เธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง
รัก,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ยามหลับฝันนั้นมีเพียงคุณเธอแต่งงานกับอีกคน แต่กลับตื่นมาข้างๆ ใครอีกคน เธอไม่ได้เอ่ยปากโวยวาย เธอทำเพียงแค่ถามเขาว่า เจ้าบ่าวของเธอไปไหนด้วยอาการสงบนิ่ง
ฝันหวาน
อนุธิดาเดินไปตามชายหาดในยามเย็น เธออยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้วหลังจากตัดสินใจขอให้คณินทร์ช่วยเหลือและเขาก็ช่วยหลานชายของเธอด้วย ตอนนี้หลานของเธอได้ย้ายโรงพยาบาลและได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกเพื่อการรักษาอาการมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันแล้ว ทั้งพี่สาวเธอและหลานเหมือนได้ชีวิตใหม่
ส่วนชีวิตของเธอตอนนี้นั้นก็คอยช่วยงานคณินทร์ยามที่เจ้าตัวหอบงานมาทำบนเกาะ ทำให้กลายเป็นเลขาส่วนตัวคนหนึ่งของเขาไป พร้อมทั้งเป็นภรรยาด้วย
“น้องเล็ก” เสียงเรียกคุ้นเคยทำให้เธอหันไปมองชายหนุ่มที่วิ่งตามมา
คณินทร์ไม่ได้อยู่บนเกาะตั้งหลายวันแล้ว เพราะมีงานที่ต้องไปทำด้วยตัวเอง ไม่สามารถจะสั่งงานจากที่นี่ได้
“กลับมาแล้วเหรอคะ” หญิงสาวยกแขนขึ้นโอบรอบเอวของคนตัวโต “คิดถึงพี่ณินจัง”
ชายหนุ่มหัวเราะ “เดี๋ยวนี้รู้จักอ้อนแล้ว ดีใจจัง”
“ถ้าไม่อ้อนบ้างเล็กกลัวว่าพี่ณินจะเบื่อเล็ก”
“ไม่เบื่อสิ ยังไงพี่ก็ไม่มีวันเบื่อเธอหรอก” เขาเจอคนที่ใช่แล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรมายั่วยุ เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมให้ตัวเองเผลอใจไปกับใครอื่นอีก “เพราะเธอเป็นคนเดียวที่พี่เคยรัก”
“ไม่จริงหรอกค่ะ ต่อไปพี่ณินก็จะรักคนอื่น”
คณินทร์ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวถึงพูดแบบนั้น “ทำไมเหรอ พี่ต้องไปทำงานหลายวันน้องเล็กก็เลยคิดมากหรือไง”
หญิงสาวหัวเราะ “เพราะพี่ณินต้องรักคนคนนี้ด้วยไงคะ” เธอจับมือของเขาวางลงบนหน้าท้องซึ่งยังแบนราบ
ชายหนุ่มมองหน้าท้องของหญิงสาวด้วยดวงตาเบิกกว้าง “หมายความว่า...ท้องแล้วใช่ไหม”
อนุธิดาพยักหน้าพลางยิ้มกว้างกว่าที่เคย “ค่ะ ท้องแล้ว”
“โอ้ ไม่อยากจะเชื่อเลย” เขายกมือขึ้นปิดปากที่อ้าค้างของตัวเอง แล้วก็เปิดออกเพราะอยากหัวเราะออกมาดังๆ
“เล็กใช้ที่ตรวจครรภ์ที่เราซื้อมาเผื่อไว้เช็กตั้งสองรอบค่ะ แน่ใจว่าท้องแน่ๆ”
“ดีจัง” คณินทร์กางแขนกอดรัดหญิงสาวเอาไว้แน่น “พี่ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งพี่จะมีลูกกับเขาเหมือนกัน”
