เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ - ตอนที่ 4 โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 1,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 2,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 3,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 4,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 5,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 6,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 7,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 8,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 9 (จบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 4

ตอนที่ ๔

ยามหลับใหลและฝันดี

 

          มื้อค่ำวันนี้โต๊ะถูกตั้งอยู่ริมระเบียงรับลมทะเลที่พัดมาเอื่อยๆ คณินทร์ไม่ได้มีสีหน้ายุ่งยากใจอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นอนุธิดาที่สีหน้านิ่งลงมากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

          “วันนี้อาหารไม่ถูกปากเหรอ” คณินทร์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าหญิงสาวกินได้ไม่เยอะเหมือนอย่างเคย

          “เปล่าค่ะ อร่อยมาก แต่แค่รู้สึกไม่อยากกิน”

          คณินทร์มักชอบการสังเกตปฏิกิริยาของอนุธิดาอยู่แล้ว เขาจึงรับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดเล็กๆ ของหญิงสาวแล้ว แต่ไม่รู้อะไรทำให้อีกฝ่ายมีอารมณ์แบบนี้

          “อิ่มแล้วค่ะ ออกไปเดินเล่นกันไหม”

          “ก็ได้ค่ะ”

          ดังนั้นคณินทร์จึงจูงมืออนุธิดามาเดินเล่น โดยเลี่ยงที่จะไม่เดินไปทางหน้าเกาะซึ่งมีเรือนรับรองแขก และมันทำให้หญิงสาวเดาได้ว่าผู้หญิงที่มาหาอยู่พักค้างคืนบนเกาะ

          “คุณไม่ต้องไปดูแลแขกเหรอคะ” คำถามของอนุธิดาทำให้ชายหนุ่มชะงักฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินเคียงหญิงสาว

          “ใครบอกคุณ”

          “แจ่มกับจุ้นค่ะ”

          คณินทร์หรี่ตามองหญิงสาว เธอสนใจความเป็นไปของเขาใช่ไหม ถึงได้ถามเรื่องเขากับทั้งสองคนนั้น

          “น้องสาวของเพื่อนน่ะ เธอมาเยี่ยม แต่มาโดยที่ไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า ผมก็เลยหงุดหงิด” เขาไม่ชอบใจเอามากๆ เพราะมันอาจทำให้เรื่องของอนุธิดารู้ไปถึงคนข้างนอก

มีหลายครั้งเหมือนกันที่ดาริกาตามไปราวีผู้หญิงที่เข้ามาพัวพันกับเขา ทั้งๆ ที่บางคนก็แค่สนิทสนมเพราะเครือข่ายทางธุรกิจ แต่แถมเรื่องอย่างว่ามาด้วยจากความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย

          ทั้งๆ ที่เขาปฏิเสธอย่างชัดเจนและไม่เคยให้ความหวัง แต่ที่ดาริกายังตามตื้อ อาจเป็นเพราะพ่อของเขาและเจ้าสัวน่ะสิ คอยเติมเชื้อไฟของความหวังนั้นอยู่เรื่อยๆ

          ก่อนหน้านั้นก็นุชรี โชคดีที่นุชรีกับเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยต่อกัน และเขาก็จับคู่ให้เธอกับรวินท์ได้สำเร็จด้วย ถึงแม้ในเวลาต่อมาคู่นี้จะไปกันไม่รอดก็เถอะ นึกว่าจะหมดเรื่องที่ว่าอยากให้ลูกสาวลูกชายแต่งงานกันแล้วเสียอีก ใครจะรู้ว่าเด็กสาวที่อายุห่างจากเขาตั้งสิบปีจะมาตามรักตามหลงเขาแบบนี้

          “คุณดาครับ คุณไม่ควรเดินมาทางนี้” เสียงของหมอกทำให้คณินทร์คว้าตัวอนุธิดามากอดเอาไว้ ชายหนุ่มกดหน้าของหญิงสาวลงกับอกของตนและหันหลังให้กับดาริกาที่กำลังเดินตรงมาโดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเลขาหนุ่ม

          “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะพี่ณิน” ดาริกาแทบจะปรี่เข้าไปกระชากหญิงสาวออกจากอกของคนที่เธอรัก แต่กลับถูกคนเป็นเลขาของคณินทร์จับแขนเอาไว้แน่นจนสะบัดไม่หลุด

