ความรัก คือ ของหวานที่เป็นดั่งยาพิษ อันตัวข้าผู้ซึ่งโหยหาความรัก..... แต่ทว่าก็ผลักไสความรักเฉกเช่นเดียวกันข้าผู้ซึ่งไม่ขอรักใครอีก...และข้าก็ไม่ปรารถนาที่จะให้ใครมารักอีกเช่นเดียวกัน
ดราม่า,ย้อนยุค,จีน,เรื่องสั้น,สะท้อนสังคม,18+,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความรัก คือ ของหวานที่เป็นดั่งยาพิษ อันตัวข้าผู้ซึ่งโหยหาความรัก..... แต่ทว่าก็ผลักไสความรักเฉกเช่นเดียวกันข้าผู้ซึ่งไม่ขอรักใครอีก...และข้าก็ไม่ปรารถนาที่จะให้ใครมารักอีกเช่นเดียวกัน
ผู้แต่ง
สะเดาหวาน
เรื่องย่อ
เนื้อเรื่องของนิยายเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แต่อย่างใด
เพียงต้องการนำเสนอชะตาชีวิตของสตรีผู้หนึ่งจากจินตนาการเพียงเท่านั้น
ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ เนื่องจากเนื้อหามีความละเอียดอ่อนทางด้านความรุนแรงที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ
ระหว่างที่ยืนรอบัณฑิตหนุ่มกวาดสายตามองสำรวจภายใจบริเวณเรือนหมอไปรอบหนึ่งก่อนจะไปสะดุดสายตาคู่หนึ่งที่อยู่หลังต้นไม้
ถังฟางเซียนรับรู้ว่าอีกฝ่ายมองตนจึงได้รีบเก็บสายตากลับคืนมา แล้วนั่งแอบอยู่หลังต้นไม้เดิมด้วยหัวใจเต้นระรัว
บัณฑิตหนุ่มพินิจพิศดูอยู่นานจึงได้ตัดสินใจก้าวข้ามเข้ามาด้านในเรือน เดินตรงไปยังต้นไม้นั้นก่อนจะสบดวงตาคู่งามเข้าเหมาะเจาะ ใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามือ คิ้ววาดคล้ายจันทร์ครึ่งเสี้ยว ดวงตาหงส์ เนินแก้มอ่อนช้อย ริมฝีปากบางชมพูระเรื่อ นับเป็นโฉมสะคราญหยาดฟ้ามาดินผู้หนึ่ง
ถังฟางเซียนเองก็ตกใจเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเดินเข้ามาหาตน ด้วยท่าทีขวยเขินจึงได้แย้มยิ้มออกมา
“อะแฮ่ม เอ่อ ขออภัยขอรับ ข้าคงทำให้แม่นางตกใจ” รอยยิ้มงดงามราวบุปผาทำให้บัณฑิตหนุ่มเผลอกระแอมไอ ก่อนจะเอ่ยขอโทษถังฟางเซียนที่ทำให้นางตกใจ
“มะ...ไม่เป็นไรเจ้าคะ” ถังฟางเซียนเอ่ยตอบเสียงอึกอัก บัณฑิตหนุ่มตรงหน้าผู้นี้เอ่ยขอโทษนางด้วยท่าทีอ่อนโยน ช่างใส่ใจนางยิ่งนัก
“ข้ามีนามว่า หวังจื่อลั่ว ขอรับ ไม่ทราบว่าข้าขอถามนามของท่านได้หรือไม่” หวังจื่อลั่วเอ่ยถามด้วยท่าทีอ่อนโยน ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ก่อนจะผายมือให้ถังฟางเซียนจับประคองตัวให้ลุกขึ้น
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่า ถังฟางเซียน เจ้าค่ะ” ถังฟางเซียนจับลงตรงข้อมือของอีกฝ่ายด้วยท่าทีขวยเขิน แล้วรีบลุกขึ้นยืน
“ข้าขออภัยแม่นางสักครู่ขอรับ” หวังจื่อลั่วเอ่ยตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปหาถังฟางเซียน เอื้อมมือไปหยิบใบไม้ที่ติดอยู่ที่ผมของถังฟางเซียน
“..............” ถังฟางเซียนลอบมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยท่าทีขวยเขิน
