เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง
รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณเธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง
โมกข์
ประกายดาวตัดสินใจขอพักงานในวงการบันเทิงอย่างไม่มีกำหนด สาเหตุหนึ่งมาจากข่าวฉาวที่เธอพลาดถูกหลอกพาไปพบกับผู้กำกับคนหนึ่งตามลำพังยังไม่พอ ดันมีคนหวังดีไปฟ้องเมียหลวงจอมขี้หึงให้ตามมาจัดการเธออีก แต่เธอก็ต้องขอบคุณอยู่หรอก เพราะมันทำให้เธอรอดพ้นจากวิกฤตนั้นมาได้
หลังจากนั้นเธอจึงเอาเรื่องผู้จัดการของเธอจนต้องลาออกจากวงการไป เพียงเพราะเห็นกับค่าจ้างไม่กี่หมื่นเพื่อทำเรื่องเลวร้าย โชคดีที่บริษัทของเธอตื่นตัวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและลงดาบกับคนทำผิดอย่างเด็ดขาด และไม่ใช่ว่าออกจากวงการแล้วก็จบ ทางบริษัทจัดการเรื่องแจ้งความเอาผิดให้ด้วย ทั้งตัวผู้จัดการ ผู้กำกับและคนที่เอาข่าวไปเขียนใส่ไฟจนเกิดเป็นความอื้อฉาวดุจไฟลามทุ่งที่ไม่อาจดับได้ทัน
แต่สาเหตุใหญ่เลยนั้นเป็นเพราะเธอตั้งครรภ์ต่างหากถึงได้คิดจะลาวงการ ก็ใครจะรู้ว่าชีวิตจริงมันดันเหมือนกับในละครที่เธอเล่น แค่ครั้งเดียวท้อง!
เธอกำลังมีลูกกับผู้ชายที่เธอไม่เคยคิดจะสร้างครอบครัวกับเขามาก่อนอย่างโมกข์ คนที่ตามจีบเธอเพราะไม่รู้ว่าเธอนั้นมีแฟนอยู่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอกำลังโด่งดังจึงปิดมันเป็นความลับอย่างมิดชิด ขนาดญาติกันบางคนก็ยังไม่รู้เลย อาทิเช่น คณินทร์ที่เป็นเพื่อนกับโมกข์และเป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอ
คืนนั้นเพราะเธอเสียใจเรื่องข่าว แล้วไหนจะเรื่องแฟนที่เป็นคนธรรมดาไม่สามารถรับมือกับข่าวลือในวงการบันเทิงได้ สุดท้ายก็ขอไปครองคู่กับผู้หญิงนอกวงการคนหนึ่ง
ประกายดาวเมานิดหน่อย แต่ไม่ได้ขาดสติ เธอเป็นฝ่ายไปหาเขาเองที่ไนต์คลับซึ่งเขาร่วมหุ้นกับคณิณทร์และเพื่อนคนอื่นๆ
ภายในห้องพักส่วนตัวของเขา ความเจ็บช้ำทุกอย่างพรั่งพรูออกมาจนหมด เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้ว่าเธอมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ดังนั้นจึงตอบข้อสงสัยของเขาได้สักทีว่าทำไมดาราสาวถึงไม่เคยสนใจหรือมีเยื่อใยให้เขาที่ตามจีบเลยสักนิด นั่นเพราะรักแฟนมากนี่เอง
ดาราสาวไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นโมกข์ แต่วินาทีนั้นมีเพียงเขาเท่านั้นที่เธออยากระบายทุกความอัดอั้นตันใจให้ฟังและไม่รู้ว่าทำไมสุดท้ายถึงได้เลยเถิดไปจนเป็นการปรับทุกข์แบบเร่าร้อนไปได้
ในวันที่เธอรู้ว่าท้องโลกก็เหมือนกับจะถล่มทลายลงมา เป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มึนงงและคิดอะไรไม่ออก เธอโทรไปหาโมกข์ ถ้าอีกฝ่ายบอกว่าให้เธอทำแท้ง เธอจะเลี้ยงลูกคนนี้เอง แต่เรื่องผิดคาดก็เกิดขึ้น
เมื่อโมกข์หอบกุหลาบช่อใหญ่กับแหวนเพชรมาหาเธอถึงบ้านและขอแต่งงาน ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี แต่ทว่า...
