เมื่อรสาอยากจะลาพักร้อนสักเดือนสองเดือน เธอได้ชวนฟางลดาไปเที่ยวด้วยกัน รสาอยากจะไปเที่ยวหอโหวตและไปเที่ยวบึงพลาญชัยด้วย น้องชายของเธอแนะนำว่าไปเที่ยวร้อยเอ็ดแล้ว ทำไมไม่ไปหาพี่พฤกษ์ด้วยล่ะ เพราะจังหวัดที่รสาไปเที่ยวนั้นมันก็อยู่ใกล้กัน อีกอย่างเธอก็ไม่ได้เจอหน้าหลานชายสุดที่รักของเธอตั้งหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานชายเธอจะโตเป็นหนุ่มแล้วหรือยัง จะเกิดเรื่องอะไรวุ่น ๆ ที่รีสอร์ท และเรื่องความรักของทั้งสองสาวจะเป็นยังไงติดตามอ่านกันได้เลย ที่คุณน้ารสากับคุณหลานบ้านสวน
ฝากกดติดตามเเละกดไลค์ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
"น้าสาครับหันมาหน่อยสิคร้าบผมมีอะไรจะให้"
เขาพูดน้ำเสียงออดอ้อนเพื่อให้น้าสาหันมา
รัก,ชาย-หญิง,ราชพฤกษ์,ฟางลดา,ปกรณ์,รสา,บ้านสวน,คุณหลาน,คุณน้า,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เช้าวันเสาร์
08:00
เเสงแดดยามเช้าเข้ามาในห้องของฟางลดาเพราะว่าเมื่อคืนเธอไม่ได้ปิดผ้าม่านไว้
ฟางลดารู้สึกร้อน ๆ ที่ใบหน้าทำให้เธอตื่นขึ้นมาฟางลดาลุกขึ้นมานั่งเเล้วยกมือทั้งสองไปขยี้ตาทั้งสองข้างด้วยความ ๆ งัวเงียเธอบิดขี้เกียจสองสามทีเเละนั่งต่ออีกสักพักเธอก็ลุกออกจากเตียงเดินไปคว้าผ้าคุณหนูเเล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ฟางลดาเเต่งตัวเสร็จก็เดินไปหาเพื่อนที่ห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
รออยู่หน้าห้องรสาสักพักเพื่อนเธอก็ไม่มาเปิดประตูให้สักทีฟางลดาลองหมุนลูกบิดประตูดูเเต่คราวนี้มันเปิดไม่ได้เธอก็เลยลงไปข้างล่างเธอไม่เห็นใครที่โต๊ะกินข้าวเลยปกติเวลาเธอเดินลงมาก็จะเห็นสองพ่อลูกนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเเล้วสงสัยจะยังไม่ตื่นฟางลดาเดินเลยโต๊ะกินข้าวไปเเล้วเดินเข้าไปในครัวกลิ่นหอม ๆ ลอยมาเตะจมูก ฟางลดาเห็นป้าเเจ่มกำลังตักแกงอะไรสักอย่างที่ดูน่ากินลงในถ้วย
"วันนี้ป้าเเจ่มทำเเกงอะไรคะ หอมห๊อม"
ป้าเเจ่มหันมาหาฟางลดาเเละส่งยิ้มให้
"วันนี้ป้าทำแกงเขียวหวานไก่ แกงหน่อไม้เเละก็ทอดปลาค่ะ มีมะละกออยู่ในตู้เย็นเดี๋ยวป้าตำส้มตำให้กินนะคะ"
เมื่อเช้าป้าเเจ่มเห็นมะละกออยู่ในตู้เย็นเธอเลยจะตำส้มตำให้คุณฟางเเละคุณสากิน
"ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวฟางทำเองป้ายกอาหารไปไว้ที่โต๊ะเถอะค่ะ"
"ค่ะ"
เเล้วป้าเเจ่มก็ยกอาหารที่ตักใส่ถ้วยเรีบยร้อยเเล้วออกไป
ฟางลดานล้างมะละกอเเล้วปอกเปลือกออกเสร็จเเล้วก็สับมะละกอให้ได้สองกำมือพอทำเสร็จหมดทุกอย่างก็ยกครกเทใส่จานทันทีเป็นอันเสร็จ
"ป้าไปทำงานก่อนนะค่ะ"
"ค่ะ"
