เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ - ตอนที่ 3 โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 1,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 2,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 3,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 4,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 5,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 6,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 7,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 8,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 9 (จบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 3

 

ตอนที่ ๓

ยามจมลงสู่นิทรา

 

          คณินทร์รู้ว่าอนุธิดาซ่อนรูป แต่ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายเวลาอวดเนื้อหนังมังสาขึ้นมาจะดูเซ็กซี่เย้ายวนขนาดนี้ ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากได้เธอเป็นนางแบบให้กับแบรนด์ของตัวเองเหลือเกิน

          "แน่ใจนะคะว่าไม่มีใครแล้วนอกจากคุณ" เธอถามแค่นั้น พอเขาพยักหน้า บอกว่าวันนี้พวกผู้ชายบนเกาะออกไปซื้อของในเมือง มีแต่ป้าแมวกับลูกสาวอีกสองคน หญิงสาวก็หายไปและกลับมาพร้อมกับสวมชุดว่ายน้ำเรียบร้อยแล้ว

          ชุดว่ายน้ำที่เลือกมาเป็นแบบผูกสายคล้องคอ ดังนั้นแผ่นหลังจึงเปิดเปลือย ตอนแรกเขาแค่คิดว่าถ้ามีโอกาสจะแกล้งเธอให้ใส่ชุดนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดไว้ว่าเธอจะยอมใส่มันง่ายๆ แล้วก็ยังไม่มีท่าทางขัดเขินอะไรอีกด้วย

          "คุณไม่อายผมเหรอ"

          อนุธิดาปรายตามองมาทางเขาที่สวมแค่เพียงกางเกงว่ายน้ำ "ก็...ไม่นะคะ"

          หญิงสาวนั่งลงบนพื้นทรายที่เปียกชื้นและปล่อยให้น้ำมากระทบร่างกาย ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งข้างกายของเธอ

          "คุณเคยชอบใครบ้างหรือเปล่า"

          อนุธิดาหันมามองชายหนุ่มข้างกาย "ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมาล่ะคะ"

          "แค่อยากรู้น่ะว่าคุณเคยไหม ผมสงสัยจังว่าตอนคุณเขินเป็นยังไง"

          เธอจะไม่บอกเขา ว่าเธอชอบพี่ชายผมทองคนนั้น

          ไม่แน่ใจว่ามันคือความรักหรือเปล่า แต่เธออยากเจอเขามาตลอดและโดยไม่คาดฝัน ตอนนี้เขามาอยู่ตรงหน้าของเธอแล้วอย่างเหลือเชื่อ

          "คุณเล่าของคุณให้ฟังก่อนได้ไหม เรื่องรักครั้งแรกก็ได้"

          คณินทร์มุ่นคิ้วเข้าหากัน เขาน่ะเหรอ

          เพราะตอนเด็กๆ เวลาอยู่บ้านชอบถูกพวกพี่สาวจับแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิง พออยู่โรงเรียนก็เลยทำตัวเพลย์บอยบอกรักและคบกับสาวไปทั่วตั้งแต่ฟันน้ำนมยังหลุดไม่หมดปาก ด้วยต้องการแสดงว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบเด็กๆ บอกตามตรงเลยว่าจำไม่ได้ว่าใครเป็นรักแรก

          "ตอบลำบาก เพราะเท่าที่จำได้ผมมีแฟนครั้งแรกทีเดียวตั้งสองคน"

          อนุธิดาหลุดขำออกมาเบาๆ "เชื่อแล้วจริงๆ ว่าคุณเป็นพวกคลั่งไคล้ผู้หญิง"

          "แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคลั่งไคล้คุณแทน"

          "เพราะฉันได้ยากใช่ไหม คุณถึงต้องลงทุนหลอกล่อฉันขนาดนี้"

