'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย} - ๘/๑ ชีวิตคู่ที่จับพลัดจับผลู โดย ปรมปุณณ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค,วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ไทย,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

วาย,พีเรียดไทย,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

'น่านนที' ชื่อของเด็กหนุ่มบ้านนอกที่ต้องระเห็จสู่เมืองกรุงเพื่อทำหน้าที่ตามพินัยกรรมของท่านชาย ทว่าก้าวแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาที่วังแห่งนี้ เสมือนว่าความวินาศสันตะโรจะบังเกิด!

ผู้แต่ง

ปรมปุณณ

เรื่องย่อ

❝รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ❞

(สำนวนสุภาษิต) มีความหมายว่า รักจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ให้ตัดความอาฆาตแค้นออกไป รักจะอยู่กันสั้น ๆ ให้อาฆาตพยาบาทเข้าไว้.

รักสั้นนั้นให้รู้อยู่เพียงสั้น  

รักยาวนั้นอย่าให้เยิ่นเกินกฎหมาย

มิใช่ตายแต่เขาเราก็ตาย    

 แหงนดูฟ้าอย่าให้อายเทวดา 

(อิศรญาณภาษิต)

............................



ที่ผ่านมาชีวิตของ 'น่านนที' ดำเนินมาอย่างสงบสุขที่ชนบทในฐานะเด็กบ้านนอกธรรมดาคนหนึ่ง แต่แล้วชีวิตปรกติสุขของเขาถึงเวลาต้องเปลี่ยนไป เมื่อได้รับจดหมายเชิญตัวเข้าไปอยู่ในรั้วในวัง จากเด็กหนุ่มบ้านนอกกลายเป็นสะใภ้เจ้าตามเงื่อนไงบนพินัยกรรมของหม่อมเจ้าประพัทธ์ ใครจะคิดว่าชีวิตของเขาที่นั้นจะได้รับการต้อนรับไม่ต่างไปยิ่งกว่าทาส ทุกคนเฝ้าแต่จะดูหมิ่นถิ่นแคลนโขลกสับ โดยเฉพาะพ่อหม่อมราชวงศ์คู่หมาย งานนี้น่านนทีจะต้องรับมืออย่างไรให้ไหว!

"น่านนที ไอ้บ้านนอก ถ้านายคิดจะอยู่ที่วังนี้เพื่อหวังฮุบสมบัติของท่านพ่อแล้วล่ะก็ ฉันบอกให้เลยว่าอย่าหวัง นายจะไม่ได้สักแดงเดียว ไสหัวไปจากที่นี่ซะ"

"ขอบคุณที่เรียนให้ทราบนะครับ แต่ไม่ดีกว่า ผมไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะยังไงสมบัติทั้งหมดก็จะตกเป็นของผมเอง ถ้าคุณชายทำตามเงื่อนไขไม่ได้"

"นี่นาย! ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ไปเถอะ จ้างให้ฉันก็ไม่มีวันหลงผิดไปรักเด็กกระจอก ๆ อย่างนาย!"

"อืม ครับ ผมก็เช่นกัน"

"ฉันจะฟ้องหม่อมแม่!"


⚠️ นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามคัดลอก ทำการดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่ง ส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าของผลงาน การกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือ เป็นการละเมิดสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สารบัญ

รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๑ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๑/๒ ก่อนฟ้าบันดาล,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๑ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๒/๒ สิ่งเริ่มต้น,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๑ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๓/๒ ความประทับใจครั้งแรกพบ,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๑ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๔/๒ ในนามคู่สมรส,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๑ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๕/๒ ขมิ้นกับปูน,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๑ ขิงก็ราข่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๖/๒ ขิงก็ราข่่าก็แรง,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๑ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๗/๒ ร่วมหอลงโรง(โลง),รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๑ ชีวิตคู่ที่จับพลัดจับผลู,รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ {วายพีเรียดไทย}-๘/๒ (อ่านล่วงหน้า08/08/67) ชีวิตคู่ที่จับพลัดจัยผลู

