'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย} - ๔/๑ ในนามคู่สมรส โดย ปรมปุณณ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค,วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

ผู้แต่ง

ปรมปุณณ

เรื่องย่อ

❝รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ❞

(สำนวนสุภาษิต) มีความหมายว่า รักจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ให้ตัดความอาฆาตแค้นออกไป รักจะอยู่กันสั้น ๆ ให้อาฆาตพยาบาทเข้าไว้.

รักสั้นนั้นให้รู้อยู่เพียงสั้น  

รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย

มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย    

 แหงนดูฟ้าอย่าให้อายเทวดา 

(อิศรญาณภาษิต)

............................



ที่ผ่านมาชีวิตของ 'น่านนที' ดำเนินมาอย่างสงบสุขที่ชนบทในฐานะเด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วชีวิตปรกติสุขของเขาถึงเวลาต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้รับจดหมายเชิญตัวเข้าไปอยู่ในรั้วในวัง จากเด็กหนุ่มบ้านนอกกลายเป็นสะใภ้เจ้าตามเงื่อนไงบนพินัยกรรมของหม่อมเจ้าประพัทธ์ ใครจะคิดว่าชีวิตของเขาที่นั้นจะได้รับการต้อนรับไม่ต่างไปยิ่งกว่าทาส ทุกคนเฝ้าแต่จะดูหมิ่นถิ่นแคลนโขลกสับ โดยเฉพาะพ่อหม่อมราชวงศ์คู่หมาย งานนี้น่านนทีจะต้องรับมืออย่างไรให้ไหว!

"น่านนที ไอ้บ้านนอก ถ้านายคิดจะอยู่ที่วังนี้เพื่อหวังฮุบสมบัติของท่านพ่อแล้วล่ะก็ ฉันบอกให้เลยว่าอย่าหวัง นายจะไม่ได้สักแดงเดียว ไสหัวไปจากที่นี่ซะ"

"ขอบคุณที่เรียนให้ทราบนะครับ แต่ไม่ดีกว่า ผมไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะยังไงสมบัติทั้งหมดก็จะตกเป็นของผมเอง ถ้าคุณชายทำตามเงื่อนไขไม่ได้"

"นี่นาย! ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปเถอะ จ้างให้ฉันก็ไม่มีวันหลงผิดไปรักเด็กกระจอก ๆ อย่างนาย!"

"อืม ครับ ผมก็เช่นกัน"

"ฉันจะฟ้องหม่อมแม่!"


⚠️ นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามคัดลอก ทำการดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่ง ส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าของผลงาน การกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือ เป็นการละเมิดสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สารบัญ

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๑ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๒ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๑ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๒ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๑ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๒ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๑ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๒ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๑ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๒ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๑ ขิงก็ราข่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๒ ขิงก็ราข่่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๑ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๒ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๑ ชีวิตคู่ที่จับพลัดจับผลู,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๒ (อ่านล่วงหน้า08/08/67) ชีวิตคู่ที่จับพลัดจัยผลู

เนื้อหา

๔/๑ ในนามคู่สมรส

“หม่อมแม่ครับ หม่อมแม่!!”

เสียงร้องเรียกชื่อมารดาคลอไปกับเสียงสะอื้นไห้ดังมาแต่ไกลจากสนามหญ้าด้านหลังวัง คุณชายเมศวร์วิ่งพรวดเข้ามากอดมารดาอย่างกระจองอแง พร้อมบีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายเสียยกใหญ่ ประหนึ่งเด็กไม่ทันโต

หม่อมราชวงศ์ปรเมศวร์เชษฐ์ชนันสุวรรณศักดิ์ได้รับการเลี้ยงดูประคบประหงมมาอย่างดี พิเศษกว่าญาติพี่น้องคนไหน ๆ เพราะเป็นลูกชายคนโตของราชสกุล หม่อมใหญ่เธอจึงคอยเฝ้าพะเน้าพะนอปอปั้น คุณชายปรารถนาสิ่งใด หล่อนก็หามาให้ได้ แม้กระทั่งเดือนกับตะวัน

