เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ - ตอนที่ 9 (จบ) โดย ที่รักของพระจันทร์ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

โรแมนติก

รายละเอียด

เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง

ผู้แต่ง

ที่รักของพระจันทร์

เรื่องย่อ

สารบัญ

ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 1,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 2,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 3,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 4,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 5,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 6,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 7,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 8,ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณ -ตอนที่ 9 (จบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 9 (จบ)

ตอนที่ ๙

ฝันหวาน

 

          อนุธิดาเดินไปตามชายหาดในยามเย็น เธออยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วหลังจากตัดสินใจขอให้คณินทร์ช่วยเหลือและเขาก็ช่วยหลานชายของเธอด้วย ตอนนี้หลานของเธอได้ย้ายโรงพยาบาลและได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อการรักษาอาการมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันแล้ว ทั้งพี่สาวเธอและหลานเหมือนได้ชีวิตใหม่

ส่วนชีวิตของเธอตอนนี้นั้นก็คอยช่วยงานคณินทร์ยามที่เจ้าตัวหอบงานมาทำบนเกาะ ทำให้กลายเป็นเลขาส่วนตัวคนหนึ่งของเขาไป พร้อมทั้งเป็นภรรยาด้วย

          “น้องเล็ก” เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้เธอหันไปมองชายหนุ่มที่วิ่งตามมา

          คณินทร์ไม่ได้อยู่บนเกาะตั้งหลายวันแล้ว เพราะมีงานที่ต้องไปทำด้วยตัวเอง ไม่สามารถจะสั่งงานจากที่นี่ได้

          “กลับมาแล้วเหรอคะ” หญิงสาวยกแขนขึ้นโอบรอบเอวของคนตัวโต “คิดถึงพี่ณินจัง”

          ชายหนุ่มหัวเราะ “เดี๋ยวนี้รู้จักอ้อนแล้ว ดีใจจัง”

          “ถ้าไม่อ้อนบ้างเล็กกลัวว่าพี่ณินจะเบื่อเล็ก”

          “ไม่เบื่อสิ ยังไงพี่ก็ไม่มีวันเบื่อเธอหรอก” เขาเจอคนที่ใช่แล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรมายั่วยุ เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองเผลอใจไปกับใครอื่นอีก “เพราะเธอเป็นคนเดียวที่พี่เคยรัก”

          “ไม่จริงหรอกค่ะ ต่อไปพี่ณินก็จะรักคนอื่น”

          คณินทร์ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงพูดแบบนั้น “ทำไมเหรอ พี่ต้องไปทำงานหลายวันน้องเล็กก็เลยคิดมากหรือไง”

          หญิงสาวหัวเราะ “เพราะพี่ณินต้องรักคนคนนี้ด้วยไงคะ” เธอจับมือของเขาวางลงบนหน้าท้องซึ่งยังแบนราบ

          ชายหนุ่มมองหน้าท้องของหญิงสาวด้วยดวงตาเบิกกว้าง “หมายความว่า...ท้องแล้วใช่ไหม”

          อนุธิดาพยักหน้าพลางยิ้มกว้างกว่าที่เคย “ค่ะ ท้องแล้ว”

          “โอ้ ไม่อยากจะเชื่อเลย” เขายกมือขึ้นปิดปากที่อ้าค้างของตัวเอง แล้วก็เปิดออกเพราะอยากหัวเราะออกมาดังๆ

          “เล็กใช้ที่ตรวจครรภ์ที่เราซื้อมาเผื่อไว้เช็กตั้งสองรอบค่ะ แน่ใจว่าท้องแน่ๆ”

          “ดีจัง” คณินทร์กางแขนกอดรัดหญิงสาวเอาไว้แน่น “พี่ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งพี่จะมีลูกกับเขาเหมือนกัน”

