เมื่อรสาอยากจะลาพักร้อนสักเดือนสองเดือน เธอได้ชวนฟางลดาไปเที่ยวด้วยกัน รสาอยากจะไปเที่ยวหอโหวตและไปเที่ยวบึงพลาญชัยด้วย น้องชายของเธอแนะนำว่าไปเที่ยวร้อยเอ็ดแล้ว ทำไมไม่ไปหาพี่พฤกษ์ด้วยล่ะ เพราะจังหวัดที่รสาไปเที่ยวนั้นมันก็อยู่ใกล้กัน อีกอย่างเธอก็ไม่ได้เจอหน้าหลานชายสุดที่รักของเธอตั้งหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานชายเธอจะโตเป็นหนุ่มแล้วหรือยัง จะเกิดเรื่องอะไรวุ่น ๆ ที่รีสอร์ท และเรื่องความรักของทั้งสองสาวจะเป็นยังไงติดตามอ่านกันได้เลย ที่คุณน้ารสากับคุณหลานบ้านสวน
ฝากกดติดตามเเละกดไลค์ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
"น้าสาครับหันมาหน่อยสิคร้าบผมมีอะไรจะให้"
เขาพูดน้ำเสียงออดอ้อนเพื่อให้น้าสาหันมา
รัก,ชาย-หญิง,ราชพฤกษ์,ฟางลดา,ปกรณ์,รสา,บ้านสวน,คุณหลาน,คุณน้า,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“เออกูจะช่วยมึง ทำไมมึงต้องให้กูทำแบบนี้ด้วยวะ เดี๋ยวพี่มึงก็ได้เลิกกับผู้ชายคนนั้นหรอก เขาทั้งคู่ก็ออกจะเหมาะสมกันนะกูว่า ดีไม่ดีกูอาจจะโดนแฟนพี่สาวมึงกระทืบก็ได้”
ไผ่มองดูทั้งสองคน เขาว่าพี่สากับผู้ชายคนนั้นเหมาะสมกันมาก ดูเข้ากันได้ดี ดูแล้วผู้ชายคนนั้นคงจะรักพี่สาวไอ้ภัทรมาก เขาว่าถ้าไปทำอย่างนั้น เขาอาจโดนผู้ชายคนนั้นกระทืบก็เป็นได้ เป็นใคร ใครก็หวงแฟนของตัวเองทั้งนั้น
ดูท่าทางแล้วคงจะหวงพี่สามากเขาคิดนะ ภัทรพลไม่ได้บอกเพื่อนว่าผู้ชายคนนั้นที่มันคิดว่าเป็นแฟนพี่สาวของเขานั้นเป็นใคร และเขาก็ไม่ได้แก้ด้วยว่าพี่สายังไม่มีแฟน ปล่อยให้เข้าใจผิดแบบนี้แหละดีแล้ว ถ้ามันรู้มันอาจจะไม่ช่วยเขาก็ได้
“มึงไม่โดนกระทืบหรอกน่า มีกูอยู่ทั้งคน กูก็แค่อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างก็เท่านั้น”
“ทำไมมึงมั่นใจขนาดนั้นว่าแฟนพี่สาวมึงจะไม่กระทืบกู”
“เออน่าเชื่อกูเถอะ”
แล้วทั้งสองก็เดินไปหารสากับปกรณ์ที่โต๊ะ
“ผมขอนั่งด้วยคนนะครับพี่พอดีว่าโต๊ะมันเต็ม”
ภัทรพลเอ่ยบอกพี่สาวเสร็จก็เข้าไปนั่งข้างปกรณ์ทันที
รสาพยักหน้าให้น้องชายนั่งลง
“พี่สาสวัสดีครับ”
ไผ่ยกมือไหว้พี่สาวเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีจ๊ะ ไผ่”
พูดจบรสาก็ยิ้มหวานให้ไผ่ และไผ่ก็เข้าไปนั่ง ๆ ข้าง ๆ รสา