โดยหารู้ไม่ว่า การเลี้ยงดูลูกของหล่อนเช่นนั้น จะทำให้โตมาเป็นคนเอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ ว่านอนสอนยาก ดังคำที่ท่านชายปพนเคยตรัสเตือนหล่อนเอาไว้ แต่หล่อนกลับไม่สนคำเตือน ปัจจุบันคุณชายเมศวร์ผู้สูงศักดิ์ถึงได้ไม่รู้จักโตสักทีอย่างนี้เอง

“อะไรลูก เป็นอะไรหรือชาย ร้องมาแต่ไกลเชียว” หม่อมใหญ่ลงมาจากชั้นบนตำหนัก ลงบันไดมาเรื่อย ๆ หล่อนก็เห็นสภาพบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่ยืนบีบจมูกห้ามเลือดกำเดาไหลอย่างทุรนทุรายอยู่ตรงหน้า “ว๊าย! ตายแล้ว ใครทำอะไรชาย บอกแม่มา แม่จะไปจัดการมันให้”

คุณชายเมศวร์อายุอานามก็เข้า๒๓ปีแล้ว หากแต่ยังเจ้าน้ำตาเป็นทารกแรกเกิด ยิ่งมีหม่อมแม่มาปลอบโยนก็ยิ่งอ่อนไหว ปล่อยน้ำตาร้องโฮไม่หยุด จนน้องสาวหม่อมราชวงศ์ทั้งสองที่ตามลงมากลั้นขำไม่ไหว

“ฮือ… หม่อมแม่ครับ ไอ้นั่นมันต่อยชายครับหม่อมแม่ หม่อมแม่ต้องเอาเรื่องมันให้ชายนะครับ ไม่งั้นไม่ยอม ไม่ยอม ๆ ๆ ไม่ยอมจริง ๆด้วย” ชายหนุ่มกระทืบเท้างอแง เขย่าตัวอ้อนมารดาให้จัดการอริให้

“ใจเย็น ๆ ก่อนลูก ใครมันกล้าทำชาย ชื่ออะไร บอกแม่มา”

“ชายไม่รู้ครับ ไม่เคยเห็นหน้ามัน มันตัวขาว ๆ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ สูงประมาณเท่าไหล่ชายครับหม่อมแม่” ภาพใบหน้าของคู่อริยังคงฝังแน่นในความทรงจำของคุณชาย เด็กนั่นหน้าตาน่ารัก ดูเหมือนไร้พิษสง แต่เอาเข้าจริงช่างร้ายกาจไม่เบา ทำเขาเจ็บแสบชะมัด!

“พี่ชายเมศวร์คะ ไปทำอีท่าไหนล่ะคะ ถึงโดนซัดหน้ามาขนาดนี้ ฮ่า ๆ หญิงล่ะสงส๊ารสงสาร” คุณหญิงอรถามไถ่เชิงเป็นห่วง แต่ท่าทีเย้ยหยันและเสียงขำขันของเธอต่างหากล่ะที่ต้องการจะสื่อ

ฝ่ายคุณหญิงโฉมก็เข้าพวกด้วย ทำท่าล้อเลียนคุณชายเจ้าน้ำตา

“นี่! พวกเธอ หญิงอรหญิงโฉม อย่ามาทะลึ่งพี่นะ ไม่ช่วยกันก็ไปเลยไป๊” พี่ชายบ่นอย่างแสนงอน พร้อมทำหน้าทำตาออดอ้อนมารดา “ดูสิครับหม่อมแม่ สองหญิงล้อชายด้วย”

“เอาล่ะ ๆ หญิงอรหญิงโฉม เลิกเล่นได้แล้ว” หม่อมใหญ่หันไปดุบุตรสาวทั้งสองตามคำร้องเรียนของบุตรชาย ฝ่ายคุณชายเมศวร์นั้นก็แอบแลบลิ้นใส่พวกเธออีกด้วยในขณะที่กอดแม่ หม่อมใหญ่หันไปทางนางคนสนิท แล้วสั่งว่า “สมร ไปตามคนงานทุกคนในวังมาพบฉันที่นี่ เรียกมาให้หมดนะ ทั้งคนเก่าคนใหม่”