เนื้อหา

๘/๑ ชีวิตคู่ที่จับพลัดจับผลู


ในตอนเช้าที่ห้องอาหารของวังประภากรฯเต็มไปด้วยลูกหลานของเจ้าของวังซึ่งนั่งเรียงรายกันอย่างพร้อมเพรียง โดยมีสมาชิกคนใหม่ของราชสกุลซึ่งกำลังนั่งทำตัวลีบอย่างเบื่อหน่ายคล้ายหมดอาลัยตายอยาก

ข้าง ๆ กันนั้นเป็นหม่อมราชวงศ์ปรเมศวร์ฯ ซึ่งก็มีทีท่าระอาใจไม่ต่างกัน ความลงรอยยังไม่จบลงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงดูเหมือนว่าคู่สมรสทั้งสองจะทำศึกสงครามกันเสียมากกว่าการปรองดองจากการร่วมวิวาห์ในคืนที่แล้วเสียอีก

หม่อมเจ้าปพน ผู้เป็นอาทอดเนตรสังเกตอย่างจ้องเอาคำตอบจากหลานชายและหลานสะใภ้เป็นอย่างสูง ทรงคาดคิดไว้ไม่มีผิด เด็กสองคนนี้ไม่มีทางเข้ากันได้แน่ แต่ถึงกระนั้น ทรงเชื่อเหลือเกินว่าหากเวลาผ่านพ้นไปจะทำให้เด็กทั้งสองกลมกลืนเป็นหนึ่งเป็นเดียวกันได้

ทว่าคงไม่ใช่ในยามนี้อย่างแน่นอน

เพราะดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว คู่รักข้าวใหม่ปลามันเหมือนกำลังจะก่อสงครามกลางโต๊ะอาหารขึ้นมาอีกแล้ว

“นี่คุณชาย คุณชายอยากกินคุณชายก็ตักเอาใหม่สิ จะมาแย่งผมทำไม”

“แย่งเยิ่งอะไรกัน ฉันก็ตักของของฉันตามปกติ นายนั่นแหละ” หม่อมราชวงศ์ชายปฏิเสธหน้าตาไม่แยแส ไหวไหล่ด้วยความคึกคะนองที่กลั่นแกล้งคนเด็กกว่าได้

น่านนทีไม่ยอมเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแน่ เขาเป็นพวกยอมคนเสียที่ไหน “อย่ามาหาเรื่องผมนะครับคุณชาย ผมขอเตือนไว้ก่อน”

ไม่ทันที่บุตรชายเจ้าของวังจะได้โต้กลับน่านนที หม่อมจำปีก็โพล่งปากออกมาเสียก่อนว่า “อะไรกันยะ นี่ลูกชายเจ้าของวังนะยะ จะตักอะไรกินจำเป็นต้องเกรงใจเด็กบ้านนอกอย่างแกด้วยหรือยะ เชอะ! “

เด็กหนุ่มวางช้อนส้อมลงกับจาน ส่งสายตาเรียบนิ่ง ตอบหม่อมจำปีอย่างหนักแน่นเสียงชัดถ้อยชัดคำว่า “ก็เพราะว่าคุณชายไม่ใช่เด็กบ้านนอกอย่างผมไงล่ะครับหม่อมแม่ ผมก็เลยไม่อยากให้คุณชายเป็นคนมารยาททรามน่ะครับ เป็นถึงลูกท่านหลานเธอ เดี๋ยวใครจะหาว่าไม่มีคนสอนนะครับ”

พอจบประโยคนั้น เสมือนเพลิงไฟลุกสุมดวงใจของหม่อมจำปีโดยพลัน หล่อนฟาดกำปั้นลงบนโต๊ะสุดแรงเสียงสนั่น แล้วจึงเปล่งเสียงกรรโชกใส่ “แก! กล้าดียังไงมาเรียกฉันหม่อมแม่ยะ”

“ต๊ายตาย หม่อมแม่ขา นี่แต่งเข้าวังยังไม่ทันไรมันก็กำเริบเสียแล้ว หญิงว่านะคะ คนแบบนี้อย่าเลี้ยงไว้เลยดีกว่าค่ะหม่อมแม่ขา” คุณหญิงอรฯกล่าวเพื่อหวังเติมเชื้อเพลิงให้มารดาโกรธหนักขึ้นไปอีกเท่าตัว

