”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 - 1 คุณชายแห่งนีไอโอเนีย โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ผู้แต่ง

fixcblue

เรื่องย่อ


 

ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา


 

"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์


วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้

#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9

สารบัญ

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-บทนำ ข้ามาเกิดใหม่งั้นหรือ?,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-1 คุณชายแห่งนีไอโอเนีย,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-2 ไอ้เด็กเมื่อวานซืน,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-3 เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-4 มาเรียน่า,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-5 อดีตนักรบ,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-6 ลงทะเบียนเรียนชั้นปีที่ 2,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-7 จุดด่างพร้อยหนึ่งเดียว,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-8 มือสังหาร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-9 การฆ่าครั้งแรก,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-10 น้ำกับไฟถ้าไกลกันได้ก็ดี,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-11 นาฬิกาเรือนเก่า,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-12 ผู้ใช้เวทห้วงเวลา,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-13 ผสานสามวงแหวนเวทมนตร์,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-14 แค่ฝึกซ้อม (1),ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-15 แค่ฝึกซ้อม (2),ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-16 คำสั่งขององค์จักรพรรดิ

เนื้อหา

1 คุณชายแห่งนีไอโอเนีย

ห้องโถง คฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์ เมืองนีไอโอเนีย

“คุณดูอะไรอยู่ครับ ซาร่า” 

น้ำเสียงทุ้มต่ำจากชายวัยกลางคนเรือนผมสีเทาหม่นไม่ต่างจากม่านหมอกเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาทักหญิงสาวผู้เป็นภริยาที่กำลังยืนมองเด็กน้อยอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่

[ซาร่า คูเวต ดีลักซ์ จอมเวท ภาพลวงตา เลเวล 6]

[แวนคลิโอ ดีลักซ์ มหาจอมเวท รักษา เลเวล 8 ผู้นำตระกูลดีลักซ์]

“ฉันดูเรย์เวนซ้อมดาบค่ะ อายุเพิ่งเจ็ดขวบเอง เขาเอาแต่แกว่งดาบไม่หยุดเลยค่ะ” 

หญิงสาวในชุดเต็มยศตอบกลับ พลางจ้องมองไปยังลูกชายคนเดียวในลานกว้างด้านล่าง นัยน์ตาสีดำฉายแววความเป็นห่วงอย่างชัดเจน

“เขาเป็นลูกของเราจริงๆ ใช่หรือเปล่าคะ ?” ซาร่าเอ่ยถามโดยที่สายตายังไม่ละจากเด็กน้อย

“ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะครับ เรย์เวนเป็นลูกชายของเรานะ” แวนคลิโอเอ่ยพลางแตะบ่าภริยาอย่างแผ่วเบา

“แต่พลังเวทต้นกำเนิดของเขาต่างจากเราทั้งคู่” สีหน้ากังวลเผยให้เห็นอย่างเด่นชัด

“เวทมืดกับเวทเลือดสินะครับ เป็นเด็กที่เกิดมามีเวทต้นกำเนิดสองธาตุอีกทั้งยังเป็นพลังที่หายากทั้งคู่เสียด้วย”

“ค่ะ เขาเหมือน…อัจฉริยะของจักรวรรดิคนนั้นเลย” ใบหน้างดงามของซาร่าฉายแววสงสัย ในใจพร่ำนึกถึงคนที่เคยมีชื่อเสียงในครั้งอดีต ฝ่ามือขาวเนียนแตะไปที่กระจกบานใหญ่เบาๆ

“ไม่ใช่หรอกครับ ดูสีตาเขาสิ” 

ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างค่อยๆ จับบ่าของคนหน้าตรงหน้าให้หันมามองที่ตนเอง 

“ตาเขาเป็นสีน้ำเงินเหมือนกับผมเลยไม่ใช่เหรอครับ”

“แต่ว่า…” ซาร่าเงยหน้ามองสามีด้วยแววตาสั่นไหว

“เรย์เวน ดีลักซ์ เป็นลูกของเราครับ ต่อจะให้เขาใช้เวทอะไร หรืออยากจะเป็นนักดาบด้วยก็ไม่เป็นไร”

“คุณคะ…” หยดน้ำสีใสเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง

“เชื่อใจลูกของเรานะครับ”

ฝ่ามือหนาลูบเรือนผมสีดำสนิทอย่างอ่อนโยน รั้งร่างภริยาที่รักเข้ามาโอบกอด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง 