“ค่ะ” นางสมรรับทราบแล้วปลีกตัวออกไป

ฝ่ายสองแม่ลูกก็ยังคงกอดปลอบกันอยู่ไม่หยุด ท่ามกลางสายตาของบุตรสาวที่แอบขำ หม่อมใหญ่แค้นใจนัก หล่อนเด็ดขาดมากเรื่องนี้ ว่าถ้าหากใครทำให้คุณชายคนใหญ่ของวังต้องมีน้ำตาหรือบาดเจ็บแม้แต่ปลายก้อยแล้วก็ตาม หล่อนไม่ยอมจบความง่าย ๆ แน่

“โอ๋ ๆ นะชายเมศวร์ของแม่ แม่จะจัดการมันให้ชายเองลูก”

“ไล่มันออกเลยนะครับหม่อมแม่ ชายเจ็บครับ ฮึก”

นี่นับเป็นครั้งแรกในชีวิตของหม่อมราชวงศ์หนุ่มที่ต้องเสียน้ำตา อาจจะฟังดูแปลก แต่เพราะเขาได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีจากหม่อมแม่ หล่อนไม่เคยขัดใจ ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ตอนยังทารกก็ไม่ร้องสักแอะ เลี้ยงง่าย เมื่อโตมาก็มีแต่เป็นฝ่ายที่ทำคนอื่นร้องไห้ แต่วันนี้ถึงคราวโดนกระทำเสียเอง คุณชายเมศวร์กลับยอมไม่ได้

เพียงชั่วหุงข้าวสุกเท่านั้น จากที่นางสมรออกไปรวมพลทุกคนในวังให้มาเข้าพบหม่อมใหญ่ในวันนี้ ทั้งหมดมีเกือบร้อยชีวิต ต่างยำเกรงต่ออำนาจวาสนาของนายผู้หญิงที่ปกครองสถานที่แห่งนี้กันทั้งนั้น หล่อนไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำนัก ทว่าเจ้าระเบียบกฏเกณฑ์ ชอบออกคำสั่ง โดยเฉพาะกับบุตรชายคนโตของหล่อน ที่ใคร ๆ ก็แตะต้องไม่ได้

“เอาล่ะ ที่ฉันเรียกพวกกงพวกแกมาก็เพราะมีคนทำร้ายคุณชายเมศวร์ ถ้าไม่อยากรับโทษหนัก ก็แสดงตัวแสดงตนออกมาซะ ถือว่าฉันยังเมตตานะยะ” หม่อมใหญ่พูดเสียงดังฟังฉะฉาน พาลให้พวกคนงานชายหญิงหวาดกลัว ต่างหันซ้ายแลขวาถามถึงต้นเหตุว่าใครเป็นผู้ทำจริง

แต่ก็หามีใครออกมายอมรับไม่ คนอย่างหม่อมใหญ่ไม่ยอมให้ลูกชายสุดที่รักเจ็บตัวฝ่ายเดียวแน่

“ยังไม่ยอมรับกันอีก! ชายเมศวร์ ชี้ตัวคนร้ายเลยลูก”

“ครับ หม่อมแม่” ร่างสูงสง่าเดินกวาดสายตาตามหาเป้าหมายในกลุ่มคนงานไปเรื่อย ๆ ขณะที่มืออีกข้างถือสำลีแปะแผล เขาจำลักษณะท่าทางของไอ้หมอนั่นได้ดี ตัวเล็กผิวขาว ต่างจากกลุ่มชายฉกรรจ์ใช้แรงงานเหล่านี้ “ไม่เห็นมีเลยครับหม่อมแม่ หรือว่ามันกลัวจนหอบเสื้อผ้าหนีไปแล้ว”