          “คุณดาริกาครับ ถ้าคุณยังไม่หยุดผมอาจต้องขอโทษที่ต้องจะใช้กำลังกับคุณนะครับ” หมอกขู่ ดาริกาหันไปถลึงตาใส่ ตลอดเวลาที่เธอตามตื้อคณินทร์กต้องถูกผู้ชายคนนี้ขวางตลอด มันทำให้เธอเกลียดเขา

          “ปล่อยฉัน”

          ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังฉุดกระชากกันอยู่นั้น คณินทร์ก็ช้อนตัวของหญิงสาวที่สำหรับเขาแล้วนั้นเบาแสนเบาขึ้น ก่อนจะเดินหนีกลับเข้าบ้านไปและล็อกประตูอย่างแน่นหนาทุกบาน ทิ้งให้หมอกจัดการกับความวุ่นวายของดาริกาเพียงลำพัง

          “เธอชอบคุณมาก” อนุธิดาเอ่ยปากเมื่อคณินทร์ปล่อยเธอลงพื้นแล้ว

          “ผมรู้”

          “ทำไมคุณถึงไม่ชอบเธอ”

          “แต่ก่อนผมชอบเธอนะ แต่แบบน้องสาว ตอนนี้แม้แต่ความเอ็นดูยังไม่เหลือแล้ว การตามตื้อมันสร้างความรำคาญใจให้ผมมากกว่าจะทำให้รัก” คณินทร์สบตากับหญิงสาวนิ่ง “ถ้าคุณรักใครสักคนคุณจะทำยังไง คุณจะเลือกทำแบบดาริกาไหม”

          นั่นสิ...

          อนุธิดามองดูชายหนุ่มตรงหน้า เขาคือพี่ชายผมทองที่ผ่านกาลเวลามาแล้วสิบปี เธอจะทำยังไงดีเขาถึงจะรักเธอ ไม่ใช่เห็นเธอเป็นแค่เกมที่จะต้องเอาชนะหรือของที่เอาไว้บำบัดความใคร่ ได้จนพอใจก็ทิ้งขว้างอย่างไร้ค่า

          คำตอบคือ...

          “ไม่รู้ค่ะ”

          ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าคุณรักคนอื่นผมไม่รู้ว่าคุณจะทำยังไงให้เขารักคุณ แต่ถ้ารักผม คุณไม่ต้องทำอะไรเลยสักอย่าง ผมก็ยอมสยบอยู่แทบเท้าคุณแล้ว”

          “ทำไม”

          “หัวใจไม่เคยมีเหตุผล” คณินทร์ก้าวเข้ามาประชิดร่างบอบบาง ก้มลงสูดกลิ่นหอมจากซอกคอของหญิงสาว แต่กลิ่นหอมเย้ายวนเชิญชวนให้เขาอยากทำมากกว่านั้น และเขาก็ทำไปตามความต้องการ       

          ชายหนุ่มแตะริมฝีปากกับผิวนุ่มพลางกระซิบ “แววตาเศร้าสร้อย เสียงอ่อนหวาน ผิวหอมละมุน ทุกอย่างของคุณ ผมอยากได้มันมาเป็นของผม”

          อนุธิดารู้ดีว่าเขาเป็นแมงมุมที่กำลังล่อหลอกแมลงเม่าอย่างเธอ ให้ติดกับดักของความปรารถนา หากเขาได้กินแล้วเธอก็คงหมดความหอมหวานอันน่าหลงใหล เหมือนเหยื่อที่ถูกสูบเลือดเนื้อจนหมดตัว

          แต่ว่า...