“แม่นางเป็นบุตรสาวของท่านหมอหรือขอรับ” หวังจื่อลั่วเอ่ยถามต่อ
“ขะ..ข้าทำงานอยู่ที่นี่เจ้าค่ะ” ถังฟางเซียนเอ่ยตอบด้วยท่าทีเศร้าสร้อย นางกลายเป็นนางโลมไปแล้ว คงไม่มีผู้ใดอยากเสวนากับนางหรอก
“........... เคยมีคำกล่าวที่ว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเกิดมาตามบัญชาสวรรค์ ไม่ว่าจะกระทำอันใดขอเพียงหมั่นเพียรในจริยธรรม ชั่วชีวิตที่เหลือย่อมราบรื่นไร้อุปสรรค ข้าเชื่อว่าในภายภาคหน้าแม่นางจะได้ใช้ชีวิตที่ท่านปรารถนาได้ขอรับ” หวังจื่อรั่วสังเกตเห็นบางอย่างจึงเอ่ยตอบด้วยท่าทีหนักแน่นสมบัณฑิต ปลอบประโลมใจให้ถังฟางเซียนผ่านถ้อยคำ
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ท่านบัณฑิต” ถังฟางเซียนเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม เพียงบุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งเท่านั้น แต่กลับรับรู้ความรู้สึกของนางได้โดยแท้จริง
Talk Talk กับนักเขียน
สวัสดีชาวรี้ดทุกท่านนะคะ เปิดนิยายเรื่องสั้นเรื่องนี้ มีทั้งหมด 20 ตอน ฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ
ฝากกดใจ กดเพิ่มเข้าชั้นเพื่อไม่พลาดทุกการอัพเดตนะคะ
ฝากกดติดตามไรท์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ
คอมเม้นต์กันเข้ามาได้นะคะ สะเดาอยากอ่านทุกความคิดเห็นของรี้ดทุกท่านค่ะ
“ท่านแม่ ฮึก ท่านไม่ขายข้าไม่ได้หรือเจ้าคะ ฮะ..ฮึก ข้าจะตั้งใจเก็บผักสมุนไพรป่าไปขายให้มากๆ ข้าจะทำงานให้มากขึ้นกว่านี้นะเจ้าคะ ได้โปรดอย่าขายข้าไปเลยนะเจ้าคะ ฮือ” ถังฟางเซียนคุกเข่าอ้อนวอนผู้เป็นมารดาด้วยความโศกเศร้า
“เอ็งจะหาเงินมาให้ข้าได้กี่ตำลึงกันเชียว พี่ชายเอ็งจะแต่งงานอยู่แล้ว หากมัวมารอให้เอ็งขายผักขายหญ้า ผู้หญิงดีดีคงแต่งออกไปจนหมด... นี่ถือซะว่าทำเพื่อแม่เพื่อพี่ชายของเอ็งก็แล้วกันนะนังฟางเซียน” เหอจื่อหวันมารดาของถังฟางเซียนเอ่ยตอบเสียงกร้าวก่อนจะพยายามสะบัดขาให้หลุดออกจากการเกาะกุมของลูกสาว
“แต่ท่านแม่ ท่านอย่าทอดทิ้งข้าเช่นนี้ ข้าก็เป็นลูกของท่านคนหนึ่ง เหตุใดจึงรักแต่ท่านพี่เล่าเจ้าคะ ฮือ” ถังฟางเซียนเอ่ยตัดพ้อทั้งน้ำตา
“นางเด็กไม่รักดี ข้าคลอดเอ็งให้มาเถียงข้าเช่นนี้หรือ ข้าบอกให้ไปก็ไปสิ!!!” เหอจื่อหวันตวาดลั่นก่อนจะเหลือบมองหน้าเรือนเพื่อมองหานายหน้าที่กำลังจะมารับตัวถังฟางเซียนไป
“ท่านแม่ ฮือ” ถังฟางเซียนอ้อนวอนทั้งน้ำตา สองแขนกอดขาเหอจื่อหวันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“เจ้าไปอยู่กับท่านป้าของเจ้าที่นั่นดีแล้ว ท่านป้าของเจ้าก็ได้ทำงานที่นั่น ไม่ใช่ว่าเจ้าจะไปตายเสียหน่อย ลุกขึ้นเสียเถิดฟางเซียน เจ้าทำเช่นนี้กับแม่ แล้วแม่จะสู้สายตาชาวบ้านได้อย่างไร” เหอจื่อหวันเอ่ยประนีประนอมด้วยท่าทีอ่อนโยนขึ้น ก่อนจะก้มลงไปประคองให้ถังฟางเซียนลุกขึ้นมา
