รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"ถ้าอย่างนั้นเช้านี้กูไปค่ายฝึกซ้อมบอลก่อนนะ ถ้าน้องกลับมาเมื่อไรค่อยโทรหากูล่ะกัน" ก่อนที่พี่ชายของผมจะขึ้นรถทัวร์สองชั้นและปล่อยทิ้งไว้ให้ผมยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมกับพี่เสฉวนและกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ
"..." ผมไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับหันไปมองพี่เสฉวนตาปริบ ๆ ในขณะที่พี่เค้าก็หันมามองผมเช่นเดียวกันแถมยังยิ้มอ่อนที่ทำเอาผมรู้สึกถึงความอ่อนโยนและอบอุ่นอีกด้วย พอไม่ได้เจอพี่เสฉวนเป็นเวลานาน ๆ ก็ทำเอาผมอยากจะทำกับพี่เค้ามากกว่าการกอดด้วยความคิดถึงอย่างไรก็ไม่รู้
และการกระทำของผมก็ไปพร้อมกับความคิดก่อนที่ผมจะโอบคอของคนพี่ในขณะที่พี่เสฉวนก็ก้มลงต่ำเล็กน้อยเพราะความสูงของผมกับพี่เค้าไม่เท่ากันและแน่นอนว่าคนที่ตัวเล็กที่สุดก็หนีไม่พ้นนั่นก็คือตัวผมนั่นเอง
เมื่อพี่เสฉวนยินยอมและไม่ได้ปฏิเสธผมแต่อย่างใดผมก็รุกพี่เค้าด้วยการจู่โจมด้วยจูบ ตอนแรกผมก็คิดว่าจะจูบเบา ๆ อย่างอ่อนโยนหวาน ๆ และผละออกมาแต่กลายเป็นว่าเหมือนผมกำลังถูกกับดักเงียบของคนพี่เพราะเมื่อริมฝีบากของพวกเราสัมผัสกันและกันก็เป็นพี่เสฉวนที่เปลี่ยนรสจูบอย่างกะทันหันโดยที่ผมยังไม่ทันที่จะเตรียมตัวและรสจูบของพี่เค้าก็เน้นร้อนแรงบดขยี้และแลกลิ้นจนผละออกมาเห็นน้ำลายยืดเป็นสาย
"ถ้าพี่หน้าหนากว่านี้พี่คงจะจับน้องหอมกินหน้าบ้านแล้วแหละ หึ ๆ " ได้ยินพี่เค้าว่าอย่างนั้นพร้อมกับสายตาและรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ก็ทำเอาผมหัวใจเต้นแรงราวกับกลองรัวแถมผมยังหน้าเห่อร้อนจนลามไปถึงหูอีกด้วย
"ผะ..ผมว่าพวกเรารีบไปกันเถอะก่อนที่จะไม่ทันถึงงานเอานะ" แล้วรีบเดินออกห่างจากจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เงียบอย่างพี่เสฉวนจนมาถึงยังรถของพี่เค้าด้วยการเดินเปิ่น ๆ จนพี่เค้าถึงกับกลั้นหัวเราะกับความตลกของผม "หัวเราะอะไรครับ ! " แล้วทำหน้างอนจนแก้มป่องเพื่อหวังว่าพี่เค้าจะง้อด้วยคำพูดหวาน ๆ แต่พี่เสฉวนก็ง้อผมจริง ๆ นะแต่ไม่ใช่คำพูดนี่สิ ! แต่เป็นการหอมแก้ม
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมหายโกรธได้ยังไงล่ะทั้งที่อยากเล่นตัวสักหน่อย พี่เค้าจะได้คิดว่าผมไม่ได้ใจง่าย (ผมหมายถึงไม่ได้มอบหัวใจง่าย ๆ นะ)
"งานจัดพรุ่งนี้คร้าบ ! แต่ที่ต้องไปวันนี้ก็เพราะพี่จะซื้อเสื้อตัวใหม่เพื่อเป็นเกียรติให้กับงานและจะได้ไม่ดูเสียมารยาท" อ้อ ผมผงกหัวแทนคำตอบก่อนที่จะถอนหายใจเมื่อความสงสัยภายในใจจบลงก่อนที่จะเอนหลังเพื่อที่จะนอนเก็บแรงเอาไว้แต่ก็ชะงักการหลับอย่างกะทันหันเมื่อได้ยินสิ่งที่คนพี่พูดต่อ "และพี่ก็จะซื้อเผื่อของน้องหอมด้วยนะ"
