราฟิมดูเคียดแค้น “บินได้ ก็ร่วงได้”
เซราฟิมหัวเราะออกมาอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ
“อยากรู้รึเปล่าว่าทำไมเราต้องมาที่นี่ เป็นเพราะที่โลกแห่งนี้มีพลังงานอาร์คที่หนาแน่นและเข้มข้นอย่างถึงที่สุด” เซราฟิมกล่าวขึ้น พลังของนางไม่หยุดทำงานแม้แต่วินาที “ที่นี่เหมือนผลไม้ที่สุกงอมแล้ว รสชาติช่างน่าอร่อย”
ปากของเซราฟิมชะงัก แล้วนางก็แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
สีหน้างดงามนั้นแฝงความดูแคลน แววตาเย้ยหยัน ขนนกอีกนับร้อยพุ่งมาทางซินเทียร์ที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเหล่าราชามังกรได้รับบาดเจ็บ
“ระวัง! ซินเทียร์…” เมย์ที่อยู่ใกล้สุดเอาตัวไปขวางการโจมตีของเซราฟิม
ทั่วร่างของเมย์เต็มไปด้วยขนนกสีดำ เลือดสีแดงฉานกระเด็นไปโดนหน้าซินเทียร์
“เมย์!” ซินเทียร์ผวาคว้าร่างของคนรักไว้
นางเห็นเมย์อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ก็ทั้งโกรธจัด และเกลียดชังเซราฟิมไปพร้อมกัน
ในหัวของของซินเทียร์ต้องการพลังที่สามารถต่อกรกับเซราฟิมได้ ฉับพลันซินเทียร์นึกถึงเวทต้องห้าม
“มะ…เมย์ ทำใจดี ๆ ไว้ เดี๋ยวมีคนมาช่วย” นางจดจ่ออยู่กับเมย์ก่อน
“แค่เห็นนางปลอดภัย ก็ดีใจแล้ว” เมย์พยายามพูด
“ไม่ต้องพูดแล้วเมย์”
ซินเทียร์ตัดสินใจเด็ดขาด นางต้องการเวทต้องห้ามบทนั้น “ดราก้อนซิงโคร การเชื่อมโยงมังกร”
“ช่วยพาเมย์ไปให้ไกลจากที่นี่” ซินเทียร์หาตัวนักเวทในบรรดาผู้คนที่อยู่ใกล้พื้นที่ต่อสู้แนวหน้า
“ได้สิ เทเลพอร์ต” นักเวทคนนั้นร่ายเวททันที
ซินเทียร์มั่นใจว่านักเวทคนนั้นจะพาเมย์ไปพักที่โรงเรียนอาเธอร์
การที่เมย์จะไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาคงเป็นการดีแล้ว
“เวทต้องห้ามสายมังกร…” ซินเทียร์รับรู้ได้ว่าเสียงของนางสั่น นางสูดหายใจเข้าลึก และเอ่ยต่อด้วยเสียงที่พยายามควบคุมให้หนักแน่นขึ้น “เส้นทางแห่งมังกรเอ๋ย จงเปิดออก เชื่อมโยงมังกรกับข้า เพื่อให้ข้าหยิบยืมพลังของราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ ตัวข้าผู้แสนต่ำต้อย ขอสังเวยร่างกายข้าเป็นภาชนะรองรับสายธารมังกร ทั้งหมดทั้งมวล จงหลั่งไหลมาสู่ตัวข้าเถิด”
เมื่อเวทดราก้อนซิงโครทำงาน พลังเวทเริ่มเอ่อล้นออกมา
“โอ้ นั่น…” เซราฟิมจ้องมาทันทีที่ซินเทียร์ “ให้ได้แบบนี้สิ อาหารที่อร่อย ต้องกินหลังออกแรง มันถึงจะอร่อย”