เธอเดินออกมาจากในครัวก็เห็นทุกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะกันเเล้วราชพฤกษ์นั่งข้างปกรณ์ส่วนเพื่อนเธอนั่นนั่งหันหลังให้เธออยู่
เธอเดินเข้าไปเเละหันไปมองพี่พฤกษ์พอดีกับที่ราชพฤกษ์มองเธออยู่ก่อนเเล้วทั้งสองสบตากันเเล้วฟางลดาก็เมินหน้าหนีไม่สนใจพี่พฤกษ์อีกเลยเธอเดินเข้าไปนั่งข้างรสา
วันนี้ป้าเเจ่มไปทำงานก่อนเเล้วรสาเลยอาสาที่จะตักข้าวให้ทุกคน
"กรชิมส้มตำพี่ให้หน่อยว่ามันอร่อยไหม”
ฟางลดาตักส้มตำใส่จานข้าวปกรณ์ให้เขาชิมเพราะเธอมาอยู่ที่นี่ไม่ค่อยได้ทำอาหารเลยไม่รู้กลับไปทำงานที่โรงเเรมเพื่อนฝีมือเธอจะตกไหมเธอเลยตักส้มต้มที่ทำเมื่อเช้าให้น้องกรชิม
"อือ ฮืออร่อยมากครับน้าฟาง"
เขาตักส้มตำเขาปากเเล้วมันอร่อยมากอร่อยกว่าที่โรงอาหารอีกจะไม่ให้อร่อยได้ยังไงก็น้าฟางเป็นถึงหัวหน้าเชฟที่โรงเเรมน้าภัทรเลยนะ
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ เดี๋ยวน้ากลับเเล้วไม่มีคนทำให้กินน้า"
ฟางลดาพูดขึ้นเเล้วอมยิ้มพรุ่งนี้เเล้วสินะที่เธอต้องกลับกรุงเทพ
"ครับถ้าใครได้เป็นแฟนกับน้าฟางถือว่าโชคดีสุด ๆ เพราะน้าฟางทำอาหารอร่อย"
ปกรณ์พูดพร้อมกับปรายตามองไปทางพ่อตัวเอง
ราชพฤกษ์ก็นั่งทานเข้าปกติไม่ได้สนใจที่ปกรณ์มองมาทางเขาเลย
พักหลังมานี่พ่อเขาไม่ค่อยออกไปข้างนอกสักเท่าไรเพราะตั้งเเต่ที่น้าฟางมาอยู่ในรีสอร์ทพ่อก็ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหนเลยจะออกไปก็ต่อเมื่อมีธุระเท่านั้นปกติพ่อเขาจะชอบออกไปข้างนอกเดือนละสี่ครั้งไม่รวมที่ออกไปทำธุระนะเข้ารู้ว่าพ่อนะเริ่มจะชอบน้าฟางเเล้วเเต่อาจจะยังไม่ได้ถึงขั้นรักเลยตอนที่ไปเที่ยวเเก่งกะเบามาเหมือนพ่อกับน้าฟางทะเลาะกันเพราะบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนนั้นมันเงียบผิดปกติไม่สดใสเหมือนเดิมเขารู้สึกได้เลยเมื่อวานจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เคียร์กันสินะเพราะน้าฟางไม่สนใจพ่อของเขาเลยสักนิดเเละไม่พูดคุยกับพ่อเขาอีกด้วย
ฟางลดาที่ได้ยินหลานชายรสาชมก็อมยิ้มอย่างพอใจที่ฝีมือเธอนั้นยังไม่ตกเเละส้มตำของเธอยังไม่ได้มีรสชาติที่ผิดเพี้ยนไปเพราะไม่ได้ทำอาหารตั้งหนึ่งเดือนนั้นเอง
พอกินข้าวเสร็จราชพฤกษ์เเละปกรณ์ก็เข้าไปทำงานในไร่ส่วนรสากับเพื่อนก็พากันเก็บจานชามไปล้างในครัวเพราะว่าป้าเเจ่มไปทำงานที่รีสอร์ทเเล้ว
ฟางลดาเป็นคนขัดส่วนรสาเป็นคนล้างเเละนำไปวางไว้ที่คว่ำจานชาม
"ฉันยังไม่ได้ถามเเกเลยเมื่อวานที่ฉันกับกรไปซื้อน้ำกันแกเป็นอะไรทำไมทำหน้าเหมือนคนอกหักเลยพี่พฤกษ์ก็ดูหงุดหงิดไม่พอใจอะไรสักอย่าง แกทะเลาะอะไรกับพี่พฤกษ์เหรอ"
"ไม่มีอะไรหรอกยัยสา"
"บอกฉันมานะยัยฟางฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันไม่มีอะไรนะ เเล้วทำไมแกต้องทำหน้าเหมือนคนอกหักด้วย ตอบฉันมาสิยัยฟาง"
รสารู้ว่าฟางลดาต้องมีเรื่องอะไรกับพี่พฤกษ์เธอไม่เชื่อหรอกว่ามันไม่มีอะไรตอนกินข้าวเมื่อเช้าเพื่อนเธอไม่หันไปหาพี่ชายเธอเลยเเละก็ไม่พูดไม่ถามพี่พฤกษ์เลยสักคำมันต้องมีอะไรเเน่ ๆ
"เออก็ได้"
ฟางลดาไม่รู้จะหาคำตอบไหนมาตอบเพื่อนเธอเลยยอมบอกเพื่อนว่าวันนั่นเธอเป็นอะไร
"คือตอนที่แกไปซื้อน้ำกับกรฉันสารภาพรักกับพี่ชายเเกว่าฉันเเอบรักพี่พฤกษ์ตั้งเเต่มัธยมเเล้วพี่พฤกษ์ที่ถูกฉันสารภาพก็ตกใจนิ่งเงียบไปเลยฉันเลยพูดว่าถ้าพี่พฤกษ์ไม่ได้ชอบฟางก็บอกมาเถอะค่ะ พี่ชายแกก็ตอบคำถามฉันอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนลังเลไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองได้ชอบฉันหรือเปล่า ฉันเลยคิดว่ามีพฤกษ์คงยังไม่ลืมเมียเก่าเขาเเละคงจะไม่ได้รักฉันอย่างที่ฉันรักพี่ชายเเก
"มันอาจไม่ใช่อย่างที่เเกคิดก็ได้นะยัยฟางพี่พฤกษ์อาจจะยังไม่เเน่ใจว่ารักแกหรือเปล่าเลยคิดนานนะ"
"ถ้าพี่ชายเเกรักฉันจริงคงไม่ตอบถามฉันอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ แบบนี้หรอกถ้าพี่พฤกษ์รักฉันก็พูดออกมาเเล้วว่ารักฉัน ไม่ใช่ไม่เเน่ใจเเบบนี้มันเหมือนยังมีคนที่อยู่ในใจพี่พฤกษ์อยู่ เหมือนว่าไม่กล้าตอบออกมาว่ารักฉัน แล้วจะให้ฉันคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง"
พูดเเล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้ายเเอบชอบเขามาตั้งหลายปีมีคนมาจีบก็ตั้งเยอะเธอไม่เปิดใจให้ใครเลยนอกจากพี่พฤกษ์ เธอคงต้องตัดใจจากพี่พฤกษ์เเล้วเเหละจะได้ไม่เจ็บอยู่เเบบนี้อีกพี่พฤกษ์ยังไม่ลืมเมียเก่าเขาเลยจะทำดียังไงคนไม่รักก็คือไม่รัก
"มันก็จริงอย่างที่เเกว่า"
รสาฟังที่เพื่อนพูดเเล้วมันก็จริงถ้ารักก็บอกว่ารักไม่ใช่ลั่งเลใจอยู่เเบบนี้มาเที่ยวครั้งนี้ไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลยว่าเพื่อนเธอนั้นจะคว้าหัวใจพี่พฤกษ์มาครองได้สงสารยัยฟางจริง จริ๊งที่เเอบรักพี่พฤกษ์มาตั้งนานก็ยังรักพี่พฤกษ์ไม่เปลี่ยนผู้ชายหล่อ ๆ ที่เข้ามาจีบก็ตั้งเยอะเเยะก็ไม่เอา แอบรักเขาข้างเดียวอะเนาะเจ็บมาก็ตั้งเยอะไม่รู้จักจำไม่รู้จักตัดใจ
"ป่ะ ๆ ไปเก็บกระเป๋ากันเถอะพรุ่งนี่เราต้องออกเดินทางตั้งเเต่เช้า"
เเล้วก็พากันขึ้นไปเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อที่จะกลับกรุงเทพในวันพรุ่งนี้
รักเเละมั่นคงกับเธอผู้เดียวตลอดมาถึงหัวใจเธอนั้นอยากจะครอบครองสักเพียงใดก็ไม่ได้หัวใจเธอมาสุดท้ายเเล้วก็ต้องมานั่งร้องไห้เสียใจเพราะเรานั้นไม่ได้คู่กัน พะนะ