เมื่อรสาอยากจะลาพักร้อนสักเดือนสองเดือน เธอได้ชวนฟางลดาไปเที่ยวด้วยกัน รสาอยากจะไปเที่ยวหอโหวตและไปเที่ยวบึงพลาญชัยด้วย น้องชายของเธอแนะนำว่าไปเที่ยวร้อยเอ็ดแล้ว ทำไมไม่ไปหาพี่พฤกษ์ด้วยล่ะ เพราะจังหวัดที่รสาไปเที่ยวนั้นมันก็อยู่ใกล้กัน อีกอย่างเธอก็ไม่ได้เจอหน้าหลานชายสุดที่รักของเธอตั้งหลายปี ไม่รู้ว่าตอนนี้หลานชายเธอจะโตเป็นหนุ่มแล้วหรือยัง จะเกิดเรื่องอะไรวุ่น ๆ ที่รีสอร์ท และเรื่องความรักของทั้งสองสาวจะเป็นยังไงติดตามอ่านกันได้เลย ที่คุณน้ารสากับคุณหลานบ้านสวน
ฝากกดติดตามเเละกดไลค์ให้ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
"น้าสาครับหันมาหน่อยสิคร้าบผมมีอะไรจะให้"
เขาพูดน้ำเสียงออดอ้อนเพื่อให้น้าสาหันมา
รัก,ชาย-หญิง,ราชพฤกษ์,ฟางลดา,ปกรณ์,รสา,บ้านสวน,คุณหลาน,คุณน้า,รักโรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วันศุกร์
07:00
รสาเดินลงมาข้างล่างก็เห็นพ่อกับแม่นั่งทานข้าวกันอยู่สองคน เธอเดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ แม่
“แม่ พี่พฤกษ์กับไอ้ภัทรไปไหนค่ะ”
เธอเอ่ยถามแม่เมื่อไม่เห็นภัทรพลกับราชพฤกษ์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วล่ะลูก สา มีอะไรกับพี่เขาเหรอ”
“ไม่มีค่ะ พี่พฤกษ์ก็ไปทำงานด้วยเหรอคะแม่”
รสาเอ่ยถามอย่างสงสัย ราชพฤกษ์ไปทำงานที่โรงแรมด้วยเหรอ เธอไม่เห็นจะรู้เลย มีอะไรให้พี่พฤกษ์ทำกัน ทุกตำแหน่งเต็มหมดแล้วเธอได้แต่คิดสงสัยในใจ พี่พฤกษ์มาพักผ่อนไม่ได้มาทำงานสักหน่อย งานของพี่ชายเธอก็มีจะมาทำงานที่โรงแรมทำไม เธอคิด
“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก”
วันชัยนั่งฟังสองแม่ลูกคุยกัน
“กรไปไหนคะ ตั้งแต่เช้าสายังไงไม่เห็นเลย”
เมื่อเช้าเธอไปวิ่งออกกำลังกายที่ถนนหน้าบ้านพอวิ่งเสร็จเธอก็กลับเข้ามาในบ้านก็ไม่เห็นเขา เดินอยู่ภายในบ้านเลย หรือว่ากรยังไม่กลับมานะ รสาคิด
“อยู่บนห้อง เห็นว่าปวดหัว แม่ก็เลยให้น้อยยกอาหารขึ้นไปให้”
รสาได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“แกจะไปไหน”
วันชัยเอ่ยถามลูกสาว
“ขึ้นไปดูกรค่ะพ่อ”
“ไปดูทำไม กรเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไปดูก็ได้นิลูก”
“ค่ะพ่อ”
รสานั่งลงตามเดิม
และนั่งกินข้าวไปสามสี่คำเธอก็ขึ้นไปดูปกรณ์
“คุณ ยัยสานี่ก็เป็นห่วงตากรเกินไปนะ กรเขาก็แค่ปวดหัวตัวร้อนเองทำเหมือนว่าตากรอยู่ไกลต้องรีบไปดูยังงั้นแหละ”