“มาเรียน่า”

“เจ้าค่ะ นายท่าน” หญิงสาวในชุดแม่บ้านเดินออกมาจากจุดอับสายตาด้านหลัง ก้มหัวลงเล็กน้อยตอบรับคำเรียกของผู้เป็นนาย

“เจ้าเคยเป็นนักดาบของประเทศฝั่งตะวันออก”

“เจ้าค่ะ”

“เพราะฉะนั้นเจ้าจงไปเป็นคู่ซ้อมดาบให้เรย์เวนที”

ชายหนุ่มผู้นำตระกูลทอดสายตามองไปยังลูกชายที่ยังคงแกว่งดาบอย่างไม่หยุดพักในลานกว้าง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะหันไปหาคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ 

“จากนี้ก็ดูแลลูกชายของข้าด้วยล่ะ นี่เป็นคำสั่ง!”

“น้อมรับคำสั่งเจ้าค่ะนายท่าน”

 

ลานฝึก

เสียงดาบโลหะสองเล่มปะทะกันอย่างไม่หยุดหย่อนเนิ่นนานหลายชั่วโมง เสียงหอบหายใจที่เริ่มเหนื่อยล้าดังขึ้นเป็นระยะ ทักษะและวิถีดาบของทั้งสองคนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง 

ช่วงเวลา 8 ปีหมุนผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากเด็กน้อยวัย 7 ขวบ ที่หมั่นฝึกฝนดาบด้วยตัวคนเดียวภายในลานฝึก ตอนนี้เติบใหญ่กลายเป็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี 

และเขากำลังได้เปรียบในการประลองครั้งนี้ ปลายดาบสีเงินตวัดขึ้นอย่างรุนแรงจนทำให้ดาบเล่มยาวของนักดาบหญิงร่วงหล่นลงพื้น

แกร๊ง!!

ตุ้บ!!

“นายน้อยเรย์เวนคะ ฉันแพ้แล้วค่ะ” มาเรียน่าพูดเสียงสั่นเครือในขณะที่คุกเข่าลงกับพื้นหิน ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา

“ลุกขึ้นมา เอาอีกรอบ!” เด็กหนุ่มยืนเหยียดตรงหันดาบชี้ไปที่ข้ารับใช้สาวคนสนิท

“นายน้อยคะ!! ฉันไม่ใช่คู่ซ้อมของนายน้อยแล้วค่ะ!!” สีหน้าไม่พอใจแสดงออกมาพร้อมกับดีดดิ้นไปมาทั่วลานฝึก

“เจ้าอายุเท่าไหร่กันมาเรียน่า ถึงได้งอแงเป็นเด็กเช่นนี้” เรย์เวนส่งสายตาเอือมระอาก่อนจะเก็บดาบยาวเข้าฝัก

“ก็นายน้อยเก่งนี่คะ ฉันฝึกกับนายน้อยไม่ได้แล้ว พอแล้วค่ะ ยอมแพ้” พูดจบอัศวินหญิงก็นอนแผ่ราบไปกับลานหินขนาดใหญ่

“พ่อจะหาครูสอนดาบให้เจ้าดีหรือไม่” เสียงของผู้นำตระกูล เจ้าของเรือนผมสีเทาหม่นดังขึ้น ในขณะที่ค่อยๆ ย่างกรายเข้ามาใจกลางลานฝึกที่ทั้งสองคนอยู่

“ท่านพ่อ/นายท่าน!”

“ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าจะว่าอย่างไรล่ะเรย์เวน” รอยยิ้มที่จริงใจปรากฏขึ้น เรย์เวนเห็นใบหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก

เขาจ้องมองนัยน์ตาสีน้ำเงินราวกับทะเลสาบในยามค่ำคืนที่เหมือนกับของตนเอง

แวนคลิโอเป็นพ่อที่ดีและสมบูรณ์แบบมาก ไม่เคยบังคับ ฝืนใจให้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ อีกทั้งยังสนับสนุนทุกทางที่เรย์เวนเลือกเดินจากใจจริง 

ต่างจากซาร่ารายนั้นเห็นนิ่มๆ ยิ้มหวาน พูดจาอ่อนโยนเปรียบเสมือนนางฟ้า แต่ตอนเข้าโหมดฝึกพลังเวทกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

“ก็ดีนะครับท่านพ่อ ผมเองก็อยากเก่งให้มากกว่านี้ แล้วก็อยากมีวิถีดาบเป็นของตัวเองด้วยครับ”

