รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"มาแล้วเหรอครับน้องหอม ? " ผมผงกหัวแทนคำตอบก่อนที่จะมองกองเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ ๆ พี่เสฉวนที่คนพี่กำลังยืนอยู่ด้วยความงุนงงว่าคนพี่จะไปกี่วันกันแน่ ! ทำไมเสื้อผ้ามันถึงเยอะเหมือนจะย้ายไปอยู่ที่งานเกมส์อย่างไรอย่างนั้นแหละและดูเหมือนว่าสายตาของผมที่มีแต่คำถามมันทำให้พี่เสฉวนดูออกอย่างง่ายดาย "พอดีวันนี้มีส่วนลดพี่เลยกะว่าจะซื้อเยอะ ๆ เพราะกลัวว่าโปรโมชั่นมันจะไปได้อยู่ถาวร แหะ ๆ " พร้อมกับเกาหัวอย่างเขินอายในขณะที่ผมได้แต่เขินเงียบ ๆ กับความเปิ่นของคนพี่
พี่เสฉวนคงไม่รู้ความจริงหรอกว่าโปรโมชั่นที่ว่ามันอยู่ถาวรตลอดชีวิตเพราะผมมีแบ็คอัพที่เป็นถึงเจ้าของห้างถึงสองคนที่ทั้งหล่อและงูใหญ่แถมยังเป็นของนอกอีกด้วยที่ถึงแม้จะเป็นสายเลือดแค่ครึ่งเดียวก็เถอะ
"เอาทั้งหมดนี่เลยครับ" พี่เสฉวนบอกกับพนักงานที่กำลังเดินมาพอดีพร้อมกับยิ้มอ่อนตามมารยาทที่เวลามีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ควรจะมี แต่มันรู้สึกขัดใจสำหรับผมเนี่ยสิ ! ถึงแม้ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เสฉวนเพราะยังไม่ได้แต่งงาน แต่ลูกในท้องก็เป็นลูกของพี่เสฉวนนะนั่นเท่ากับว่าคนพี่มีเจ้าของอย่างผมแล้วไงล่ะ
ยังไม่แต่งก็เป็นแม่ของลูกพี่เสฉวนล่ะวะ !
คนพี่หันมามองผมแล้วยิ้มอ่อนเหมือนกันแต่ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มนี้มันดูจริงใจมากกว่าทำเอาผมหายโกรธพนักงานคนนั้นเลย "ถ้าอย่างนั้นก็ไปเลือกเสื้อผ้าของน้องหอมกันเถอะ" ผมผงกเป็นคำตอบเป็นครั้งที่สองเพราะขี้เกียจพูดแถมยังต้องอดทนเพื่อไม่ให้น้ำกามของคุณหลี่มินและคุณคาตะที่อยู่ข้างในเล็ดลอดออกมาอีกด้วย ต้องขมิตรูก้นให้สุดฤทธิ์แล้วล่ะ !
แต่ถึงจะเป็นเสื้อผ้าของผมก็ตามแต่ถึงจะอย่างนั้นโดยส่วนมากก็เป็นพี่เสฉวนนั่นแหละที่เป็นคนเลือกเองเกือบทั้งหมดแถมยังเป็นเสื้อผ้าที่ปกปิดเกือบทั้งตัวอีกด้วย แค่เห็นแขนคนพี่ก็ไม่เลือกแล้วเรียกได้ว่าเป็นคนที่หวงผมเป็นอันดับสองรองจากพี่ชายของผมเลยทีเดียว
แต่ถึงจะเลือกเสื้อผ้าที่ต้องการได้แล้วแต่ทั้งผมและก็พี่เสฉวนก็ยังไม่แน่ใจว่าผมจะใส่ได้ทั้งหมดรึเปล่า ? จึงต้องลองในห้องเสื้อผ้าจนผมต้องถามคนพี่บ้าง "แล้วพี่เสฉวนไม่ลองเสื้อผ้าของตัวเองหรือครับ ? เผื่อใส่ไม่ได้จะได้เลือกตัวอื่น"