“นี่แกกล้ามากนะยะ! ไอ้เด็กเมื่อวานซืน”

“ก็ต้องกล้าเป็นธรรมดานี่ครับ ในเมื่อผมโดนรุกรานก่อน ก็ต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเองเหมือนกัน”

“นี่นายมีศักดิ์ศรีด้วยหรือไงฮะ บ้านนอก ๆ แบบนี้เนี่ยนะ มีข้าวให้ยาไส้ก็บุญถมเถไปละ ฮ่า ๆ ๆ”

“หยุด พอได้ละ” ท่านชายปพนตรัสสุรเสียงกังวาน ทรงอำนาจให้หวั่นเกรง ก่อนจะหันไปส่งสายเนตรตำหนิแก่พี่สะใภ้ “โดยเฉพาะหม่อม เป็นแม่ประสาอะไร สอนลูกให้ดูถูกคนแบบนี้”

“เปล่าดูถูกนะคะท่านอา พวกเราทุกคนเอาความจริวมาพูดต่างหากล่ะคะ” คุณหญิงโฉมฯแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ขึ้นทันที

น่านนทีไม่อยาดจะคิด ว่าหากท่านชายปพนไม่เสด็จมาร่วมเสวยกระยาหารเช้าด้วยที่วังนี้ เห็นทีคงโดนตะลุมบอนจนเละราบเป็นหน้ากลองแน่ ดีแค่ไหนแล้วที่เขายังพอผ่านพ้นค่ำคืนที่โหดร้ายร่วมห้องเดียวกันกับคุณชายชื่อยาวมาได้ตั้งคืนหนึ่ง แต่ขืนต้องเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไป คงหมดเรี่ยวแรงจะต่อกรกับครอบครัวนี้เข้าให้ในสักวัน

ท่านชายปพนส่ายเศียรไม่นำพาในกริยาอันไม่น่ารักของหลานสาวที่ถูกส่งทอดจากมารดาของเธอ ทรงเข้าหทัยว่าไม่น่ากู่กลับได้แล้ว สอนสั่งอะไรไปก็คงไม่พ้นเถียงคำไม่ตกฟากกลับมาอีกเช่นเดิม ทรงหันไปทางหนุ่มเหนือ ตรัสถามด้วยรอยสรวลว่า “แล้วน่านนทีล่ะลูก นอนหลับสบายหรือไม่เมื่อคืนนี้ เข้าหอวันแรกคงใจเต้นน่าดู”

น่านนทีฟังคำถามแล้วจึงอดคิดในใจไม่ได้ว่าจะให้เขาตื่นเต้นกับอะไรก่อนดี หากเป็นการร่วมหอกับอีตาคุณชายชื่อยาวนี่เขาขอบอกเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน หากต้องตื่นเต้นจริง คงต้องตื่นเต้นที่ว่าจะโดนฆาตกรรมอำพลางศพเมื่อไรต่างหากเล่า สังเกตมาสักระยะแล้ว วังนี้น่าจะไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับเขาเท่าไรนัก

เด็กหนุ่มส่งยิ้มกลับแด่ท่านชาย ตอบอย่างระวังถ้อยวาจา “ก็พอหลับตาลงได้ครับ แต่อึดอัด”

เหตุที่อึดอัดนี้คงไม่พ้นจากตัวต้นเรื่องอย่างคุณชายปรเมศวร์เชษฐ์ชนันอะไรนั่นแน่ นึกว่าเด็กอย่างเขาเอาตัวเข้าแลกเพื่อหวังสบาย โดยไม่ถามข้อคิดเห็นของอีกฝ่ายเลยก็เป็นเช่นนี้ น่านนทีนึกสมน้ำหน้าที่เมื่อคืนถูกเขาแย่งที่นอนไปจนได้