เด็กหนุ่มตอบพลางสบตาผู้นำตระกูลอย่างตั้งใจ ก่อนจะเบนสายตาไปยังสาวใช้ที่กำลังจะลุกขึ้นยืน 

“เพราะฉะนั้นไล่มาเรียน่าออกได้เลยครับ”

“นายน้อย!!” ผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้นตวาดลั่น

“ขึ้นเสียงอีกแล้ว ข้าเป็นนายเจ้านะ!” เรย์เวนหันไปไปคอกกลับพร้อมสายตามองค้อนอีกหนึ่งครั้ง

“แต่ถึงยังไง นายน้อยก็น่ารักสำหรับฉันเสมอนะคะ” ไม่พูดเปล่ามาเรียน่ากระโจนเข้าไปกอดเอวสอบของเรย์เวนทันที ใบหน้าถูไถเสื้อผ้าอย่างออดอ้อน

ภาพที่ได้เห็นทั้งสองคนหยอกล้อเล่นกันอย่างสนิทสนม เป็นภาพที่คุ้นตาของคนในตระกูลดีลักซ์ไปแล้ว

มาเรียน่าเป็นหญิงรับใช้เพียงคนเดียวที่เรย์เวนสนิทใจให้เข้าใกล้ได้ถึงเพียงนี้ สามารถพูดจาแบบเป็นกันเองแบบไม่เคอะเขิน สามารถฝึกซ้อมดาบด้วยกันได้ เป็นผู้ช่วยเรย์เวนได้ทุกๆ อย่าง เป็นผู้ติดตาม เป็นพี่เลี้ยง เป็นคนขับรถม้าส่วนตัว ไม่เว้นแม้กระทั่ง…

“ฮ่าๆ ทั้งสองคนพอกันก่อนได้หรือไม่” เสียงหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมกับคำเอ่ยเตือน ทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก 

“เรย์เวน ลูกอยากไปฝึกเวทมนตร์กับพ่อหรือเปล่า”

“ผมก็ฝึกเวทตามแบบของผมทุกคืนนะครับท่านพ่อ” เด็กหนุ่มตอบกลับพร้อมกับผลักร่างของคนรับใช้ให้ออกห่าง

“ลูกชาย เจ้าไม่อยากเรียนเวทรักษาเพิ่มอีกหรอกหรือ”

“ปะ เปล่านะครับท่านพ่อ” เขาตอบน้ำเสียงตะกุกตะกัก แถมยังหลบสายตา “ผมกลัวจะทำได้ไม่ดีอีกน่ะครับ”

อาจจะเป็นเพราะเวทต้นกำเนิดของเรย์เวนไม่ใช่เวทรักษา จึงทำให้ไม่สามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญเหมือนผู้เป็นพ่อ แม้จะรีดเค้นมานาออกมามากเพียงใดก็ตาม

“ใอ่เอ้าอ่ะอายอ่าน อายอ้อยใอ้เอทอักอาไอ้อ่วยอากเอยเอ้าอ่ะ” 

(ใช่เจ้าค่ะนายท่าน นายน้อยใช้เวทรักษาได้ห่วยมากเลยเจ้าค่ะ)

มาเรียน่าพยายามที่จะเข้าร่วมบทสนทนาระหว่างพ่อกับลูก แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะโดนฝ่ามือหนาของนายน้อยบีบปากอยู่ด้วยความหมั่นไส้

“หุบปากซะ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า” น้ำเสียงทุ้มต่ำของเรย์เวนเอ่ยดุพร้อมแยกเขี้ยวอีกครั้ง

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ก่อนที่พ่อจะหาครูสอนดาบให้ลูกใหม่ได้ มาฝึกเวทกับพ่อไปก่อนก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรอกหรือ” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามซ้ำแต่สีหน้าของลูกชายยังลังเลไม่กล้าตอบกลับ 

“แค่เพียงเวทพื้นฐานเท่านั้น พ่อไม่ได้จะบังคับลูกรีดเค้นมานาเสียหน่อย” แวนคลิโอพยายามอธิบายความคิดของตนเองให้ชัดเจนขึ้น

“เอ่อ…”

“ลูกจะเลือกฝึกกับพ่อหรือฝึกกับแม่ แต่พ่อว่า-” เขาเอ่ยขึ้นยังไม่ทันจบประโยคแต่ลูกชายตัวดีก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ผมจะฝึกกับท่านพ่อครับ!!”