"ผมไม่ได้แข่งอะไรด้วย ! ทำไมพี่ต้องซื้อเสื้อตัวใหม่ให้กับผมด้วยล่ะ ? เปลืองเงินของพี่เสฉวนเปล่า ๆ และผมก็มีเสื้อเปลี่ยนที่พามาแล้วด้วย" ก่อนที่จะเอากระเป๋ามากอดเพราะกลัวว่าคนพี่จะเอาเสื้อผ้าของผมไปทิ้งจนผมไม่สามารถที่จะพูดได้ว่าเคยมีเสื้อผ้าติดตัวมาแล้วได้อีก
"แต่มันจำเป็นสำหรับพี่" พร้อมกับสีหน้าที่จริงจังของพี่เค้าจนผมถึงกับกลัวใบหน้าของพี่เสฉวนนิด ๆ และระแวงหน่อย ๆ "เพราะพี่จะเปิดตัวน้องหอมให้แฟนคลับรู้ว่าพี่มีแฟนแล้วและไม่ได้มโนขึ้นมาเองเฉย ๆ " ตอนแรกก็จะกลับมาโกรธอีกรอบอยู่หรอก แต่ผมก็ต้องเขินแทนเมื่อได้ยินพี่เค้าว่าอย่างนั้น "และพี่ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไว้กับน้องหอมอีกด้วย" ก่อนที่จะลูบท้องของผมที่ยังคงแบนราบอยู่ในขณะที่ผมยอมให้ลูบและไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ผมถึงกับซึ้งเมื่อพี่เสฉวนพูดมาอย่างนั้นทั้งที่คนที่ผิดมันคือผมคนเดียวแท้ ๆ "นะครับ" แล้วเปลี่ยนสีหน้าเป็นอ้อนเหมือนลูกแมวจนผมถึงกับใจอ่อนอย่างพ่ายแพ้
"กะ..ก็ได้ครับ" พูดตะกุกตะกักก่อนที่จะหันไปมองทางอื่นเพื่อที่จะซ่อนอาการเขินจนแก้มแดงเหมือนลูกท้อของตัวเองแล้วหดคอหนีทันทีเมื่อคนพี่ลูบหัวผมด้วยความเอ็นดู
"ขอบคุณนะ" พี่เสฉวนพูดสั้น ๆ เป็นอย่างสุดท้ายก่อนที่จะออกรถ
จนกระทั่งพี่เสฉวนขับรถมาถึงห้างก็เป็นผมที่ลงจากรถก่อนโดยที่เดินไปรอพี่เสฉวนหน้าประตูห้าง แต่อยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกขนลุกซู่เหมือนมีใครบางคนจ้องผมตลอดเวลา แต่พอหันไปมองรอบตัวก็ไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น สงสัยผมจะคิดไปเองล่ะม้าง ? และพอคนพี่เดินมาหาผมก็เกาะแขนคนพี่แน่นเพื่อให้คนพี่เป็นโล่ปกป้องตัวผมที่เล่นเอาคนพี่ถึงกับยิ้มอ่อนด้วยความงุนงงว่าผมกำลังทำอะไรกันแน่ แต่พี่เสฉวนก็ไม่ได้ถามอะไรผมนะ
เดินในห้างเพื่อดูนั่นดูนี่ไปอย่างชิว ๆ สักพักจนกระทั่งได้มาถึงหน้าห้องน้ำอยู่ ๆ ก็มีใครบางคนมาปิดปากผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปในตรอกโดยที่พี่เสฉวนไม่ทันที่จะรู้ตัวเพราะไม่ได้เดินจับมือกัน ผมที่กลัวจนหัวใจเต้นแรงพยายามที่จะขัดขืนแต่ก็ต้องหน้าแดงแทนเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้ากลับเป็นคุณคาตะ แสดงว่าคนที่จับตัวผมอีกคนต้องเป็นคุณหลี่มินอย่างแน่นอนเพราะสองคนนี้มักอยู่ด้วยกันตลอดเวลา "อย่าส่งเสียงออกมานะครับ" ผมผงกหัวเป็นคำตอบก่อนที่อีกคนจะปล่อยปากผมให้เป็นอิสระแล้วผลิกตัวผมให้ผมเผชิญหน้าและสบตากับเขาโดยตรง "คนเมื่อกี้คือใครเหรอครับ ? "
ผมอยากจะบอกความจริงอยู่หรอกแต่กลัวว่าจะฆ่ากันตายนะสิและผมก็ไม่อยากให้มันกลายเป็นแบบนั้น "พี่ชายนะครับ" พร้อมกับยิ้มหวานให้ดูปกติที่สุด เป็นพี่ชายก็ถูกแล้วเนอะ ? ก็พี่ชายของเพื่อนพี่ชายอีกทีไง ยังไม่ได้แต่งงานก็ยังคงเป็นพี่ชายของผมอยู่ดีที่ถึงแม้ลูกในท้องจะเป็นของพี่เสฉวนก็เถอะ