          แต่ถ้าทุกอย่างจบลงแล้ว หากโมกข์ง้อประกายดาวได้สำเร็จ เธอก็คงต้องหย่ากับเขาและในอนาคตก็ไม่รู้ว่าผกามาศจะจัดการให้เธอได้แต่งงานกับใครสักคนที่เจ้าตัวคิดว่าเหมาะสม

          อาจเป็นญาติผู้น้องของโมกข์คนหนึ่งที่เคยถามไถ่ถึงสถานะของตัวเธอว่าโสดหรือไม่ หรือลูกชายคนเดียวของเพื่อนผกามาศที่ภรรยาไม่ท้องเสียที จนต้องมาบ่นกับผกามาศว่าจะหาเมียน้อยให้ลูกชายเอาไว้ให้ทำลูกสืบสกุล

          ผกามาศไม่เคยปล่อยให้เธอทำอะไรตามใจ ทุกอย่างนั้นผ่านการตัดสินใจมาแล้วว่าดี โดยไม่ถามคนที่ต้องรับสิ่งเหล่านั้นเอาไว้

          เธอไม่อยากเป็นภรรยาที่ดีของใครเพราะผกามาศคิดว่ามันเป็นเรื่องเหมาะสม

          เธออยากเป็นของคณินทร์เพราะเธอต้องการ

          อนุธิดายกมือขึ้นคล้องคอของคณินทร์ หญิงสาวจูบตอบอีกฝ่ายอย่างอ่อนหวาน ขบเม้มริมฝีปากของเขา หยอกเย้ากับลิ้นอุ่นร้อนนั่น แบบเดียวกับที่ชายหนุ่มเคยทำ

          โดยที่ไม่มีคำพูดใดๆ คณินทร์รับรู้ได้ว่าอนุธิดายอมปล่อยตัวไปตามความปรารถนาเช่นเดียวกับเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงช้อนตัวเธอขึ้นอีกครั้งและเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเองที่เตียงใหญ่กว่าในห้องซึ่งเขายกให้หญิงสาวครอบครอง

          ตอนที่วางร่างของหญิงสาวลงบนเตียงแล้วนั้น ชายหนุ่มหยุดนิ่ง เท้าแขนอยู่เหนือหญิงสาวพลางมองใบหน้าเฉยชาเหมือนใส่หน้ากากกำลังปริแตกออกอย่างช้าๆ

          “น้องเล็ก ถ้าคุณไม่ขัดขืนผมเหมือนที่ผ่านมา ผมคงหยุดไม่ได้แล้วนะ”

          อนุธิดาดึงสายตาที่เหม่อมองผนังมาสบตาชายหนุ่ม หญิงสาวยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าที่มองดูแล้วเนียนเหมือนผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วกลับสากมือเล็กน้อยตรงบริเวณที่ต้องโกนหนวดทุกวัน

          “วันที่เหลือหลังจากนี้ ก่อนที่ฉันจะต้องกลับไปที่เดิม ช่วยทำให้มันเป็นความทรงจำที่ฉันจะไม่มีวันลืมได้ไหมคะ”

          ที่เดิม ที่ๆ เรียกว่ากรงขังของคำว่าบุญคุณ

         

          อนุธิดาซึ่งเป็นคนเล็กอย่างเธอนั้น เป็นลูกที่พ่อรักมากกว่าใครในสายตาของพี่สาวทั้งสามคน และเมื่อพ่อจากไป ชีวิตก็เหมือนกับลูกนกที่ตกจากรังอันแสนอบอุ่น

          “พี่จะเลี้ยงน้องเล็กเอง” เกศราเอ่ยปาก เพราะเธอเป็นพี่คนโตและเป็นคนเลี้ยงดูน้องสาวคนนี้มาไม่ต่างจากแม่ดูแลลูก เนื่องจากอนุธิดาอายุห่างจากเธอถึงสิบแปดปี

            “ไหวเหรอพี่หนึ่ง พี่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว แถมอายุก็ยังไม่ถึงขวบ” น้องสาวคนรองอย่างนุศราเอ่ยท้วง เนื่องจากพี่สาวนั้นค่อนข้างมีชีวิตที่ลำบากพอดูหลังสามีเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์

          “งั้นพี่กลางก็เอาน้องไปเลี้ยงสิ” นริศราออกความเห็นขึ้นบ้าง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายถลึงตาใส่

          “ไหวที่ไหนล่ะ ฉันเพิ่งคลอดลูกแฝดนะยะ จากที่ตั้งใจจะมีลูกแค่อีกคน แต่ดันออกมาสองรวมกันกลายเป็นสาม ไหนจะลูกติดสามีอีก บอกตามตรงพี่ไม่ไหวหรอกนะยายน้อย”