          “เล็กก็ไม่เคยคิดค่ะ เพราะทำยังไงก็จินตนาการไม่ออกหรอกว่าเล็กจะมีวันนี้ได้” อนุธิดาแนบใบหน้าลงกับอกกว้าง เธอได้ยินทั้งเสียงทะเลและหัวใจของชายหนุ่มดังคละเคล้ากันเป็นจังหวะไพเราะแบบเฉพาะตัว “แต่เล็กว่าเล็กเคยฝันถึงอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกันนะคะ เพราะเล็กฝันถึงพี่ณินมาตลอดเลยค่ะ”

          คณินทร์มองดูหญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมองเขา ชายหนุ่มเคยคิดว่าชอบใบหน้าตอนเฉยชาของอนุธิดามากที่สุด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองชอบยามหญิงสาวยิ้มมองเขาอย่างอ่อนหวานและยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริมากกว่า

          เขาก้มลงจูบหญิงสาว ซึมซับความหวานหอมของรสจูบที่เขาไม่รู้เบื่อและแสนคิดถึงยามต้องห่างไกลไปทำงาน 

          ทั้งสองคนเดินเล่นด้วยกันจนฟ้ามืดจึงกลับไปยังบ้านที่เป็นรังรักของทั้งคู่และใช้เวลาด้วยกันอย่างเร่าร้อน เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหากันเป็นที่สุด

 

          ในวันที่ฟื้นจากการผ่าตัดคลอดเพราะเธอไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ ก็ได้พบกับครอบครัวของคณินทร์ที่มาเยี่ยมเธอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพ่อแม่และพี่สาวของเขาทั้งสองคน ทุกคนล้วนยิ้มแย้มด้วยความยินดี

ส่วนเรื่องที่คณินทร์พาเธอหนีมานั้นหลังจากทุกคนรับฟังปัญหาและหายตกใจแล้วก็ไม่มีใครพูดถึงอีก เพราะว่าต่อให้เจรจากับทางผกามาศยังไงอีกฝ่ายก็ไม่รับน้ำใจและคำขอโทษ ดังนั้นจึงทำแค่เพียงปล่อยผ่านไปและใช้ชีวิตต่อไปตามหนทางของใครของมัน

หลังจากที่ครอบครัวของคณินทร์กลับไปแล้ว โมกข์กับประกายดาวพร้อมกับลูกสาวที่อายุได้เกือบหนึ่งขวบแล้วก็มาเยี่ยม

          “หน้าเหมือนน้องเล็กเลย” ประกายดาวเอ่ยพลางมองดูลูกชายของอนุธิดาซึ่งนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเด็กอ่อนของทางโรงพยาบาลอย่างเอ็นดู

          “เหมือนฉันมากกว่ามั้ง” คณินทร์ค้านลูกพี่ลูกน้องของตัวเองทันที

          “แต่ดาวว่าเหมือนน้องเล็กมากกว่า”

          “เอาน่าๆ เด็กตัวแค่นี้เองหน้ายังเปลี่ยนได้อีกหลายรอบ” โมกข์ที่กำลังอุ้มลูกสาวอยู่เอ่ยปากขึ้นขัดทั้งสองคน “สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารสิ”

          ทุกคนหันไปมองดูลูกสาวของโมกข์ที่หน้าตาเหมือนพ่ออย่างกับพิมพ์ก็หัวเราะออกมา

          “คนต่อไปจะต้องเหมือนดาวบ้างล่ะ”

          “วางแผนจะมีอีกคนแล้วเหรอ” คณินทร์เอ่ยถาม

          ประกายดาวไหวไหล่เบาๆ “ตอนนี้ท้องเดือนหนึ่งแล้วค่ะ”

          “โอ้โห นี่ขนาดไม่รักพี่โมกข์เขาเท่าไหร่นะเธอ ท้องอีกแล้ว” คณินทร์เอ่ยปากแซวลูกพี่ลูกน้องพลางหัวเราะ