"พี่วัดตัวมาจากที่บ้านแล้ว ใส่ได้ทุกตัวสบายมากและพอดีตัวอีกด้วย" ได้ยินคนพี่ว่าอย่างนั้นผมก็ผงกหัวอย่างเข้าใจทันทีและไม่มีอะไรที่สงสัยอีกแล้วก่อนที่ผมจะเข้าไปในห้องลองเสื้อ
ตัวเสื้อมันก็น่าใส่อยู่หรอกเพียงแต่ว่าผมไม่สามารถใส่มันด้วยตัวเองโดยเฉพาะเสื้อแฟชั่นประหลาดที่กระดุมอยู่ด้านหลังทั้งหมด นี่มันเสื้อคนแน่เหรอ ? คงไม่ใช่เสื้อของหมาหรอกนะ ! ถ้าเป็นเสื้อของหมาจริงหมาตัวนั้นต้องตัวใหญ่มากแน่ ๆ เลย ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดที่ฟุ้งซ่านก่อนที่จะชะเง้อเพื่อมองหาคนพี่ก่อนที่จะเห้นพี่เสฉวนกำลังดูเสื้อผ้าอื่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ชิว ๆ "พี่เสฉวน ! " ผมเรียกคนพี่เบา ๆ แต่มันก็ได้ผลเพราะพี่เสฉวนได้ยินเหมือนมีหูทิพย์อย่างนั้นแหละก่อนที่จะหันมามองผมอย่างมีคำถาม "ผมติดกระดุมด้านหลังไม่ถึง" คนพี่ได้ยินแบบนั้นก็เดินมาหาผมทันทีก่อนที่จะเข้ามาข้างในห้องเสื้อที่ผมอยู่ด้านในด้วย
"แค่ใส่เสื้ออย่างเดียวไม่ต้องติดกระดุมก็ได้มั้งครับน้องหอม" คนพี่ว่าอย่างนั้นในขณะที่สายตามองที่แผ่นหลังที่ขาวเนียนน่าลูบไล้ของผมก่อนที่คนพี่จะกลืนน้ำลายลงคอจนผมยังได้ยินเสียงอย่างชัดเจนเหมือนหัวอะไรสักอย่างอย่างนั้นแหละ
"ก็ถ้าผมไม่ติดกระดุมผมจะรู้ได้ยังไงล่ะว่ามันใส่ได้พอดีจริง ๆ เผื่อ ๆ ตอนยังไม่ติดกระดุมอาจจะพอดี แต่พอติดกระดุมอาจจะเล็กไปก็ได้นะครับพี่" เป็นเสียงบ่นที่ยั่วยวนในเวลาเดียวกันแถมภายในห้องที่แคบเมื่ออยู่ด้วยกันสองคนก็ได้ทำให้แก้มก้นซาลาเปาทั้งสองของผมที่อยู่ในกางเกงบดเบียดและเสียดสีที่เป้ากางเกงของคนพี่ที่จากแบนราบกับตุงขึ้นมาอย่างเร็ว
"พะ..พี่ว่าพี่ออกไปรอด้านนอกจะดีกว่า ! " แต่ผมก็ได้รั้งมือของคนพี่เอาไว้แน่นจนพี่เสฉวนไม่สามารถที่จะก้าวออกมาจากห้องได้แม้แต่นิดเดียว
"ออกไปทั้งที่ยังตุงอยู่ก็ไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ ! " แล้วเอานิ้วกลางและนิ้วนางของคนพี่มาสอดใต้หว่างขาของผมโดยที่มีกางเกงขวางกั้นเอาไว้ "และตอนนี้ผมก็แฉะรอแล้วด้วย" ที่จริงมันเป็นน้ำกามของสองคนเมื่อก่อนหน้านี้ต่างหากที่ออกมาเพราะภายในผนังเนื้อนุ่มถูกแทนที่ด้วยน้ำหล่อลื่นรอบที่สองแล้ว