          “เฮ้อ น้อยเองก็คงพาน้องเล็กไปด้วยไม่ได้หรอก บ้านสามีคงไม่ยอม” อีกสองเดือนนริศราจะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่เป็นชาวจีนและย้ายไปอยู่ที่นั่นอย่างถาวร

          “พี่เข้าใจว่าพวกเราทุกคนมีภาระและไม่ได้สุขสบายมีคุณพ่อคอยช่วยเหมือนแต่ก่อน” ถึงบริษัทของพ่อพวกเธอจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ก็มีกำไรมากพอที่จะเลี้ยงดูให้ลูกๆ มีความเป็นอยู่สุขสบาย จนกระทั่งทุกอย่างค่อยๆ เปลี่ยนไปและกลายเป็นล้มละลายในที่สุด

          “ถ้าน้าผกามาศเขาอยากได้น้องเล็กไปเลี้ยงดู พี่ก็ยกให้เขาไปเถอะ” นริศราเอ่ยปากออกมาในที่สุด นุศราเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

          “แต่น้องเล็ก...” เมื่อนึกถึงใบหน้าที่คอยวนเวียนอยู่รอบตัวเธอเวลาเจอกันและเรียกเธอเสียงหวานว่า พี่หนึ่งของหนู หญิงสาวก็ลำบากใจเหลือเกิน แต่เธอรู้ดีว่าอาการป่วยของเธอนับวันจะยิ่งแย่ลง หลังจากนี้เธอมีเวลาแค่เพียงทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อลูกชายคนเดียวของเธอเท่านั้นเอง ไม่อาจจะให้การดูแลที่ดีกับน้องสาวคนนี้ได้

          “กลางว่าน้องเล็กโตพอแล้ว ไปอยู่กับน้าผกามาศคงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก อีกอย่างรวยขนาดนั้น แค่เด็กคนเดียวน่าจะไม่ลำบากอะไรเลยสักนิด” นุศราพยายามโน้มน้าวใจพี่สาวคนโต “ดีไม่ดีอาจจะสุขสบายกว่าอยู่กับพวกเราอีก”       

          “ใช่ น้อยก็คิดเหมือนพี่กลาง” นริศราออกปากเห็นด้วยกับพี่สาวคนกลาง

          “มันจะดีกับน้องเล็กจริงๆ ใช่ไหม”

          อนุธิดาที่แอบฟังอยู่ขยับออกห่างจากพวกพี่สาวอย่างช้าๆ หันหลังกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รู้สึกเจ็บปวดที่พวกพี่สาวไม่ต้องการเธอแล้ว น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายจนเปียกชุ่มหมอน

 

          สัมผัสเย็นและเปียกชื้นบนยอดอกอิ่มดึงให้ความคิดที่เลื่อนลอยไปไกลกลับมาอีกครั้ง เพียงแค่เผลอใจลอยไปชั่วครู่ คณินทร์ก็ทำให้ร่างกายของหญิงสาวเปลือยเปล่าแล้ว อนุธิดาแอ่นตัวขึ้นหาริมฝีปากร้อนอย่างห้ามใจไม่ได้

          ฝ่ามือทีเคยลูบไล้วนเวียนอยู่บนยอดอกไต่ลงผ่านหน้าท้องแบนราบอย่างช้าๆ ยามเมื่อนิ้วเรียวของชายหนุ่มบุกรุกส่วนนั้นที่เป็นของหวงห้ามของหญิงสาว อนุธิดาผวาและขยับตัวหนี

          “ใจเย็นที่รัก ไม่ต้องกลัว” คณินทร์ขยับตัวตามหญิงสาวที่พยายามหนีจากสัมผัสของเขา “ถ้าผมไม่กระตุ้นให้คุณพร้อมสำหรับเจ้าสิ่งนั้นของผมคุณจะเจ็บมาก”

          อนุธิดากัดริมฝีปากของตัวเองแน่นเมื่อนิ้วที่ขยับเข้าออกและลูบไล้ตรงใจกลางร่างของเธอนั้นกำลังทำให้เธอสูญเสียการควบคุมร่างกาย