          โมกข์เองก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่รักเท่าไหร่น่ะก็แค่ล้อเล่น เรื่องจริงตอนนี้คือรักกันมากขึ้นทุกวันจนทำให้สามารถจับมือกันแน่น ไม่หวั่นไหวแม้จะมีวิกฤติชีวิตคู่ให้เผชิญอยู่บ่อยครั้งแค่ไหนก็ผ่านที พวกเขาก็ผ่านมันมาได้เสมอ

 

          ตอนนี้คณินทร์ไม่อนุญาตให้อนุธิดาอยู่บนเกาะอีกแล้ว เพราะงานที่เยอะมากขึ้นตามหน้าที่ที่รับมอบหมายมา ดังนั้นชายหนุ่มที่ติดลูกชายมากกว่าติดภรรยาจึงทนห่างลูกไม่ได้เลยสักวันเดียว ทำเอาคนเป็นภรรยารู้สึกทึ่งไม่น้อยที่สามีอาการหนักขนาดนี้ แม้เธอจะอยากอยู่บนเกาะอย่างเงียบๆ แค่ไหนก็ทนสงสารชายหนุ่มไม่ได้จึงยอมมาอยู่ด้วยกันยังบ้านที่เขาซื้อไว้เพื่อครอบครัว

          อนุธิดากลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว ทุกวันมีความสุขกับการดูแลลูกชายและสามี แต่เมื่อมีเวลาว่างก็หัดถักโครเชต์เพื่อทำของเล็กๆ น้อยๆ ขายผ่านทางแฟนเพจของเฟซบุ๊ก เงินที่ได้มาก็ใช้ไปกับบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งทำให้เธอมีความสุข

          “คุณเล็กคะ มีคนมาหาค่ะ”

          “จ้า” อนุธิดามองดูลูกชายที่หลับปุ๋ยหลังจากกินนมจนอิ่มอย่างเอ็นดู ก่อนจะหมุนตัวเดินลงไปด้านล่างเพื่อตรงไปยังห้องรับแขก

          ตอนที่เห็นว่าใครนั่งอยู่หญิงสาวก็หยุดชะงักตรงประตู ไม่กล้าเดินเข้าไปหาผกามาศซึ่งกำลังหันมามองเธอ

          “ดูท่าทางมีความสุขดีนะ” ผกามาศเอ่ยทัก

          “สวัสดีค่ะคุณผกามาศ” อนุธิดายกมือไหว้ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาอีกตัว “วันนี้มีธุระอะไรกับเล็กเหรอคะ ถึงได้มาหาถึงที่”

          ผกามาศมองอนุธิดาแล้วก็ยิ้มเยาะ “จำได้ว่าฉันสอนให้เธอเป็นผู้หญิงที่สามารถช่วยสามีทำงานได้ ไม่ใช่เป็นแม่บ้านโง่ๆ แบบนี้”

          อนุธิดาถอนหายใจก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ อย่างใจเย็น “ผู้หญิงที่เลือกจะเป็นแม่บ้านไม่ได้เป็นผู้หญิงโง่นะคะ ทุกคนมีคุณค่าในแบบของตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เก่งทำงานนอกบ้านหรือผู้หญิงที่เลือกจะเป็นแม่บ้าน งานในบ้านหรืองานข้างนอกก็หนักหนาและต้องใช้แรงกาย แรงใจในการทำงานทั้งนั้นค่ะ”

          “เธอคิดไปเองน่ะสิ”

          อนุธิดาเงียบ เธอไม่อยากเถียงกับคนหัวแข็งแบบผกามาศและวิธีนี้เป็นวิธีที่จะจบการโต้เถียงกับอีกฝ่ายได้เร็วที่สุดด้วย

          “เกาะผู้ชายกินภูมิใจนักหรือไง โชคดีจริงๆ ที่จับคนรวยได้”

          เธอปล่อยให้ผกามาศพูดไป แต่เธอจะไม่เก็บคำพูดพวกนี้มาคิดมากหรอก...

          “ฟังนะน้องเล็ก ความรักของพวกเรามีค่ามากกว่าเงินพวกนั้น ผมจะขัยนทำงานเพื่อคุณ ขอแค่คุณอย่าหนีไปจากผมก็พอ อยู่ตรงนี้เป็นคนที่คอยรับทุกสิ่งที่ผมจะทุ่มเทให้”

          “เป็นแม่บ้านก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ เราเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจเลี้ยงลูกแล้วก็ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้พี่กินด้วยนะ”

          เพราะเธอรักคณินทร์มากเกินกว่าจะให้อะไรมาทำลายความรักของพวกเธอ

          “ใช่ค่ะ ฉันภูมิใจที่ได้อยู่กับคุณณินและรักเขาค่ะ” อนุธิดายิ้มกว้าง

          ผกามาศไม่เคยอภัยให้กับพวกเขาทุกคนได้เลย เธอจมอยู่กับความรู้สึกแค้นเคืองและไม่เคยมีความสุขสักวัน

          อนุธิดาเลือกที่จะไม่เดินไปส่งแขก แต่เลือกที่จะนั่งนิ่งเพื่อสงบอารมณ์โกรธเกลียดผากามาศให้จมอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเหมือนเดิม เพราะทำยังไงเธอก็อภัยให้กับอีกฝ่ายไม่ได้เลย แม้อีกฝ่ายจะมีบุญคุณทำให้เธอได้โตมาเป็นอย่างดีในด้านร่างกายก็ตามที แต่ในทางจิตใจนั้นหากไม่เจอคณินทร์ เธอก็ไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วชีวิตเธอจะจบลงอย่างไรกันแน่

 

          ในทุกๆ วันชีวิตของแต่ละคนก็ดำเนินต่อไปตามวิถีทางของตัวเอง อนุธิดามีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับสามีและลูก ทำให้ทุกวันมีคุณค่ามากที่สุดสำหรับตัวเองและครอบครัว

          แม้ช่วงแรกจะยังมีผู้หญิงวนเวียนเข้ามาหาคณินทร์เพื่อทดสอบความรักของชายหนุ่มอยู่บ้าง แต่หลังจากผ่านมาหลายปีและมีลูกด้วยกันสองคนแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่มีใครเข้าหาชายหนุ่มอีกเพราะเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่หวั่นไหวกับใครอื่นนอกจากภรรยาของตัวเอง

          “ภรรยาใครเนี่ยลูกสองแล้วก็ยังหุ่นดีจังเลย” คณิณทร์เดินไปโอบกอดอนุธิดาในวัยเกือบสามสิบปีซึ่งตอนนี้มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันกายและกำลังนั่งเป่าผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

          หญิงสาวว่างเครื่องเป่าผมในมือลงเพราะชายหนุ่มเข้ามานัวเนียจนเป่าผมต่อไม่ได้ “ขอเป่าผมให้แห้งก่อนไม่ได้เหรอคะ”

          “เอาไว้ทีหลังน่า”

          “แต่เล็กอาบน้ำแล้วด้วยนะคะ ทำแบบนี้เดี๋ยวก็ต้องอาบน้ำใหม่”

          “เดี๋ยวพี่อาบให้”

          “พี่ณินคนหื่น”

          คณินทร์หัวเราะพลางแกะปมของผ้าเช็ดตัวออก แล้วลูบไล้ผิวเนียนนุ่มไปทั่วตัวของหญิงสาวด้วยความหลงใหลและรักใคร่

เขารักอนุธิดาจนถอนตัวไม่ขึ้น

          “พี่รักเธอ” ชายหนุ่มกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าข้างหูของหญิงสาวในขณะที่ความรู้สึกดำดิ่งสู่ห้วงลึกของความปรารถนาร้อนรุ่ม

          “เล็กเองก็...”

          ถ้อยคำกระซิบเบานั้นได้ยินแค่เพียงชายหนุ่มคนเดียว

 

-จบ-