วันชัยเอ่ยถามวารีอย่างสงสัยท่าทางของลูกสาวเขาเมื่อครู่เหมือนเป็นห่วงปกรณ์มาก พอได้ยินว่าปวดหัวก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้จะไปดูหลานทันที กินข้าวก่อนก็ได้ ปกรณ์ก็อยู่ที่นี่ ทำเหมือนว่าตากรอยู่ที่บ้านสวนไปได้ น่าสงสัยจริง ๆ ลูกคนนี้ วันชัยคิด
“ก็ดูเป็นห่วงปกตินิค่ะคุณ”
“ไม่ปกติ”
“ยังไงคะ”
วารีเอ่ยถามสามี หรือว่าสามีของเธอจะรู้แล้ว
“ไม่รู้เหมือนกันคุณ บอกไม่ถูก รู้แต่ว่ามันไม่ปกติ”
เขารู้สึกว่าลูกสาวของเขาทำตัวแปลก ๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่เขาไม่รู้
“คิดมากนะคุณไม่มีอะไรหรอก”
ถึงวารีจะพูดอย่างนั้นแต่วันชัยก็หยุดคิดไม่ได้เลย
ที่ห้องท่านประธาน
“แผนอะไรที่แกจะบอกฉัน”
เมื่อเช้าภัทรพลเข้ามาในห้องเขามาบอกเขาว่ามันคิดแผนที่จะง้อฟางลดาออกแล้ว มันบอกว่าให้เขาไปที่โรงแรมพร้อมกับมัน เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องนี้ได้สะดวก มันกลัวว่าจะมีใครรู้แผนการของมันเข้าถ้าคุยอยู่ที่บ้าน โดยเฉพาะรสา เพื่อว่ารสาจะเอาเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนของตัวเองก็เป็นได้ เขาคิดเพื่อไว้เฉย ๆ เพื่อความรอบคอบ และไม่ทำให้แผนของเขาแตก
“แผนของผมก็คือนี่ครับ”
ภัทรพลผายมือไปทางโซฟา
“แผนของแก คือให้ฉันใส่เสื้อผ้าเนี่ยอะนะ”
ราชพฤกษ์ถามน้องชาย อย่างงงจะให้เข้าใส่ชุดนี้เนี่ยนะ ชุดอะไรก็ไม่รู้ มีทั้งหน้ากาก และดอกกุหลาบจะให้เขาไปงานเต้นรำหรือยังไง
“พี่ไปใส่ชุดนี้มาก่อนแล้วผมจะบอกว่าพี่ต้องทำอะไรบ้าง”
“เออ ๆ”
ราชพฤกษ์เข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ พอใส่เสื้อผ้าและหน้ากากเสร็จ เขาก็คาบดอกกุหลาบสีแดงไว้ในปาก แล้วมองดูตัวเองในกระจกพร้อมกับชมตัวเองในกระจกว่า
“แต่งแบบนี้แล้วเราก็หล่อเหมือนกันนะเนี่ย”
เสื้อที่เขาใส่นั้นเป็นเสื้อสูทสีกรม ทั้งเสื้อและกางเกง
หน้ากากก็เข้ากันกับสีของชุดอย่างลงตัวพอชมตัวเองในกระจกเสร็จก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
“โฮ!หล่อมากพี่”
ภัทรพลร้องออกมาด้วยความตกใจตาเบิกกว้าง ไม่คิดว่าราชพฤกษ์ใส่ชุดนี้แล้วโครตหล่อเลย ขนาดว่ายังไม่ได้แต่งหน้าเซทผมนะเนี่ย ถ้าแต่งหน้าและทำผมไม่หล่อวัวตายควายล้มเลยหรือนี่ พี่ชายเขาชั่งมีออร่าเสียเหลือเกิน
ราชพฤกษ์อมยิ้มเมื่อน้องชายชมเขาว่าหล่อขนาดนี้
