รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“พักนะ” ฟลุ๊คลงมาจากรถ พร้อมกับยืนมือไปรับกระเป๋าจากหมอ แต่ถูกปฏิเสธ
“รถเครื่องร้อนเหรอ” ดิวรีบเอ่ยถาม
“ครับ”
“งั้นคุณเข็นรถไหวไหม..เดี๋ยว ดิว..เอ่อหมอจะเดิน”
ดิวกระชับสายกระเป๋าพยาบาลกำลังจะก้าวเดิน แต่ถูกมือใหญ่จับรั้งข้อมือเอาไว้ พลางเอ่ย
“ดิว..ฟลุ๊ค”
“หมอว่าเรารีบไปเถอะครับเดี๋ยวมืด”
“ดิว..ฟลุ๊ค”
“อื้อ~~ทำอะไรของคุณเนี่ย!”
ฟลุ๊คโน้มตัวเข้าไปจะโอบกอดอีกคน อย่างสุดแรงฝืนหัวใจ ขณะที่ดิวรีบเบี่ยงตัวหลบ จนเผลอผลักตัวฟลุ๊คออกห่าง พลันน้ำตาคลอ
เพราะจุกในอก นานแค่ไหนที่ไม่ได้เจอ หลังจากวันที่ไปบอกเลิก ที่โรงพยาบาลเก่า จนมาตอนนี้ ฟลุ๊คไม่เคยส่งข่าวมาเลยสักครั้ง ทั้งที่ตอนคบ ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋
“รีบกลับเถอะ! คนข้างล่างจะเป็นห่วง” ดิวรีบเอ่ย
“หมายถึงไอ้ม่อนนะเหรอ?”
ฟลุ๊ครีบเอ่ยถามอย่างเจ็บจี๊ดที่หัวใจ ทำไมต้องเป็นดิวกับเพื่อนของเขาด้วยนะ โลกมันกลมหรือต้องบังเอิญขนาดไหน
ทั้งเขาสองคบและเลิกกันตอนอยู่เมืองใหญ่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลับมาอยู่บ้าน ในขณะที่ดิวก็ดันถูกย้ายให้มาทำงานที่บ้านของเกิดของเขาอีก
ที่หนักกว่านั้นคือเพื่อนของเขา กำลังตามจีบแฟนเก่า ที่เขาไม่เคยคิดจะลืม ยิ่งได้มาเจอกันในตอนนี้ ที่อีกคนดูดีน่ารักยิ่งกว่าเมื่อก่อน ตัวไม่ได้ผอมแห้งอมเหล็กดัดฟัน ไร้แว่นใหญ่
“เพื่อนสินะ..อื่ม” ดิวสบถคำเบาๆ ก่อนจะขานรับในลำคอ เพราะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“นี่!..คิดดีแล้วหรือไง..จะคบไอ้ม่อนนะ”
ฟลุ๊คออกอาการฉุนเฉียวอย่างหึงหวงอีกคน ต่อให้ตอนนี้เป็นแค่อดีต ขณะที่ดิวได้ยินก็ยิ่งขุ่นเคือง จะห่วงใยหรือจะบอกอะไรที่ดีๆ บ้างสักคำก็ไม่มี แต่กลับมาต่อว่า หาว่าตนเป็นคนไร้ความคิด ไม่มีสมองอยู่ตลอดเวลา
“ทำไม..เมื่อก่อนดิวก็คิดแบบนี้ ถึงได้เจอคนห่วยๆ”
“นี่!..ดิว..” ฟลุ๊คพยายามใจเย็น ขณะที่ดิวรีบเดินหนี
“ไอ้ม่อนมันเจ้าชู้ มากคู่ คบไปเรื่อย..ซื่อๆ อย่างดิวไม่ทันมันหรอก”
ฟลุ๊คตะโกนตามหลัง ขณะที่ดิวหยุดฟังพลันส่ายหน้าไปมา ทำไมชีวิตเขาต้องมาเจอผู้ชายคนนี้อีกครั้งด้วยนะ คุณหมอร่างบางพร่ำบ่นกับตัวเอง ก่อนที่ฟลุ๊คจะขับรถตามมา
“ขึ้นมา”
“ไม่เป็นไร..เดินไปอีกไม่นานก็คงถึงถนนใหญ่แล้ว”
“นี่!..อย่ามางอแงมากเรื่องได้ไหม? ..นิสัยเดิมๆ”
“.....”