 

หน้าคฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์

ช่วงเวลายามสายหลังมื้อเช้าได้ไม่นาน สองสามีภริยากำลังยืนดูลูกชายคนเดียวขนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนที่สถาบันทหารในเมืองหลวง โดยมีข้ารับใช้หญิงคนสนิทคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง

  ณ ตอนนี้ระยะเวลาผ่านไปสามปี จนถึงวันที่เด็กหนุ่มเติบโตพอที่จะเข้ารับการศึกษาในสถาบันทหารได้แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันเข้าหอพักของนักเรียนทหารทุกชั้นปี

[ เรย์เวน ดีลักซ์ นักเรียนทหารชั้นปีที่ 2 ผู้ใช้เวทมืด เวทเลือด (พลังเวทยังอยู่ในขั้นพัฒนาได้อีก) ]

“ผมไปก่อนนะครับ ท่านพ่อ ท่านแม่” 

เด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวสว่างในชุดคลุมสีดำยาวก้มหัวบอกลาเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่ยืนทำหน้าเศร้าทั้งสองคน

“แม่ขอกอดหน่อยสิลูกรัก”

หญิงวัยกลางคนที่แม้จะมีอายุ แต่ใบหน้างดงามและดูอ่อนวัยราวกับเด็กสาวแรกแย้ม ใช้ฝ่ามือขาวเนียนคว้าแขนของลูกชายเข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็ว จนคนที่ถูกดึงไปดวงตาเบิกโพลง

“ดูแลตัวเองด้วยนะลูก วันหยุดก็กลับมาที่บ้านนะ” น้ำเสียงอ่อนโยนแฝงไปด้วยความเป็นห่วงจากใจจริงดังขึ้นพลางลูบแผ่นหลังกว้างของลูกชายที่ร่างกายสูงใหญ่กว่าตนเอง 

ใบหน้าของเรย์เวนแทบจะถอดแบบมาจากซาร่าทุกระเบียบนิ้ว ดวงตากลมโตที่ดูอ่อนหวาน ขนตายาวเงางามเหมือนเส้นไหมที่ถูกถักทอเป็นอย่างดี จมูกโด่งได้รูปตามพิมพ์นิยมของหญิงสาว ริมฝีปากเป็นกระจับโค้งมนสีชมพูระเรื่อ ใบหน้ารูปไข่ที่รับกับทรงผมซอยสั้นระต้นคอ 

หากจะแตกต่างก็คงเป็นนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มราวกับทะเลสาบในยามค่ำคืนที่เหมือนกับแวนคลิโอผู้เป็นบิดา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดตระกูลดีลักซ์

สัมผัสแผ่วเบาที่ลูบไล้ไปมาจากแผ่นหลัง และความรู้สึกอบอุ่นที่ถ่ายทอดมาให้ผ่านฝ่ามือขาวเนียน ชวนให้บรรยายกาศรอบข้างตลบอบอวลไปด้วยความรัก

ท่อนแขนแกร่งของเรย์เวนยกขึ้นโอบกอดตอบร่างกายของท่านแม่อย่างแนบแน่น 

“ปิดเทอมที่ผ่านมา ผมก็อยู่ที่บ้านนานแล้วนะครับท่านแม่” เสียงทุ้มต่ำของเด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความอ่อนล้าเล็กน้อยจากการถูกกอดนานเกินไป

“แต่แม่ยังไม่หายคิดถึงลูกเลย” เสียงหวานของซาร่า ตอบกลับมา เรียวแขนยังคงกอดรัดร่างกายของเขาแน่นไม่ยอมปล่อย

“ท่านพ่อช่วยพูดให้ท่านแม่ปล่อยผมทีสิครับ” 

เด็กหนุ่มหันไปขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นพ่อที่ยืนมองอยู่ไม่ไกล  นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มของเขาเต็มไปด้วยความอ้อนวอน

“ได้สิ คุณครับปล่อยชายลูกเราเถอะ” เขาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน จนในที่สุดหญิงวัยกลางคนก็ยอมคลายอ้อมกอดออก

“ให้ผมกอดลูกชายบ้าง” 

ทันใดนั้น แวนคลิโอก็ดึงรั้งร่างกายของลูกชายเข้ามากอดอย่างแนบแน่น ความอบอุ่นจากร่างกายที่สูงใหญ่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเด็กหนุ่มราวกับจะถ่ายทอดความรักและความห่วงใยทั้งหมดให้แก่เขา