          “คุณไม่ควรทำให้ตัวเองเจ็บ” คณินทร์ขยับตัวขึ้นจูบปากหญิงสาวที่กำลังกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น “ส่งเสียงออกมาเถอะ มันไม่ได้น่าอายหรอก” เขาเริ่มการลูบไล้อีกครั้งและครั้งนี้ก็รุนแรงกว่าเดิม ผลักดันให้หญิงสาวแทบบ้าคลั่งกับความรู้สึกวาบหวาม ร่างกายของเธอสั่นสะท้านและมันก็อดกลั้นไม่ได้อีกต่อไป เมื่อเธอพบกับความสุขสมที่ทำให้สมองขาวโพลน

          “อื้อ...คุณณิน อา...” พอได้ส่งเสียงครางออกมาแล้ว อนุธิดาก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้ระบายความรู้สึกออกมา แต่มันกลับทำให้วินาทีต่อมาเธอรู้สึกร้อนทั้งใบหน้า

          “เสียงคุณทำให้ผมแทบคลั่ง” คณินทร์ยันตัวขึ้นเหนือร่างของหญิงสาว “ผมทนไม่ไหว ผมอยากเข้าไปในตัวคุณ อยากรักคุณ อยากสัมผัสคุณ ผมอยาก...”

          เสียงของคณินทร์ขาดห้วง เนื่องจากอนุธิดาไม่สามารถมีสมาธิมากพอจะฟัง เพราะเขาล่วงล้ำเข้ามาในตัวของเธอแล้ว การขยับของเขาแต่ละครั้งก่อให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่านหวามไหว แม้จะเจ็บแต่เธอก็ไม่อยากให้เขาหยุด หญิงสาวต้องการไปถึงปลายทางแห่งความสุขสมอีกครั้ง

          “ผมอยากให้คุณหลงใหลผม เหมือนกับที่ผมหลงใหลคุณ” นั่นเป็นคำที่เขากระซิบบอกตอนที่ความรู้สึกว่างเปล่าถูกเติมเต็มด้วยตัวตนของชายหนุ่ม แม้ว่าจะแผ่วเบา แต่หญิงสาวก็รับรู้ทุกคำอย่างชัดเจน

          คณินทร์ไม่ได้ปล่อยให้ครั้งที่สองห่างจากครั้งแรกนานมากนัก เขารักเธออีกครั้งอย่างเร่าร้อนกว่าเดิม ทรมานหญิงสาวด้วยความหฤหรรษ์แสนหวาน เธอส่งเสียงครางหวานครั้งแล้วครั้งเล่าจนเขาพอใจจึงได้ปล่อยให้เธอหลับไป

 

          อนุธิดาตื่นสายเพราะเหนื่อยจากการถูกคณินทร์รังแกเกือบทั้งคืนด้วยความเต็มใจของเธอ โดยไม่มีการห้ามปรามใดๆ

          เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามา ไม่รู้ว่าทำไมร่างกายถึงขยับซุกลงใต้ผ้าห่มอย่างอัตโนมัติ ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ไม่น่าจะเหลือตรงไหนที่เขาไม่ได้เห็นอีกแล้ว

          คณินทร์นั่งลงข้างเตียงพลางโน้มหน้าลงมาใกล้ก้อนกลมใต้ผ้าห่ม “ลุกไหวไหม ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”

          “ไม่เจ็บแล้วค่ะ” อนุธิดาโผล่ศีรษะออกจากผ้าห่มมาตอบเสียงเบา

          ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังตกอยู่ในอาการเขินอาย น่ากิน เขาอยากกินเธออีก

          “เราลงไปกินข้าวกันเถอะ”

          “ถ้าคุณหิว คุณก็กินก่อนได้เลยค่ะ ขอฉันอาบน้ำสักเดี๋ยว” เมื่อคืนตัวของเธอมีเหงื่อออกเต็มไปหมด แม้ว่าเขาจะช่วยเช็ดตัวให้หลังจากที่เธอแทบหมดแรงจะขยับตัวแล้วก็ตามที แต่ตอนนี้ก็ยังรู้สึกเหนียวตัวเหลือเกิน

          “อืม ผมหิว แต่ไม่ได้หิวข้าว ผมอยากกินคุณ”

          “เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ” อนุธิดาขมวดคิ้ว สบตากับคนที่เต็มไปด้วยความปรารถนา

