ที่เขาว่ากันก็คงจะจริงที่เวลาผู้หญิงทะเลาะกันก็ไม่พ้นทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย ไม่ว่าใครก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ ต่อให้เป็นเพื่อนรักกันก็ตาม
รัก,ดราม่า,วัยว้าวุ่น,ครอบครัว,ไทย,Plotteller,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Just Love...แค่ได้รักเธอที่เขาว่ากันก็คงจะจริงที่เวลาผู้หญิงทะเลาะกันก็ไม่พ้นทะเลาะกันเรื่องผู้ชาย ไม่ว่าใครก็เห็นแก่ตัวกันทั้งนั้นแหละ ต่อให้เป็นเพื่อนรักกันก็ตาม
ไลลา : คนหนึ่งเขาชั่งดีกับฉันจะทิ้งลงยังไง คนหนึ่งเคยทิ้งไปแต่รักไม่เคยจางหาย
หนึ่งเดือนต่อมา ณ บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง
“พ่อครับ ผมทำลูกสาวพ่อท้องครับ” เสียงผู้ชาย หล่อ ผิวขาว หน้าคม พูดขึ้น
“ล้อเล่นใช่ไหมเนี้ย” ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าพ่อ ทำสีหน้างงงวย
เป็นเสียงสนทนาระหว่างพ่อของฉันกับว่าที่สามี พี่เรย์ นี่เขาคุยกับผู้ใหญ่ไม่เป็นรึไง
จะมาขอลูกสาวเขาแต่มาบอกกับพ่อเขาว่าทำลูกสาวเขาท้องเนี้ยนะ
“จริงครับพ่อ” เสียงน้องชายตัวดีพูดเสริม ไดมอนด์
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีลูกชายผมมันใจร้อนไปหน่อย
ไม่รอให้ผมที่เป็นพ่อของมันมาพูดให้นะครับ” เสียงผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งพูดขึ้น
เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับภรรยาของเขา
“ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่านทั้งสอง เขาคือพ่อแม่ว่าที่สามีฉันเอง
“ก็พ่อช้านิครับ” พี่เรย์หันไปโว๊ยพ่อตัวเอง
“จะมาขอลูกสาวเขาทั้งที ไม่เตรียมสินสอดทองหมั้นมา
แล้วใครเขาจะยกลูกสาวให้ ห๊ะ! ไอ้เรย์” พ่อพี่เรย์บ่นลูกชาย
“นี่ค่ะ สินสอดแล้วก็ของหมั้น” แม่พี่เรย์วางพานที่เต็มไปด้วยเงินสด ทอง
แหวนเพชรและเครื่องประดับอื่นๆ มีใบโฉนดที่ดินด้วย
ฉันมองหน้าพี่เรย์อย่าง งงๆ
“แล้วผมจะกล้าขัดได้ไง ในเมื่อพร้อมกันซะขนาดนี้” พ่อฉันได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ
“เรื่องสินสอดนะให้เขาคุยกันเองก็แล้วกัน ผมไม่เรียกอะไรหรอก
ให้ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกทั้งสองคนนะ” พ่อหันมาพูดกับฉันและพี่เรย์
“งั้นมอนด์เรียกเอง เฮียเรย์ต้องยกค่ายเพลงให้มอนด์ ฮ่าๆ” ไดมอนด์เสนอหน้ามาพูด
ป๊าบ!
“โอ๊ยยย เจ็บนะ” เสียงน้องชายฉันโดนผู้หญิงที่นั่งข้างๆ มันตีเอา
“เดี๋ยวเริกแต่งให้ผมเป็นคนหาให้นะครับ” พ่อพี่เรย์บอก
“ได้ครับ” พ่อฉันก็ตอบรับ
คลื่น.....คลื่น......คลื่น.....
“ว่าไง จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” พี่เรย์รับโทรศัพท์
“มีอะไรคะ” ฉันถามพี่เรย์ที่กำลังทำหน้าตื่นเต้น
“เฌอรีน กำลังจะคลอดแล้ว” พี่เรย์บอก
“จริงหรอค่ะ ไปโรงพยาบาลกันค่ะ” ฉันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ขออนุญาตลุกขึ้น
ขับรถสามสิบนาทีก็ถึงโรงพยาบาล ฉันเปิดประตูรถก้าวเท้าลงมาอย่างรวดเร็ว
“ไลลา ช้าๆ หน่อย เดี่ยวลูกกระเทือน” พี่เรย์วิ่งมาโอบเอวฉันไว้แล้วเดินไปพร้อมกัน
“แค่เดินไม่กระเทือนหรอกค่ะ ที่พี่เรย์ทำอย่างอื่นน่ากระเทือกกว่าอีก” ฉันเลยอดแขวะไม่ได้
ฉันเดินถึงหน้าห้องคลอดก็เห็นมิโน่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เป็นไงบ้าง” ฉันถามมิโน่
“ยังไม่ออกมาเลย” มิโน่บอก
“อุ..แว้ อุ..แว้” ฉันกับมิโน่มองหน้าโดยอัตโนมัติ มิโน่ยิ้มอย่างดีใจ
