'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย} - ๓/๒ ความประทับใจครั้งแรกพบ โดย ปรมปุณณ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค,วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

ผู้แต่ง

ปรมปุณณ

เรื่องย่อ

❝รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ❞

(สำนวนสุภาษิต) มีความหมายว่า รักจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ให้ตัดความอาฆาตแค้นออกไป รักจะอยู่กันสั้น ๆ ให้อาฆาตพยาบาทเข้าไว้.

รักสั้นนั้นให้รู้อยู่เพียงสั้น  

รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย

มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย    

 แหงนดูฟ้าอย่าให้อายเทวดา 

(อิศรญาณภาษิต)

............................



ที่ผ่านมาชีวิตของ 'น่านนที' ดำเนินมาอย่างสงบสุขที่ชนบทในฐานะเด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วชีวิตปรกติสุขของเขาถึงเวลาต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้รับจดหมายเชิญตัวเข้าไปอยู่ในรั้วในวัง จากเด็กหนุ่มบ้านนอกกลายเป็นสะใภ้เจ้าตามเงื่อนไงบนพินัยกรรมของหม่อมเจ้าประพัทธ์ ใครจะคิดว่าชีวิตของเขาที่นั้นจะได้รับการต้อนรับไม่ต่างไปยิ่งกว่าทาส ทุกคนเฝ้าแต่จะดูหมิ่นถิ่นแคลนโขลกสับ โดยเฉพาะพ่อหม่อมราชวงศ์คู่หมาย งานนี้น่านนทีจะต้องรับมืออย่างไรให้ไหว!

"น่านนที ไอ้บ้านนอก ถ้านายคิดจะอยู่ที่วังนี้เพื่อหวังฮุบสมบัติของท่านพ่อแล้วล่ะก็ ฉันบอกให้เลยว่าอย่าหวัง นายจะไม่ได้สักแดงเดียว ไสหัวไปจากที่นี่ซะ"

"ขอบคุณที่เรียนให้ทราบนะครับ แต่ไม่ดีกว่า ผมไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะยังไงสมบัติทั้งหมดก็จะตกเป็นของผมเอง ถ้าคุณชายทำตามเงื่อนไขไม่ได้"

"นี่นาย! ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปเถอะ จ้างให้ฉันก็ไม่มีวันหลงผิดไปรักเด็กกระจอก ๆ อย่างนาย!"

"อืม ครับ ผมก็เช่นกัน"

"ฉันจะฟ้องหม่อมแม่!"


⚠️ นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามคัดลอก ทำการดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่ง ส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าของผลงาน การกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือ เป็นการละเมิดสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สารบัญ

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๑ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๒ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๑ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๒ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๑ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๒ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๑ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๒ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๑ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๒ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๑ ขิงก็ราข่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๒ ขิงก็ราข่่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๑ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๒ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๑ ชีวิตคู่ที่จับพลัดจับผลู,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๒ (อ่านล่วงหน้า08/08/67) ชีวิตคู่ที่จับพลัดจัยผลู

เนื้อหา

๓/๒ ความประทับใจครั้งแรกพบ

สองหนุ่มน้อยเจ้าของหน้าตาใสซื่อยังคงอึ้งและทึ่งให้กับความศิวิไลซ์ของบ้านเมืองทั้งสองข้างทางไม่หยุด ตลอดระยะเวลาสองวันที่เดินทางจากเมืองน่านลงมายังบางกอกนี้ล้วนแต่ผ่านที่ไหนต่อที่ไหนมาก็เยอะ แต่ที่สะดุดตาจริง ๆ เห็นจะเป็นพระนครแห่งนี้

บางกอกซิตี้ ดินแดนแห่งความเจริญรุ่งเรือง

คำปันและน่านนทีต่างจ้องมองไปรอบทิศผ่านกระจกใสภายในตัวรถทั้งซ้ายและขวา เมื่อยามที่กำลังเคลื่อนล้อเข้าสู่ถิ่นสถานใหม่ ภาพที่บังเกิดในม่านตานั้นช่างอลังการและแปลกใหม่สำหรับคนนอกเมืองอย่างพวกเขาเหลือเกิน จะนับว่าเป็นบุญตาก็ยังได้