แม่ของชายหนุ่มกลับเกลียดเธอเข้าไส้ เข้ากระดูกดำ แล้วข่าวฉาว ข่าวลือ ก็ยิ่งตอกย้ำให้เหม็นขี้หน้าเธอหนักกว่าเดิม
แล้วโมกข์ก็ต้องแต่งงานกับคนที่แม่ของตัวเองเลือกให้ เธอจึงหอบเอาหัวใจที่บอบช้ำหนักหนีมาหาแม่ของตัวเองที่แต่งงานใหม่กับพ่อเลี้ยงซึ่งเป็นชาวอังกฤษ ขอหลบภัยอยู่ในเมืองเล็กๆ ติดจะเป็นชนบท เพราะมีแต่ทุ่งข้าวสาลีและฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ไร้ซึ่งความสะดวกสบายหลายอย่าง กระทั่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ไม่มีให้ใช้อย่างสะดวก แต่แล้วโมกข์ก็โผล่มา
“คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่” ประกายดาวมองชายหนุ่มซึ่งยามปกติเขามักจะอมยิ้มกรุ่มกริ่ม แต่วันนี้กลับมีสีหน้าเศร้าหมอง
“มาตามหาคุณไงดาว ผมคิดถึงคุณนะ”
“แต่ว่าคุณ...”
“เดี๋ยวแม่ขอตัวก่อนนะลูก มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน” แม่ของประกายดาวเอ่ยปากแทรกขึ้นมาและจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่ยอมให้ลูกสาวเอ่ยปากทักท้วง
“คุณแต่งงานกับน้องสาวของคุณไปแล้ว แล้วคุณยังจะมาที่นี่อีกทำไม มาพูดว่าคิดถึงกันให้มันได้อะไรขึ้นมาตาบ้า!” ถึงจะบอกว่าน้องสาว แต่ใครๆ ต่างก็รู้ว่าผู้หญิงที่สวยยิ่งกว่านางเอกละครคนนั้นไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ ของโมกข์
ประกายดาวคว้าตะกร้าที่ใส่ไหมพรมขึ้นมาและทำท่าจะโยนใส่ชายหนุ่ม เธอยั้งมือไว้เพราะเขาไม่มีทีท่าว่าจะหลบ
“กลับไปกับผมนะดาว ผมกับน้องเล็กไม่ได้รักกัน ยังไงก็ต้องหาวิธีหย่าจากกันแน่ๆ”
“ฉันไม่กลับ ฉันจะอยู่ที่นี่”
“แต่ลูกต้องมีพ่อนะดาว คุณจะทำแบบนี้กับลูกของผมไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็พ่อของลูกมันแต่งงานกับคนอื่นไปแล้วนี่” ประกายดาวน้ำตาคลอเบ้า เธอไม่ได้รักอะไรโมกข์มากมายเลยสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ปวดใจขนาดนี้
“คุณก็รู้ว่าผมจำเป็นต้องแต่ง”
ประกายดาวชะงัก เธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกนั้นเป็นสิ่งที่ยากจะตัดกันได้ขาด ก็เพราะแบบนี้ไงเธอถึงได้ตัดสินใจตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เธอไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวังวนปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ โดยเฉพาะแม่สามีอย่างผกามาศที่ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้กับใคร
“ฉันเข้าใจถึงความจำเป็นของคุณค่ะ และมันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจมากกว่าเดิมว่า เราสองคนไม่เหมาะที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะระหว่างฉันกับคุณมันจะต้องไม่ได้มีปัจจัยแค่ พ่อ แม่ ลูกแน่ๆ ให้มันจบตั้งแต่ฉันยังไม่ได้รักคุณมากมายนักเถอะค่ะ”