          แค่เพียงดึงแรงๆ เพียงทีเดียว ผ้าห่มก็เลื่อนออกจากตัวของหญิงสาวลงไปอยู่ข้างเตียงนอน คณินทร์กวาดสายตามองเรือนร่างเย้ายวนที่มีร่องรอยแดงเต็มตัว ทุกรอยเป็นฝีมือของเขา

          “คุณสวย น่าหลงใหลและเย้ายวน” อนุธิดาชอบการสัมผัสจากเขา ดังนั้นจึงไม่ได้ต่อต้านและถึงจะอยาก ก็ต้านความปรารถนาของตัวเองไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้หญิงสาวรู้ว่าตัวเองถูกปลุกเร้าง่ายเพียงใด

          อนุธิดาช่วยชายหนุ่มกำจัดเสื้อและกางเกงออกจากตัวเขา เพียงชั่วอึดใจ เขาก็ทาบทับลงมา บดเบียดความแข็งแกร่งกับความอ่อนนุ่ม ทุกการขยับเคลื่อนไหวเป็นดังเชื้อไฟที่สุมลงบนกองเพลิงแห่งความปรารถนาร้อนแรง

          หญิงสาวหลับตาพริ้มเมื่อชายหนุ่มพาเธอไปยังจุดหมายปลายทางอีกครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงกอดกายร่างเปลือยเปล่าบอบบางเอาไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งอันอบอุ่น

          อนุธิดาลืมตามองคณินทร์ ภาพของพี่ชายผมทองที่เคยสลักอยู่ในความทรงจำเลือนรางค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นภาพเขาในปัจจุบัน ต่อให้พรุ่งนี้เป็นอย่างไร เธอก็จะไม่เสียใจ

กว่าที่ทั้งสองจะลงมากินอาหารเช้าได้ มันก็เกือบกลายเป็นมื้อเที่ยงไป

          คณินทร์อารมณ์ดีมากขึ้นไปอีกเมื่อเลขาอย่างหมอกโทรมารายงานว่าดาริกากลับไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากวางสายชายหนุ่มก็อดทอดมองร่างของหญิงสาวที่นั่งเล่นอยู่ริมสระน้ำอย่างใจลอยไม่ได้

          เขาชนะพนันกับพี่โมกข์แล้วก็จริง แต่ก็พบว่ามันเป็นชัยชนะที่ไร้ค่าและไม่มีความหมายใดกับเขาเลย อนุธิดาต่างหากที่ทำให้เขามีความสุขอย่างแท้จริง

          ‘พี่...คะ พี่เอง...ก็...ต้องเข้ม...แข็งนะคะ อย่า...ตายนะคะ’ จำได้ว่าเสียงของเธอสะอื้น แต่ก็พยายามพูดจนจบประโยค

          ตอนนั้นกระจกมันบาดที่ท้องของเขา เลือดไหลทะลักจนเหม็นคาวคลุ้งไปหมด เขาอ่อนแรงลงเรื่อยๆ จากตอนแรกที่เขาเป็นคนปลอบ ตอนหลังกลับกลายเป็นเสียงเล็กๆ ที่คอยเรียกสติของเขาไว้ไม่ให้หลุดลอยไปไหน

          ‘พี่คะ พี่ชื่อ...อะไร’

          เธอถาม แต่เขาไม่มีแรงตอบและสลบไปก่อน  พอตื่นมาก็พบว่าอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พ่อกับแม่และพี่สาวทั้งสองคนอยู่กันครบ ทุกคนล้อมเข้ามาหาด้วยความดีใจ เมื่อเขาฟื้น

          อนุธิดาที่รู้สึกตัวว่าถูกมองจึงหันหน้ามาทางคณินทร์แล้วยิ้มให้ แม้จะไม่ใช่ยิ้มกว้าง เป็นเพียงยิ้มบางๆ แต่นั่นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากละลายลงไปกองกับพื้นได้แล้ว

          น่ารัก

          เป็นคำที่เขาแทบจะคิดถึงตลอดเวลาแล้วตอนนี้

          ชายหนุ่มรู้สึกว่าทางเขาไปได้ดี ไม่รู้ว่าทางโมกข์จะเป็นอย่างไรบ้าง