เมื่อรสาอยากจะลาพักร้อนสักเดือนสองเดือน เธอได้ชวนฟางลดาไปเที่ยวด้วยกัน รสาอยากจะไปเที่ยวหอโหวตและไปเที่ยวบึงพลาญชัยด้วย น้องชายของเธอแนะนำว่าไปเที่ยวร้อยเอ็ดแล้ว ทำไมไม่ไปหาพี่พฤกษ์ด้วยล่ะ เพราะจังหวัดที่รสาไปเที่ยวนั้นมันก็อยู่ใกล้กัน อีกอย่างเธอก็ไม่ได้เจอหน้าหลานชายสุดที่รักของเธอตั้งหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานชายเธอจะโตเป็นหนุ่มแล้วหรือยัง จะเกิดเรื่องอะไรวุ่น ๆ ที่รีสอร์ท และเรื่องความรักของทั้งสองสาวจะเป็นยังไงติดตามอ่านกันได้เลย ที่คุณน้ารสากับคุณหลานบ้านสวน
ฝากกดติดตามเเละกดไลค์ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
"น้าสาครับหันมาหน่อยสิคร้าบผมมีอะไรจะให้"
เขาพูดน้ำเสียงออดอ้อนเพื่อให้น้าสาหันมา
รัก,ชาย-หญิง,ราชพฤกษ์,ฟางลดา,ปกรณ์,รสา,บ้านสวน,คุณหลาน,คุณน้า,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
11:00
นาวินเดินเข้าไปในสวนลำไยทุกคนต่างมองมาที่เขาแปลก ๆ บางคนก็หันไปกระซิบคุยกันกับเพื่อนเเต่เขาไม่ได้สนใจอะไรเเละเดินต่อไปจนเขาเห็นคุณกรกำลังคุมคนงานอยู่ทางด้านขวานาวินเดินเข้าไปหาปกรณ์
"คุณกรครับ"
ปกรณ์หันหน้ามามองพอเห็นว่าเป็นใครก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
"ฉันไล่แกออกเเล้วแกยังอยู่ที่นี่อีกเหรอ"
ปกรณ์พูดขึ้นเสียงเข้มอย่างหงุดหงิด
"ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าผมจะรู้ความจริงว่าใครเป็นคนทำเรื่องนี้ให้เวลาผมได้พิสูจน์หน่อยนะครับคุณกร คืนนั้นเราไม่ได้มีอะไรกันจริง ๆ มีคนแกล้งพวกเราสามคนครับผมไม่ได้ทำอะไรคุณสากับคุณฟางเลยนะครับให้ผมได้พิสูจน์ความจริงนะครับคุณกรสามวันก็ได้ครับถ้าผมหาหลักฐานมาให้คุณกรไม่ได้ภายในสามวันผมจะออกไปจากรีสอร์ทนี้เลยครับ"
เขาขอร้องคุณกรด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าจะทำอย่างที่พูดไว้จริง ๆ ปกรณ์เห็นความเเน่วเเน่ในดวงตาของนาวินว่าจะเอาหลักฐานมาให้เขาดูว่าตัวเองนั้นไม่ได้ทำอะไรเลยอย่างที่พูดไว้
"ก็ได้ถ้านายทำไม่ได้อย่างที่พูดจริง ๆ ก็เตรียมตัวออกจากรีสอร์ทนี้ได้เลย"
"ขอบคุณครับที่ให้เวลาผมได้พิสูจน์หาความจริง"
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าที่นายกับน้าของฉันพูดมันใช่เรื่องจริงไหมก็เเค่นั้น"
"แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสผม"
พอนาวินพูดจบปกรณ์ก็หันไปคุมคนงานต่อที่นาวินนอนกับน้องสาวเจ้าของรีสอร์ทเเละเพื่อนของน้องสาวนั้นถูกกระจายไปทั่วทั้งรีสอร์ทเเล้วด้วยการปล่อยข่าวของนภาพร