คำว่ารักที่เผลอพูดออกไปทำให้โมกข์หัวใจพองโต เขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับประกายดาวนั้นเป็นความพลั้งเผลอไปชั่วครั้งชั่วคราว
“ยิ่งได้ยินแบบนี้ ผมยิ่งปล่อยคุณไปไม่ได้หรอกนะดาว ต่อให้คุณพยายามผลักไสผมยังไง ผมก็จะไม่ปล่อยคุณไป” สายตาของโมกข์ที่มองมายังประกายดาวทำให้เธอนึกย้อนไปถึงคืนนั้นอย่างห้ามไม่ได้ มันช่างร้อนแรงและมุ่งมั่นเหมือนอย่างตอนนี้
เธอปล่อยตัวปล่อยใจโดยไร้การเหนี่ยวรั้ง เรือนร่างแข็งแกร่ง ผิวสีเข้มแสนเซ็กซี่ที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่เธอไม่รู้สึกรังเกียจเลยสักนิด โมกข์ทำให้เธอสุขล้นจนหลงลืมเรื่องสำคัญอย่างการป้องกันหรือเรื่องที่ว่าอาจจะท้องไปเสียสนิท
แม้ว่าประกายดาวจะยังคงใจแข็ง แต่หญิงสาวก็ไม่ได้ผลักไสหรือออกปากไล่ ดังนั้นแม่ของเธอและพ่อเลี้ยงจึงหาที่พักให้เขาได้หลับนอน โมกข์ช่วยงานในฟาร์มเป็นการตอบแทน และในทุกๆ วันชายหนุ่มก็จะมานั่งอยู่ใกล้ๆ กับภรรยาที่เอาแต่นิ่งเงียบและก้มหน้าก้มตาถักแต่นิตติ้ง
วันนี้เป็นวันที่ต้องออกไปซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้าน ซุปเปอร์มาเก็ตอยู่ห่างออกไปเป็นระยะทางต้องขับรถถึงหนึ่งชั่วโมง อีกทั้งประกายดาวก็ต้องไปพบกับคุณหมอเพื่อตรวจครรภ์ ดังนั้นแม่ของประกายดาวกับพ่อเลี้ยงจึงแยกไปซื้อของ ส่วนโมกข์นั้นพาคนท้องไปโรงพยาบาล
ตอนที่ออกมารอให้แม่ของประกายดาวมารับ โมกข์ก็เหมือนจะสังเกตเห็นว่าตัวเองกับหญิงสาวถูกแอบถ่ายรูป เขาตั้งใจจะเดินเข้าไปเคลียร์ แต่อีกฝ่ายก็รีบขึ้นรถแล้วขับหนีไปก่อน
“มีอะไรเหรอคะ” ประกายดาวเอ่ยถาม คิ้วเรียวที่ยังคงดูแลให้ได้รูปทรงสวยขมวดเข้าหากัน
“คุณคิดว่าปาปารัซซี่จะตามมาถ่ายคุณถึงที่นี่เลยไหม” โมกข์เอ่ยถามหลังจากที่ละสายตาจากรถคันที่แล่นออกไปจนลับตาแล้ว
“คงเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยที่รู้จักฉันมากกว่ามั้ง แค่อยากถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก” หญิงสาวไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เธอตั้งใจแล้วว่าจะพักงาน แล้วก็พักยาวไปเลย เธอเหนื่อยกับวงการนี้เต็มทีแล้ว
ประกายดาวเข้าวงการตั้งแต่แปดขวบ ยี่สิบปีเต็มที่เธอโล่ดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง เป็นนางเอกตอนเด็กบ้าง นางร้ายบ้างแล้วก็ได้มาเล่นอีกหลายบทจนได้เป็นนางเอกและขึ้นแท่นเป็นนางเอกแถวหน้า ผ่านข่าวลือมาเยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่อาจจะสั่นคลอนบัลลังก์ของเธอได้ จนกระทั่งถูกบอกเลิกและเริ่มเสียศูนย์ชีวิตก็เริ่มดิ่งลงสู่เหว
พอคิดมากจนท้อ สุดท้ายก็ปลงตก โลกมายามันก็แค่มายา วันหนึ่งก็ต้องตื่นจากฝัน ยังดีที่เธอไม่ได้หลงระเริงกับชีวิตอะไรมากนัก เงินเก็บของเธอมีอยู่เยอะพอดู แล้วไหนจะทองอีก พวกคอนโดฯ ที่ซื้อเอาไว้ปล่อยให้เช่าก็มีอยู่หลายที่ เธอวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะใช้เงินยังไงบ้างเพื่อให้เธอกับลูกอยู่รอด