          คณินทร์ยิ้ม "คุณเข้าใจแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก ตอนแรกที่ผมอยากได้คุณมาควง แต่คุณดันอยู่ในฐานะว่าที่ภรรยาของพี่โมกข์ มันทำให้ผมทุรนทุลายว้าวุ่นใจไปหมด ผมอยากแย่ง แต่ศีลธรรมและความเป็นเพื่อนมันค้ำคอ จนผมรู้ว่าพี่โมกข์ไม่ได้รักคุณ ตอนนั้นต่อให้คุณรักพี่โมกข์เพียงแค่ฝ่ายเดียว ผมก็คิดจะทำให้คุณเปลี่ยนใจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วคุณกลับเย็นชาขนาดนี้ ไม่มีใครในใจ มันยิ่งยากกว่าเดิมอีก"

          "แล้วทำไมคืนเข้าหอ คุณไม่ทำตามความปรารถนาของคุณไปเลยล่ะคะ ถึงฉันตื่นมาก็คงคิดว่าเป็นคุณโมกข์ทำ"

          "แบบนั้นมันจะต่างอะไรกับตุ๊กตายางละหือ"

          "แล้วคุณต้องการอะไร"

          "ทุกอย่างที่เป็นคุณ ตัวตนที่แท้จริงของคุณ ผมอยากเห็นมัน อยากเห็นคุณปลดปล่อยตัวเองบนเตียงหรือที่ไหนก็ได้เท่าที่คุณจะนึกออก"

          อนุธิดาสบตากับดวงตาคู่คมที่เอาแต่จ้องมองเธอราวกับเสือที่เตรียมตระครุบเหยื่อ แค่เพียงเธอส่งสัญญาณยินยอม ย่อมถูกอีกฝ่ายกลืนกินทั้งตัวอย่างแน่นอน

         

          อาจเป็นโชคดีของทั้งโมกข์และอนุธิดาที่ผกามาศไม่สันทัดเรื่องการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค มิฉะนั้นคงสงสัยไปแล้วว่าทำไมคู่แต่งงานจึงไม่อัปเดตภาพตอนฮันนีมูนเลยสักภาพ ส่วนเรื่องโทรหา หญิงสาวเดาว่าโมกข์คงจัดการเรื่องพวกนี้ได้ไม่ยาก มิเช่นนั้นโมกข์คงไม่เงียบไปแบบนี้และไม่ส่งข่าวคราวใดๆ มาเลย

          อนุธิดาอยู่ที่นี่มาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว คณินทร์กำลังทำงานอยู่ในห้องของตัวเอง ส่วนเธอก็นอนกลางวันอย่างเคย แต่พอตื่นขึ้นมาและเห็นว่าชายหนุ่มยังทำงานอยู่ตลอดบ่าย ก็อดอยากจะช่วยไม่ได้

          เขาไม่ได้ปิดประตูห้อง ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินเข้าไปเลย ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากงานมองดูหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสั้นแขนตุ๊กตาประดับลูกไม้อ่อนหวาน

          "วันนี้คุณเบื่อหรือเปล่า" คณินทร์กวักมือให้หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้

          อนุธิดาเดินเข้าไปหาเขาอย่างว่าง่าย หญิงสาวเหลือบมองแฟ้มที่กางอยู่ เป็นเอกสารที่เขาต้องตรวจและเซ็นอนุมัติ ส่วนบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เป็นภาพแบบชุดชั้นใน

          "นั่งนี่สิ" คณินทร์ตบมือลงบนต้นขาของเขา

          คิ้วเรียวสวยเลิกสูงขึ้น "จำเป็นต้องนั่งบนตักด้วยเหรอคะ"

          "ขอให้ผมได้ชื่นใจนิดๆ หน่อยๆ ได้ไหม" คณินทร์เอ่ยปากร้องขอปนออดอ้อน

          นี่ไม่ใช่ครั้งแรก วันก่อนตอนออกไปนั่งเรือเล่น เขาก็จับเธอนั่งบนตัก ทำราวกับเธอเป็นเด็ก