“แต่นี่ก็คนงานหมดวังแล้วนะคะคุณชาย นอกจากนี้ไม่มีอีกแล้ว” นางสมรค้าน คนงานเหล่านี้อยู่มานาน ก็เห็นแต่หน้าเดิม ๆ ถ้าจะมีที่มาอยู่ใหม่ เห็นจะเป็นแค่เด็กต่างจังหวัดสองคนนั้น “เอ๊ะ! นี่ ไอ้คนที่มาจากเหนือน่ะ เพื่อนของแกอีกคนหายไปไหน ฮึ”

คำปันโดนชี้หน้าถาม อ้ำอึ้ง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี ตั้งแต่แยกย้ายกัน เขาก็ยังไม่พบหน้าน่านนทีอีกเลยจนถึงตอนนี้ “เอ่อ..บ่ฮู้ เอ๊ย! ไม่รู้ครับ”

“ไม่รู้ได้อย่างไร ไม่ใช่มันแอบไปขโมยของแล้วหนีไปแล้วหรือคะหม่อมแม่” คุณหญิงโฉมออกความคิดเห็น

“ผมไม่ได้ขโมยนะครับ!” น่านนทีส่งเสียงปฏิเสธมาจากด้านในตำหนัก เขาสาวเท้าออกมาอย่างกล้าหาญเมื่อทราบว่าตนถูกใส่ร้ายให้เป็นหัวขโมย หลังจากที่เขามีเรื่องทะเลาะกันเล็กน้อยกับแปลกหน้าที่สนามท้ายวังแล้วนั้น เจ้าตัวก็หนีขึ้นมางีบบนห้องเพราะอาการเจ็บศรีษะ พอตื่นขึ้นมาก็เห็นคนมากมายมาชุมนุมกันอยู่หน้ามุขของตำหนักแล้ว

ระหว่างนั้น เสียงของเขาดังไปเข้าโสตประสาทของคู่กรณีพอดิบพอดี คุณชายเมศวร์ยืนหันหลังให้อยู่ แต่ก็มั่นใจว่าตนไม่ได้หูฝาดไปแน่ เจ้าของเสียงนี้ต้องใช่คนเดียวกันกับที่ทำร้ายเขาจนเลือดตกยางออก

พอหันมาประจันหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างต้องเบิกตากว้างตกใจ

“นาย!”

“คุณ!”

“ไอ้นี่แหละครับหม่อมแม่ มันต่อยหน้าชายจนเลือดออก ไล่มันออกไปจากวังของเรานะครับ ชายไม่ยอม ๆ”

น่านนทีขาแข็ง ใบหน้าร้อนผ่าว เป็นเขาจริงที่ก่อเหตุอุกอาจแบบนั้นในวังนี้ แต่เขาจำเป็นต้องรักษาสิทธิมนุษยชนของตนเอง ไม่อ่อนข้อให้ใครรังแกอยู่ฝ่ายเดียว เขาผิดอย่างนั้นหรือ ทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน

“ผม…คือ ผมไม่…”

“แก! ลูกนังวันแรม มาวันแรกก็ก่อเรื่องเลยนะยะ” หม่อมใหญ่ตวาดใส่ ทำคุณชายเมศวร์เจ็บก็เท่ากับเหยียบดวงใจของหล่อน

“อย่างนี้ไล่มันออกเลยดีไหมคะหม่อมแม่ หญิงว่า” คุณหญิงอรเสริม กระตุกยิ้มเยาะใส่ซึ่งหน้า

“นายทำฉันเจ็บ นายไม่รอดแน่” ผู้ร้องทุกข์ชี้หน้าข่มขู่ใส่จำเลย หวังให้อีกฝ่ายกลัวจนหัวหด ที่บังอาจกล้าดีทำให้เขาเจ็บตัว

หากเป็นคนอื่นคงก้มหน้ารับผิดแต่โดยดี แต่น่านนทีไม่ใช่ เขากอดอกสู้ เถียงกลับทันควัน “ก็คุณอยากมาทำผมก่อนทำไมกันล่ะ ผมยืนอยู่เฉย ๆ คุณนั่นแหละผิด ไม่มีมนุษยธรรม ชอบหาเรื่องคนอื่น”