ร้ายมาเขาก็ร้ายกลับ แสบไม่เบาสำหรับหนุ่มเหนือน้อย ๆ คนนี้

“เหอะ ก็คงสบายน่ะสิครับท่านอา ก็ไอ้เด็กนี่มันแย่งเตียงนอนของชายไป แล้วชายก็ต้องไปนอนหน้าโต๊ะหนังสือ ทนปวดหลังอยู่อย่างนี้น่ะสิครับท่านอา” หม่อมราชวงศ์ชายฟ้องเสียยกใหญ่ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่ ขอได้ฟ้องไว้ก่อน

หากแต่ท่านอาของเขาเป็นคนฟังความสองข้างอย่างมีเหตุมีผล จึงทรงไต่สวนเสียก่อน “จริงหรือน่านนที”

คุณชายเมศวร์โพล่งดักหน้าว่า “ก็ท่านอาไปถามมัน มันจะยอมรับอยู่แหละครับว่าเป็นคนทำจริง”

ทว่าท่านชายปพนกลับทรงผินพักตร์ดุไปทางหลานชายเป็นการสั่งให้หยุด

ฝ่ายน่านนทีได้ใจ ท่านอายังไม่อยากเข้าข้างหลานแท้ ๆ เช่นนี้ เป็นเพราะเหตุใดคงเดาได้ไม่ยาก เด็กหนุ่มแสร้งทำหน้าตาน่าสงสาร กอปรกับเสียงสั่นเครือเรียกความเมตตาว่า “ก็คุณชายน่ะสิครับท่านอา บังคับขู่เข็ญผม หาว่าผมบ้านนอกบ้างล่ะ น่ารังเกียจบ้างล่ะ เขาสะอิดสะเอียนใจมากหากต้องนอนเตียงเดียวกันกับผมครับ นี่ผมก็ยอมลงไปนอนที่พื้นแล้วนะครับ แต่คุณชายกลับมาใส่ร้ายผมแบบนี้ ผมเสียใจจังครับท่านอา”

ว่าพลางทางแกล้งบีบน้ำหูน้ำตา ซึ่งใช้ได้ผลเสมอมา โดยเฉพาะในยามนี้กับท่านชายปพน นั่นยิ่งทำให้คุณชายเมศวร์หมั่นไส้ขึ้นทบเท่าทวีคูณ

คุณชายเมศวร์เตรียมชี้นิ้วด่าทันควัน “ไอ้เด็ก…”

“อะ ๆ ดูสิครับท่านอา ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่แท้ ๆ คุณชายยังไม่เว้น”

“ชายเมศวร์ อย่าขึ้นไอ้กับน้องอย่างนั้นสิ อาไม่เคยสอนนะ “

“แค่หม่อมฉันสอนเองเพคะ ชายเมศวร์เป็นถึงคุณชาย มันเป็นแค่คนต่ำต้อยนะเพคะ “

“อะไรที่หม่อมตัดสินว่าคนคนหนึ่งต่ำต้อย? ฉันไม่อยากให้หลานชายหลานสาวฉันต้องมีความคิดอคติตามแม่เขานะ”

“แต่ไอ้เด็กน่าน…” คุณชายเมศวร์กำลังจะอ้าปากดูถูกเสียดสีอีกคำรบ แต่จำต้องสงบเงียบไปก่อน เพราะแววเนตรดุจากท่านอานั้นช่างทรงอำนาจ

ท่านชายปพนทรงหันกลับมา ถอนปัสสาสะเบา ๆ แล้วสรวลให้กับทุก ๆ คนพร้อมหนุ่มเหนือ ก่อนจะตรัสด้วยระดับเสียงปรกติ “อีกไม่กี่วัน จะมีงานแซยิดที่วังเสด็จในกรมฯ เสด็จพ่อของท่านเกื้อท่านกูล เราในฐานะพระญาติใกล้ชิดจึงต้องเข้าร่วมพิธีมงคลนี้ด้วย”

“จริงสิคะ หญิงได้ยินมาว่าช่วงเย็นจะจัดงานเลี้ยงฉลองแบบสากลด้วยนี่คะ หญิงอยากลองสวมชุดใหม่ ๆ ไปเต้นรำกับท่านเกื้อจังเลยค่ะ “คุณหญิงโฉมกระหยิ่มยิ้มย่อง หน้าชื่นตาบานขึ้นทันใดเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“จริงด้วย วันงานท่านเกื้อต้องรูปงามแน่ ๆ เลย” คุณหญิงอรเสริมทับ