          อนุธิดาจึงทิ้งตัวลงนั่งและปล่อยให้เขาใช้มือข้างที่ว่างเกี่ยวเอวเล็กของตัวเอง ส่วนเธอทิ้งตัวลงพิงอกของเขา กลิ่นของเขายังเหมือนเดิม เหมือนกับตอนนั้นที่ทำให้เธอสงบใจได้และไม่กลัว

          "หลายวันแล้ว"

          "หือ"

          "ที่คุณไม่ได้มีเซ็กซ์"

          "อือ ผมช่วยตัวเองเอาน่ะ" ทันทีที่ตอบออกไปอย่างตรงไปตรงมา คณินทร์ก็รับรู้ถึงอาการสะดุ้งน้อยๆ ของหญิงสาวที่นั่งนิ่งอิงแอบอยู่บนตัวเขา หากบอกออกไปว่าเขาจินตนาการถึงเธอแบบเร่าร้อนแค่ไหน ไม่รู้ว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไงบ้าง "จะเรียกผู้หญิงมาที่นี่ก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ต้องการใครเลย นอกจากคุณ"

          "บางครั้งคุณก็ควรเอาความมุ่งมั่นของคุณไปใช้กับอย่างอื่น" อนุธิดาพูดกับอกของเขาด้วยน้ำเสียงอู้อี้

          "น้องเล็ก อยากไปเที่ยวในตัวเมืองหรือเปล่า"

          "ไม่กลัวคนอื่นมาเจอฉัน แล้วเอาไปบอกคุณผกามาศเหรอคะ"

          "กลัว"

          "แล้วทำไมถึงยังจะกล้าพาฉันออกไป"

          "กลัวคุณเบื่อมากกว่า"

          "ไม่ค่ะ ฉันจะขอแอบอยู่ที่นี่จนกว่าจะครบสองอาทิตย์"

          "บางทีคุณอาจจะได้อยู่ที่นี่ไม่ครบสองอาทิตย์ก็ได้" คณินทร์ถอนหายใจเบาๆ

          "ทำไมคะ" อนุธิดายืดตัวขึ้นมา คณินทร์เอนหลังพิงเก้าอี้ สีหน้าของชายหนุ่มมีความกังวลแฝงอยู่

          "พี่โมกข์ถูกปาปารัซซี่ถ่ายรูปได้ตอนที่อยู่กับประกายดาว"

          "คุณแพ้พนันแล้วเหรอคะ"

          "เปล่า ประกายดาวยังไม่ยอมคืนดี แต่ว่าถ้ามีคนขุดคุ้ยเรื่องพี่โมกข์ เขาก็จะรู้ว่าพี่โมกข์แต่งงานแล้ว ยิ่งอีกฝ่ายคือดาราสาวที่เคยมีข่าวเป็นเมียน้อย ยิ่งฉาวข่าวก็ยิ่งดัง แล้วอย่างนี้คุณผกามาศจะยังไม่รู้เรื่องที่ลูกชายแอบไปหาประกายดาวถึงอังกฤษเหรอ"

          "คุณจะเดือดร้อนหรือเปล่า"

          คณินทร์ยกมือขึ้นแตะแก้มนุ่มนิ่มที่เขาเคยใช้ปากสัมผัสแล้วด้วยความหลงใหล

          "ไม่ห่วงว่าตัวคุณจะเสียหายเลยหรือไง คุณเองก็อาจจะถูกคุณผกามาศเล่นงาน"

