เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ - ตอนที่ 1 โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ  โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 1,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 2,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 3,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 4,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 5,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 6,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 7,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 8,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 9 (จบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 1

 

 

ตอนที่ ๑

ยามลืมตาตื่นมาพบคุณ

“ถ้าพี่ไม่รู้จะทำยังไงกับเขา ก็ยกเธอให้ผม”

“ยังไงวะ” โมกข์ขมวดคิ้ว

“มาแต่งงานกันที่เกาะของผม จากนั้นก็บอกกับแม่ของพี่ไปว่าจะพาเธอไปฮันนีมูนสักสองสามอาทิตย์ หลังจากนี้พี่อยากจะตามไปง้อเมียที่อังกฤษพี่ก็ไปสิ เรื่องของน้องเล็กเดี๋ยวผมจัดการเอง”

คณินทร์นึกถึงใบหน้าอ่อนหวานซึ่งติดจะชอบทำหน้านิ่งไร้อารมณ์แล้วก็รู้สึกสนุกขึ้นมาทันที

อนุธิดาเป็นลูกคนเล็กในบรรดาสี่พี่น้อง อายุห่างจากพวกพี่สาวทั้งสามคนมากกว่าสิบปี เนื่องจากเป็นลูกของภรรยาใหม่ ตอนอายุสิบขวบแม่ก็เสียเพราะโรคร้าย พออายุสิบสอง บริษัทของผู้เป็นพ่อก็ล้มละลาย ทำให้ท่านช็อกจนจากไปด้วยเส้นเลือดในสมองแตก

ชีวิตของเด็กหญิงจึงไม่เป็นที่ต้องการของใครอีก บรรดาพี่สาวต่างเกี่ยงกันดูแลเธอ สุดท้ายเธอจึงถูกเพื่อนเก่าของแม่อาสารับไปดูแล

ที่บ้านของผกามาศนั้นมีผู้อยู่อาศัยเพียงแค่สองคน คือเธอและลูกชายวัยยี่สิบสามปีอย่างโมกข์ เด็กหญิงอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวและสำนึกถึงบุญของผกามาศตลอดเวลา

จนกระทั่ง...

โมกข์ซึ่งปัจจุบันอายุครบสามสิบสามปีคิดจะแต่งงานกับดาราสาวชื่อดังซึ่งมีข่าวฉาวว่าเป็นเมียน้อยผู้กำกับ ผกามาศไม่อาจยินยอมทำตามความต้องการของลูกชายเพียงคนเดียวของเธอได้ จึงสั่งให้โมกข์แต่งงานกับอนุธิดา

และเมื่อผกามาศเอ่ยปาก ทั้งสองก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมแต่งงานตามคำสั่งของผู้เป็นแม่และผู้มีพระคุณ

แต่หลังคืนแต่งงานบนเกาะส่วนตัวซึ่งเป็นเกาะของเพื่อนเจ้าบ่าว อนุธิดากลับตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนหลับอยู่กับเพื่อนเจ้าบ่าวคนนั้นของโมกข์

คณินทร์ ผู้ชายที่ชอบมองเธอเหมือนจะกลืนกินทุกครั้งที่เจอ หญิงสาวรู้ว่าเขาหมายตาเธอ แต่เพราะวางใจว่าตัวเองอยู่ในฐานะผู้หญิงที่จะแต่งงานกับโมกข์ อนุธิดาไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้า

“...” อนุธิดาอยากกรีดร้องออกมา แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของเธอโดยปกติ หญิงสาวมองดูชายหนุ่มซึ่งนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างกาย พลางทบทวนถึงเมื่อคืน เธอดื่มน้ำที่โมกข์ส่งให้ด้วยใบหน้าห่วงใย หลังจากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรเลยจนกระทั่งตอนนี้

“ตื่นแล้วเหรอ” คณินทร์ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนคว่ำหน้ากับหมอนแล้วมองหญิงสาวด้วยดวงตาเป็นประกายสนุกสนาน รอยยิ้มของเขาทั้งเจ้าเล่ห์และแสนยั่วยวน