“ป๊าดโท๊ะ! เฮือนอะหยังมาหลังใหญ่แต๊ใหญ่ว่าจะอี้ เกิดมาบ่เกยหัน” คำอุทานตลึงงันของคำปันบ่งบอกถึงความประหลาดใจและตื่นเต้นต่อสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่าวังเบื้องหน้า

น่านนทีสะกิดเพื่อนเบา ๆ ให้รักษาอาการลิงโลดจนเกินงาม เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาทกับผู้ใหญ่ในรถ ถึงท่านจะไม่ว่าอะไร แต่เขาคิดว่าคนที่มาพึ่งใบบุญเขาอยู่ควรรักษามารยาทให้ดี

ล้อรถยนต์หรูยังคงหมุนดำเนินต่อไปผ่านเส้นถนนที่ทอดยาวสู่ตัวอาคารใหญ่ ข้างสองฝั่งทางมีทุ่งหญ้าเขียวขจีที่ประดับประดาด้วยดอกไม้เป็นพุ่ม สีสันสวยงามเข้ากันกับมวลหมู่ผีเสื้อที่บินว่อนอยู่รายล้อม สลับกับรูปปั้นหินปูนสีขาวศิลปะกรีกที่เรียงรายอยู่รอบอ่างน้ำพุที่ปล่อยสายน้ำพุ่งสู่ท้องฟ้าแล้วตกลงมาเป็นประกายเมื่อกระทบกับแสงแดด

น่านนทีไม่เคยพบเห็นแบบนี้มาก่อน ที่ที่เขาจากมามีเพียงน้ำที่ตกลงจากยอดเขา น้ำพุ่งสู่ฟ้าเห็นจะไม่มี

ความตกตะลึงงันยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น เมื่อตัวรถจอดสนิทลงที่หน้าประตูใต้ระเบียงตำหนักใหญ่ มองมาแต่ไกล ๆ ยังรับรู้ได้ว่ามันใหญ่โตโอ่อ่าสักแค่ไหน ทว่าเมื่อได้มามองระยะใกล้ก็ต้องยอมรับในความมโหฬารของที่นี่

วังประภากรอมรนิวาสราชบดินทรางกูรราชวรมหาพิมานสถานภิรมย์ปลูกสร้างขึ้นโดยรับสั่งจากเสด็จฯต้นราชสกุลเพื่อประทานให้แก่หม่อมเจ้าชายประพัทธ์ เมื่อปีพุทธศักราช๒๔๖๓ โดยจำลองสถาปัตยกรรมแบบบารอกมาจากพระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส ทุกรายละเอียดในศิลปะนั้นคล้ายคลึงกับต้นฉบับราวกับยกมาตั้งไว้ เพียงแต่มีขนาดที่ย่อมลงมาสักเล็กน้อย ทว่ายังคงวิจิตรงดงามและน่าภิรมย์สมกับชื่อของวัง

“น่านนที พาเพื่อนตามอาเข้าไปด้านในนะ” ท่านชายปพนตรัส ก่อนจะสาวบาทนำหน้าเด็กหนุ่มทั้งสองเข้าไปภายในตัวตำหนัก

คนฟังตงิดใจกับครับว่า‘อา’ ทำไมท่านถึงต้องแทนตนแบบนั้นกับเขาด้วย เขาก็แค่เด็กคนงานคนหนึ่งไม่ใช่หรือ

มัวแต่สงสัย จนผู้ใหญ่นำหน้าไปไกลแล้ว ที่นี่มีพื้นที่ใหญ่กว้างมาก น่านนทีเกรงว่าหากตามเข้าไปช้าอาจหลงทาง ตามหาท่านชายไม่พบได้ เขาจึงรีบตามเข้าไป จะเผลอวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้อีก กลัวว่าของเขาจะชำรุดเสียหาย ราคาน่าจะไม่ใช่น้อย ๆ

หม่อมเจ้าชายปพนเสด็จไปประทับนั่งลงบนโซฟาสีทอง ด้านข้างมีผู้หญิงนั่งอยู่สามท่าน น่านนทีคะเนว่าน่าจะเป็นภรรยาและลูกสาวของท่านที่พาเขามา หากแต่คาดเดาจากใบหน้าบอกบุญไม่รับของพวกเธอทั้งสามแล้วนั้น ช่างต่างจากสามีเหลือเกินในความคิดของน่านนที