“เล็กก็ไม่เคยคิดค่ะ เพราะทำยังไงก็จินตนาการไม่ออกหรอกว่าเล็กจะมีวันนี้ได้” อนุธิดาแนบใบหน้าลงกับอกกว้าง เธอได้ยินทั้งเสียงทะเลและหัวใจของชายหนุ่มดังคละเคล้ากันเป็นจังหวะไพเราะแบบเฉพาะตัว “แต่เล็กว่าเล็กเคยฝันถึงอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกันนะคะ เพราะเล็กฝันถึงพี่ณินมาตลอดเลยค่ะ”
คณินทร์มองดูหญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นมองเขา ชายหนุ่มเคยคิดว่าชอบใบหน้าตอนเฉยชาของอนุธิดามากที่สุด แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองชอบยามหญิงสาวยิ้มมองเขาอย่างอ่อนหวานและยิ้มกว้างจนแก้มแทบปริมากกว่า
เขาก้มลงจูบหญิงสาว ซึมซับความหวานหอมของรสจูบที่เขาไม่รู้เบื่อและแสนคิดถึงยามต้องห่างไกลไปทำงาน
ทั้งสองคนเดินเล่นด้วยกันจนฟ้ามืดจึงกลับไปยังบ้านที่เป็นรังรักของทั้งคู่และใช้เวลาด้วยกันอย่างเร่าร้อน เพราะต่างฝ่ายต่างโหยหากันเป็นที่สุด
ในวันที่ฟื้นจากการผ่าตัดคลอดเพราะเธอไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ ก็ได้พบกับครอบครัวของคณินทร์ที่มาเยี่ยมเธอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งพ่อแม่และพี่สาวของเขาทั้งสองคน ทุกคนล้วนยิ้มแย้มด้วยความยินดี
ส่วนเรื่องที่คณินทร์พาเธอหนีมานั้นหลังจากทุกคนรับฟังปัญหาและหายตกใจแล้วก็ไม่มีใครพูดถึงอีก เพราะว่าต่อให้เจรจากับทางผกามาศยังไงอีกฝ่ายก็ไม่รับน้ำใจและคำขอโทษ ดังนั้นจึงทำแค่เพียงปล่อยผ่านไปและใช้ชีวิตต่อไปตามหนทางของใครของมัน
หลังจากที่ครอบครัวของคณินทร์กลับไปแล้ว โมกข์กับประกายดาวพร้อมกับลูกสาวที่อายุได้เกือบหนึ่งขวบแล้วก็มาเยี่ยม
“หน้าเหมือนน้องเล็กเลย” ประกายดาวเอ่ยพลางมองดูลูกชายของอนุธิดาซึ่งนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเด็กอ่อนของทางโรงพยาบาลอย่างเอ็นดู
“เหมือนฉันมากกว่ามั้ง” คณินทร์ค้านลูกพี่ลูกน้องของตัวเองทันที
“แต่ดาวว่าเหมือนน้องเล็กมากกว่า”
“เอาน่าๆ เด็กตัวแค่นี้เองหน้ายังเปลี่ยนได้อีกหลายรอบ” โมกข์ที่กำลังอุ้มลูกสาวอยู่เอ่ยปากขึ้นขัดทั้งสองคน “สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารสิ”
ทุกคนหันไปมองดูลูกสาวของโมกข์ที่หน้าตาเหมือนพ่ออย่างกับพิมพ์ก็หัวเราะออกมา
“คนต่อไปจะต้องเหมือนดาวบ้างล่ะ”
“วางแผนจะมีอีกคนแล้วเหรอ” คณินทร์เอ่ยถาม
ประกายดาวไหวไหล่เบาๆ “ตอนนี้ท้องเดือนหนึ่งแล้วค่ะ”
“โอ้โห นี่ขนาดไม่รักพี่โมกข์เขาเท่าไหร่นะเธอ ท้องอีกแล้ว” คณินทร์เอ่ยปากแซวลูกพี่ลูกน้องพลางหัวเราะ
โมกข์เองก็อดหัวเราะไม่ได้เช่นกัน เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่รักเท่าไหร่น่ะก็แค่ล้อเล่น เรื่องจริงตอนนี้คือรักกันมากขึ้นทุกวันจนทำให้สามารถจับมือกันแน่น ไม่หวั่นไหวแม้จะมีวิกฤติชีวิตคู่ให้เผชิญอยู่บ่อยครั้งแค่ไหนก็ผ่านที พวกเขาก็ผ่านมันมาได้เสมอ
ตอนนี้คณินทร์ไม่อนุญาตให้อนุธิดาอยู่บนเกาะอีกแล้ว เพราะงานที่เยอะมากขึ้นตามหน้าที่ที่รับมอบหมายมา ดังนั้นชายหนุ่มที่ติดลูกชายมากกว่าติดภรรยาจึงทนห่างลูกไม่ได้เลยสักวันเดียว ทำเอาคนเป็นภรรยารู้สึกทึ่งไม่น้อยที่สามีอาการหนักขนาดนี้ แม้เธอจะอยากอยู่บนเกาะอย่างเงียบๆ แค่ไหนก็ทนสงสารชายหนุ่มไม่ได้จึงยอมมาอยู่ด้วยกันยังบ้านที่เขาซื้อไว้เพื่อครอบครัว
อนุธิดากลายเป็นแม่บ้านเต็มตัว ทุกวันมีความสุขกับการดูแลลูกชายและสามี แต่เมื่อมีเวลาว่างก็หัดถักโครเชต์เพื่อทำของเล็กๆ น้อยๆ ขายผ่านทางแฟนเพจของเฟซบุ๊ก เงินที่ได้มาก็ใช้ไปกับบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งทำให้เธอมีความสุข
“คุณเล็กคะ มีคนมาหาค่ะ”
“จ้า” อนุธิดามองดูลูกชายที่หลับปุ๋ยหลังจากกินนมจนอิ่มอย่างเอ็นดู ก่อนจะหมุนตัวเดินลงไปด้านล่างเพื่อตรงไปยังห้องรับแขก
ตอนที่เห็นว่าใครนั่งอยู่หญิงสาวก็หยุดชะงักตรงประตู ไม่กล้าเดินเข้าไปหาผกามาศซึ่งกำลังหันมามองเธอ
“ดูท่าทางมีความสุขดีนะ” ผกามาศเอ่ยทัก
“สวัสดีค่ะคุณผกามาศ” อนุธิดายกมือไหว้ก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาอีกตัว “วันนี้มีธุระอะไรกับเล็กเหรอคะ ถึงได้มาหาถึงที่”
ผกามาศมองอนุธิดาแล้วก็ยิ้มเยาะ “จำได้ว่าฉันสอนให้เธอเป็นผู้หญิงที่สามารถช่วยสามีทำงานได้ ไม่ใช่เป็นแม่บ้านโง่ๆ แบบนี้”
อนุธิดาถอนหายใจก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ อย่างใจเย็น “ผู้หญิงที่เลือกจะเป็นแม่บ้านไม่ได้เป็นผู้หญิงโง่นะคะ ทุกคนมีคุณค่าในแบบของตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เก่งทำงานนอกบ้านหรือผู้หญิงที่เลือกจะเป็นแม่บ้าน งานในบ้านหรืองานข้างนอกก็หนักหนาและต้องใช้แรงกาย แรงใจในการทำงานทั้งนั้นค่ะ”
“เธอคิดไปเองน่ะสิ”
อนุธิดาเงียบ เธอไม่อยากเถียงกับคนหัวแข็งแบบผกามาศและวิธีนี้เป็นวิธีที่จะจบการโต้เถียงกับอีกฝ่ายได้เร็วที่สุดด้วย
“เกาะผู้ชายกินภูมิใจนักหรือไง โชคดีจริงๆ ที่จับคนรวยได้”
เธอปล่อยให้ผกามาศพูดไป แต่เธอจะไม่เก็บคำพูดพวกนี้มาคิดมากหรอก...