“แต่ท่านป้าทำงานที่หอนางโลมมิใช่หรือเจ้าคะ ข้าไม่อยากไปเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าอยากอยู่กับท่านแม่และท่านพี่ ให้ข้าอยู่เถิดนะเจ้าคะ” ถังฟางเซียนอ้อนวอนทั้งน้ำตาด้วยความเศร้า
“เจ้าอย่าเอ่ยเช่นนี้ เจ้าจะได้ไปอยู่ที่ที่ดี ได้แต่งตัวสวยๆ ทุกวัน ได้กินอาหารทุกมื้อเจ้าไม่ชื่นชอบหรือ ไปเสียเถิด” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบด้วยท่าทีอ่อนโยนพยายามใช้ความใจดีเข้าช่วยเพื่อให้อีกฝ่ายยอมทำตาม
“ท่านแม่ ฮือ” ถังฟางเซียนรับรู้สายตาชิงชังของผู้เป็นมารดาได้เป็นอย่างดี แม้ถ้อยคำจะปลอบโยนเพียงใดแต่ในใจกลับเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม
“แม่นางเหอ อยู่หรือไม่” เสียงสตรีนางหนึ่งตะโกนเรียกอยู่หน้าเรือน เมื่อเหอจื่อหวันได้ยินก็รีบวิ่งไปหน้าเรือนทันที
“อยู่จ้ะอยู่ มาแล้วจ้ะ” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบ ก่อนจะเปิดประตูรั้วออก
“มาแล้วหรือเจ้าคะ นี่เจ้าค่ะมารับตัวนางไปได้เลยเจ้าค่ะ” เหอจื่อหวันแย้มยิ้มเต็มใบหน้า ก่อนจะผายมือให้เห็นถังฟางเซียนลูกของนาง
“นำตัวไป” สตรีนางนั้นเอ่ยกับคนของตนอีกสองคนที่มาด้วยกัน ก่อนที่บุรุษสองคนจะเดินเข้าไปด้านในเพื่อจับตัวถังฟางเซียนไป
“ท่านแม่ ท่านแม่เจ้าคะ ท่านแม่ช่วยเปลี่ยนใจด้วยเถิดเจ้าค่ะ ข้าขอร้อง ฮือ” ถังฟางเซียนพยายามดึงรั้งตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันมาอ้อนวอนผู้เป็นแม่ทั้งน้ำตา
“แม่นางเหอ ท่านแน่ใจแล้วรึ ข้าซื้อตัวนางไปเช่นนี้ จะมาอ้อนวอนขอคืนภายหลังไม่ได้ ท่านรู้กฎข้อนี้ดีใช่หรือไม่” สตรีผู้นั้นเอ่ยถามอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ ล้วงหยิบถุงเงินออกมา
“เจ้าค่ะ ข้าแน่ใจ ข้าไม่ไปขอคืนแน่นอนเจ้าค่ะ” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบด้วยท่าทีตื่นเต้นเมื่อได้เห็นถุงเงินตรงหน้า
“เช่นนั้นก็ดี นี่เป็นค่าตอบแทน หน้าตาถือว่าใช้ได้ ข้าให้พิเศษก็แล้วกัน ทั้งหมด่แปดสิบตำลึงไม่ขาดไม่เกิน ราคานี้ข้าให้มากกว่าผู้อื่นหลายสิบตำลึงเชียว ภูมิใจเอาไว้เถิด” สตรีผู้นั้นเอ่ยตอบก่อนจะส่งถุงเงินให้เหอจื่อหวันรับไป แล้วเดินเยื้องย่างออกไปช้าๆ
“ขอบคุณเจ้าคะ นายท่านหลิน” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบก่อนจะกุมถุงเงินเอาไว้แล้วรีบประตูรั้วปรี่เข้าเรือนไปทันที
“เป็นเช่นไรท่านแม่ ขายได้ราคาดีหรือไม่ขอรับ” ถังฟู่เอ่ยถามด้วยความกระวนกระวายใจ
“แปดสิบตำลึง เจ้าได้แต่งภรรยาแน่นอนฟู่เอ๋อร์ของแม่” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบด้วยความดีใจ
“จริงหรือขอรับท่านแม่ ขอบคุณมากเลยขอรับ” ถังฟู่เอ่ยตอบด้วยความดีใจเช่นเดียวกัน