ด้วยความที่เป็นเด็ก และคิดว่าตนเป็นเพียงคนงาน เขาจึงยอบเข่านั่งลงบนพื้นพร้อมกับเพื่อน ก่อนที่ท่านชายจะตรัสขึ้น

“น่านนทีไม่ต้องนั่ง…”

ทว่าหม่อมใหญ่ดันแทรกขึ้น ก่อนวาจาของท่านชายจะตรัสจบ เหมือนหล่อนรู้จุดประสงค์ของอีกคน “ให้นั่งนั่นแหละเพคะ ท่านพน เหมาะสมที่สุดแล้ว”

ท่านชายปพนไม่นำพาในกิริยาวาจาของหม่อมใหญ่ ตรัสกับเด็กทั้งสองด้วยสุรเสียงอันมีเมตตาว่า “ไหว้หม่อมท่านกับคุณหญิงท่านสิลูก”

“กราบเพคะ ไม่ใช่แค่ไหว้” หม่อมใหญ่แย้ง

คุณหญิงโฉมจึงแสดงความเห็นชอบด้วย “ใช่เพคะ อย่างมันต้องกราบเท่านั้นเพคะท่านอา”

น่านนทีฟังน้ำเสียงที่พวกผู้หญิงเหล่านี้ใช้เปล่งวาจาออกมาแต่ละประโยคแล้ว ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่าช่างต่างกับท่านชายอีกองค์เหลือเกิน หลวงปู่สอนเสมอว่าให้ซื่อสัตย์และเคารพต่อผู้มีบุญคุณ แต่นี่… เพิ่งจะพบหน้ากันหยก ๆ มีบุญคุณอะไรให้กราบได้ น่านนทีขอขัด ไม่ทำอย่างที่พวกเธอต้องการ

“สวัสดีครับคุณ ๆ ทั้งสาม” เขาเพียงไหว้เท่านั้น แต่ไม่รู้จะแทนชื่อพวกเธอว่าอย่างไร จึงใช้คำที่คิดว่าสุภาพที่สุดแทนไปก่อน แต่แล้ว ผู้หญิงพวกนั้นกลับหัวเราะเยาะออกมาราวกับว่าพวกเธอเสียสติไปแล้ว

“ดูสำเนียงของมันสิคะ หม่อมแม่ บ้านน๊อกบ้านนอก” คุณหญิงอรกลั้นขำไว้ แล้วพ่นคำดูถูกเหยียดหยามออกมา

“ใช่จ้ะหญิงอร” คุณหญิงโฉมเห็นงามตามไปด้วยคน

“กองไว้ตรงนั้นเถอะย่ะ ท่านพนเพคะ คนไหนล่ะเพคะ ลูกนังวันแรม ไอ้นี่ หรือไอ้นั่น” หม่อมใหญ่เอ่ยถามอย่างกักขฬะ พลางกระดกนิ้วชี้ไปทีละคนประหนึ่งเห็นเป็นสิ่งของ

“หม่อมโปรดพูดจาให้เกียรติกว่านี้หน่อยเถอะ เป็นถึงเมียเจ้า” ท่านชายปพนทรงส่ายเศรียรเหนื่อยใจกับพี่สะใภ้ ก่อนตรัสอธิบาย เด็กคนนี้น่านนที เกิดกล้า ลูกของวันแรม ส่วนคนนั้นชื่อคำปัน เป็นเพื่อนของเขา ฝากหม่อมอุปการะด้วยคน”

“เรื่องอะไรมาโยนให้เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันล่ะเพคะ แค่ลูกนังวันแรมคนเดียว หม่อมฉันก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว นี่ยังรับเด็กที่ไหนไม่รู้มาอีก เบื่อจะพูด”

“คำปันนี่เขาก็มาเป็นเพื่อนกัน หม่อมก็หาตำแหน่งงานให้เขาทำไป แต่ที่สำคัญคือน่านนที ฉันหวังว่าหม่อมจะจัดการให้เป็นไปตามเงื่อนไข ไม่บิดพลิ้วนะ”

“ไม่แน่นอนเพคะ” หล่อนรับคำ วังนี้จะตกเป็นของหล่อนได้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขในพินัยกรรมของท่านชายประพัทธ์ลุล่วงไปด้วยดีเท่านั้น ดังนั้นหล่อนไม่ยอมเสียมันไปเพราะเด็กบ้านนอกแค่คนเดียวแน่