“ฟังนะน้องเล็ก ความรักของพวกเรามีค่ามากกว่าเงินพวกนั้น ผมจะขัยนทำงานเพื่อคุณ ขอแค่คุณอย่าหนีไปจากผมก็พอ อยู่ตรงนี้เป็นคนที่คอยรับทุกสิ่งที่ผมจะทุ่มเทให้”
“เป็นแม่บ้านก็เหนื่อยเหมือนกันนั่นแหละ เราเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ เพราะฉะนั้นต้องตั้งใจเลี้ยงลูกแล้วก็ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้พี่กินด้วยนะ”
เพราะเธอรักคณินทร์มากเกินกว่าจะให้อะไรมาทำลายความรักของพวกเธอ
“ใช่ค่ะ ฉันภูมิใจที่ได้อยู่กับคุณณินและรักเขาค่ะ” อนุธิดายิ้มกว้าง
ผกามาศไม่เคยอภัยให้กับพวกเขาทุกคนได้เลย เธอจมอยู่กับความรู้สึกแค้นเคืองและไม่เคยมีความสุขสักวัน
อนุธิดาเลือกที่จะไม่เดินไปส่งแขก แต่เลือกที่จะนั่งนิ่งเพื่อสงบอารมณ์โกรธเกลียดผากามาศให้จมอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเหมือนเดิม เพราะทำยังไงเธอก็อภัยให้กับอีกฝ่ายไม่ได้เลย แม้อีกฝ่ายจะมีบุญคุณทำให้เธอได้โตมาเป็นอย่างดีในด้านร่างกายก็ตามที แต่ในทางจิตใจนั้นหากไม่เจอคณินทร์ เธอก็ไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วชีวิตเธอจะจบลงอย่างไรกันแน่
ในทุกๆ วันชีวิตของแต่ละคนก็ดำเนินต่อไปตามวิถีทางของตัวเอง อนุธิดามีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่กับสามีและลูก ทำให้ทุกวันมีคุณค่ามากที่สุดสำหรับตัวเองและครอบครัว
แม้ช่วงแรกจะยังมีผู้หญิงวนเวียนเข้ามาหาคณินทร์เพื่อทดสอบความรักของชายหนุ่มอยู่บ้าง แต่หลังจากผ่านมาหลายปีและมีลูกด้วยกันสองคนแล้ว ผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่มีใครเข้าหาชายหนุ่มอีกเพราะเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่หวั่นไหวกับใครอื่นนอกจากภรรยาของตัวเอง
“ภรรยาใครเนี่ยลูกสองแล้วก็ยังหุ่นดีจังเลย” คณิณทร์เดินไปโอบกอดอนุธิดาในวัยเกือบสามสิบปีซึ่งตอนนี้มีแค่ผ้าเช็ดตัวพันกายและกำลังนั่งเป่าผมอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
หญิงสาวว่างเครื่องเป่าผมในมือลงเพราะชายหนุ่มเข้ามานัวเนียจนเป่าผมต่อไม่ได้ “ขอเป่าผมให้แห้งก่อนไม่ได้เหรอคะ”
“เอาไว้ทีหลังน่า”
“แต่เล็กอาบน้ำแล้วด้วยนะคะ ทำแบบนี้เดี๋ยวก็ต้องอาบน้ำใหม่”
“เดี๋ยวพี่อาบให้”
“พี่ณินคนหื่น”
คณินทร์หัวเราะพลางแกะปมของผ้าเช็ดตัวออก แล้วลูบไล้ผิวเนียนนุ่มไปทั่วตัวของหญิงสาวด้วยความหลงใหลและรักใคร่
เขารักอนุธิดาจนถอนตัวไม่ขึ้น
“พี่รักเธอ” ชายหนุ่มกระซิบด้วยน้ำเสียงแหบพร่าข้างหูของหญิงสาวในขณะที่ความรู้สึกดำดิ่งสู่ห้วงลึกของความปรารถนาร้อนรุ่ม
“เล็กเองก็...”
ถ้อยคำกระซิบเบานั้นได้ยินแค่เพียงชายหนุ่มคนเดียว
-จบ-