ฉันก็ดีใจ เผลอกระโดดกอดกันอย่างลืมตัว
“อะ..แฮ่ม!” พอได้ยินเสียงพี่เรย์เราสองคนก็เลยผละออกจากกัน
พอดีกับห้องคลอดถูกเปิดออกมา
“คนไหนคุณพ่อค่ะ” พยาบาลถามขึ้น
“ผมเองครับ” มิโน่ตอบ
“ยินดีด้วยนะคะ คุณได้ลูดสาว”
“ไลลา โน่ได้ลูกสาว” มิโน่หันมาจับมือกับฉันอย่างดีใจ
ตอนนี้เฌอรีนถูกย้ายตัวมาทีห้องพักฟื้นวีไอพี
“เป็นไงบ้าง คุณแม่” ฉันถามเมื่อหน้าของเฌอรีนเริ่มมีเลือดฝาด
“ก็เจ็บดีนะ เดี่ยวแกก็รู้” เฌอรีนบอกอย่างขำๆ
“มาแล้วค๊า” พยาบาลมาพร้อมรถเข็นเด็ก ซึ่งมีเด็กหญิงตัวแดงน่ารักน่าชังนอนอยู่
“น่ารักน่าชังจังลูกสาวแม่” เสียงฉันเองแหละ
“แล้วตั้งชื่อไว้ยังล่ะ” พี่เรย์ถามขึ้น
“ยังเลยครับ” มิโน่หันมาตอบแล้วก็หันกลับไปมองหน้าลูกสาวต่อ เห่อจริงจริ๊ง
“มิริน” ฉันตั้งให้ซะเลย
“เหมาะมากแก” เฌอรีนหันมาบอกฉัน
“ว่าไงมิโน่” ฉันหันไปถามความเห็นของมิโน่
“ไพเราะมาก ขอบคุณนะ” มิโม่ยิ้มอบอุ่นส่งมาให้
“นี่ขอไลลาดูหน้าลูกสาวใกล้ๆ หน่อยสิ” มิโน่ก็เลือนรถเข็นมาให้
ฉันหยิบสร้อยข้อมือสีเมทัลลิกที่สลักชื่อไว้ว่า MiNo ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
“ของแก เฌอรีน” ฉันยื่นสร้อยข้อมือให้เพื่อน
เฌอรีนยื่นมือมารับไปดู
“ไม่ใช่ของฉันหรอก ของแกต่างหาก” สายตาของเฌอรีนไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ
แล้วก็ยื่นกลับมาให้ฉัน
“อะไรหรอ” มิโน่ถามขึ้น
ฉันไม่บอกเขาหรอก ที่มาที่ไปของสร้อยเส้น ฉันไม่อยากตอกย้ำความเจ็บปวดของเขาอีก
“งั้นแม่ไลลา ให้มิรินก็แล้วกันนะ” ฉันบรรจงใส่ที่ข้อมือเล็กๆ ของลูกสาว
“ขอบใจนะ ไลลา” เฌอรีนพูดขึ้น
“ก็แกเพือนฉันนิ เฌอรีน” ฉันตอบเฌอรีนจากใจจริง
เฌอรีนเอื้อมมือเธอมาจับมือฉัน
“ขอโทษนะไลลา ที่ฉันมันเห็นแก่ตัว จนไม่สนความรู้สึกของใคร
ฉันทำลายมิตรภาพของเรา” ฉันรู้ ที่ผ่านมาเฌอรีนไม่มีความสุขเลยกับกระทำของตัวเอง
“ไม่เป็นไร มันผ่านมาแล้ว” ฉันไม่อยากรื้อฟื้นให้ใครต้องเจ็บอีก
“ฉันอิจฉาแก ที่แกมีครอบครัวที่ดีและเข้าใจถึงแม้พวกเขาจะเลิกกันก็ตาม
แต่แกก็มีความสุข มีน้องชายที่คอยเป็นห่วงแถมแกยังมีคนที่รักแกจริงอย่างเขาทั้งสองคน” เฌอรีนหันไปมองหน้ามิโน่กับพี่เรย์
“ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับตัวเรา
คนเราผิดพลาดกันได้และเมื่อคิดได้ก็ควรได้รับโอกาสเพื่อเริ่มต้นใหม่” ให้มันจบแค่นี้เถอะ
และฉันเองก็ไม่สามารถกลับไปรักมิโน่ได้อีกแล้ว
“เรายังเป็นเพื่อนกันอยู่ใช่ไหม” เฌอรีนถามฉัน
“แน่นอน” ฉันตอบเฌอรีนแล้วก็หันไปมองหน้ามิโน่
มิโน่ก็เดินเข้ามาโอบฉันกับเฌอรีน เหมือนอย่างที่เราเคยทำเมื่อสมัยเรียน
“กอดนานไปล่ะ” พี่เรย์เดินเข้ามาดึงตัวฉันไปกอด
“ขี้หวงอะไรเบอร์นั้นค่ะ พี่เรย์” เฌอรีนแขวะเข้าให้
“เมียใคร ใครก็หวงป่ะ” ยังหวงไม่เลิก
“พี่เรย์ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมไม่ทำลายครอบครัวพี่หรอก
แต่ถ้าวันใดพี่เรย์ทำไลลาเสียใจ แล้วไลลาเดินกลับมาหาผม
เมื่อนั่นแหละครับ ที่พูดไปเมื่อกี้ถือเป็นโมฆะ” มิโน่พูดพร้อมกับกลั้นขำเมื่อพี่เรย์ทำสีหน้าตกใจ
“ไม่มีทาง!” พี่เรย์เถียงกลับทันที
และแล้วความเป็นเพื่อนของพวกเราก็ยังคงอยู่ ถึงแม้ที่ผ่านมาจะมีปัญหามากมายแค่ไหนแต่เราก็สามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ ทุกคนก็เคยทำผิดกันทั้งนั้น ขอแค่คนที่เรารักเข้าใจและให้โอกาสได้แก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดไป แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว