“...... เช่นนั้นเจ้าก็รับพรไปเพียงข้อเดียวก็แล้วกัน ข้าจะถือว่าข้าใจดีกับเจ้ามากเกินไป จนเจ้าคิดเป็นเรื่องเล่นๆ ลาก่อนจางเยว่ฉี จงใช้ชีวิตให้ดีในอีกภพหนึ่งเถิด” ท่านเทพเซียนมุมปากกระตุกหยิกๆ ก่อนจะ...
รัก,ย้อนยุค,จีน,ครอบครัว,แฟนตาซี,ทำอาหาร,ทะลุมิติ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
(จบแล้ว) ทะลุมิติพลิกชะตายาจกน้อยจางจินเยว่“...... เช่นนั้นเจ้าก็รับพรไปเพียงข้อเดียวก็แล้วกัน ข้าจะถือว่าข้าใจดีกับเจ้ามากเกินไป จนเจ้าคิดเป็นเรื่องเล่นๆ ลาก่อนจางเยว่ฉี จงใช้ชีวิตให้ดีในอีกภพหนึ่งเถิด” ท่านเทพเซียนมุมปากกระตุกหยิกๆ ก่อนจะ...
“เจ้าจะได้ไปใช้ชีวิตในอีกร่างหนึ่ง และในอีกภพหนึ่ง โดยที่เจ้าจะมีพร 3 ข้อ ของข้าที่มอบให้เจ้าไปด้วยอย่างไรเล่าเด็กน้อย” ท่านเทพเซียนเอ่ยตอบอย่างใจดี ยกยิ้มจางๆ แผ่นป้ายหนึ่งปรากฏตรงหน้า มี พร 3 ข้อ ระบุไว้ว่า
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ พอดีพวกเราเก็บสมุนไพรไปขายในตัวตำบลมา คิดว่าน่าจะพอมีให้ซื้อบ้านสักหลังได้เจ้าค่ะ” จางจินเยว่ไม่สนใจ ก่อนจะบอกไปตามความจริง
“โอ้ว พวกเจ้าช่างโชคดีเสียจริง” ชิวเจียวเจี๋ยเข้าใจได้ในทันที ก่อนจะค่อยๆ อธิบายบ้านแต่ละหลังให้ฟัง
หลังแรกอยู่ใจกลางหมู่บ้าน มีพื้นที่บ้านรวมที่ว่างประมาณสามหมู่ ราคาสามร้อยตำลึงเงิน
หลังที่สองอยู่ในตรอกถัดมา การเดินทางสะดวกสบายเช่นกัน มีพื้นที่บ้านรวมที่ว่างประมาณสองหมู่หนึ่งหลี่ ราคาสองร้อยตำลึงเงิน
หลังที่สามเดินออกมาจากใจกลางหมู่บ้านประมาณหนึ่งหลี่ มีพื้นที่บ้านรวมที่ว่างประมาณสองหมู่ ราคาหนึ่งร้อยแปดสิบตำลึงเงิน
หลังที่สี่อยู่ใกล้กับบ้านของนายพรานฉินฮุ่ยเจียง มีพื้นที่บ้านรวมที่ว่างประมาณสองหมู่หนึ่งหลี่ ราคาหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงิน
หลังที่ห้าอยู่ท้ายหมู่บ้านใกล้กับตีนเขา มีพื้นที่บ้านรวมที่ว่างประมาณสามหมู่หนึ่งหลี่ ราคาหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงินเช่นกัน
“เหตุใดบ้านหลังนี้มีพื้นที่เยอะแต่ราคาไม่แพงหรือเจ้าคะ” จางจินเยว่เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ นั่นก็เพราะเป็นท้ายหมู่บ้านระยะทางจากใจกลางหมู่บ้านมาถึงที่นี่มันก็ค่อนข้างจะไกล ทั้งยังอยู่ติดกับเขา กลางคืนช่วงอากาศหนาวจะหนาวกว่าบ้านอื่น ต้องระวังสัตว์ป่าที่อาจจะลงมาจากเขา แถมยังตั้งอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายอีก แม้ตอนนี้จะไม่มีสัตว์ป่าลงมาจากเขาแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่มีเพื่อนบ้านให้คุยด้วย จึงราคาไม่แพงมาก ภายในยังมีของใช้บางส่วนอีกด้วยนะ เจ้าสนใจหลังนี้หรือ” ชิวเจียวเจี๋ยอธิบายยืดยาวก่อนจะถามกลับด้วยความสงสัย
“เจ้าค่ะ ข้าชอบบ้านหลังนี้มากเลยเจ้าค่ะ” จางจินเยว่ยิ้มตอบในทันที
“แต่มันไกลเกินไปนะ พวกเจ้าไม่กลัวอันตรายบ้างเลยหรือ ข้าหล่ะเป็นห่วงพวกเจ้าเสียจริง” ชิวเจียวเจี๋ยเอ่ยตามความรู้สึกจริงๆ เด็กอายุน้อยเพียงนี้ ยังต้องคอยมีผู้ใหญ่คอยช่วยดูแลถึงจะดีที่สุด
“พวกเราอยู่ได้เจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้พวกเราอาศัยอยู่ที่กระท่อมร้างตรงตีนเขานู่น ยังไม่เคยเจออะไรเลยนะเจ้าคะ” จางจินเยว่เอ่ยตอบด้วยความจริงใจ
“เช่นนั้นก็แล้วแต่พวกเจ้า หากพวกเจ้ามีเงินพร้อมเมื่อไหร่ก็ย้ายมาอยู่ได้เลย ข้าจะไปจัดการเรื่องโฉนดที่ศาลาว่าการในตัวตำบลให้” ชิวเจียวเจี๋ยเมื่อรู้ว่าโน้มน้าวไปยังไงก็ไม่ได้ผล จึงตอบกลับไปเพียงเท่านี้
“พร้อมเจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ เงินสองร้อยตำลึงเงิน” จางจินเยว่หยิบตั๋วเงินออกมาสองฉบับส่งให้ชิวเจียวเจี๋ยทันที
“........................” ชิวเจียวเจี๋ยตกตะลึงจนพูดไม่ออกเลย เอื้อมมือไปรับตั๋วเงินหนึ่งร้อยห้าสิบตำลึงเงินนั้น พลางมองจางจินเยว่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย สมุนไพรอะไรกันที่มีราคามากมายถึงขั้นซื้อบ้านได้เป็นหลัง
“เอ่อ เข้า...เข้าไปดูข้างในก่อนเถิด เผื่อมีอะไรที่ต้องซ่อมแซม ข้าได้ช่วยหาคนมาช่วยพวกเจ้าเอง” ชิวเจียวเจี๋ยหยิบกุญแจไขเข้าประตูรั้วไปสำรวจด้านในตัวบ้าน
“บ้านหลังนี้ค่อนข้างจัดเป็นสัดส่วนมากเลยนะเจ้าคะ” จางจินเยว่เห็นบ้านหลังใหม่เบื้องหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นมา
“.............. เจ้าของคนเก่าเป็นรองแม่ทัพ สมัยหนุ่มที่ยังเป็นเพียงทหารใหม่นั้น ก็ตั้งใจสร้างบ้านหลังนี้ไว้เผื่อได้ใช้บั้นปลายชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้หน่ะ แต่น่าเสียดายที่ต้องมาตายท่ามกลางการสู้รบระหว่างสองแคว้นเสียก่อน จึงทำให้ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้แล้วหล่ะ และก็ไม่ค่อยมีใครกล้ามาอยู่ เที่ยวพูดกันไปว่าดวงวิญญาณอาจจะกลับมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ หากรู้เช่นนี้แล้วพวกเจ้ายังต้องการจะซื้อบ้านหลังนี้อีกหรือไม่” ชิวเจียวเจี๋ยทีแรกก็ตกใจที่เด็กน้อยเพียงนี้มองรูปแบบการสร้างบ้านออกได้เช่นไร แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น จึงเลือกเล่าในสิ่งที่คาดว่าอาจจะทำให้เด็กคนนี้เปลี่ยนใจ
“ท่านลุงชิวเจ้าคะ เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นคนที่ท่านรักหรือเจ้าคะ ข้ารับรู้ความรู้สึกของท่านลุงชิวได้เจ้าค่ะ” จางจินเยว่คล้ายรับรู้อะไรบางอย่างได้จึงเลือกเอ่ยออกมาตามตรง
“...... เจ้า .....อ่า .... ใช่แล้วหล่ะ เจ้าของบ้านหลังนี้เป็นของพี่ชายของข้าเอง...” ชิวเจียวเจี๋ยตกใจเล็กน้อยก่อนจะบอกไปตามตรงเช่นกัน