          "รับมือกับคุณผกามาศน่ะไม่ยากหรอกค่ะ ก็แค่เงียบเท่านั้นเอง ทั้งๆ ที่เคยบอกวิธีนี้ให้คุณโมกข์ฟังหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังชอบเถียงจนบางทีทำให้เรื่องมันยุ่งยากบานปลาย" หญิงสาวคิดถึงตอนที่โมกข์เข้าไปบอกแม่ว่าเขาจะแต่งงานกับประกายดาว เพราะความที่ไม่ยอมแม่ โมกข์ก็เลยหลุดปากบอกออกไปว่าเขากับดาราสาวไม่ใช่แค่แฟนกันทั่วไป จนสุดท้ายผกามาศลากให้เธอเข้ามาร่วมในบทลงโทษของโมกข์ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          "ก็พี่โมกข์นี่นา" เขารู้จักกับโมกข์เพราะชอบเที่ยวกลางคืนเหมือนกันและเจอกันบ่อย อีกทั้งยังเป็นรุ่นพี่ในคณะของเขาอีกด้วย ก็เลยเข้ากันง่ายและสนิทกันเรื่อยมาจนรู้จักกันดี สนิทถึงขั้นร่วมหุ้นเปิดไนต์คลับด้วยกันพร้อมกับเพื่อนอีกสามคน รวมเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดห้าคน แต่คนที่ลงมาควบคุมดูแลอย่างจริงจังมีแค่เขา โมกข์และอคิราห์ ส่วนรวินท์กับบุรพลแค่ออกเงินร่วมหุ้นเท่านั้น ไม่ค่อยได้เข้ามายุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะคุณชายรวินท์เพื่อนสนิทของเขาที่หลังจากวันเปิดร้านก็ไม่ได้ไปที่ไนต์คลับของพวกเขาอีกเลย

          "ฉันขออยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะครบสองอาทิตย์หรือไม่ก็จนกว่าคุณผกามาศจะมาลากตัวกลับได้ไหมคะ” อนุธิดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงติดจะอ้อนวอน

          แต่ถึงเธอไม่อ้อนเขาก็พร้อมจะตามใจ

          “ได้สิ ตามใจคุณ”

          คณินทร์เอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยของหญิงสาวโน้มใบหน้าของเธอให้ต่ำลงมาหาใบหน้าของเขา จากที่ต้องขอเวลาที่อยากจูบ ตอนนี้ชายหนุ่มสามารถจูบเธอได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ขอเพียงแค่เขาไม่ล้ำเส้นไปมากกว่านี้ อนุธิดาก็ไม่ขัดขืน

          “นายครับ!” เสียงตะโกนเรียกไม่ได้ทำให้คณินทร์ยอมผละออกจากริมฝีปากนุ่มหอมหวาน เขายังละเลียดชิมจนพอใจแล้วนั่นแหละถึงได้ยอมลุกขึ้นเดินไปหาคนเรียกที่ยืนรออยู่นอกบ้าน

          “มีอะไรเหรอครับลุงปลิว” ชายหนุ่มเอ่ยถามชายชราซึ่งเป็นสามีของป้าแมวที่เป็นแม่ครัวประจำเกาะ

          “มีผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ครับสามคน เช่าเรือให้มาส่งบนเกาะของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเธอบอกว่ารู้จักกับคุณณิน”

          “ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน”

“ตอนนี้อยู่กับคุณหมอกที่ท่าเรือครับ คุณหมอกไม่ยอมให้พวกเธอมาหาคุณครับ”

“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ”

เมื่อเสร็จธุระของตัวเองแล้วลุงปลิวก็เดินจากไปทันที

คณินทร์ยกมือถือโทรหาเลขาส่วนตัว “สามคนที่มาหาฉันคือใคร”

“คุณดาริกาครับ กับเพื่อนนางแบบอีกสองคน”

“บอกให้ดากลับไป ถ้าไม่กลับฉันจะโทรไปบอกเจ้าสัว”

ดาริกาเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทพ่อของชายหนุ่ม ตอนนี้อายุยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่เด็กน้อยที่เขาจะสามารถโอบอุ้มเล่นได้แบบวันวาน

นอกจากนี้แล้วเขาก็ยังสนิทกับพี่สาวของหญิงสาวอย่างนุชรี คนที่เขาแนะนำให้ได้รู้จักกับรวินท์จนก่อเกิดเป็นความรัก แต่สุดท้ายก็พังลงเพราะนุชรีตกลงปลงใจจะหนีไปแต่งงานกับคนอื่น