แต่ดูเหมือนมันจะมากเกินไปจนเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีเริ่มรู้สึกอึดอัด

ให้ตายเถอะ…

เห็นข้าเป็นตุ๊กตาหมีกันหรือไง 

“ท่านพ่อ ผมอายุ 18 แล้วนะครับ กอดรัดเด็กหนุ่มแนบแน่นเช่นนี้ ท่านพ่อไม่เขินบ้างเหรอครับ” เรย์เวนพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเขินอายเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อ

“อะไรกัน ก็เจ้าเป็นลูกชายพ่อนี่ แค่นี้จะไปเขินทำไม” เขาหัวเราะออกมาเบาๆ พลางใช้ฝ่ามือใหญ่ขยี้กลุ่มผมของลูกชายเสียจนยุ่งเหยิง

“ปล่อยเถิดครับท่านพ่อ ถ้าช้ากว่านี้ผมจะเข้าหอพักสายนะครับ” เรย์เวนกอดตอบเล็กน้อยก่อนจะออกแรงดันร่างที่สูงใหญ่ของท่านพ่อออกเบาๆ เงยหน้าสบตากับดวงตาสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน

แวนคลิโอฉีกยิ้มจนเปลือกตาสองข้างปิดสนิท ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่ามีบาดแผลนะลูกชาย”

 ฝ่ามือหนาขยี้กลุ่มผมของลูกชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แผ่วเบากว่าเดิม ความห่วงใยถูกส่งตรงมาอย่างชัดเจน

“ผมไปเรียนนะครับ ยังไม่ได้ไปรบเสียหน่อย”

“ฮ่าๆ เดินทางปลอดภัยนะลูก” เจ้าของเรือนผมสีเทาหม่นยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองมาเรียน่า สาวใช้คนสนิทของลูกชายที่ยืนรออยู่ใกล้ๆ ซึ่งวันนี้เธอทำหน้าที่เป็นคนขับรถม้า “ดูแลลูกชายข้าดีๆ ล่ะ”

“รับทราบเจ้าค่ะนายท่าน” มาเรียน่าก้มหัวเล็กน้อยตอบรับคำสั่ง

“ท่านพ่อเองก็ต้องเข้าเมืองหลวงไปเตรียมตัวสอนเช่นกัน ทำไมไม่เดินทางไปพร้อมผมเลยล่ะครับ” เด็กหนุ่มเอียงคอเล็กน้อยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

แวนคลิโอเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ของสถาบันการแพทย์ที่จะเปิดเทอมในพรุ่งนี้เช่นกัน เพราะเหตุใดถึงไม่เข้าเมืองหลวงไปพร้อมกับลูกชาย

“พ่อยังมีธุระที่ต้องจัดการ แล้วจะตามไปค่ำๆ นะลูกชาย” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม แต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่คลายความสงสัย

เอาเถอะหากมีอะไรท่านพ่อคงจะจัดการเองนั่นแหละ

“เช่นนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”



 

เสียงฝีเท้าของม้าสองตัวที่กำลังวิ่งผสานกับเสียงล้อรถม้าที่ดังเป็นระยะ สายลมเย็นพัดปะทะเข้ากับใบหน้า สายตาทอดมองไปยังผืนป่าที่เขียวชอุ่ม พืชพันธุ์ธรรมชาตินานาชนิดที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในเมืองนีไอโอเนียที่ขึ้นชื่อในด้านธรรมชาติและสมุนไพรหายาก

ทิวทัศน์ที่ได้เห็นมันมากกว่าสิบแปดปีที่เกิดใหม่ในชีวิตนี้มาโดยตลอด ในชีวิตก่อนข้าเป็นเพียงบุตรชายของตระกูลเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในตรอกซอกซอยของเมืองหลวงไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับตระกูลดีลักซ์นี้ได้เลย

เมื่อก่อนข้าเคยคิดว่าเมืองชนบทด้านนอกคงจะใช้ชีวิตยากลำบากมากเสียกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง 

แต่เปล่าเลย… นี่มันช่างสุขสบายกว่ามากจริงๆ ผู้คนที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน บรรยากาศก็ช่างน่าอภิรมย์เสียจริง

ถ้าหากว่าน้องชายข้าได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่ก็คงจะดีไม่น้อย