ปกรณ์เห็นอย่างนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ทำไมน้าสาต้องไปยิ้มหวานให้มันด้วย ภัทรพลรอบสังเกตสีหน้าของหลานชายเงียบ ๆ สักพักก๋วยเตี๋ยวที่ภัทรพลสั่งก็มาเสริฟ์
“ภัทรรู้มั้ยว่าพี่พฤกษ์มาทำอะไรที่กรุงเทพ”
รสารู้จากปกรณ์ว่าพี่พฤกษ์ก็มาด้วย พอเธอถามว่าพี่พฤกษ์มาทำไมหลานชายเธอก็ตอบว่าไม่รู้ เพื่อว่าไอ้ภัทรจะรู้เธอก็เลยถามมัน ปกติพี่พฤกษ์ไม่ค่อยจะมา กรุงเทพนอกจากมีธุระเท่านั้น
“มาหาพ่อมั้งพี่”
“เหรอ”
รสาทำหน้าไม่เชื่อ
“ครับ”
“ไผ่อยากกินอะไรสั่งเลยนะวันนี้พี่เลี้ยง”
“ครับ ถ้าผมสั่งมาเยอะพี่อย่ามาว่าผมนะ”
ไผ่พูดยิ้ม ๆ
“พี่ไม่ว่าเราหรอก เออเห็นภัทรบอกว่าเราเปิดร้านค่าเฟ่เหรอ เป็นไงบ้าง”
“ช่วงแรก ๆ มันก็ยากอยู่ครับ ชงผิดชงถูกบ้าง แต่ตอนนี้ฝีมือผมพัฒนาขึ้นแล้วครับ ถ้าพี่ไปที่ร้านผมให้กินฟรีเลยสามแก้วประเดิมเมนูใหม่ของร้านเป็นคนแรกเลย”
“ร้านเราเปิดกี่โมงถึงกี่โมงเหรอพี่จะได้ไปถูก”
ไผ่มองดูมุมปากรสาที่มีเส้นวุ้นติดอยู่ ดีเข้าทางเขาที่จะเป็นคนเอาออกให้รสา เขาจะได้ไม่ต้องทำอะไรมาก ที่มันถึงเนื้อถึงตัวพี่สาวไอ้ภัทร ทำแค่นี้ผู้ชายคนนั้นก็น่าจะหึงหวงแล้วละ
“เปิดตั้งแต่แปดโมงไปจนถึงหนึ่งทุ่มตรงครับ เออมีอะไรติดอยู่ที่ปากพี่ครับเดี๋ยวผมเอาออกให้นะครับ”
รสายังไม่ได้พูดอะไรไผ่ก็เอื้อมมือมาจะเอาเส้นวุ้นที่ติดอยู่ที่ปากของเธอออกให้
“อะแฮ่ม”
ไผ่ได้ยินเสียงก็ชะงักมือหันไปมอง ก็เห็นปกรณ์นั่งจ้องเขาตาเขม็งอยู่ เหมือนจะกินหัวเขาเลย รสาเห็นอย่างนั้นก็กลัวว่าปกรณ์จะทำให้บรรยากาศเสียก็เลยบอกเพื่อนน้องชายไปว่า
“เดี๋ยวพี่เอาออกเองดีกว่าเนอะ”
รสาบอกไผ่ยิ้ม ๆ
เธอมองไปที่หลานชายก็เห็นเขานั่งหน้าบูดอยู่เหมือนหงุดหงิดอะไรมาสักอย่างที่เธอไม่รู้ตอนที่มาที่ร้านก็ยังยิ้มอยู่เลย ทำไมตอนนี้ถึงได้หน้าบูดแบบนี้เนี่ย
“ภัทรพี่กับกรกลับก่อนนะ นี่เงิน”
พูดจบรสาก็วางเงินไว้ที่โต๊ะให้น้องหนึ่งพัน
“ครับ”
ภัทรพลรู้แล้วว่าปกรณ์คิดยังไงกับพี่สาวของเขา ดูจากอาการที่หึงหวงเพื่อนเขากับพี่สาก็รู้แล้วว่าหลานชายของเขานั้นคิดยังไง เรื่องนี้เขาต้องเอาไปบอกแม่ แม่เขาจะได้แก้ไขปัญหาได้ทันก่อนที่มันจะเกินเลยไปมากกว่านี้
“กร กร รอน้าด้วยสิ”
ปกรณ์หยุดเดินและรอน้าสาวเดินมาโดยไม่หันหน้าไปมองทางที่รสากำลังเดินมา