"แต่ความจะแตกเอานะ"
"ไม่มีใครสนใจหรอกน่า ! หรือพี่จะเบื่อผมแล้ว ? " พร้อมกับบีบน้ำตาให้ดูน่าสงสารที่สุดจนเกือบที่จะต้องให้ขึ้นมาจริง ๆ คงจะอินกับบทบาทของหนุ่มน้อยที่น่าสงสารเพราะโดนรังแกล่ะม้าง ? จนพี่เสฉวนถึงกับร้อนรนแล้วเอาแขนเสื้อมาซับน้ำตาที่อยู่หางตาของผมให้หมดอย่างกับพระเอกในละครหลังข่าว
"ไม่ร้องนะครับน้องหอม" พร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนที่เห็นกี่ทีก็รู้สึกหวงจนไม่อยากให้คนอื่นเห็นนอกจากผมคนเดียวเท่านั้น
ผมลองลูบที่เป้ากางเกงที่ตุงของคนพี่เพื่อดูปฏิกิริยาว่าคนพี่จะปฏิเสธผมอยู่อีกรึเปล่าและเมื่อสัมผัสได้ว่าคนพี่ยอมให้จับ ผมก็ค่อย ๆ ปลดซิปกางเกงของคนพี่ลงก่อนที่จะดึงขอบกางเกงในสีแดงเพื่อต้องการให้งูตัวใหญ่โผล่ออกมานอกกางเกงในและเมื่อท่อนเอ็นได้สัมผัสกับโลกภายนอกมันก็แข็งตัวเต็มที่จนถึงขั้นมีเส้นเลือดปูดออกมารอบแท่งและเห็นได้อย่างชัดเจน ผมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และอารมณ์ดี จากนั้นผมก็หันหลังให้กับพี่เสฉวนอีกรอบก่อนที่จะถกกางเกงของตัวเองพร้อมกับชั้นในจนเผยให้เห็นแก้มก้นซาลาเปาที่ขาวเนียนน่าขยำและตรงกลางก็เป็นร่องก้นที่มีผิวเป็นสีชมพูเข้มและรูจีบที่แดงเถือกกำลังขมิบเปิดปิดที่มาพร้อมกับความเปียกแฉะยืดเป็นสาย จับท่อนเอ็นของคนพี่ให้ตรงกับรูก่อนที่จะกดสะโพกด้วยตนเองจนมิดด้ามจากนั้นก็ขยับสะโพกขึ้นลงเป็นจังหวะจากการที่เคยเรียนรู้จากวิชาเพศศึกษาทางหนังสือที่เล่นเอาคนพี่ถึงกับครางด้วยเสียงหล่ออย่างพอใจจนผมยกยิ้มอย่างดีใจที่ความรู้สามารถใช้ประโยชน์ได้สักทีจนผมเริ่มเร่งเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมจนเป็นผมเองนั่นแหละที่เริ่มร้องครางด้วยเสียงหวานออกมาบ้าง
จนกระทั่งผมทนไม่ไหวจนถึงกับต้องเอามือที่ยันกระจกมานองรับน้ำกามที่กำลังจะแตกและเมื่อน้ำกามเต็มมือผมก็ต้องฝืนกินมันอย่างช่วยไม่ได้เพื่อลบหลักฐานที่อาจจะทำให้ความลับแตก แต่ถึงแม้มันจะมีรสชาติที่ไม่ค่อยถูกใจผมมากเท่าไรแต่ไม่รู้ว่าผมคิดฟุ้งซ่านไปเองคนเดียวรึเปล่าเพราะหลังจากที่ผมกินน้ำของตัวเองก็รู้สึกคึกมากกว่าเดิมเหมือนกับกินยาปลุกเซ็กส์อย่างนั้นแหละ