โมกข์ยังคงไม่ได้รับอนุญาตให้มานอนร่วมห้องกับแม่ของลูกเหมือนเช่นทุกวัน แต่วันนี้ดีกว่าทุกวันเล็กน้อยตรงที่ในระหว่างที่เขาออกไปทำงาน หญิงสาวแอบมาเอาผ้าห่มและปลอกหมอนออกไปพึ่งแดดให้ ดังนั้นจึงทำให้ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนอย่างเป็นสุข
ทางด้านของประกายดาวนั้นกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องของตัวเอง ตอนที่กำลังเพลิดเพลินก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู แม่ของหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาอย่างช้าๆ
“ดาว นี่ก็เกือบอาทิตย์แล้วนะลูกที่คุณโมกข์เขาต้องมาลำบากตรากตำทำงานหนักอยู่ในฟาร์ม”
“ในเมื่อแม่ก็ยังทำงานในฟาร์มไหว แล้วผู้ชายตัวโตขนาดนั้นทำไมจะทำไม่ไหว ให้เขาลำบากบ้างเถอะค่ะ” แม่ของเธอกับป้าของประกายดาวนั้นเกิดในครอบครัวธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ทั้งสองพี่น้องได้แต่งงานกับผู้ชายมีฐานะทั้งคู่ เพียงแต่ป้าของเธอซึ่งเป็นแม่ของคณินทร์ยังคงครองคู่กันดี ผิดกับแม่และพ่อของเธอที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้แค่สองปี พ่อของเธอก็เสียชีวิต ครอบครัวที่รังเกียจแม่ของเธอซึ่งยากจนอยู่ก่อนแล้วจึงมีโอกาสผลักไสให้แม่ของเธอออกมาใช้ชีวิตเพียงลำพังทั้งๆ ที่ตั้งท้องเธอยู่
แม้ว่าป้าของเธอจะคอยช่วยเหลือ แต่แม่ของเธอก็รับน้ำใจของพี่สาวไว้เท่าที่จำเป็น ด้วยไม่อยากรบกวนและทำตัวเป็นภาระของพี่สาวในสายตาของใครๆ กว่าแม่ของเธอจะยอมเปิดใจมีรักใหม่ก็ตอนที่เธอสามารถยืดหยัดและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองจากการทำงานในวงการแล้วนั่นแหละ
“แม่ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่แม่จะบอกลูกว่าเขาอดทนเพื่อลูกมากเลยนะ ไม่บ่นสักคำเลยตอนที่ถูกพ่อเลี้ยงของลูกแกล้งใช้งานตามคำสั่งของลูกน่ะ” ใช่ เธอขอให้พ่อเลี้ยงแกล้งโมกข์ เขาจะได้ทนไม่ได้แล้วจะได้หนีกลับไทยไป
“แม่คะ ตัวของเขาไม่ได้มีปัญหา ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่แม่ของเขา แม่ของเขาร้ายกาจกับดาวมากเลยนะคะ”
“แม่เข้าใจ เพราะแม่เองก็ผ่านปัญหานี้มาเหมือนกัน ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าย่าของลูกเกลียดแม่มาก” ประกายดาวรู้ดี ยิ่งแม่ของเธอแต่งงานใหม่ก็ยิ่งเกลียด หาว่าแม่เลิกรักพ่อแล้ว นี่ถ้าเธอไม่ได้เป็นดาราบางทีบ้านนั้นคงไม่ยอมรับว่าเธอเป็นหลาน
“คุณแม่ทนอยู่บ้านนั้นได้ยังไงคะ”
“เพราะพ่อของลูกยุติธรรมกับแม่เสมอ และแม่ก็ไม่ได้เกลียดอะไรแม่ของเขา เพราะเข้าใจถึงความรักของแม่ที่มีลูกชายเพียงคนเดียวและต้องการให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด” แม่ของประกายดาวเอื้อมมือมาลูบผมของลูกสาว “เพราะสามีของคุณผกามาศเขาเสียไปแล้วตอนนี้ความรักทั้งหมดก็ถูกทุ่มไปให้ลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ”