"คุณลูกตาลคะพี่ส่งรูปไปให้เเล้วนะคุณลูกตาลได้ดูรึยังคะ"
นภาพรโทรคุยกับลูกตาลอย่างยิ้มกว้างที่จะได้เงินมาใช้ตั้งหลายบาท
"ยังไม่ได้ดูฉันทำสปาอยู่"
"เหรอค่ะเรื่องที่คุณลูกตาลให้ฟ้าไปทำฟ้าทำสำเร็จเเล้วนะค่ะอย่าลืมที่เราตกลงกันไว้ด้วยนะค่ะ"
"ฉันไม่ลืมเหรอน่าแค่นี้นะ"
"ค่ะ"
เเล้วลูกตาลก็ว่าสายไปส่วนนภาพรนั้นก็ยิ้มดีใจที่ตัวเองนั้นจะได้เงินหลายหมื่นจากการที่คุณลูกตาลบอกเธอไว้ว่าถ้าทำสำเร็จเมื่อไหร่จะให้เธอไปเลยหนึ่งหมื่นห้าพันบาท
นาวินเดินเข้ามาที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเป็นอันดับเเรกห้องนี้จะมีคนควบคุมกล้องวงจรปิดอยู่คนเดียวคือลุงสมศักดิ์
"สวัสดีครับคุณลุง"
นาวินยกมือไหว้ลุงสมศักดิ์ที่นั่งอยู่เก้าอี้ในห้องควบคุม
สมศักดิ์ได้ยินเสียงคนทักทายเขาก็หันไปดู
"อ้าววินมาทำอะไรที่นี่"
คุณลุงสมศักดิ์เอ่ยถามขึ้นร้อยวันพันปีไอ้วินมันไม่เคยมาที่นี่เลยเเล้วมันมาทำอะไรสมศักดิ์ได้เเต่คิดในใจ
"คือผมเอาขนมมาฝากครับลุงเเล้วผมก็อยากให้ลุงดูกล้องวงจรปิดให้หน่อยครับ"
หลังจากที่เขาคุยกับคุณกรเสร็จเขาก็กลับไปที่บ้านไปเอาขนมที่เเม่ทำไว้ให้เขากินไปฝากคุณลุงสมศักดิ์ด้วยเเละก็จะไปดูกล้องวงจรปิดด้วยว่าคืนนั้นมีใครเข้ามาในบ้านคุณพฤกษ์ไหมลุงสมศักดิ์ยื่นมือมารับขนมจากมือนาวินไปวางไว้ที่โต๊ะทำงานข้างตัวเอง
"ได้เอ็งจะดูวันไหนที่ไหน"
"ที่บ้านคุณพฤกษ์ครับเมื่อวานเวลาประมาณเที่ยงคืนนิล่ะครับ"
ที่บ้านหลังใหญ่ของคุณพฤกษ์ได้ติดกล้องวงจรปิดไว้รอบบ้านเพื่อว่ามีใครหรือคนงานที่คิดไม่ดีมาลักขโมยอะไรไปจะได้ดูกล้อวงจรปิดได้
ลุงสมศักดิ์ดูวันเวลาตามที่นาวินบอกเขาก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ
"ไม่มีอะไรผิดปกตินะ"
ลุงสมศักดิ์เอ่ยขึ้นมาหลังจากดูให้นาวินเเล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยนาวินนั่งดูอยู่ข้างคุณลุงสมศักดิ์ด้วย
"ลุงลองรีไปอีกรอบได้ไหมครับ"
สมศักดิ์ก็รีไปอีกรอบตามที่นาวินบอกมันก็เหมือนเดิมไม่มีอะไร
"มันจะไม่มีได้ยังไงวะ"
นาวินพูดกับตัวเองเบา ๆ อย่างหงุดหงิดใจ
"เดี๋ยวผมทำเองครับ"
เเล้วลุงสมศักดิ์ก็ลุกออกจาเก้าอี้ไป
"เอ็งดูเสร็จเเล้วล็อกห้องให้ด้วยนะลุงจะไปกินข้าวก่อน"
เพราะตอนนี้มันเที่ยงเเล้วคุณลุงสมศักดิ์ก็เลยจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร
"ได้ครับลุง"
นาวินทำการดูอีกรอบเเละลองย้อนกลับไปดูอีกมันก็ไม่เห็นมีอะไรเลยอย่างที่ลุงบอกจริง ๆ