แต่… คำว่า‘ไม่แน่นอน’ของหล่อนมีสองความหมาย แล้วมันคือแบบไหนกันล่ะ

น่านนทีนั่งฟังจับใจความอย่างสงบเสงี่ยม เขาไม่เข้าใจที่คุณ ๆ พูด ทำไมตกยกเขาให้สำคัญด้วย เขาเป็นใคร ก็แค่คนมาขอทำงาน และอีกอย่าง พวกเขารู้จักชื่อแม่ของตนได้อย่างไร ข้อนี้น่านนทีก็ยังเคลือบแคลงใจ

“เอาเป็นว่าหม่อมเตรียมห้องหับไว้แล้วใช่หรือไม่”

“เรียบร้อยเพคะ แต่นึกว่าจะมาแค่คนเดียว อีกคนหม่อมฉันให้ไปอยู่กับพวกคนสวนท้ายวังแล้วกันนะเพคะ” จบคำ หล่อนก็แสยะยิ้ม ใครจะรู้ว่าห้องที่หล่อนเตรียมไว้ให้น่านนทีนั้นรกอย่างกับรังหนู แคบเท่าที่แมวดิ้นตาย หล่อนไม่มีทางอำนวยความสะดวกให้กับคนที่หล่อนไม่ยอมรับแน่

“ได้ น่านนที อยู่ ๆ ไปก่อนนะ อีกไม่นานก็ต้องย้ายไปอยู่ห้องใหม่อยู่ดี ลูกจะได้อยู่ที่วังนี้ทัดเทียมกับทุกคน” ท่านชายตรัส

หม่อมใหญ่ตาโตทันที “นี่หมายความว่าอย่างไรเพคะ ย้ายห้อง”

“หม่อมก็รู้นี่ ว่าต้องย้ายไปอยู่กับใคร” ท่านชายตรัสอย่างรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของพี่สะใภ้ “ถ้าอย่างนั้น น่านนทีกับคำปันไปพักผ่อนเถอะ มาเหนื่อย ๆ ฉันเองก็จะกลับแล้ว”

“ครับ” ทั้งสองหนุ่มจากเมืองน่านขานรับพร้อมกัน

“สมร ช่วยนำสองคนนี้ไปห้องพักทีสิ” หม่อมใหญ่สั่งนางคนสนิท แสร้งเป็นยินดีต้อนรับต่อหน้าน้องสามีอย่างขอไปที







ผู้หญิงสูงวัยคนนั้นพาพวกเขาทั้งสองไปส่งถึงที่พัก คำปันอาศัยอยู่กับกลุ่มคนสวน ส่วนน่านนทีอยู่บนตำหนักใหญ่ ทว่าห้องของเขานั้นกลับเป็นจุดที่แย่ที่สุดบนตำหนัก เหมือนจะแกล้งกันชัด ๆ แต่เขาไม่หวั่นใจไปกับปัญหาแค่นี้หรอก ลำบากกว่านี้ก็เคยสู้มาแล้ว

หลังจากที่น่านนทีทำความสะอาด จัดที่หลับที่นอนภายในห้องของตนเสร็จ เขาก็ขอลงมาหาเพื่อนที่ท้ายวังเสียหน่อย อยู่บนตำหนักนั้นนาน ๆ รู้สึกใจผวาอย่างไรชอบกล แม้กระทั่งระหว่างที่เดินมาตามทาง ทั้งหญิงทั้งชายบริเวณนั้นยังส่งสายตาดูถูกมาให้กันเป็นแถว

คงต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก เผื่อบางทีเขาจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและพวกคนในเมืองได้ น่านนทีคิดแบบนั้น และหวังให้เป็นจริงดังคิด

เด็กหนุ่มเดินก้มหน้าไปตามทางเพื่อมุ่งสู่ที่พักของคำปัน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็บังเกิดขึ้น ร่างสูงโปร่งเสียหลักล้มลงกับพื้นเพราะศีรษะโดนกระแทกจากวัตถุบางชนิด

มันเร็ว แรง แกร่ง เป็นลูกกลม ๆ มีลมข้างใน น่านนทีไม่รู้จัก ได้แต่จับมันขึ้นมามองอย่างสงสัย ไม่รู้หล่นมาจากไหน แต่ช่างมาโดนเข้าตรงศีรษะอย่างจัง เจ้าตัวยืนมึนหัวอยู่กับวัตถุประหลาดอยู่นาน ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“นี่! ไอ้จับกัง ส่งฟุตบอลคืนมาให้ฉันสิวะ ยืนซื่อบื้ออยู่ได้”