“ถ้าเช่นนั้น ท่านลุงชิวเจ้าคะ ข้าให้คำมั่นว่าจะดูแลบ้านหลังนี้ให้ดีที่สุดเจ้าค่ะ ท่านเชื่อใจข้าได้เลยเจ้าค่ะ” จางจินเยว่ยิ้มรับน้อยๆ ก่อนตอบออกไป
“...............................” ชิวเจียวเจี๋ยมองรอยยิ้มของจางจินเยว่อย่างตะลึง ความรู้สึกเสี้ยวหนึ่งคล้ายได้รับการปลอบประโลมจากเด็กหญิงตัวน้อยผู้นี้ด้วยคำมั่นเพียงไม่กี่คำ
“ฮ่า...... ถ้าเช่นนั้นที่เหลือก็ฝากเจ้าดูแลต่อด้วยนะ” ชิวเจียวเจี๋ยเผยรอยยิ้มเอ็นดูด้วยความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ
“เจ้าค่ะ” จางจินเยว่ยิ้มตาหยี ก่อนจะหันไปยิ้มให้จางตงหยางก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“ตงหยางพวกเรามีบ้านอยู่กันแล้วนะ”
“.....................................” จางตงหยางไหนเลยจะพูดอะไรออก ยืนยิ้มน้ำตาไหลเผาะๆ เป็นเด็กน้อยขี้แยไปแล้ว
“.... เอาหล่ะ ข้าจะรีบไปจัดการโฉนดให้พวกเจ้าก่อน นี่กุญแจ ขนย้ายของเข้ามาอยู่กันได้เลยนะ” ชิวเจียวเจี๋ยส่งกุญแจประตูรั้วให้ ก่อนจะขอตัวจากไป
“รบกวนท่านลุงชิวแล้วเจ้าค่ะ เดินทางดีดีนะเจ้าคะ” จางจินเยว่ค้อมศีรษะส่งหัวหน้าหมู่บ้านเสร็จก็จับมือจางตงหยาง “ไปกัน ไปขนย้ายของกันเถอะ เดี๋ยวเราจะได้มาทำความสะอาดบ้านใหม่กัน”
“ขอรับ” จางตงหยางยิ้มรับ ก่อนกระชับมือของพี่สาวแน่นขึ้น ก่อนเดินตามกลับไปยังกระท่อม
ตลอดทั้งบ่าย เด็กน้อยทั้งสองคนพากันมาขนย้ายของที่เป็นของตนออกจากกระท่อม ข้าวของที่เคยอยู่ที่นี่ เหล่าเด็กน้อยเลือกที่จะไม่นำไป นำไปเพียงมีดพร้าและตะกร้า หยิบเพียงเสื้อผ้ากับรองเท้าคู่ใหม่กลับไป หยิบข้าวสาร เกลือที่ยังคงเหลืออยู่ หยิบหัวเผือก หัวมันที่ยังไม่หมดใส่ลงตะกร้า ก่อนจะหยิบเอากับดักปลาถือไปด้วย
เมื่อมาถึงบ้านหลังใหม่ จางจินเยว่ให้น้องชายเก็บหญ้าทำความสะอาดลานดินหน้าบ้าน ก่อนนางจะเดินเข้าไปสำรวจด้านในตัวบ้าน มีห้องโถงอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายแบ่งเป็นสองห้อง ด้านขวาเป็นห้องครัวและห้องน้ำ มีห้องเก็บฟืนต่อเติมออกไป ถัดจากห้องโถงมีห้องว่างๆ อีกหนึ่งห้อง ก่อนจะมีประตูเปิดออกไปเป็นลานดินกว้างๆ หลังเรือน มีต้นไม้ต้นใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นอยู่ข้างบ่อน้ำติดกับกำแพงรั้ว มีประตูบานหนึ่งถูกปิดตายไว้ คงจะทำไว้ป้องกันขโมยไม่ให้ลักลอบเข้ามา โดยรวมถือว่าค่อนข้างดีมากเลยทีเดียว ท่านหัวหน้าหมู่บ้านคงจะมาดูแลเป็นพักๆ ทำให้ไม่มีส่วนใดผุพังเลย เพียงแค่ทรุดโทรมลงไปบ้างเท่านั้น
จางจินเยว่สำรวจโดยรอบก่อนครั้งหนึ่ง จึงเดินออกมาตามน้องชายให้เข้ามาทำความสะอาดในบ้าน ห้องโถงกับห้องว่างถัดมานั้นให้จางตงหยางรับผิดชอบทำความสะอาด ส่วนที่เหลือจางจินเยว่รับอาสาทำเองทั้งหมด เริ่มจากห้องนอนสองห้อง มีเตียงไม้กับตู้ไม้ห้องละหนึ่งชุด
“ช่างเรียบง่ายมากเสียจริง” จางจินเยว่เอ่ยขึ้นมาเบาๆ