“แต่นั่นเพราะแม่กับพ่อรักกันมากด้วย แต่ดาวกับโมกข์มันไม่ใช่อย่างนั้น ระหว่างเรามันแค่อารมณ์ชั่ววูบหนึ่งของหนูที่เหงาและว้าเหว่ ส่วนเขาก็แค่ได้ที่ระบาย แต่มันดันพลาดท้อง”
“แล้วตอนนั้นทำไมดาวถึงไปหาเขาล่ะ ทำไมไม่ไปหาเพื่อน”
ประกายดาวชะงัก ในหัวของเธอพยายามหาเหตุผลมากมายมาตอบแม่ของตัวเอง “ตอนนั้นเพราะมีเขาตามจีบหนูอยู่คนเดียว หนูแค่อยากประชดแฟน”
“ไปคุยกับเขาดีๆ สักครั้งได้ไหม ถือว่าแม่ขอร้อง แล้วถ้าลูกยังยืนยันว่าจะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่จะเป็นคนออกปากไล่เขาให้กลับไปด้วยตัวของแม่เอง”
หลังจากที่แม่ของเธอจากไปแล้ว ประกายดาวก็ใช้เวลากว่าชั่วโมงถึงจะยอมขยับตัวลงจากเตียง เพื่อเดินไปหาโมกข์ซึ่งนอนอยู่ในห้องเล็กๆ ภายในโรงนาที่ถูกทำเป็นห้องนอนชั่วคราว เพราะตอนนี้ไม่ใช่หน้าหนาวก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องความเย็น
“คุณโมกข์คะ” เธอส่งเสียงเรียกไม่ดังมาก แต่คนที่ถูกเรียกกลับมาปรากฏตัวให้เธอเห็นอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดตัวโตของพ่อเลี้ยงที่ใหญ่กว่าเขามาก มันทำให้เขาดูตัวเล็กไปเลย
“ดาว” เขาตรงมาหาเธอ
“เรามีเรื่องต้องคุยกันค่ะ” หญิงสาวมองดูเตียงที่ทำจากฟางข้าวสาลีและวางด้วยฟูกเก่าคลุมด้วยผ้า “ต้องเป็นที่อื่นนะคะ ฉันแพ้พวกนี้ ฟางทำให้ฉันคัน” พูดจบก็เดินออกมาด้านนอก และตรงไปนั่งยังโต๊ะไม้เล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ใต้ต้นโอ๊ก
ชายหนุ่มเดาไม่ได้ว่าหญิงสาวจะพูดอะไรกับเขา แต่ว่าอะไรก็ช่างเถอะ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เธอพูดกับเขาน้อยมากจนเกือบจะไม่พูดด้วย ตอนนี้ขอฟังเสียงหวานๆ ให้ชื่นใจหน่อย
“ดาวอยากรู้ค่ะว่าถ้าดาวกลับไปกับคุณ คุณจะทำยังไงกับปัญหาของของเราที่เกิดจากแม่ของคุณ”
สีหน้าของโมกข์มีเมฆสุดอึมครึมมาปกคลุมทันที ทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังดูสดใสเหมือนวันแดดออกอยู่เลย
“ผมคิดว่าผมจะให้คุณกับคุณแม่ต่างคนต่างอยู่ ผมจะไม่บังคับให้คุณทำดีกับแม่หรือพยายามจะเอาชนะใจแม่ถ้าคุณไม่อยากทำ และผมรู้จักแม่ของผมดี ต่อให้คุณทำยังไงท่านก็ไม่ใจอ่อน”
ประกายดาวพยักหน้ารับรู้ “ก็ไม่ได้แย่ แต่ว่าคุณแน่ใจนะคะว่าในอนาคตคุณจะสามารถยุติธรรมต่อฉันและก็แม่ของคุณได้เท่าๆ กัน ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งเบื่อฉันขึ้นมา คุณกับแม่ก็จะช่วยกันรุมฉัน เหมือนกับตัวร้ายในละคร”
“มั่นใจสิว่าจะไม่มีวันนั้นหรอก เพราะผมรักคุณ ตอนนั้นที่คุณมาร้องไห้พูดจาพร่ำเพ้อถึงแฟนเก่ากับผม ผมก็คิดว่าคุณรักเขาขนาดนั้น แล้วผมจะเอาชนะใจคุณได้ยังไง ผมแค่อยากลองเสี่ยงดู ตอนนั้นก็เลย...”