นาวินดูกล้องตัวที่อยู่หน้าบ้านคุณพฤกษ์ก็ไม่เห็นมีอะไรอย่างที่เขาคิดเลยเขาย้อนกลับไปดูอีกรอบก็เห็นทุกคนกำลังนั่งกินอาหารกันอยู่ที่โต๊ะเเละลองให้มันเล่นไปเรื่อย ๆ จนถึงเที่ยงคืนเขาก็สั่งเกตเห็นอะไรบางอย่างเข้าเขาปล่อยมันเล่นไปเเต่จนถึงห้าทุ่มสี่สิบห้าเเล้วมันก็ตัดไปที่ตีหนึ่งครึ่งเลยเวลาเที่ยงคืนมันหายไปต้องมีใครทำอะไรเเน่ ๆ นาวินคิด
พอรู้เเล้วว่ามันมีอะไรเกี่ยวกล้องที่ไม่สามารถดูเวลานั้นได้เพราะมันหายไปนั่นเองอย่างน้อย ๆเขาก็ได้รู้ว่าเขาไม่ได้คิดไปเองที่มีคนเอาไม้มาตีที่หัวตัวเองนาวินทำการล็อกห้องให้ลุงสมศักดิ์เสร็จเเล้วก็เดินไปกินข้าวที่โรงอาหาร
นาวินเดินเข้าไปในโรงอาหารทุกคนก็มองเขาเป็นตาเดียวกันบ้างคนก็มองเเล้วหันไปซุบซิบกันเขาไม่สนใจเเละกำลังเดินไปต่อเเถวเอาอาหารทุกคนในรีสอร์ทคงจะรู้เเล้วเรื่องเเล้วถึงได้มองเขาทั้งโรงอาหารเเบบนี้
"ไม่น่าเชื่อเนาะป้าว่ามันจะกล้าทำกับคุณเขาทั้งสองคน"
คนงานสาวพูดขึ้นกำลังยืนต่อเเถวอยู่
"ใช่เลวจริง ๆ มันทำอย่างนี้กับน้าตัวเองก็ไม่ไล่มันออกไปฉันล่ะไม่เข้าใจคุณกรจริง จริ๊ง"
ป้าคนงานส่ายหัวไปมาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมคุณกรถึงไม่ไล่ไอ้วินออกไป
"ป้าฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่ไล่มันออกไป"
"มันคงอยากจะเป็นใหญ่เทียบเท่าคุณกรละมั้งป้าถึงได้ทำเรื่องเลวทรามอย่างนี้"
คนงานหนุ่มอีกคนที่ได้ยินก็ขึ้นมาร่วมวงสนทนากับทั้งสองสาวต่างวัยกัน
"อย่าให้เจอนะฉันจะ"
คนงานสาวกำลังจะพูดว่าอย่าให้เจอนะจะด่าให้เละเลยเเต่ปากก็หยุดเอาไว้ทันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นนาวินกำลังเดินมาทางนี้
นาวินได้ยินทั้งสามคุยกันทั้งหมดเเล้วนั้นก็อยากจะหาหลักฐานมาฟาดหน้าคนพวกนี้จริง ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยเเล้วเอามาพูดกันสนุกปากอย่างว่าล่ะนะเป็นใคร ใครก็ด่าว่าเขาเลวที่ทำกับผู้หญิงสองคนซึ่งเป็นถึงน้องสาวเจ้าของรีสอร์กับเพื่อนของเธอถ้าไม่มีหลักฐานมาให้ดูคนพวกนี้ก็คงไม่หยุดนินทาว่าร้ายคนอื่น
พอนาวินเดินมาต่อเเถวทั้งสามคนก็เงียบปากไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย
"วินแกทำจริง ๆ เหรอวะ"
กานดาถามเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเพื่อนตัวเองจะทำเรื่องเเบบนี้ได้
"แกเชื่อว่าฉันทำเหรอวะ"
"ไม่ใช่อยากนั้นนะวินเราก็เเค่ถามเฉย ๆ ว่ามันใช่เรื่องจริงไหมที่เขาพูดกันนะ"