ผมเพิ่มระดับความแรงของการขยับสะโพกมากกว่าเดิมจนพี่เสฉวนต้องยั้งแก้มซาลาเปาของผมเอาไว้อย่างกะทันหันจนผมถึงกับงุนงงว่าคนพี่จะหยุดทำไมก่อนที่ผมจะได้คำตอบว่าพี่เสฉวนกำลังน้ำแตกเข้ามาในร่างกายของผมจนผมรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่อยู่ในท้องของผม "สงสัยตัวอื่นคงไม่จำเป็นต้องลองแล้วมั้งครับ แฮ่ก ๆ ถ้าลองอีกที่เท่ากับหนึ่งรอบ สงสัยพี่คงจะฟ้าเลืองไปก่อนแน่เลย" ได้ยินคนพี่ว่าอย่างนั้นผมถึงกับกลั้นหัวเราะ
"อุ๊ป ! อย่างที่พี่เสฉวนว่านั่นแหละครับ ฮะ ๆ "
หลังจากที่จัดเสื้อผ้าให้กลับมาเหมือนเดิมที่สุดทั้งผมและคนพี่ก็ได้นำเสื้อผ้าให้กับพนักงานเพื่อที่จะไปจ่ายเงินและราคาก็แสนถูกจนพี่เสฉวนยังตกใจเพราะเสื้อผ้าที่ซื้อมันเกือบร้อยกว่าตัวเลยนะ แต่ผมคิดว่าราคานั้นอาจจะเป็นเสื้อผ้าของพี่เสฉวนคนเดียวไม่ได้รวมเสื้อผ้าของผมด้วยอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะไม่ได้พูดแค่ปากเปล่าแฮะ พูดว่าฟรีก็ได้เสื้อผ้าเป็นของฟรีจริง ๆ ด้วย
พอซื้อเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ต้องซื้อของกินรองท้องและแน่นอนว่าของคนพี่ได้ส่วนลด ส่วนของผมได้ฟรีอีกเช่นเดียวกัน ถึงแม้สองคนนั้นจะลำเอียงไปหน่อยแต่ผมก็เข้าใจนะว่าพี่เสฉวนไม่ได้เป็นเมียของสองคนนั้นสักหน่อย แต่เป็นผมคนเดียวต่างหาก นี่ขนาดยังไม่ได้มีลูกด้วยกันยังขึ้นสถานะเป็นเมียเลยแล้วถ้ามีลูกกันจริง ๆ ผมคงไม่ได้เป็นเจ้าของห้างอีกคนหรอกนะ ?
พี่เสฉวนขับมาถึงยังโรมแรมก็นึกว่าจะต้องคุยกับพนักงานที่เคาน์เตอร์ในเรื่องขอค้างคืนอละผมจะได้มีเวลาออกมานอกโรงแรมมาดูวิวที่ทะเล แต่กลายเป็นว่าผมได้เห็นวิวภายในเสี้ยววินาทีก็เท่านั้นเพราะคนพี่ได้จองห้องทางออนไลน์เอาไว้ล่วงหน้าแล้วจนผมถึงกับเซ็งและผมก็ไม่กล้าขออีกด้วยเพราะพี่เสฉวนหน้านิ่งเหมือนคนอารมณ์ไม่ดีอย่างนั้นแหละ
"พี่เสฉวนโกรธผมเรื่องก่อนหน้านี้เหรอครับ ? " ถามคนพี่ในขณะที่เจ้าตัวกำลังจะแสกนบัตรเพื่อที่จะเปิดประตูห้องก่อนที่คนพี่จะพยายามฝืนยิ้มเหมือนกำลังอดทนจากอะไรสักอย่างและดูเหมือนจะทรมานอีกด้วยจนผมรู้สึกเป็นห่วงจนน้ำตาไหลออกมาเองจากหางตา
แต่คนพี่ก็ได้ทำให้ผมหายเศร้าอย่างรวดเร็วโดยการลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน "พี่ไม่ได้โกรธน้องหอมเลยนะครับ" พูดจบอยู่ ๆ พี่เสฉวนก็หน้าแดงจนลามไปถึงหูเหมือนพี่เค้ากำลังคิดในเรื่องสิบแปดบวกอย่างนั้นแหละ "ที่จริงแค่รอบเดียวพี่ไม่ค่อยจุใจเท่าไรจนน้องของพี่มันตื่นขึ้นมาอีกแล้ว น้องหอม..เอ่อ..พอจะช่วยพี่อีกสักรอบได้มั้ยล่ะครับ ? แฮ่ม ! "
ได้ยินคนพี่ว่าอย่างนั้นผมก็เข้ามาควงแขนของพี่เค้าทันทีอย่างดีอกดีใจสุด ๆ "มากกว่านั้นผมก็ทำให้พี่เสฉวนได้คร้าบ ! " ก็ผมเป็นของพี่เสฉวนมาตั้งนานแล้วนี่นา ไม่กล้าบอกเลยว่าผมเป็นเมียและแม่ของลูกพี่เสฉวนแล้วเพราะมันน่าอายสำหรับผมเกินไป
ทำไมคำพูดบางคำมันถึงได้น่าอายกันนะ แต่การกระทำบางอย่างกลับไม่ได้น่าอายสำหรับผมเลยซะอย่างนั้น
หลังจากที่พี่เค้าเปิดประตูเข้ามาได้แล้วพี่เสฉวนก็โยนกระเป๋าและเสื้อผ้าลงพื้นพรมในห้องทั้งหมดก่อนที่จะมาปิดประตูและล็อคห้องอย่างแน่นหนา จากนั้นก็มาอุ้มผมในท่าลิงอุ้มแตงโดยที่ให้แผ่นหลังของผมแนบชิดกับผนังเอาไว้ "วันนี้น้องหอมน่ารักเป็นพิเศษสำหรับพี่เลยนะครับ" เจอคำชมจากคนพี่ผมถึงกับหน้าเห่อร้อนก่อนที่ผมจะให้รางวัลโดยการยื่นหน้าไปจุ้ปที่ริมฝีปากบางของพี่เสฉวนที่ทำเอาคนพี่ถึงกับคึกแล้วประคองที่หลังของของผมพร้อมกับบดขยี้ริมฝีปากที่อวบอิ่มของผมอย่างร้อนแรงเหมือนจะกินริมฝีปากของผมอย่างนั้นแหละจนผมเผลอเผยอปากเปิดโอกาสให้คนพี่ส่งลิ้นร้อนเข้ามาเพื่อที่จะโกบโกยความหวานหอมแถมยังมาหยอกล้อกับลิ้นของผมอีกด้วยจนกระทั่งผละปากออกจนน้ำลายยืดเป็นสาย
จากนั้นพี่เค้าก็อุ้มผมมาที่เตียงจนผมคิดว่าพี่เค้าอาจจะเล้าโลมที่ซอกคอผมด้วยท่าที่นอนหงาย แต่กลายเป็นว่าผมอยู่ด้านบนแทนซะอย่างนั้น "พี่ชอบท่านี้จัง ? มันเรียกว่าท่าอะไรนะครับ ? " เจอคำถามนี้พร้อมกับรอยยิ้มหล่อกนะชากใจเข้าไปก็ทำเอาผมหัวใจเต้นแรงเหมือนกันนะ
"นะ..นารีขย่มตอครับ" โครตอายเลยเว้ย !
"เหรอครับ ? ถ้าอย่างนั้นพี่จะจดจำเอาไว้นะครับ เผื่อเวลาพี่ต้องการจะได้เรียกถูก" แล้วยิ้มหล่ออีกรอบที่คราวนี้ตาเป็นสระอิ
"พะ..พี่ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นเพื่อผมก็ได้ แค่พี่อยากทำผมก็สนองแล้วล่ะครับ" ประโยคนี้ก็โครตจะน่าอายเหมือนกันจนผมรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้วเนี่ย !
ตอนแรกก็อยากจะเล้าโลมอยู่หรอกแต่อยู่ ๆ คนพี่ก็ดันเปลี่ยนใจอยากจะกินผมเร็วขึ้นซะอย่างนั้นก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อที่จะถอดกางเกงพร้อมกับชั้นในจนผมต้องลุกขึ้นออกมาจากเตียงเพื่อที่จะถอดกางเกงพร้อมกับชั้นในเช่นเดียวกัน จากนั้นผมก็ขึ้นมาบนเตียงอีกครั้งเพื่อที่จะนั่งบนตัวของคนพี่ในขณะที่ท่อนเอ็นของพี่เสฉวนกำลังแข็งตั้งตรงเป็นเคารพธงชาติรอเอาไว้แล้ว ผมจับไปที่น้องชายของคนพี่ก่อนที่จะจ่อให้ตรงกับรูจีบที่แฉะเพราะน้ำกามรอบแรกอีกเช่นเคยแล้วกดสะโพกทีเดียวจนมิดด้านทันทีเพราะผมไม่กลัวกับความเจ็บอีกต่อไปแล้ว แฉะซะขนาดนั้นถ้ามันเจ็บขึ้นมาผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว
ผมขย่มสะโพกขึ้นลงพร้อมกับบดเบียดด้วยความยั่วยวนไปด้วยจนคนพี่ถึงกับทนไม่ไหวต้องยกสะโพกขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มความเสียวให้กับผมไปด้วยจนผมทนไม่ไหวกับความจุกที่ท่อนเอ็นเข้ามาลึกจนเกินไปจนกระทั่งผมถึงกับน้ำแตกจนกระเด็นเลอะเสื้อของพี่เสฉวนเป็นดวง ๆ "ซี๊ดดด ข้างในตอดน้องชายของพี่เก่งมากเลยจนพี่จะทนไม่ไหวเหมือนกันแล้วล่ะเนี่ย อึก ! " และมันก็เป็นอย่างที่พี่เค้าได้พูดเอาไว้ก่อนที่พี่เสฉวนจะปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นเข้ามาในร่างกายของผมอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง
และรอบที่สามผมก็อยากลองท่าที่ตัวเองชอบบ้างอย่างเช่นท่าด็อกกี้โดยที่ผมเอามือทั้งสองไปเก่าขอบหน้าต่างเอาไว้โดยที่ผ้าม่านยังไม่ได้ปิดด้วยซ้ำ "ปิดผ้าม่านมั้ยครับ ? " พร้อมกับทำอย่างที่ปากพูดจนผมได้ห้ามเอาไว้เพราะอยากดูวิวของห้องอื่นโดยที่มีสระว่ายน้ำกั้นเอาไว้และยังไงคนอื่น ๆ ก็คงจะไม่สงสัยเพราะทั้งผมและพี่เสฉวนไม่ได้ถอดออกมาหมดทั้งตัวสักหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นคนพี่ก็ดันจะอายอีกจนผมบอกว่าปิดแค่คนพี่อย่างเดียวก็พอ
แต่ความคิดมักจะสวนทางผมเสมอเมื่ออยู่ ๆ ก็มีเด็กสองคนกำลังเดินผ่านทางห้องของผมพอดีแถมเด็กสองคนนั้นยังสบตากับผมอีกด้วยจนผมต้องยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตรภายในเวลาแค่สามวินาทีเท่านั้นก่อนที่จะเปลี่ยนสีหน้าเหมือนคนขี้เงี่ยนเพราะตอนนี้คนพี่ได้เอาดาบกลับเข้าฝักอีกรอบแล้วแถมยังชักเข้า ๆ ออก ๆ อีกด้วยจนผมทนไม่ไหวต้องร้องครางออกมาแถมยังหน้าแดงอีกด้วย แน่นอนว่าเสียงที่กระเส่านั้นได้ปลุกสัญชาตญาณที่นอนสงบนิ่งของเด็กชายทั้งสองตื่นขึ้นมาจนทั้งสองคนถึงกับเอามือมากุมที่เป้าของตัวเองเอาไว้อย่างเขินอายก่อนที่จะเดินโค้งตัวเป็นกุ้งกลับไปยังห้องพักของตัวเอง
ถึงแม้ผมจะบอกว่าเป็นเด็กน้อยก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้อายุน้อยขนาดนั้นและถ้าดูจากสายตาก็คงจะสามารถเป็นพ่อของลูกได้แล้วล่ะ (เด็กน้อยสำหรับผมเอาไว้ใช้กับคนที่อายุน้อยกว่า) แถมยังหน้าตาดีจนผมรู้สึกอยากลิ้มลองรสชาติที่สดใหม่ของนมข้นอีกด้วย สงสัยผมต้องหาโอกาสปฏิสัมพันธ์ในเรื่องเพศกับพวกเขาสองคนแล้วล่ะและมันก็ยังเป็นการเรียนรู้ที่จะทำให้ทั้งสองคนนั้นเชี่ยวชาญในเรื่องนี้แล้วสามารถเอาไปใช้ในอนาคตกับแฟนตัวเองได้
แต่จะมีแฟนได้ก็ต่อเมื่อหลังจากที่ผมมีลูกที่น่ารักกับพวกเขาทั้งสองคนแล้วล่ะนะ (ถ้าเป็นไปได้)