“เช่นนั้นพวกเราไปหมู่บ้านเฉิงอันกันก่อนเถิด ท่านหัวหน้าหมู่บ้านคงจะรออยู่แล้ว ฟู่เอ๋อร์เจ้ารีบไปเปลี่ยนชุดเสียก่อน เร็วเข้าเถิด” เหอจื่อหวันเอ่ยตอบ เงินนี้ได้มาหากไม่จัดการให้ดีคงจะหมดโดยเร็ว รีบไปสู่ขอภรรยาให้ถังฟู่ลูกชายของตนก่อน แล้วที่เหลือค่อยมาคิดอีกทีว่าจะทำเช่นไรต่อไป
ทางด้านถังฟางเซียนที่นั่งอยู่บนรถม้าก็กำลังร้องไห้อย่างเศร้าโศกกับการที่ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมนี้ ตั้งแต่เกิดมานางไม่เคยได้รับความรักจากมารดาเลยแม้แต่น้อย ถังเซินบิดาของนางเลี้ยงดูนางมาตั้งแต่เกิด จนนางอายุได้เพียงห้าขวบ ถังเซินถูกหมีป่าสังหารจนตาย ตั้งแต่นั้นมานางเริ่มทำงานหาเงินแทนบิดา เงินที่ได้มาแต่ละตำลึงก็จะถูกผู้เป็นมารดาริบไปเสียหมด ข้าวแต่ละมื้อนางก็จะได้กินเพียงผัดผักและข้าวถ้วยเล็กๆ เท่านั้น แต่ถังฟางเซียนก็ไม่เคยปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย ตั้งใจขึ้นเขาเก็บผักเก็บสมุนไพรนำไปขายเสมอมาจนตอนนี้ถังฟางเซียนมีอายุสิบห้าปีแล้ว
“ร้องไห้จนเป็นสายเลือด แม่เจ้าก็ไม่รับเจ้ากลับคืนหรอก ตัดใจเสียเถิด..... ข้ามีนามว่าหลินอี๋ฮั่น เป็นเจ้าของหออู๋เฌิ๋น คนอื่นๆ จะเรียกข้าว่า ท่านผู้นำหลิน” หลินอี๋ฮั่นเอ่ยตอบด้วยท่าทีเย็นชา ทั้งยังรู้สึกรำคาญเสียงร้องไห้คร่ำครวญ คนที่จะต้องเสียใจเห็นทีจะเป็นนางเสียมากกว่า ลงทุนแต่ละครั้งสูญเงินตำลึงไปไม่ใช่น้อย
“ท่านปล่อยข้าไปเถิดเจ้าค่ะ ท่านผู้นำหลิน แล้วข้าจะหาเงินมาชดใช้คืนให้ท่าน” ถังฟางเซียนเอ่ยตอบข่มความเสียใจเอาไว้ ก่อนจะปาดหยาดน้ำตาออกเบาๆ
“เช่นนั้นหรือ เด็กสาวตัวเล็กๆ เช่นเจ้าเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน แม้แต่อ้อนวอนผู้เป็นแม่เจ้ายังทำไม่ได้ แล้วเจ้าคิดว่าข้าควรเชื่อใจเจ้าดีหรือไม่” หลินอี๋ฮั่นเอ่ยตอบด้วยท่าทีเยาะเย้ย
“เรื่องความรู้สึกของคนข้าไม่สามารถทำได้เจ้าค่ะ แต่ข้าสามารถหาเงินมาคืนท่านได้เจ้าค่ะ” ถังฟางเซียนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทั้งน้ำตา
“เก็บความเชื่อมั่นของเจ้าเอาไว้เสียเถิด แล้วเอาความสามารถหาเงินของเจ้ามาทำงานให้ข้าไม่ดีกว่าหรือ” หลินอี๋ฮั่นเอ่ยต่อด้วยท่าทีเย็นชา ก่อนจะปรายตามองออกไปนอกรถม้า
"ข้าไม่อยากเป็นหญิงโสเภณีเช่นท่าน” ถังฟางเซียนตวาดกร้าว
“เงียบปากของเจ้าไปเสีย ถังฟางเซียน เจ้าเป็นทาสของข้าแล้ว ข้าจะให้เจ้าทำหน้าที่ใดมันก็เรื่องของข้า” หลินอี๋ฮั่นเอ่ยตอบด้วน้ำเสียงเรียบนิ่ง สายตาเย็นเหยียบจับจ้องไปที่อีกฝ่าย ที่ไม่ต่างอะไรกับกระต่ายป่าตัวหนึ่ง
“.............................” ถังฟางเซียนเงียบเสียงลงทันที สตรีตรงหน้ามิใช่ผู้ที่นางจะต่อกรได้เลยแม้แต่น้อย ทำได้เพียงคิดหาวิธีการใหม่เอาไว้ในใจ