“คุณ...” อนุธิดาไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ด่าทอเขาหรือถามว่าโมกข์ไปไหน

“ผิดคาดเลยแหะ คิดว่าคุณจะโวยวายกรีดร้องจนเกาะแตกเสียอีก” รอยยิ้มของคณินทร์กว้างขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาดูร้ายกาจน้อยลง

“ฉันรู้ว่าทุกคนที่มาร่วมงานกลับไปหมดแล้ว” เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวที่สวยมาก ข้อแม้ที่คณินทร์ตั้งไว้ให้โมกข์ที่ขอมาจัดงานบนเกาะคือ หลังงานฉลองเสร็จสิ้นตอนสี่ทุ่ม ทุกคนจะต้องออกไปจากเกาะก่อนเที่ยงคืน ถึงจะร้องให้คนช่วยจนคอแตกตาย ที่นี่ก็มีแต่คนของคณินทร์ “ไม่มีใครช่วยฉันได้”

“ฉลาด สุขุม ไม่ขี้โวยวาย แบบนี้แหละที่ทำให้ผมชอบคุณ แล้วก็อยากได้” เขาบอกความรู้สึกออกมาอย่างหน้าตาย ไร้ยางอาย

“คุณโมกข์ไปไหน”

“ไปง้อเมียของพี่เขาที่อังกฤษ”

“หมายถึงคุณประกายดาวสินะคะ” คิ้วเรียวสวยที่แม้จะไม่ได้เขียนก็คมเข้มของอนุธิดาเลิกขึ้น

“อืม” คณินทร์ลุกขึ้น เขาไม่ได้ใส่เสื้อ สวมเพียงกางเกงสแล็คตัวเดียวกันกับเมื่อคืน ส่วนเสื้อเชิ้ต สูท เนกไทและเข็มขัดตกอยู่ข้างเตียง “พี่โมกข์เขาก็เลยฝากคุณไว้กับผมจนกว่าเขาจะกลับมา”

ชายหนุ่มจับจ้องใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ของอีกฝ่ายโดยไม่ละสายตา เขาอยากเห็นเธอหวั่นไหวเสียใจ แต่แล้วมันก็ไม่มีให้เขาเห็นเลยกลับพบแต่ความโล่งใจเสียด้วยซ้ำ

“คุณดีใจเหรอที่ไม่ต้องเข้าหอกับพี่โมกข์” เมื่อชายหนุ่มเอ่ยทักแววตาของอีกฝ่ายก็วูบไหว ก่อนจะหลบสายตาของเขา

อนุธิดาเผลอกุมชายกระโปรงชุดเจ้าสาวพองฟู่แน่น หญิงสาวไม่ได้อยากแต่งงานกับโมกข์เหมือนกับที่คนอื่นคิดว่าเธออยากและต้องการ คงมีแค่คณินทร์คนเดียวที่ดูออก

“ฉันไม่รู้ว่าพวกคุณเล่นอะไรกัน แต่ฉันไม่คิดจะขัดขวางพวกคุณ” อนุธิดาเอ่ยอย่างช้าๆ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มอีกครั้ง

คณินทร์มักเผลอเลียริมฝีปากของตัวเองทุกครั้งเวลาได้เจอสิ่งที่ถูกอกถูกใจและอยากกิน

“เกมที่เรากำลังเล่นกันคือ คุณจะยอมเป็นของผมหรือพี่โมกข์ง้อเมียได้สำเร็จก่อนกัน คนแพ้ต้องดูแลไนต์คลับแทนในส่วนของอีกคนเป็นเวลาหนึ่งปี” ชายหนุ่มเอ่ยถึงสัญญาระหว่างเขากับโมกข์โดยไม่ปิดบัง

“ฉันคิดว่าคุณจะแพ้” อนุธิดาทำนายผลด้วยความมั่นใจ

คณินทร์ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “คุณคงไม่รู้สินะว่าประกายดาวใจแข็งแค่ไหน ผมรู้จักยายนั่นที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของตัวเองดี ลองได้โกรธขึ้นมาต้องง้อกันข้ามปีข้ามชาติ” แม่ของชายหนุ่มและประกายดาวเป็นพี่น้องกัน

“ถึงคุณโมกข์จะง้อไม่สำเร็จ แต่ว่าคุณก็ขังฉันไว้ที่นี่ตลอดไปไม่ได้ คุณโมกข์บอกกับคุณผกามาศไว้ว่าจะพาฉันไปฮันนีมูนแค่สองอาทิตย์ สุดท้ายแล้วคุณก็ต้องปล่อยฉันไปอยู่ดี”

“ก็ใช่ แต่ว่าไม่คิดเหรอว่ามันไม่ใช่แค่สองอาทิตย์ แต่ว่าตั้งสองอาทิตย์ เรามีเวลาทำอะไรด้วยกันตั้งเยอะแยะ” คณินทร์ขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะเท้าแขนทั้งสองข้างไปข้างหลัง ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณแขนและหัวไหล่ตึงแน่นจนเห็นมัดกล้าม ชายหนุ่มทำราวกับกำลังถ่ายแบบอยู่ ซึ่งนั่นก็เป็นงานหนึ่งของเขาที่เธอรู้ว่าเขาเคยทำอยู่บ้าง

“เราตกลงกันได้ค่ะ ถ้าคุณอยากจะชนะพนัน ฉันก็จะบอกคุณโมกข์ให้ว่าเรามีอะไรกันแล้ว” อนุธิดาเริ่มต้นเจรจาอย่างสันติ

“ไม่เอาหรอก”

“แต่คุณจะแพ้” หญิงสาวพยายามโน้นน้าวชายหนุ่ม “ถ้าคุณอยากชนะคุณก็ต้อง...”

“น้องเล็ก เวลาผมเล่นเกม ผมไม่ชอบเล่นโกง” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อเล่นของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของหญิงสาวแล้วฉุดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจากเตียงซึ่งเมื่อคืนเขาเข้ามานอนเป็นเพื่อนเธอที่ถูกโมกข์วางยานอนหลับ แอบคิดว่าตอนตื่นอาจจะได้เห็นอาการตกอกตกใจของอีกฝ่าย แต่แล้วก็ได้เห็นเพียงใบหน้าแปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น ถึงจะผิดคาด แต่เขากลับพอใจ

อนุธิดายอมให้เขาจูงเธอไปหยุดยืนหน้าตู้เสื้อผ้า คณินทร์เปิดมันออกก่อนจะหยิบเอาเดรสยาวสีขาวสะอาดตาตัวหนึ่งออกมา จริงๆ แล้วชุดทั้งหมดในตู้เป็นสีเดียวกันกับตัวที่อยู่ในมือของชายหนุ่ม

“ผมชอบเวลาคุณใส่ชุดสีขาว ผมก็เลยเลือกมาแต่สีนี้ทั้งหมด”

“แต่ว่าชุดชั้นในที่ฉันเอามามีแต่สีดำ ถ้าใส่สีขาวมันคงจะ...” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ ชายหนุ่มก็ดึงลิ้นชักที่เต็มไปด้วยชุดชั้นในสีขาว

“คุณโรคจิตหรือไง” อนุธิดาเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าไซส์ของชุดชั้นในทั้งหมดนั้นเป็นขนาดที่เธอใส่ “รู้ได้ยังไง”

“ผมค่อนข้างชำนาญเรื่องพวกนี้” เมื่อเห็นว่าคิ้วของอีกฝ่ายย่นเข้าหากัน “ครอบครัวของผมทำธุรกิจเกี่ยวกับชุดชั้นในทั้งของผู้ชาย สตรี เด็กและคนชรา ดังนั้นถ้าคุณไม่ใส่บราที่เสริมฟองน้ำมากจนเกินไป ผมก็กะขนาดไม่ผิดหรอก แต่อันที่จริงผมก็พอจะกะได้อยู่ดีนั่นแหละถึงจะใส่ฟองน้ำหนาแค่ไหน”

“เป็นพรสวรรค์ที่เยี่ยมจริงๆ เลยนะคะ” ชมด้วยน้ำเสียงกึ่งประชด

แต่คณินทร์กลับยิ้มรับคำชมอย่างหน้าชื่นตาบาน “เดี๋ยวผมเองก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน คุณอาบเสร็จแล้วนั่งรออยู่ในห้องนี้ เดี๋ยวผมมารับไปกินมื้อเช้า”

ทันทีที่ประตูปิดลง อนุธิดาก็ถอนหายใจเบาๆ พลางทรุดลงนั่งตรงปลายเตียง เธอก้มลงมองชุดในมือ มันเป็นแบบที่เธอชอบ คณินทร์จะรู้ดีเกินไปแล้วไหม

แม้จะรู้สึกว่าสิ่งที่เขาและโมกข์ทำนั้นเป็นสิ่งที่อาจทำให้ผกามาศหัวใจวายตายได้หากอีกฝ่ายรู้เรื่องเข้า แต่ทว่าเธอกลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดและไม่ได้กลัวการถูกคณินทร์กักขังเอาไว้บนเกาะนี้เลย ถือซะว่าเป็นการมาพักร้อนก็แล้วกัน

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็คิดจะออกไปนั่งรอชายหนุ่มที่หน้าห้อง แต่กลับพบว่าเขามานั่งรออยู่แล้ว

คณินทร์ยื่นมือมาหา อนุธิดามองดูมือคู่ใหญ่ซึ่งเรียวสวยไม่แพ้มือผู้หญิงของเขา มันติดจะสวยกว่านิ้วมือสั้นๆ ของเธออยู่มาก ก่อนจะปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ขอบคุณค่ะ แต่คุณไม่ต้องดูแลฉันอย่างกับเจ้าหญิงหรอกค่ะ ไปไหนก็ต้องคอยประคอง”

คณินทร์อมยิ้มและยังคงไม่ชักมือกลับ อนุธิดามองมือของเขาอีกครั้ง ตั้งแต่อายุสิบสอง จากคุณหนูที่มีพี่เลี้ยงถึงสองคน ชีวิตราวกับเจ้าหญิงน้อยๆ แต่เพราะโชคชะตา สุดท้ายเธอก็ร่วงลงจากสวรรค์ แล้วตอนนี้เธอมีโอกาสจะกลับไปเป็นเจ้าหญิงอีกครั้ง ทำไมเธอต้องปฏิเสธด้วย แม้จะแค่ไม่กี่วันก็เถอะ

ทันทีที่มือของเธอวางลงบนมือของคณินทร์เขาก็กุมมือของเธอไว้เพียงหลวมๆ จับจูงเธอไปยังบ้านหลังหนึ่งซึ่งเธอเดาว่าคงเป็นบ้านส่วนตัวของเขา พาเธอไปยังห้องรับประทานอาหารที่ปลอดโปร่งโล่งสบายด้วยผนังกระจกบานสูงยาวจรดพื้น สามารถมองเห็นทะเลสีครามไกลสุดสายตา

อนุธิดามองดูอาหารหน้าตาน่ากินบนโต๊ะ ท้องของเธอร้องประท้วงทันที เพราะตั้งแต่ตอนเย็นเธอกินแค่ขนมปังรองท้องไปแค่ไม่กี่คำเท่านั้นเอง

“อาหารฝีมือป้าแมวอร่อยมาก รับรองว่าคุณจะติดใจจนลืมไม่ลง เผลอๆ คุณอาจจะร้องขออยู่ที่นี่ต่อก็ได้” คณินทร์อวดสรรพคุณของแม่ครัวด้วยท่าทางราวกับนักขายมืออาชีพ

“คุณรู้ว่าฉันเป็นมังสวิรัติด้วยเหรอคะ” หญิงสาวมองดูอาหารแล้วก็พบว่าทั้งหมดไม่มีเนื้อสัตว์เลย

“เรื่องนี้พี่โมกข์บอกไว้”

“เวลากินด้วยกัน ถ้าคุณอยากกินเนื้อก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่ได้เคร่งครัดนัก เดี๋ยวฉันเลี่ยงไม่กินเนื้อเอง”