เป็นเสียงผู้ชาย แต่งตัวดีเหมือนหน้าตา แต่เสียงพูดช่างไม่เสนาะหูเอาเสียเลย

น่านนทียังคงงุนงง ไม่มั่นใจว่าเขาคนนั้นกำลังสื่อสารกับตัวเองอยู่หรือเปล่า “ฮะ? อะหยังของเปิ้น”

“นายนั่นแหละ ส่งฟุตบอลคืนมา ไม่อย่างนั้นฉันจะฟ้องหม่อมแม่ให้ไล่นายออก”

คนฟังยังนิ่งฉงน ทั้งเจ็บหัวไม่หาย ทั้งไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูด ส่งบอนคืนอย่างนั้นหรือ เขาไม่เห็นจะมีต้นบอนอยู่แถวนี้สักต้น ผู้ชายหน้าตาดีคนนั้นต้องการอะไรกันแน่

“โธ่เอ๊ย! ฟังไม่เข้าใจเหรอวะ” คุณชายคนโตของวังใจร้อน ยิ่งพูดยิ่งเสียอารมณ์ เขาไม่รอช้า รีบวิ่งเข้ามาใกล้คนที่ยืนไม่รู้เรื่องอยู่

พอถึงตัว ชายหนุ่มก็แย่งลูกฟุตบอลกลับมา แล้วออกแรงผลักคนที่ตัวเล็กกว่าให้ล้มลงทันที “สมน้ำหน้า! ใครบอกให้นายอยากโง่เอง”

“โอ๊ย!” น่านนทีล้มก้นจ้ำเบ้า ฝ่ามือไปโดนกิ่งไม้ขูดทำให้เลือดซึมออกเล็กน้อยพร้อมรอยถลอก “นี่คุณ มีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายผม”

“โง่เหรอ ถึงไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ก็สิทธิ์ลูกชายเจ้าของวังน่ะซี” คุณชายเมศวร์ตอบแกมคำหยาบ พร้อมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ ได้ลูกฟุตบอลแล้วเดินฮัมเพลงกลับไปยังสนามหญ้าอย่างไม่ยี่หระในสิ่งที่กระทำลง

หากเป็นคนอื่นก็คงยอมตกเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวสินะ แต่สำหรับน่านนทีมันไม่ใช่ คนอย่างเขาฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ จะเจ้ายศเจ้าอย่างมาจากไหนก็ตาม ใช่ว่าจะถือสิทธิ์ทำร้ายใครก็ได้ตามอำเภอใจ

“จะไปไหน!”

เขาวิ่งตามไปติด ๆ ดึงหลังอีกคนให้หันกลับมาประจันหน้า ก่อนจะมอบก้อนหมัดเป็นของฝากไปให้ทานเล่น ๆ สักลูก เผื่อจะได้สำนึกได้

ผัวะ!

ใบหน้าหล่อหันซ้ายไปตามแรงกระแทกของกำปั้น เห็นตัวเล็กอย่างนี้ หากแต่แรงที่ปล่อยออกไปทำเอาเจ็บใช่เล่น คุณชายเมศวร์ผู้เลอศักดิ์หน้าชา เอ่ยอะไรไม่ออก เกิดมา๒๓ปีไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับเขา

“ละ…เลือด! ฮือ… นาย! กล้าดียังไง นายเจอดีแน่!” คุณชายเมศวร์ร้องอุทานเสียงหลง ทั้งที่เลือดก็เป็นของตัวเองก็ยังกลัวไปได้ เขารีบวิ่งแจ้นไปซบอกหม่อมแม่ที่ตำหนักใหญ่โดยด่วน แล้วจะหาทางจัดการกับคนกล้าดีทีหลัง “หม่อมแม่ครับ! ช่วยชายด้วย!”

“หึ วิ่งหางจุกตูดเลยนะ อย่างนี้สิถึงเรียกว่าสมน้ำหน้าของจริง บ่าสึ่งตึง” น่านนทียืนหัวเราะส่งท้ายคนที่วิ่งกุมเลือดกำเดาหนีไปด้วยความสาแก่ใจ โดยหารู้ชะตากรรมของตนในอนาคตไม่