“คุณดาบอกว่าขอค้างที่นี่แค่คืนเดียวครับ แล้วเธอก็บอกว่าขอเจ้าสัวแล้ว เจ้าสัวเห็นว่าแค่คืนเดียวไม่ได้เป็นการรบกวนอะไร”

ถ้าเป็นเวลาปกติก็ไม่รบกวนหรอก แต่ไม่ใช่ตอนที่อนุธิดาอยู่กับเขาบนเกาะนี้

“ให้ดารออยู่ที่นั่น เดี๋ยวฉันจะไปจัดการเอง” หลังจากวางสายคณินทร์ก็เดินกลับไปหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องของเขา

“ทำไมหน้ามุ่ยแบบนั้นล่ะคะ” ต่อให้เธอตีรวนใส่หรือไม่ยอมทำตามสิ่งที่เขาขอ คณินทร์ก็ไม่เคยทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ สงสัยจะมีเรื่องยุ่งเกิดขึ้นแล้ว

“ตอนนี้อยู่แต่ในห้องของผมนะ อย่าออกมาข้างนอก เดี๋ยวผมออกไปจัดการธุระก่อนแล้วจะกลับมา” สีหน้าของคณินทร์อ่อนลง แต่ก็ยังมีความรำคาญใจปรากฏให้เห็นอยู่บนใบหน้า

พอชายหนุ่มจากไปแล้วหญิงสาวก็ได้ยินเสียงแจ่มกับจุ้น ลูกสาวของป้าแมวเข้ามาทำความสะอาดบ้าน อนุธิดาจึงเดินลงไปหา

“แจ่มกับจุ้นรู้ไหมจ๊ะว่าบนเกาะเกิดอะไรขึ้น คุณณินถึงได้ดูหงุดหงิด”

แจ่มกับจุ้นเป็นลูกหัวปีท้ายปี อายุแค่สิบหกกับสิบเจ็ด หน้าตารูปร่างคล้ายกันมากจนเหมือนกับฝาแฝด

“มีผู้หญิงมาหานายค่ะ” ทั้งสองตอบออกมาเป็นเสียงเดียว

“แต่เหมือนนายจะไม่ชอบ” แจ่มว่า

“ถ้าชอบคงพามาอยู่บ้านแบบคุณหนูแล้วค่ะ”จุ้นเสริม

แจ่มกับจุ้นเรียกหญิงสาวว่าคุณหนูตามป้าแมวกับลุงปลิว ทั้งๆ ที่บอกไปแล้วว่าให้เรียกเธอว่าพี่เล็กก็ได้ แต่ทั้งสองก็เรียกอย่างเดิมอยู่ดี

“คุณณินชอบพาผู้หญิงมาที่เกาะนี้เหรอ” อนุธิดาคิดมาตลอดว่าเธอคงไม่ใช่คนแรก

“ค่ะ” ทั้งสองตอบพร้อมกัน

อนุธิดาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องนอนของตัวเอง ความรู้สึกผิดหวังที่ได้รับคำตอบมันคืออะไร เธอหวังอะไร หวังว่าคำตอบจะเป็น เธอคือผู้หญิงคนแรกที่เขาพามายังเกาะส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ ฝันหวานเกินไปหน่อยแล้ว

“คุณหนูเป็นอะไรหน้าเศร้าๆ นะ” แจ่มหันไปพูดกับน้องสาว

“นั่นสิ ไม่ฟังเราพูดให้จบด้วยว่า พามาเที่ยวเฉยๆ ไม่เคยพาใครมานอนบ้านนี้” จุ้นว่าแล้วก็ก้มหน้าก้มตากวาดบ้านต่อ ส่วนแจ่มเองก็หันไปเช็ดถูเครื่องเรือนต่อเช่นกัน

 

คณินทร์ก้าวเดินมายังท่าเรือซึ่งมีศาลาริมน้ำไว้สำหรับชมวิว ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้ว บรรยากาศของท้องฟ้าจึงกลายเป็นสีส้มแดง