“รับทราบครับ” ถึงเขาจะบอกแบบนั้น แต่มื้อต่อๆ ไป คณินทร์ก็กินอาหารมังสวิรัติเป็นเพื่อนเธออยู่ดี

หลังมื้ออาหารคณินทร์พาเธอเดินเล่นรอบเกาะที่เงียบสงบไร้ผู้คน ราวกับตอนนี้บนเกาะมีแค่เขากับเธอเท่านั้น

สองอาทิตย์กับการใช้ชีวิตบนเกาะ หญิงสาวครุ่นคิดแล้วก็รู้สึกดีอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องรีบตื่นแต่เช้าเหมือนเช่นทุกวัน เพราะผกามาศเป็นคนที่ไม่ชอบคนตื่นสาย ดังนั้นจึงเคร่งครัดเรื่องนี้มาก ตอนหกโมงตรงอนุธิดาต้องมานั่งรอผกามาศอยู่ในครัวพร้อมกับป้าแม่ครัว เนื่องจากมื้อเช้าเจ้าตัวมักลงมือทำอาหารรับประทานด้วยตัวเอง

“คุณณินไม่ต้องทำงานเหรอคะ” อนุธิดาตัดสินใจถามคำถามที่ค้างคาใจออกไป ตั้งสองอาทิตย์เชียวนะ ในกรณีของโมกข์นั้นก็มีเลขาคนสนิทคอยดูแลงานและติดต่อกันระหว่างไปฮันนีมูน นอกจากนี้ยังมีผกามาศควบคุมงานทุกอย่างอีกที แล้วตัวเขาล่ะ

“ทำสิ เลขาจะมาหาผม เอางานมาให้”

“อ๋อ” อนุธิดาทอดสายตามองทะเลสีคราม รู้สึกอิจฉาชีวิตของเขา ดีจังเลยนะ มีอิสระเหลือเกิน

ตัวเธอนั้นเพิ่งเรียนจบจากคณะบริหารธุรกิจตามความต้องการของผากามาศและเพิ่งเริ่มงานเป็นผู้ช่วยเลขาของเจ้าตัวได้แค่เพียงไม่กี่เดือน ก็ถูกเลื่อนขั้นขึ้นเป็นลูกสะใภ้โดยไม่ได้ถามความสมัครใจ เหมือนกับตอนนั้น ตอนที่ไปขอเธอมาจากพี่สาว ผกามาศก็ไม่ได้ถามความสมัครใจของเธอ แม้จะรู้ว่าถ้าอยู่กับพี่สาวต่อไป เธออาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ดีกินดีแบบทุกวันนี้ก็ตามที แต่พี่สาวคนโตก็เหมือนกับแม่คนหนึ่งที่เธอรักและผูกพันไม่น้อย ตอนที่พี่สาวยอมยกเธอให้ผกามาศง่ายๆ ก็ทำเอาหญิงสาวแทบกลั้นสะอื้นเอาไว้ไม่ได้

นอกจากจะไม่ใช่เจ้าหญิงอีกต่อไป อิสระของเธอที่เคยมีก็ถูกช่วงชิงไปด้วย

“จะให้ฉันช่วยงานก็บอกได้นะคะ ฉันทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาของคุณผกามาศมาได้สักพักแล้ว พอจะเป็นงานอยู่ค่ะ”

คณินทร์หันมามองเธอแล้วยิ้ม “เบื่อเหรอ ถึงอยากหาอะไรทำ”

“เปล่าค่ะ ไม่ต้องทำอะไรเลย นั่งๆ นอนๆ ให้คุณดูแลอย่างกับเจ้าหญิงมันดีออกค่ะ ลึกๆ แล้วฉันออกจะเป็นคนที่ขี้เกียจ แต่ว่าถ้าคุณอยากให้ช่วย ฉันก็ยินดีจะช่วย”

ชายหนุ่มหัวเราะ มองเธอด้วยแววตาเป็นประกายวาววับ “ช่วยเป็นนางแบบให้ผมสเก็ตซ์ภาพได้หรือเปล่าล่ะ ผมกำลังออกแบบชุดชั้นในคอลเล็กชั่นใหม่อยู่พอดี ตอนนี้รู้สึกขาดแรงบันดาลใจ”