"อ้ออออ" คุณหลี่มินตอบรับด้วยเสียงลากยาวแสดงว่าผมคิดถูกสินะที่โกหกไปแบบนั้น "แล้วพี่หวงมั้ยเนี่ยเล่นหายไปกะทันหัน" คุณหลี่มินยังมีหน้ามาพูดเหมือนคนดีอีกนะทั้งที่ฉุดผมเหมือนโจรโรคจิตไปเองแท้ ๆ
"เดี๋ยวผมไปบอกพี่ของผมก่อน" แล้วผมก็ยื่นหน้าออกไปก็เป็นอย่างที่ผมคิดเอาไว้เมื่อพี่เสฉวนมองไปรอบ ๆ เพื่อหาผมก่อนที่ผมจะเรียกพี่เค้าเบา ๆ "พี่เสฉวน.." คนพี่ได้ยินผมเรียกก็หันมาพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะเดินมาใกล้ ๆ ผมจนกระทั่งผมต้องรีบห้ามคนพี่เอาไว้ก่อนเล่นเอาพี่เสฉวนถึงกับชะงักเท้าอย่างงุนงง "พี่ไปเลือกเสื้อผ้าก่อนก็ได้นะครับ ผมปวดท้องอยากจะเข้าห้องน้ำเดี๋ยวผมตามไปครับ" พี่เสฉวนได้ยินแบบนั้นก็ผงกหัวก่อนที่จะเดินไปในร้านเสื้อผ้าอย่างที่ผมร้องขอเอาไว้
หันมามองค้อนอย่างหาเรื่องที่คุณหลี่มินถือวิสาสะมาใช้ลิ้นร้อนกับรูสวาทของผมจนเกือบจะความแตก "แฉะแล้วนี่ครับ" พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นจนผมถึงกับโกรธไม่ลงเพราะยังไงผมก็อยากประเดิมเช้านี้ด้วยแท่งไอติมอุ่นของคุณหลี่มินกับคุณคาตะอยู่แล้ว เมื่อคืนสองคนนี้ส่งข้อความมาชวนไปงานเกมที่เป็นที่เดียวกับพี่เสฉวนก็นึกว่าจะได้เจอที่งานไม่นึกเลยว่าจะมาเจอที่ห้างก่อนเร็วขนาดนี้ "ของผมก็พร้อมแวะถ้ำแฉะของคุณหอมแล้วเหมือนกัน" ก่อนที่จะปลดซิปกางเกงของตัวเองลงเพื่อให้ท่อนเอ็นที่ควักออกมาได้สัมผัสกับอากาศของโลกภายนอก
ผมรู้เลยว่าในสายตาที่หวานเยิ้มของคุณหลี่มินหมายถึงอะไรก่อนที่ผมจะกระโดดเกาะตัวเขาเพื่อให้เจ้าตัวอุ้มผมในท่าลิงอุ้มแตงแล้วคุณหลี่มินก็จับไปที่ท่อนเอ็นที่แข็งขืนจนเห็นเป็นเส้นเลือดปูดแล้วจ่อที่รูจีบของผมก่อนที่จะจับสะโพกของผมแล้วกดลงเข้าหาของแข็งที่ทั้งแน่นและอุ่นจนผมถึงกับต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้เสียงครางที่น่าอายเล็ดลอดออกมา แต่ปากของผมก็ไม่ได้แค่กลบเสียงอย่างเดียวเท่านั้นยังต้องสู้และรองรับกับการจู่โจมริมฝีปากของคุณหลี่มินอีกด้วย "ไอ้คาตะ ! เอาน้องของมึงออกนอกกางเกงแล้วตามกูเข้าไปในห้องน้ำ" แล้วคุณหลี่มินก็เดินไปทางห้องน้ำพร้อมกับกระแทกสะโพกเข้ามาเน้น ๆ และถี่ ๆ อีกด้วย
เมื่อมาถึงยังห้องน้ำคนที่ล็อคประตูเอาไว้คือคุณคาตะที่เข้ามาเป็นคนสุดท้ายก่อนที่คุณหลี่มินจะแหวกก้นของผมจนเห็นรูจีบที่แดงเถือกกำลังขมิบสู้กับท่อนเอ็นเหมือนกำลังจะกลืนกินแท่งไอติมอุ่นเข้าไปเป็นอาหารอย่างไรอย่างนั้น "ยังว่างอยู่เข้ามาได้เลยนะ" ได้ยินคุณหลี่มินว่าอย่างนั้นผมถึงกับใจเต้นจนแรงเหมือนกลองรัว ไม่ได้กลัวหรอกนะแต่กำลังตื่นเต้นที่จะได้กินไอติมอุ่นสองแท่งพร้อมกัน