"ใช่อยู่เเต่ไม่ใช่"
"อะไรของแกฉันไม่เข้าใจ"
กานดาถามอย่างงงกับคำตอบของเพื่อน
"เดี๋ยวแกก็รู้ว่ามันใช่เรื่องจริงไหม ไปล่ะ"
"อ้าวไอ้วินกลับมาก่อน"
"พูดคุยอะไรกันนานขนาดนั้นโน่นคนต่อแถวกันเยอะเเล้วรีบตักข้าวเลยยัยกาน"
ป้าสมว่าให้ลูกสาวเสียงเข้มที่มั่วเเต่คุยกับเพื่อนจนไม่ดูว่ามีคนมาเยอะเเล้ว
"จ้าเเม่กานจะรีบตักให้เร็วเลยจ๊ะ"
นาวินกำลังหาโต๊ะนั่งกินข้าวเขาก็ได้ยินเสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง
"วินมานั่งนี่"
น้ำเอ่ยเรื่องนาวินให้มานั่งด้วยกัน
นาวินหันกลับไปมองที่ด้านหลังก็เห็นพี่น้ำ พี่ยิ้ม พี่วาย กำลังนั่งกินข้าวกันอยู่
เขาเดินเข้าไปนั่งร่วมวงกับคนทั้งสามโดยที่เขานั้นนั่งข้างพี่น้ำ
"พี่ขอถามหน่อยสิ"
"จริงแต่ไม่จริงทั้งหมดครับ"
เขารีบตอบออกมาเพราะรู้ว่าพี่น้ำจะถามอะไรเขาคงไม่พ้นข่าวลือของเขาที่กระจายไปทั่วทั้งรีสอร์ทเเล้ววันนี้
"อะไรพี่ยังไม่ทันได้ถามเลย"
"ผมรู้ว่าพี่จะถามอะไร"
"อะไรจริงเเต่ไม่จริงทั้งหมดวะกูไม่เข้าใจ"
วายพูดขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่นาวินพูด
"ก็ที่จริงน่ะวินนอนกับคุณสาคุณฟางจริงเเต่ที่ไม่จริงทั้งหมดคือวินไม่รู้ว่าตัวเองไปนอนอยู่ในห้องนั้นได้ยังไงเเละคืนนั้นที่วินขึ้นไปส่งคุณสาที่ห้องวินก็รู้สึกว่ามีคนมาตีที่ท้ายทอยของวินด้วยหลังจากนั้นก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนถึงเช้าเนี่ยยังเจ็บต้นคออยู่เลย"
ยิ้มนั่งฟังนาวินเล่าเงียบ ๆ
"แปลว่าที่เขาพูดกันไม่ใช่เรื่องจริงนะสิ"
"ใช่ครับ และผมก็ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าบ้านคุณพฤกษ์เเล้วครับตอนเวลาเที่ยงคืนมันหายไปด้วยเหมือนมีคนตั้งใจลบคลิปออกไป"
"ใครวะที่มันทำเรื่องเเบบนี้ได้"
วายพูดขึ้นมาอย่างโมโห
"เอ้าไอ้ยิ้มมึงไม่เห็นพูดอะไรเลยวะ"
ยิ้มคิดไปถึงคืนนั้นที่เขากลับไปเอาไอ้วายที่นั่งเมาอยู่บนโต๊ะกลับบ้านตอนนั้นเขาแบกมันมาเกือบจะถึงรถมอเตอร์ไซค์เเล้วเขาได้ยินเสียงคนสตาร์ทรถยิ้มเลยหันไปดูเเละก็เห็นรถกระบะสีน้ำเงินขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้านคุณพฤกษ์
ยิ้มไม่ได้สนใจอะไรเพราะต้องแบกเพื่อนกลับบ้านพักด้วยเเละตอนนี้เขาก็ง่วงนอนมากพอเอาไอ้วายขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์เสร็จก็ขี่รถกลับบ้านพักคนงานทันทีเลยเพราะตอนนี้ไม่ไหวเเล้วอยากนอนมากบวกกับดื่มเข้าไปเยอะด้วย
"ยิ้ม"
วายเอ่ยเรียกเพื่อน
"ไอ้ยิ้ม!"