ดาริกาแทบจะกระโดดจนตัวลอยที่ได้เห็นคณินทร์ ชายหนุ่มที่เธอปักใจรักชอบมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าอีกฝ่ายจะแก่กว่าเธอตั้งสิบปีก็ตามที

“พี่ณินคะ ดาด้าคิดถึงพี่ณินจังเลย” หญิงสาวไม่รอให้ชายหนุ่มเดินมาถึงตัว แต่แทบจะวิ่งออกไปหาและทิ้งเพื่อนสาวทั้งสองที่ทำหน้าเซ็งหนักมากเอาไว้ข้างหลัง

“จะค้างก็ได้นะดา แต่ต้องอยู่แต่เรือนรับรองของแขก” คณินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “พอเช้าก็ต้องรีบกลับทันที เดี๋ยวพี่ให้ลุงปลิวขับเรือออกไปส่ง”

          “พี่ณิน ดาอุตส่าห์มาหานะคะ เพราะพี่ประภาบอกว่าพี่ณินเครียดเรื่องงานจนต้องขอมาพักสองอาทิตย์ ดากลัวพี่เหงาก็เลยตามมา”

          คณินทร์นึกถึงพี่สาวแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ปัดความรำคาญมาให้กันแบบไม่ถามเขาสักคำแบบนี้ได้ยังไง

          ชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมดาริกาถึงได้มาชอบเขา ทั้งๆ ที่มีผู้ชายคนอื่นมาชอบเธอตั้งมากมายและตอนนี้ก็ยังเป็นถึงดาราหน้าใหม่อีกด้วย แม้จะไม่ได้เด่นดังเป็นนางเอกแถวหน้า แต่งานในวงการก็ไม่เคยขาดตั้งแต่เข้าวงการตอนอายุสิบหก

          เขาไม่เคยหว่านเสน่ห์ใส่เธอ ที่เคยทำลงไปก็แค่เอ็นดูเด็กตัวเล็กๆ เท่านั้นเอง พออีกฝ่ายเริ่มโตแล้ว เขาก็ไม่เคยสุงสิงให้ความใกล้ชิดสนิทสนมอะไรอีก ออกจะทำตัวห่างเหินเสียด้วยซ้ำ

          “พี่ไม่เหงา เพราะถ้าพี่เหงาพี่จะหนีมาอยู่คนเดียวบนเกาะทำไม”

          “ที่ไม่เหงา ไม่ใช่ว่าพาผู้หญิงที่ไหนมากกเหรอคะ เพราะปกติพี่ณินไม่เคยขาดผู้หญิงเลยนี่”

          “ดา เธอไม่ใช่แฟนพี่ อย่าทำตัวเหมือนหึงหวงกันแบบนี้ มันไม่น่ารัก” ชายหนุ่มเอ่ยปากต่อว่าอย่างตรงไปตรงมา

          “พี่ณินก็รู้ว่าดาชอบพี่ ดาโตเป็นสาวแล้วนะคะ ทำไมพี่ณินถึงไม่ให้โอกาสกันบ้าง” หญิงสาวเริ่มมีน้ำตาคลอ

          ไม่รู้ว่าทำไม แต่พอมองดาริกาแล้ว ชายหนุ่มกลับนึกถึงใบหน้าเฉยชาของอนุธิดา ฝ่ายนั้นต่อให้มองยังไงก็ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ในขณะที่ผู้หญิงคนนี้เขาดูออกไปเสียหมด

“หมอกดูแลแขกให้ฉันด้วย ตอนเช้านายก็กลับไปพร้อมดาได้เลย” คณินทร์หันหลังให้กับดาริกา “และพี่ขอเตือน อย่าสร้างความยุ่งยากให้พี่ เพราะถ้าทำแบนั้นพี่จะไม่เกรงใจเธออีกแล้ว”

“ใจร้าย พี่ณินใจร้าย” ดาริกาน้ำตาไหลริน เพื่อนทั้งสองคนของเธอจึงเดินมาช่วยกันปลอบ แต่ก็ไม่อาจช่วยหยุดน้ำตาของหญิงสาวได้