ตั้งแต่ออกจากร้านมาปกรณ์ก็เดินตุ่ม ๆ ออกมาเลยโดยที่ไม่รอเธอ หน้าตาก็ดูบูดเบี้ยวเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมา พอเธอขึ้นรถมากรก็ไม่พูดไม่จากับเธอสักคำ หน้าตาก็ดูเคร่งขรึม
พอขับรถมาถึงบ้านก็เปิดประตูเดินออกมาไม่รอเธออีก แถมยังปิดประตูรถใส่เธอเสียงดังอีกด้วย
บ้าน
20:00
“กรเป็นอะไรทำไมเดินไม่รอน้าเลยตั้งแต่ออกจากร้านมาแล้วนะ”
“....”
“กร!น้าถามทำไม ไม่ตอบ กรโกรธอะไรน้า”
รสาเอ่ยถามหลานชายเสียงดัง อย่างสงสัยว่า ปกรณ์ได้โกรธเธอไหม ถามอะไรไปก็ไม่ตอบ
“น้าอยากรู้ไหมครับว่าผมเป็นอะไร”
เขาหันหน้ากลับมาตอบรสาด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่
“กรก็พูดมาสิน้าจะได้รู้”
“ที่ผมเป็นแบบนี้ก็เพราะน้า! น้าไปยิ้มให้มันทำไม แล้วน้าก็ให้มันแตะเนื้อต้องตัวด้วย”
ปกรณ์พูดกับรสาเสียงเกรี้ยวอย่างไม่พอใจ ที่รสาให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาแตะเนื้อต้องตัว โดยที่น้าสายินยอมให้มันทำ แทนที่จะห้าม
“น้าก็ยิ้มปกติ แล้วไผ่เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย กรหึงน้าเหรอ”
ประโยคสุดท้ายรสาถามปกรณ์หน้าตาทะเล้น
“ใช่ครับ ผมหึงน้า หึงน้ามากด้วย”
รสาได้ยินก็ตกใจไม่คิดว่าที่เธอถามเขาเล่น ๆ เขาจะหึงเธอจริง ๆ หน้าเธอร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ ใจเธอตอนนี้มันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ไม่น่าถามกรเล่น ๆ เลยเราไม่คิดว่ากรจะหึงเราจริง ๆ
“อย่าบอกนะ!ว่ากรรักน้า”
เธอถามปกรณ์ออกไปอย่างไม่แน่ใจนัก แต่ใจเธอตอนนี้อยากให้กรรักเธอเหมือนที่เธอตกหลุมรักเขา
“ใช่ครับ ผมรักน้าแล้วน้าละครับรักผมไหม”
เขาบอกความรู้สึกของตัวเองให้รสารับรู้ และถามเธอกลับด้วยใบหน้าที่จริงจัง
ยิ่งกรบอกว่ารักเธอหัวใจเธอยิ่งเต้นแรงเข้าไปอีก มันตื่นเต้นดีใจที่เขานั้นก็รักเธอเหมือนกัน แต่เธอกลัวว่าพ่อกับแม่และพี่ชาย ไอ้ภัทรจะไม่ยอมรับ และอีกหลาย ๆ อย่างที่จะตามมา
“กรตัดใจจากน้าซะเถอะ น้าคงรักกรไม่ได้ ถึงน้าจะรักกรมันก็คงเป็นไปไม่ได้”
“เพราะผมเป็นหลานน้าใช่ไหมครับ น้าถึงรักผมไม่ได้”
ปกรณ์พูดด้วยน้ำเสียงโมโหที่น้าสารักเขาไม่ได้ก็เพราะว่าเขาเป็นหลานเธอ