"ห๊ะ"
ยิ้มทำหน้าพึงตื่นจากภวังค์เเละหันหน้ามาหาวาย
"มึงคิดอะไรอยู่ไอ้ยิ้มกูเรียกมึงตั้งสองนาน"
"กูมีเรื่องจะบอก"
"อะไรวะเล่ามาเลย"
วายถามยิ้ม ส่วนน้ำเเละนาวินก็หันมามองอย่างตั้งใจฟังว่ายิ้มจะพูดอะไร
"คือคืนนั้นที่เราไปกินเลี้ยงกันพอกูส่งไอ้น้ำเสร็จเเล้วก็ไปรับไอ้วายต่อเเล้วกูได้ยินเสียงคนสตาร์ทรถกูก็หันไปดูกูก็เห็นรถกระบะสีน้ำกำลังขับออกไปจากบ้านคุณพฤกษ์"
ทั้งสามคนตั้งใจฟังที่ยิ้มพูดโดยที่ไม่มีใครเอ่ยเเทรกขึ้นมาระหว่างที่ยิ้มเล่า
"ว่าเเล้วผมไม่ได้คิดไปเองมันต้องมีใครมาแกล้งผมแน่นอน"
นาวินพูดขึ้นอย่างดีใจ
"เเล้วพี่เห็นคนข้างในรถไหมครับ"
"ไม่เห็นมันมืดมาก"
"เเล้วป้ายทะเบียนรถล่ะ"
"พี่ไม่ได้ดูตอนนั้นพี่ง่วงมากเลยรีบแบกไอ้วายกลับบ้านพักคนงานเลย"
"เเล้วเราจะทำยังไงดีล่ะทีนี่ภาพจากกล้องวงจรปิดก็ดูไม่ได้ไอ้ยิ้มก็ไม่เห็นป้ายทะเบียนรถอีก"
น้ำพูดขึ้นมาอย่างเซ็ง ๆ ที่ไม่สามารถรู้ตัวคนทำได้
"ใช่"
วายเห็นด้วยกับที่น้ำพูด
"พวกมึงอย่าโทษกูนะเว้ยก็ตอนนั้นกูง่วงนนี่หว่าไหนจะต้องแบกมึงอีกไอ้วาย"
"เอ่อ ๆ กูยังไม่ได้ว่ามึงเลยไอ้ยิ้ม"
วายพูดขึ้นมา
"เเล้วผมจะไปหาหลักฐานมาจากที่ไหนเนี่ย"
นาวินดึงถึ่งผมอย่างคิดหนักว่าเขาจะไปหาหนักฐานมาจากที่ไหนถ้าเขาทำไม่ได้อย่างที่พูดเขาก็จะต้องออกไปจากรีสอร์ทนี้เเน่นอนตามที่เขาพูดกับคุณกรไว้นาวินรักรีสอร์ทนี้มากเขาไม่อยากไปจากที่นี่เลยเเม่กับพ่อเขาก็อยู่ที่นี้ด้วยเขาต้องหาหลักฐานมาให้คุณกรให้ได้เพื่อที่จะไม่ได้ออกไปจากรีสอร์ทแห่งนี้
"ผมละเครียดจริง ๆ ครับถ้าไม่ได้หลักฐานมาให้คุณกรภายในสามวันผมก็ต้องออกไปจากนี่ที่"
นาวินพูดน้ำเสียงกังวลใจ
ทั้งสามคนที่ได้ยินนาวินพูดก็รู้สึกเห็นใจนาวิน
"เดี๋ยวพวกเราช่วยสืบให้ว่าใครมันกล้าทำอย่างนี้กับน้องชายสุดหล่อของพี่ได้"
น้ำพูดเอ่ยปลอมนาวินน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ
"ขอบคุณครับพี่"
นาวินยิ้มออกมาอย่างดีใจที่พวกพี่ ๆ จะช่วยเขาหาหลักฐานด้วยอีกเเรง
"ไม่ต้องขอบคุณหรอกพี่อยากช่วยยังไงวินเหมือนน้องชายพี่"
ยิ้มพูดด้วยรอยยิ้ม
"ครับ"
นาวินอมยิ้มอย่างดีใจ
"มันจะยากสักเท่าไรกันเชียว"
วายพูดขึ้นมา
"มากินข้าวได้เเล้วจะได้มีเเรงหาหลักฐานต่อ"
เเล้วทั้งสามคนก็ลงมือกินข้าวกันหลังจากที่พูดคุยกันนานกว่าสามสิบนาที