เซราฟิมแลบลิ้นเลียปาก มือจับที่ท้องตน ท่าทางเหมือนหิวกระหายเสียเหลือเกิน พร้อมจะตะกละตะกลาม
“แกคงได้แค่ฝันแล้วละ”
เมื่อสิ้นคำพูด ซินเทียร์โจมตีใส่อีกฝ่ายด้วยพลังเวทที่รุนแรง ท้องฟ้าเกิดพื้นที่มืดในจุดที่ได้รับพลังของซินเทียร์ กล่าวได้ว่าพลังของนางรุนแรงจนทำให้ท้องฟ้าแยกออกเป็นสองส่วน ทั่วร่างกายของซินเทียร์เรืองแสงด้วยอักขระในภาษามังกร กำปั้นเล็ก ๆ ของสาวน้อยพุ่งออกไปพร้อมกับตัวนาง ซัดเข้าไปยังใบหน้าของเซราฟิม
“กำปั้นราชามังกรแห่งจุดจบ เพลงดาบปราบมังกรรูปแบบที่หกผ่านภา”
“ยายหนู เอานี่ไปซะ”
“ย้าก…” เสียงทั้งสองตะโกนแข่งกัน
เสียงเซราฟิมดูเหมือนจะดังกว่าด้วยทั้งขนาดตัวและพลังเสียงผสานกับพลังเวท ซินเทียร์ได้ยินเสียงกระดูกของตนหักเปรี๊ยะลามจากจุดหนึ่ง ๆ ไปยังจุดอื่น ๆ ทั่วร่าง นางปวดแปลบ ดาบที่ถืออยู่หักเป็นสองท่อน
“ขอแจ้งเตือนเกี่ยวกับอันตราย ขอให้หยุดเวทมนตร์นี้ได้แล้ว” เสียงราฟาเอลพยายามคุยด้วย
“ไม่ ดราก้อนซิงโครสามร้อยเปอร์เซ็นต์ ดราก้อนฟอร์ทโหมดราชามังกรแห่งจุดจบ”
“หยุดนะ ซินเทียร์” ราฟาเอลดูตื่นตระหนก
“เอาให้มันสนุกมากกว่านี้อีก” เซราฟิมเอ่ยด้วยเสียงราวกับสาแก่ใจ
การปะทะกันของพลังและเนื้อต่อเนื้อดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่แล้วเซราฟิมก็หน้าเสีย ความเสียหายจากซินเทียร์ไม่ได้ถูกจำกัดไว้ด้วยพลังมหาศาลของนาง ดูเหมือนว่าผู้ชนะคือซินเทียร์ เพราะการโจมตีแต่ละครั้งที่สุดกำลัง และพร้อมจะทิ้งชีวิตไป เกิดผลขึ้นอย่างเห็นชัด ลมหายใจมังกรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทะลุร่างของเซราฟิม
“ไม่… ม่ายยยย” ฝ่ายนั้นตะโกนพร้อมกับกายที่ค่อย ๆ มีรอยร้าว
ร่างใหญ่โตมีเศษเล็กเศษน้อยร่วงหล่น ก่อนจะพังไปต่อตาราวกับหินผาที่ถล่มลง
ร่างของซินเทียร์ร่วงจากบนฟ้า
“ไม่! ซินเทียร์! ซินเทียร์…” ชายผู้หนึ่งเรียก พร้อมกับพุ่งไปหานางที่กำลังตกลงสู่พื้น เขาคนนั้นสวมชุดเกราะสีดำเข้ม
เมอรินโผล่ออกมาจากประตูมิติ เขาเห็นซินเทียร์แต่ไม่ได้รีบกุลีกุจรเข้าไป สิ่งที่เขาให้ความสำคัญในตอนนี้คือการปิดประตูมิติที่เซราฟิมเปิดเอาไว้ มิติที่เซราฟิมจากมานั้นอาจมีอันตรายอื่นที่พร้อมจะคุกคามโลกอีก และเซราฟิมเองก็มีความเป็นปริศนาจนน่าสงสัยว่าอาจจะคืนชีพกลับมาได้อีกครั้ง