"..." คุณคาตะไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นมีเพียงแค่อาการหน้าแดงและการกลืนน้ำลายลงคอจนผมได้ยินอย่างชัดเจนเท่านั้นก่อนที่จะเดินมาเข้าใกล้ที่ด้านหลังของผมแล้วย่อตัวเล็กน้อยเพื่อต้องการสอดใส่ท่อนเอ็นเข้ามาในผนังเนื้อนุ่มที่เปียกแฉะของผมและเมื่อผมได้สัมผัสกับท่อนเอ็นอีกแท่งที่เข้ามาเสียดสีทั้งผนังเนื้อนุ่มของผมและท่อนเนื้อของคุณหลี่มินก็ทำเอาผมและเขาถึงกับครางออกมาดังลั่นห้องน้ำจนเหมือนเสียงดนตรีที่ประสานเสียงเข้าด้วยกันอย่างลงตัว จากนั้นทั้งคุณหลี่มินและคุณคาตะก็เริ่มขยับสะโพกพร้อมกันอย่างสามัคคีจนผมถึงกับจุกเป็นสองเท่า แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เสียวและฟินเป็นสองเท่าอีกเช่นเดียวกัน
และเพราะทั้งสองคนเพิ่งเคยลองในท่าแบบนี้และยังไม่ได้ชินกับมันจึงทำให้ทั้งคุณหลี่มินและคุณคาตะก็ได้ปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกันหลังจากเพิ่งผ่านเวลาแค่สิบห้านาทีเท่านั้น "ตั้งท้องลูกของผมนะครับ" คุณหลี่มินกระวิบที่ข้างหูผมอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ฟังหรอกเพราะความเสียวมันทำให้ผมหูหนวกชั่วคราว
หลังจากที่เสร็จไปรอบนึงพวกเราสามคนก็กลับมาจัดเสื้อผ้าให้ดูเหมือนเดิมที่สุด "แล้วคุณหอมมาทำอะไรที่ห้างของพวกผมเหรอครับ ? " ได้ยินคุณคาตะว่าอย่างนั้นก็อึ้งเล็กน้อย ถ้ามีพวกเค้าเป็นแฟนก็ดีนะ อยากได้อะไรก็ไม่ต้องเสียเงิน แต่ก็คงไม่วันนี้หรอกเพราะผมยังท้องลูกของพี่เสฉวนอยู่เลย
"มาซื้อเสื้อผ้ากับพี่ชายครับ"
"ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการฉลองที่พวกเราเจอกันและอาจจะสานสัมพันธ์ที่มากกว่านั้น เดี๋ยวผมจะโทรคุยกับพวกลูกน้องว่าถ้าเจอกับพี่ชายของคุณหอมและคุณหอมให้ลดราคาเป็นพิเศษเลย" กำลังจะขอบคุณคุณคาตะแต่คุณหลี่มินดันขัดจังหวะเข้าซะก่อน
"อาจจะอะไร ! " แล้วเข้ามาโอบที่คอของผมพร้อมกับลูบที่หน้าท้องที่แบนราบของผมที่ทำเอาผมถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจแต่ก็ไม่ได้ปัดมือเขาแต่อย่างใดนะ "พวกเราเป็นพ่อของเด็กในท้องแล้วต่างหากต้องให้ฟรีเลยสิ ! นี่เมียและแม่ของลูกเลยนะเว้ย ! " เอิ่ม..ผมอยากจะบอกจังเลยว่าเด็กในท้องไม่ใช่ของพวกคุณ แต่ของฟรีผมก็อยากได้อยู่เหมือนกันนะ ผมไม่บอกดีกว่า
"จริงด้วย ! ลืมไปเลยนะเนี่ย ! " คุณคาตะพูดจบก็กำหมัดแล้วทุบมืออีกข้างเห็นด้วย "เอ่อ...ลืมบอกเรื่องอีกอย่างเลย" มีเรื่องให้อึ้งมากกว่านี้อีก หรอครับคุณคาตะ "งานเกมพวกเราคงไปไม่ได้แล้วล่ะ ขอโทษนะพอดีพวกเรามีงานด่วนต้องทำ" ผมดีใจมากเลยแหละเพราะกังวลอยู่เลยว่าจะทำยังไงดีถ้าเกิดพวกคุณได้ยินคำประกาศของพี่เสฉวนว่าผมเป็นแฟนไม่ใช่พี่ชายอย่างที่ผมเพิ่งโกหกไปเมื่อกี้