“ผมจะให้พี่เป็นลูกค้าระดับวีวีไอพีที่ห้องอาหารส่วนตัวของโรงแรม แล้วผมจะให้พี่ฟางเป็นคนไปเสิร์ฟอาหารให้พี่ และผมจะให้พี่ฟางแนะนำอาหารของโรงแรมให้พี่ฟัง พี่ก็ฟังไปนะ พี่ก็ทำเป็นชิมอาหารในโต๊ะไปแล้วก็ถามเธอว่าเมนูนี้ใส่อะไรลงไปทำไมมันหอมจัง ถามอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับอาหาร หลังจากนั้นพี่ ก็ขอพี่ฟางแต่งงานเลยนะ นี่แหวนผมซื้อมาให้เอาไว้ขอสาว ส่วนผมจะแอบดูอยู่ในห้องนะครับ พอถึงเวลาผมจะออกมา”
พูดจบภัทรพลก็ยื่นแหวนเพชรเม็ดงามให้พี่ชายไป
แล้วราชพฤกษ์ก็ยื่นมือมารับแหวนไว้
“ทำไมแกไม่บอกให้พี่ซื้อแหวนเองวะ”
“ใช้อันนี้ไปก่อนพี่ ถึงวันแต่งจริง พี่ก็ไปเลือกเอาเองเลยว่าอยากได้แบบไหน ทรงไหนผมก็แค่ให้พี่ยืมเฉย ๆ หรือถ้าพี่ฟางชอบก็เอาไปเลยนะ ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานล่วงหน้า”
“ทำไมพี่คิดไม่ได้วะว่าพี่ต้องง้อฟางด้วยการขอแต่งงานไปเลย ความคิดแกนี่เยี่ยมจริง ๆ วะไอ้น้อง”
“ระดับผมซะอย่าง ถ้างานนี้สำเร็จพี่ต้องซื้อรถให้ผมนะ รถผมมันเก่าแล้ว”
“ได้ถ้าสำเร็จเรื่องนั้นไม่มีปัญหา พี่ซื้อให้เราแน่นอน”
ภัทรพลได้ยินดั้งนั้นก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่ตัวเองจะได้รถคันใหม่ป้ายแดง
เร็ว ๆ นี้
12:00
ห้องประชุม
ผู้จัดการได้นัดทุกคนมาที่ห้องประชุมของห้องครัว
“วันนี้มีลูกค้าระดับวีวีไอพีมาทานอาหารที่โรงแรมของเรา พี่อยากให้ทุกคนทำอาหารอย่างพิถีวิทัน และทำให้อร่อยที่สุด อาหารที่คุณมาวินอยากทานมีสามสี่อย่างนะ”
พูดจบผู้จัดการก็ยื่นแผ่นกระดาษรายการอาหารให้ผู้ช่วยเชฟของฟางลดาไป
“ทุกคนไปทำงานตามที่ฉันสั่งได้แล้วส่วนเชฟฟางอยู่ก่อน”
แล้วเชฟทุกคนก็พากันทยอยออกไปจากห้อง
เหลือแต่ฟางลดากับผู้จัดการอยู่ในห้องนี้
“พี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับฟางเหรอคะ”
ฟางลดาเอ่ยถามผู้จัดการสาวอย่างสงสัย
“พี่อยากให้ฟางไปเสริฟ์อาหารให้คุณมาวินหน่อย และนำเสนอเมนูของโรงแรมสักสามสี่อย่างที่ฟางคิดว่ามันอร่อยสุดที่ ถ้าคุณมาวินถามอะไรฟางก็ตอบนะ ฟางอย่าทำงานนี้พลาดนะท่านประธานกำชับพี่มา เพราะถ้าฟางทำให้คุณมาวินไม่พอใจ ธุรกิจที่คุณมาวินลงทุนไว้กับทางโรงแรมทั้งหมดจะถูกยกเลิกทันที คุณมาวินชอบทานอาหารที่โรงแรมของเรามาก อย่าทำให้ท่านประธานผิดหวังนะเชฟฟาง”
“ค่ะพี่”
ฟางลดาตอบผู้จัดการเสียงหนักแน่น ท่านประธานกำชับมาซะขนาดนี้แปลว่าคน ๆ นี้ต้องสำคัญกับแกรนด์วารีมากแน่ ๆ แล้วทำไมต้องให้เธอเป็นคนไปเสริฟ์ด้วยล่ะ หน้าที่นี้ต้องเป็นของเด็กเสริฟ์สิ ฟางลดาคิดอย่างสงสัย แต่เธอไม่ได้ถามอะไรผู้จัดการออกไปหรอกนะ เพราะเธอรู้ว่าผู้จัดการคงได้รับคำสั่งมาจากท่านประธาน ถึงเธอถามไปผู้จัดการคงไม่รู้เรื่องหรอก เธอก็เลยไม่ถามจะดีกว่า