“นี่นาย! รู้ไหมว่ากำลังเถียงใครอยู่ ฉันเป็นใคร นายไม่รู้เหรอ”

“ไม่รู้โว้ย! แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย รู้แต่ว่าคุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใครตามใจตัวเองแบบนี้” น่านนทียังคงโต้กลับเสียงแข็ง ยิ่งทำให้คู่กรณีไม่พอใจ

“ฉัน หม่อมราชวงศ์ปรเมศวร์เชษฐ์ชนันสุวรรณศักดิ์ บดินทรางกูร คุณชายใหญ่แห่งวังประภากรอมรนิวาสราชบดินทรางกูรราชวรมหาพิมานสถานภิรมย์!”

“โอ๊ย! จื้อป้อคิงหยังมายาวแต๊ยาวว่า ฮาบ่ไค่ฮู้ เก๋บไว้บอกป้อคิ้งเต๊อะ บ่าห่าปันต๋าย!” หนุ่มเหนือตอบกลับด้วยภาษาถิ่นของตน สร้างความงุนงงแก่ผู้ที่ฟังไม่ออกบริเวณนั้น

คุณชายเมศวร์หมดคำจะสวนกลับ เมื่อโดนหลอกด่าเป็นภาษาไม่คุ้นหู “ไอ้… ไอ้บ้า พูดจาไม่รู้เรื่อง”

“นั่นน่ะสิ แกอย่ามาพูดภาษาบ้านนอกกับพวกฉันนะยะ” หม่อมใหญ่ชี้หน้าหมายหัว หล่อนไม่พอใจอย่างยิ่งที่เด็กเมื่อวานซืนกล้าทำพฤติกรรมเช่นนี้ด้วย แต่ก็ไม่รู้จะจัดการกับหมากสำคัญตัวนี้อย่างไรดี เพราะยังต้องใช้ประโยชน์จากน่านนทีเรื่องพินัยกรรมอยู่ “เอาเป็นว่าครั้งนี้ฉันจะปล่อยแกไป ถือซะว่าเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ ยังไม่รู้ว่าใครเป็นนายเป็นบ่าว”

พอได้ยินอย่างนั้น คุณชายเมศวร์ก็ไม่พอใจทันที “หม่อมแม่! ชายไม่ยอม”

“ชาย ถือซะว่าทำบุญโปรดสัตว์มันไปก่อนครั้งหนึ่งนะลูก แม่สัญญาจ้ะ จะไม่มีใครมารังแกลูกรักของแม่เป็นครั้งที่สองแน่” หล่อนลูบหัวลูกชายเพื่อปลอบขวัญ ใจจริงก็ไม่ได้อยากทำอย่างนี้ แต่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ

“แต่ชายเจ็บ มันแกล้งชายนะครับ”

“เดี๋ยวแผลมันก็ดีขึ้นลูก” หล่อนพูดเสียงอ่อนโยน แล้วหันมาปั้นเสียงแข็งใส่น่านนทีต่อ “ส่วนแก ฉันจะส่งแกไปปรับพฤติกรรมใหม่ จะได้รู้ว่าชาววังเขาอยู่กันอย่างไร ไม่ใช่อยู่แต่กับลิงค่างบ่างชะนีในป่า ไปไป๊ ไปได้แล้ว ทั้งหมดนี่แหละ”

คนงานทั้งหมดสลายกลุ่มแยกย้ายกันออกไป ในขณะที่น่านนทีถูกคุณป้าที่มีนามว่าสมรดึงตัวตามไปที่ท้ายตำหนัก น่านนทีไม่รู้ว่าจะต้องปรับตัวอะไร ก็ในเมื่อเขาเป็นแค่คนงาน เนื่องด้วยยังไม่ทราบว่าในอนาคตอันใกล้นี้ตนจะต้องปรับฐานะขึ้นมาเป็น…

สะใภ้ชั่วคราวแห่งวังประภากรฯ