เผียะ! ประกายดาวซัดฝ่ามือลงบนแขนของชายหนุ่มอย่างแรงจนเขาสะดุ้ง
“คุณ ผมเจ็บนะ”
“อีตาบ้า ที่ไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัยก็เพราะแบบนี้เองเหรอ ฉันคิดว่าคุณเผลอลืมเสียอีก ที่แท้ก็มีอะไรแอบแฝง” ประกายดาวผ่อนลมหายใจ “สงสัยคงเพราะลูกคงอยากจะมาเกิดจริงๆ ด้วย ช่างเป็นเด็กที่มุ่งมั่นอะไรขนาดนี้เนี่ย”
โมกข์อมยิ้มกับคำบ่นของหญิงสาว
“เป็นวิธีที่ไม่ค่อยแฟร์กับคุณมากไปหน่อย แต่ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ”
ประกายดาวมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง ครั้งแรกที่เจอกัน ชายหนุ่มไม่รู้ตัวซ้ำว่าเธอเป็นใคร เพราะเขาไม่ค่อยสนใจพวกละครหรือดารา เขาก็แค่ชอบเธอที่เป็นเธอ แม้ว่าจะหน้าสดทำตัวเป็นยัยเพิ้งหรือเอ่ยปากต่อว่ายังไง เขาก็ฟังแล้วก็ยิ้ม ตอนแรกมันน่ารำคาญมาก แต่หลังจากที่แฟนเก่ามักจะปฏิเสธไม่ยอมมาหาเธอ ประกายดาวก็ยิ่งใช้โมกข์เป็นที่ระบายอารมณ์หงุดหงิดยามเขามาหา แต่โมกข์ก็ยังคงแค่ยิ้มแล้วทำเหมือนเธอยังเป็นนางฟ้าอยู่เสมอ ทำอย่างกับตัวเองเป็นพวกมาร์โซคิสชอบให้ถูกทำร้ายแล้วจะมีความสุข
“แต่ฉันยังไม่ได้รักคุณมากมายอะไรหรอกนะ”
“ไม่เป็นไร ผมยังมีเวลาอีกเยอะทำให้คุณรักผมมากกว่านี้”
“อืม รักษาเวลาที่เหลือไว้ให้นานพอจนกว่าฉันจะรักคุณได้หมดหัวใจอย่างที่พูดด้วยล่ะ”
โมกข์เอื้อมมือไปกุมมือของหญิงสาว “คุณจะยอมกลับไปกับผมแล้วใช่ไหม”
“ค่ะ” ประกายดาวยิ้มอย่างอ่อนหวานก่อนจะหุบยิ้ม “แต่ก่อนหน้านั้น ช่วยอธิบายเรื่องเจ้าสาวของคุณมาด้วยว่า คุณทำยังไงกับเธอกันแน่ คุณถึงมาที่นี่ได้”
ทันทีที่โมกข์เล่าจบก็ถูกทุบ ถูกตีไปอีกหลายที
“คุณกับพี่ณินบ้าที่สุดเลย ทำอย่างนั้นกับเด็กคนนั้นได้ยังไง”
“โอ๊ย เจ็บนะ” แขนของโมกข์เป็นจ้ำรอยแดงเพราะถูกหยิกเต็มแขนไปหมด “ผมบังคับให้ไอ้ณินมันสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรน้องเล็กถ้าเธอไม่เต็มใจ”
“พวกคุณนี่มันน่านักนะ กลับไปฉันจะไปทุบพี่ณินด้วยอีกคน”
“น้องเล็กไม่ได้ชอบผมเลยสักนิด ตอนถูกคุณแม่บังคับผมก็เห็นนั่งหน้าเศร้าไปหลายวัน เธอน่าจะดีใจที่ไม่ต้องเข้าหอกับผม”
“คุณก็รู้ว่าพี่ณินไม่เคยจริงจังกับใคร”
“มันไม่ได้เป็นอย่างคุณคิด ไอ้ณินมันไม่ได้เจ้าชู้ ผมยังเจ้าชู้กว่าเลย แต่ตัวมันแค่เสพติดการมีเซ็กซ์ ใครเข้ามาคลำไปไม่มีหางมันก็ได้หมด แต่กับน้องเล็กมันไม่เหมือนกัน ไอ้ณินมันออกจะหลงเลยด้วยซ้ำ ถึงขนาดที่ว่าถ้าหากคู่หมั้นของน้องเล็กเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผม มันคงไม่ลังเลที่จะแย่ง”
มือเล็กที่เตรียมจะหยิกชายหนุ่มอีกถูกชักกลับอย่างช้าๆ
“แต่ยังไงดาวก็อยากไปหาน้องเขา อยากไปขอโทษที่เจ้าบ่าวของเธอหนีเธอมาหาตัวเอง”
“ได้จ้า เดี๋ยวเรากลับไปแล้ว พวกเราก็ไปหาพวกเขากัน ผมเองก็อยากขอโทษน้องเล็กเหมือนกัน ตอนตื่นขึ้นมาคงตกใจน่าดู เพราะผมทำลงไปโดยไม่ได้ปรึกษาเธอก่อนสักคำ”
“เฮ้อ พวกคุณนี่น้าทำอะไรไม่คิดเหมือนเด็กๆ เลย ไอ้นิสัยทำก่อนแล้วค่อยคิดเนี่ยอย่าเอามาติดลูกในท้องของฉันเชียวล่ะ”
“จ้าๆ รับรองว่าลูกของเราจะต้องเป็นเด็กดี ไม่ใช่เด็กร้ายๆ อย่างพ่อกับลุงของเขาอย่างแน่นอน” โมกข์บีบมือของหญิงสาวแน่นขึ้นพลางส่งสายตาหวานซึ้งให้อีกฝ่าย