ครืดดดดดด

เสียงเปิดหน้าต่างที่เชื่อมส่วนที่นั่งของรถม้าและด้านหน้าออก ทำให้สาวใช้ผู้คุมบังเหียนรถม้าเหลือบมองมาด้านหลัง

“มีอะไรหรือเปล่าคะนายน้อย” มาเรียน่าเอ่ยขึ้นโดยที่สายตายังมองตรงไปทางด้านหน้า

“แวะไปที่ร้านหนังสือของลูเซียสก่อนนะ” เรย์เวนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“นายน้อยเรียกท่านลูเซียสห้วนๆ อีกแล้วนะคะ ท่านลูเซียสเป็นถึงอดีตนักรบ แล้วก็อายุมากกว่าตั้งเยอะ” 

มาเรียน่าบ่นอุบอิบด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงปะปนความไม่พอใจเล็กน้อย  นางไม่เห็นด้วยกับการที่นายน้อยของตัวเองเรียกชื่อคนที่อายุมากกว่าอย่างห้วนๆ  

“หุบปากซะ ข้าจะเรียกอย่างไรมันก็เรื่องของข้า”

“นายน้อยนิสัยไม่ดีเลยค่ะ” 

มาเรียน่าคงทำหน้างออยู่แน่ๆ ถึงข้าไม่หันไปมองก็รู้ดี เพราะนางเป็นเช่นนั้นเสมอ

เรย์เวนคิดในใจ

ลูเซียส ฮาร์ท น้องชายที่อายุน้อยกว่าข้าหนึ่งปี เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ หลังจากที่ข้าตายในคืนนั้น ลูเซียสก็ถูกประณามจากประชาชนว่าเป็นคนอ่อนแอที่ไม่สามารถสู้เคียงข้างและช่วยชีวิตพี่ชายไว้ได้

ทำให้สูญเสียอัจฉริยะของจักรวรรดิไป

ลูเซียสจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยที่ 7 คืนยศนักรบ หันหลังให้กับสงครามและมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา ไม่กล้าจับดาบอีกต่อไป

อยากจะรู้เสียจริงว่าใครมันเป็นคนเริ่มลือเรื่องนี้ หากข้ารู้จะจับมันแหกปากให้ฉีกถึงหูเลยคอยดูเถอะ

เห้อ…ในคืนนั้นไม่ว่าใครจะเข้าไปในปราสาทก็เสี่ยงตายกันได้ทั้งนั้น ทำไมคนถึงได้พากันกล่าวโทษแต่น้องชายข้ากันนะ

สี่ต่อสอง

ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงราชาปีศาจและองครักษ์ 3 ตน การที่ลูเซียสรอดกลับมาได้นั่นมันก็ปาฏิหาริย์แล้ว แท้จริงแล้วมันควรเป็นข้าเองด้วยซ้ำที่เป็นคนผิด ดึงดันจะไปสอดแนมที่ถิ่นของศัตรูเสียให้ได้ แม้ว่าทุกคนจะเอ่ยคัดค้านก็ตาม

ลูเซียส ข้าขอโทษ…

ในขณะที่เรย์เวนพร่ำคิดอยู่ภายในใจ เสียงรถม้าหยุดกึก  ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปถามมาเรียน่าผ่านหน้าต่างที่ยังคงเปิดค้างอยู่

“เกิดอะไรขึ้นมาเรียน่า” 

“โจรป่าค่ะนายน้อย”

 

 

To be continued


ตอนแรกมาแล้วค่าาา มาถึงก็เจอโจรป่ากันเลย ช่วงเวลาอาจจะไทม์สคริปเยอะหน่อยแต่อธิบายค่อนข้างละเอียดนิดนึงหวังว่านักอ่านจะไม่งงกันค่ะ

รับรองว่าสู้กันแหลก แอคชั่นนัว ปะทะเวทและวิถีดาบกันกระจาย แต่ก็ซ่อนปมและดราม่าหน่อยๆ ด้วยค่ะ เลิฟไลน์น้อยมาก น้อยจนนักเขียนเองยังหาไม่เจอเลยว่าอยู่ตรงไหน 5555555

พูดคุยและทวงตอนต่อไปได้ที่ X : @gukkeyjbj

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่าาาาาา

***ย้ำอีกที อัปสัปดาห์ละ 1 ตอน ทุกวันเสาร์ 22.00 น. เวลาไทย***