อนุธิดาส่งสายตาด่าเขา

“กำลังคิดว่าผมอยากวาดรูปคุณตอนเปลือยอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่อะไรแบบนั้นสักหน่อย ผมก็แค่อยากวาดรูปคุณ มันช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ผม”

“ปกติคุณใช้ผู้หญิงเป็นแรงบันดาลใจ” ดวงตาสุกใสเหมือนแก้วนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

“โดยส่วนใหญ่งานที่ผมออกแบบจะว่าได้แรงบันดาลใจมาจากผู้หญิงมันก็ใช่อยู่นะ เพราะผมชอบผู้หญิง พวกเธออกจะน่าค้นหาแล้วก็ทำให้ผมได้ไอเดียดีๆ เสมอ”

“แล้วคุณก็ชอบการมีอะไรกับผู้หญิงด้วยใช่ไหมคะ” อนุธิดาถามออกไปตรงๆ เธอขืนมือที่เขากุมไว้ แต่เขากลับเปลี่ยนลักษณะการจับมือเธอเป็นการสอดนิ้วเข้ามาระหว่างนิ้วของเธอซึ่งทำให้มันสลัดหลุดได้ยาก เขารู้ว่าเธอกำลังขัดขืน แต่กลับไม่แสดงอาการอะไรไปมากกว่ามองเธอแล้วอมยิ้มน้อยๆ อย่างเคย

“ก็ถูกอย่างที่คุณเข้าใจ” ชายหนุ่มหยุดเดิน เขาฉุดเธอให้หยุดเดินด้วย ก่อนจะก้าวเข้ามาเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เขานั้นรู้สึกต้องตาต้องใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น แม้จะแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเทาที่ทำให้ดูแก่กว่าวัย ผมที่ถูกมวยขึ้นอย่างน่าเกลียดในสายตาเขา แต่ทว่าเขาชอบแววตาเย็นชาที่มองมาอย่างไร้อารมณ์ของเธอเอามากๆ อยากเห็นตอนที่เธออยู่บนเตียงกับเขาเหลือเกินว่าแววตาจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหน

“...” อนุธิดาอยากถอยหนี แต่ก็ถูกเขาตรึงเอาไว้ด้วยสายตาเว้าวอน

“ใช่ ผมชอบการมีอะไรกับผู้หญิง แต่ว่าจริงๆ แล้วมันถึงขั้นหลงใหลคลั่งไคล้เลยด้วยซ้ำ ผมไม่เคยห่างจากการมีเซ็กส์เกินสามวัน ตอนนี้ก็วันที่สามแล้วที่ไม่ได้นอนกับผู้หญิงสักคน”

ใบหน้าของคณินทร์อยู่ใกล้มาก แววตาของเขาที่มองมาทำให้อนุธิดารู้สึกได้ถึงความต้องการของเขาอย่างชัดเจน เขาไม่เคยปิดบัง ตั้งแต่วันแรกที่เจอเขาก็มองเธอแบบนี้ ตอนนั้นเธอรู้สึกว่าเขาไร้มารยาทและหยาบคายมาก

แต่...

เธอรู้ดีว่าไม่ได้รังเกียจ เพราะหน้าตาของเขานั้นน่าหลงใหล เธอเองก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มักจะหลงใหลรูปลักษณ์ภายนอกแสนดูดีของผู้ชายสักคนได้อย่างง่ายดาย

“ทำไมต้องเป็นฉัน ไม่ใช่คนอื่น”

“ไม่รู้ เพราะผมแค่ทำไปตามความต้องการ ความปรารถนาและความใคร่ของตัวเอง”

“จำเป็นต้องเป็นฉันด้วยเหรอ”

“ตั้งแต่เจอคุณ เวลาผมมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น ผมก็ห้ามตัวเองไม่ให้จินตนาการว่าผู้หญิงที่ผมกำลังกอดเป็นคุณไม่ได้เลย”

“คุณณินคะ คุณจะตรงเกินไปแล้วมั้งคะ”