เพื่อให้มหันตภัยร้ายคุกคามโลกถูกหยุดลง และปิดฉากสงครามครั้งนี้ ประตูมิติต้องถูกปิดลง
“ขอผนึกไว้ตลอดกาล” เมอรินใช้เวทมนตร์ที่ตนได้วิจัยค้นคว้าก่อนหน้านี้นับสิบปีในคราวนี้
เขาตัดขาดการเชื่อมต่อมิติ อย่างน้อยที่สุด มิติของเซราฟิมจะไม่เปิดออกอีกแน่
แต่ขึ้นชื่อว่าโลกมิติ เป็นปริศนา จะมีมิติอื่นและสิ่งอันตรายอื่นอีกก็เป็นไปได้ แต่เรื่องน่ากลัวจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ให้เป็นเรื่องอนาคตจะดีกว่า คิดไปในแง่ดี ยังไม่มีเรื่องน่ากลัวเหมือนกับเรื่องเซราฟิมเหมือนกับมิติอื่น และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มีชื่ออยู่ในตำราปรัมปราก็ไม่เคยพาตนข้ามมาเหมือนกับเซราฟิม
“อากิโตะ รักษาที” ราชาคูกะร้องเรียกมือขวาของเขา
“น้อมรับบัญชา ลูกปัดยาซากะโหมดรักษา”
“ไม่ได้ผล ปะ…เป็นไปไม่ได้ บ้าน่า” พ่อแท้ ๆ ของซินเทียร์ร้องอย่างตื่นตระหนก
“เพลิงของเอนเป็นอะไรที่อันตราย ต่อให้เป็นเวทรักษาระดับเทพก็ไม่ได้ผลหรอก” รินเนะร่ำไห้ “และนี่คือราคาที่ต้องจ่ายให้กับดราก้อนซิงโคร คือร่างผู้ใช้จะแหลกสลายลงไป”
เมย์หวีดร้องเมื่อเห็นว่าร่างของซินเทียร์ค่อย ๆ สลายไปทีละน้อย ฝุ่นผงปลิวจากร่างที่เคยเป็นที่รัก
“ซินเทียร์!” เมย์ร้องเรียกคนรัก
ราชาคูกะ เอน และรินเนะก็เช่นกัน พวกเขาต่างตะโกนเรียกชื่อนางด้วยเสียงที่แฝงความเจ็บปวดและเศร้าสร้อย
ซินเทียร์ได้ยินเสียงทุกคน แต่นางกำลังยืนอยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง
“แม่ นี่หนูตายไปแล้วเหรอ” นางคุยกับผู้หญิงที่มาปรากฏตัวบ่อย ๆ ในความฝัน
“ก็ยังไม่ตาย แต่อีกไม่นานก็ไม่แน่”
“ถ้าโลกสงบสุขก็พอแล้วมั้ง” ซินเทียร์รู้สึกว่าไม่อยากใส่ใจแล้ว
แม้จะใจหาย แต่ซินเทียร์ไม่ได้รู้สึกเศร้า
แม่ของนางยื่นมือมา และดึงนางเข้าไปกอดแนบอก
“ลูกยังตายไม่ได้” เสียงของผู้เป็นแม่ดูมุ่งมั่น
“ยังไงคะ หมายความว่าไงคะแม่” ซินเทียร์พูดกับแม่ คางวางอยู่บนไหล่อีกฝ่าย กลิ่นหอมที่คุ้นเคยจากร่างกายแม่ชวนให้รู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด
“แม่จะส่งลูกกลับก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาของลูก”
ณ โลกแห่งความเป็นจริง ร่างกายของซินเทียร์แหลกสลายไปจนหมด เมย์นั่งกับพื้นหลั่งน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด ส่วนเอนยืนกอดรินเนะที่ร้องไห้อยู่กับอกของเขา ขณะที่ราชาคูกะคุกเข่ามองกองขี้เถ้าตรงหน้า