“ก็มีพี่ทั้งคนไงล่ะหญิงอรที่รูปงามไม่แพ้ท่านเกื้อของเธอน่ะ พี่ไม่เป็นรองใครนะจะบอกให้” หม่อมราชวงศ์ชายเปรยแย้งอย่างมั่นอกมั่นใจในรูปโฉมของตนเอง

แต่ฝ่ายน้องสาวตอบติด ๆ ขัด ๆ อย่างไม่เชื่อหูนัก “เอ่อ… อย่างนั้นหรือคะ”

“คิดคงเชิญแค่ญาติ ๆ ใกล้ชิดในสายเลือดนะเพคะ พวกไกลบ้านย่านป่าเขาลำเนาไพรคงไม่จำเป็นต้องไปงานนี้ด้วย” หม่อมจำปีกล่าวอย่างจงใจให้เจ้าตัวได้ยินคำเสียดสี

แต่น่านนทีหาได้เก็บมาใส่ใจไม่ เขายังคงตั้งรับกับสถานการณ์โดนกดขี่ดูถูกได้ดี

“เห็นทีจะไม่ได้น่ะสิหม่อม น่านนทีก็คือสมาชิกคนหนึ่งของวังประภากรฯแล้ว ถึงอย่างไรก็ย่อมมีสิทธิ์เข้าร่วม” ท่านชายปพนอธิบายสาเหตุ แม้พี่สะใภ้จะคัดค้านอย่างไร ก็คงไม่เป็นผลสำเร็จ หันไปทางเด็กเหนือแล้วตรัสว่า “เรื่องชุด เสื้อผ้าหน้าผม เดี๋ยวอาจะหาคนมาดูแลให้นะน่านนที รับรองว่าต้องดูดีเป็นเกียรติเป็นศรีแก่บดินทรางกูรไม่น้อยหน้าไปกว่าใครแน่”

ฝ่ายคุณชายเมศวร์เกิดความริษยาในจิตใจ ตั้งแต่เด็กจนโต ท่านอาไม่เคยเอาอกเอาใจเขาขนาดนี้เหมือนที่ทำให้กับเด็กนี่บ้างเลย พอมันเข้ามา ก็แย่งไปจากเขาเสียทุกอย่าง

“ท่านอาให้ท้ายเด็กนี่ ตามใจมันอยู่ได้”

“ก็เขาเป็นคนสำคัญของบดินทรางกูรไม่ใช่หรือชาย ถ้าไม่มีน่านนทีทั้งคน ดูสิว่าสมบัติของท่านพ่อจะตกถึงชายสักแดงเดียวหรือไม่”

“ไม่หรอกเพคะ หม่อมฉันไม่ยอมแน่!” หม่อมจำปีโก่งคอแย้งจนเป็นเอ็น “ยอมเกี่ยวดองกับเด็กบ้านนอกนี่เพื่อมรดกส่วนนั้น หม่อมฉันยอมได้”

“ก็ดี อย่าให้ฉันห็นว่าหม่อมกับลูก ๆ หาทางขับไล่หรือกลั่นแกล้งน่านนทีอีกก็แล้วกัน ขอให้ระลึกไว้เสมอว่านี่คือคนสำคัญที่พี่ชายของฉันได้ประสงค์เลือกมาแล้ว ขอให้เป็นไปตามนั้น”

น่านนทีนั่งฟังผู้ใหญ่เจรจาพาทีกันอยู่นานสองนาน เขาก็แอบชำเลืองมองใบหน้างอแงคล้ายจะร้องไห้ของคุณชายชื่อยาวไปพลาง เป็นอย่างไรล่ะ รังเกียจกันดีนัก นี่เขาไม่เห็นต้องออกแรงต่อล้อต่อเถียงกับแม่ลูกคู่นี้ด้วยตัวเองเลย โชคดีที่ท่านชายปพนท่านทรงรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด ไม่คล้อยตามไปกับคำใส่ร้ายป้ายสีของคู่สมรสจอมพยาบาท

🙏ฝากคอมเม้นเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะครับ😊