“ใช่ กรก็รู้ว่าพวกเรารักกันไม่ได้”
“ทำไมน้าจะรักกรไม่ได้ ผมไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของน้าไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน”
“มันก็ใช่ ที่กรไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของน้าแต่เราก็รักกันไม่ได้อยู่ดี”
“ถ้าน้าอายผมจะเปลี่ยนนามสกุลและไม่ยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของน้าอีก พวกเราก็จะได้ ไม่เป็นน้าหลานกันอีก ที่นี้น้าก็จะรักผมได้ โดยที่ไม่มีใครนินทาหรือว่าน้าได้”
เขาจะทำทุกอย่างเพื่อที่เขานั้นจะได้รักกับรสา แต่ดูเหมือนว่าน้าสาจะยอมแพ้แล้ว ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย
“อย่าทำอย่างนั้นนะกร มันไม่ใช่อย่างที่กรคิดนะ น้าไม่ได้อาย น้าก็แค่กลัว”
“กลัวว่าคนในครอบครัวของน้าจะรับเรื่องของเราไม่ได้ใช่ไหมครับ”
“น้าว่าเราเป็นเหมือนเดิมแหละดีแล้ว”
เธอคิดว่าพ่อกับแม่ของเธอคงไม่ยอมให้เธอรักกับเขา ไหนจะเรื่องชื่อเสียงของโรงแรม ชื่อเสียงของพ่อกับแม่ของเธออีก พ่อคงไม่ยอมให้เธอรักกับปกรณ์แน่ ตัดใจตอนนี้ยังดีกว่าเธอต้องเสียเขาไป เป็นน้าหลานกันแบบนี้แหละดีแล้ว ถึงเธอจะเสียใจมากก็ตาม ให้มันเป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว ดีกว่าพวกเราต้องแยกจากกัน
“ทำไมน้าเอาแต่บอกว่าเรารักกันไม่ได้
ถ้าน้าอย่างให้เราเป็นแค่น้าหลานกัน ก็ได้ผมจะไม่มาให้น้าเห็นหน้าอีก ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ เป็นแค่คนรู้จักกันเท่านั่น น้าอยากให้ผมเป็นหลานผมก็จะเป็นให้”
ปกรณ์พูดด้วยสีหน้าตัดพ้อและเดินจากไป
ปกรณ์เสียใจที่น้าสาเอาแต่บอกว่าเรารักกันไม่ได้ และยังบอกให้เขาตัดใจจากเธออีก
“กรอย่างพึ่งไปฟังน้าก่อน”
“กร! น้าขอโทษ”
รสาเดินตามปกรณ์ไปแต่ไม่ทัน เขาวิ่งเข้าไปในบ้านแล้ว
เธอเรียกยังไงเขาก็ไม่หันมา สิ่งที่เธอพูดกรคงไม่ได้ยิน
“เฮ้อกรโกรธเธอแล้ว”
รสาถอนหายใจ
กรคงโกรธเธอมาก ที่เธอเอาแต่พูดว่าเรารักกันไม่ได้
และมันไม่มีวันเป็นไปได้ เธอเสียใจที่พูดกับปกรณ์อย่างนั้น
และเสียใจที่ตัวเองขี้ขลาดกลัวไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะไม่ยอมรับและรับไม่ได้กับเรื่องนี้ เธอควรจะสู้ไปด้วยกันกับเขา ไม่ใช่ผลักไสเขาไปแบบนี้