ดิวจ้องมองหน้าฟลุ๊คแต่ไม่โต้ตอบ มีเพียงสายตาที่เคล้าคลอด้วยม่านน้ำ เพราะความจุกในใจ ใช่ว่าถ้อยคำนี้เขาจะไม่เคยได้ฟัง แต่มันบ่อยด้วยซ้ำตอนคบกัน และทุกครั้งจะจบลงด้วยการหยอกเย้า คลอเคลียขอโทษ และสิ้นสุดที่ความซาบซ่านร้องซี๊ดทุกครั้งไป
แต่ว่ามันไม่ใช่ ในตอนนี้ ที่ทั้งสองเป็นเพียงอดีต ที่บังเอิญกลับมาเจอกัน ที่สำคัญอีกฝ่ายไร้เยื่อไม่เหลือใย ในแววตา นอกจากคำต่อว่า จังหวะนั้นฟลุ๊คก็รีบดึงแขนคนยืนนิ่งให้ขึ้นรถ แถมยังจับมาโอบเอวเขาเอาไว้ แม้แขนเล็กจะพยายามดึงออกก็ไร้ผล
“นั่งดีๆ สิดิว..ฟลุ๊คขับรถไม่ถนัด”
“ก็ปล่อยมือฉันสิ!”
“ดิว..ต้องเรียกตัวเองว่าดิว ห้ามแทนว่าหมอ ฉันหรืออะไรทั้งนั้น”
“ฝันไปเถอะ!”
ดิวตอบโต้ทำใบหน้างอนอย่างลืมตัว เขาจำได้ดีเมื่อครั้งตอนรักกันเวลาที่ฟลุ๊คทำให้งอน ดิวก็มักจะทำเช่นนี้ และฟลุ๊คก็จะพูดว่า..ฝันของฟลุ๊คคือดิว
“ฝันของฟลุ๊คคือดิว”
และฟลุ๊คก็ดันพูดคำนี้จริงๆ ทำเอาดิวถึงกับกลืนกินก้อนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอ ก่อนที่ชายร่างหนาจะเอ่ยต่อเพื่อแก้ไข
“เอ่อ..หมายถึง..เอ่อ..”
“พอเถอะฟลุ๊คดิวเข้าใจแล้ว”
ดิวรีบส่งเสียงสั่น จากนั้นทั้งสองก็เข้าหมวดความเงียบ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์รถกับเสียงลมที่พัดผ่าน จนกระทั่งเดินทางมาถึงจุดฉีดวัคซีน
“หมอดิวเป็นยังไงบ้างครับ”
เลม่อน /ม่อน หนุ่มหล่อกล้ามใหญ่ สุดฮอตประจำอำเภอนี้ ลูกชายนักการเมืองท้องถิ่น และทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เขารีบวิ่งปรี่เข้ามาถามไถ่ ขณะที่คุณหมอค่อยๆ ลงจากรถมอเตอร์อย่างระมัดระวัง โดยมีแกงส้มช่วยถือกระเป๋าพยาบาล
“ไม่น่ากังวลครับคุณม่อน...อ๊ะ..อื้อ~~~”
ดิวรีบเอ่ยตอบ ก่อนจะแกล้งเซถลาตัวเล็กน้อย เหมือนคนเมารถ เพื่อที่จะทำให้เลม่อน รับตัวเขา แต่มันกลับไม่เป็นไปตามนั้น เมื่อคนรู้ทัน และไวกว่ารีบคว้ากายบางมาโอบกอดแทน
“เป็นอะไรหรือเปล่าคุณหมอ...สงสัยผมคงขับรถเร็วเกินไป”
“เป็นอะไรไหมแก..” แกงส้มรีบเอ่ย
“อ๊ะ.เอ่อ.ขะ.ขอบคุณนะ” ดิวกัดฟันแกล้งเอ่ยขอบคุณทั้งที่สายตาต่อว่า
“คุณหมอ..งั้นเดี๋ยวผมขับรถไปส่งดีไหม?” เลม่อนรีบเสนอตัว
“เอ่อ..” ดิวหลุดจากอ้อมกอดของฟลุ๊คพยายามหาเรื่องปฏิเสธ ด้วยการมองไปยังแกงส้มกับแฟนหมอของเขาที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไรมึง..พอดีกูต้องไปรับยามาให้น้าพิมที่โรงพยาบาล เดี๋ยวกูขับรถให้คุณหมอเอง...จริงไหมครับคุณหมอ”