มือสั่นเทาของราชาคูกะยื่นออกไป ล้วงลงไปในกองขี้เถ้าและดึงบางสิ่งที่อยู่ในนั้นออกมา
มันคือ “แก่นวิญญาณสีแดง”
“เจ้าคงอยากได้เก็บไว้” ราชาคูกะเดินไปยื่นให้เมย์
แม้เขาไม่มีน้ำตา แต่ดวงตาก็แฝงความเจ็บปวด ใบหน้าที่เปิดเผยกับทุกคนถูกปกปิดอีกครั้ง ราชาคูกะหยิบหน้ากากขึ้นมาปกปิดใบหน้าไว้ และหันหลังจากไป มีอากิโตะเดินตามไปเบื้องหลัง
“ซินเทียร์…” เมย์ร้องไห้ไม่หยุด ก้มหน้าซบกับหินสีแดงในมือที่ส่องประกายงดงาม
นี่เป็นของดูต่างหน้าเพื่อระลึกถึงซินเทียร์
สงครามแห่งการกลืนกินครั้งที่สองสิ้นสุดลง และคงไม่เกิดขึ้นมาอีกแล้ว มันจบลงแล้ว
ทุกอาณาจักรต่างยกย่องซินเทียร์เป็นวีรสตรี และมีการลงคะแนนเสียงสร้างสถานที่เพื่อระลึกถึงความกล้าหาญของนาง ไม่มีคนที่อยากลืมเลือนนางลงไป โดยเฉพาะราชามังกรทั้งหลาย ทางสภาจอมเวทนำโดยเมอรินมีมติให้ซินเทียร์เป็นหนึ่งในห้ามหาจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ที่นักเรียนจอมเวททุกคนต้องเรียนรู้เรื่องของนางจากหนังสือ
จักรวรรดิคูกะหล่อรูปปั้นของซินเทียร์ที่ทำมาจากแร่มิทธิลบริสุทธิ์
เมื่อมีอาทราบข่าวว่าซินเทียร์ตาย น้ำตาก็ไหลออกมาจากเนตรเหมันต์ หัวใจที่เหมือนเย็นชาจนไร้อารมณ์ของนางพลันรับรู้ได้ถึงความเศร้าโศกที่รุนแรงซึ่งเข้าเกาะกุม
ทั้งน้ำตา มีอาแกะสลักหน้าผาให้เป็นรูปใบหน้าซินเทียร์ในตอนที่มีรอยยิ้มสดใส
ภาพของซินเทียร์ที่อยู่ในใจนางจะไม่จางหายไป
ขณะที่ทุกคนมองว่าโลกต้องหมุนต่อไป คิดกันไปว่าจะไม่มีเรื่องน่ากลัวกว่าการรุนรานของเซราฟิมเกิดขึ้นได้อีกในระยะเวลาอันใกล้ ยังมีบุคคลปริศนาผู้หนึ่งที่ย่ำเหยียบไปในพื้นที่ซึ่งเคยมีการรบพุ่ง เขาหยุดที่บริเวณแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยฝุ่นผงจากร่างกายที่สลายไปของเซราฟิมที่ไม่มีผู้คนคิดจะมายุ่มย่ามด้วย
ลมพัดกรรโชกหนึ่ง ฝุ่นหนากระจายไปราวกับถูกเป่าจากปากขนาดยักษ์
ปีกสองข้างของเซราฟิมปรากฏอยู่บนพื้น เขาคนนั้นยื่นมือออกมาด้านหน้า ปีกใหญ่คู่นั้นมีปฏิกิริยา มันค่อย ๆ เคลื่อนไหวและม้วนรวมตัวรวดเร็วเป็นกลุ่มก้อนพลังสีดำ
พลังนั้นลอยมาหมุนวนอยู่เหนือฝ่ามือของชายผู้นั้น
เขาผู้เป็นปริศนา รวบนิ้วมือหุบปิด ก้อนพลังสลายไปเหลือทิ้งไว้เพียงอากาศธาตุ
เขาผู้นี้ตั้งใจจะเอาปีกแห่งเซราฟิมที่หลงเหลืออยู่หลังสงครามไปทำอะไรกันแน่!