ฟลุ๊ครีบเอ่ย ขณะที่หมอดิวรีบหันกลับมามองคนพูดด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่แกงส้มจะตัดสิน
“อ้า...จริงด้วย..งั้นเรารีบไปเถอะ” แกงส้มรีบจัดแจง เพราะดูท่าแล้วน่าจะเคลียร์กันไม่ลงตัวแน่
ทีมหมอหน่วยฉีดวัคซีนที่มาด้วยกัน เดินทางกลับกันหมดแล้วก่อนหน้า จะเหลือแค่แกงส้มกับพี่หมอมานพที่รอดิวกลับลงมากับฟลุ๊ค
และเมื่อตกลงกันได้ทุกคนก็เดินทางกลับ โดยแกงส้มกับแฟนกลับบ้านพัก ในขณะที่ดิวมีฟลุ๊คขับรถให้เพื่อไปรับยามาให้น้าทองต่อ
“อันที่จริง..”
“แล้วอันที่ไม่จริงละ”
ฟลุ๊ครู้ว่าดิวจะหาทางไล่เขากลับ วันนี้ไม่รู้ว่าทำไม หัวใจของเขากลับหึงหวงแฟนเก่าขึ้นมาอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ยิ่งดิวห้ามมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหวงมากเท่านั้น
“ฟลุ๊ค!”
“ครับดิว”
ดิวมองคนขับรถด้วยหัวใจเต้นสั่น ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน แต่ความสงสัยของเขาในตอนนี้ทวีความอยากรู้ จนต้องส่งข้อความปรึกษาแกงส้ม
“ฟลุ๊คมาทำอะไรที่นี่” ดิวเอ่ยถามเสียงแข็ง
“ตามดิวมา”
“ทุกครั้งที่ฟลุ๊คโกหก หูฟลุ๊คจะกระดิก”
เอี๊ยด!! เสียงรถจอดกะทันหัน
แม้กำลังถอยเข้าที่จอดยังไม่เรียบร้อย จากนั้นฟลุ๊คก็หันมามองหน้าคนที่นั่งข้างๆ พลางโน้มใบหน้าเข้าใกล้ จำได้ดีตอนที่คบกัน การที่ดิวพูดเช่นนี้ ทุกๆ ครั้งก็จะจบลงด้วยการถูกฟลุ๊คจูบ จนปากบวมเพราะหาว่าเขาเป็นสุนัข จนเขาต้องกัดปากคนพูดเพื่อแกล้งหยอก
“...อ่ะ..เอ่อ..”
ดิวขยับถอยห่าง แต่ยิ่งถอยอีกฝ่ายก็ยิ่งโน้มกายเข้าใกล้ ขณะที่หัวใจก็เต้นสั่นเป็นรัวกลอง ความคิดสับสนระหว่างปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจกับห้ามปราม
แต่แล้วหัวใจก็ยิ่งหวั่นไหวหนักขึ้น เมื่อไออุ่นลมหายใจ ของผู้ชายที่อยู่ในหัวใจไม่เคยจางโน้มเข้าใกล้ จนดิวต้องรีบหลับตาปรี่ พลีกายและหัวใจ อย่างเผลอไผลไปกับอารมณ์เพียงชั่ววูบ จนคนโน้มเข้าไปใกล้ หัวใจสั่น หวั่นไหวไม่ต่างกัน
แกร๊ก!เสียงเข็มขัดนิรภัยถูกปลดล็อก คือคำตอบทั้งหมด ก่อนที่หมอดิวจะรีบลืมตาขึ้นมาอย่างน่าอายยิ่ง แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็อยู่ตรงหน้า