”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา
"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์
วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้
#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9
ห้องโถง คฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์ เมืองนีไอโอเนีย
"คุณดูอะไรอยู่ครับ ซาร่า" ชายวัยกลางคนผู้เป็นผู้นำตระกูลและขุนนางระดับสูงเดินเข้ามาทักหญิงสาวผู้เป็นภริยาที่กำลังยืนมองเด็กน้อยอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่
[ซาร่า คูเวต ดีลักซ์ จอมเวท ภาพลวงตา เลเวล 6]
[แวนคลิโอ ดีลักซ์ มหาจอมเวท รักษา เลเวล 8 ผู้นำตระกูลดีลักซ์]
"ฉันดูเรย์เวนซ้อมดาบค่ะ อายุเพิ่งเจ็ดขวบเอง เขาเอาแต่แกว่งดาบไม่หยุดเลยค่ะ" หญิงสาวในชุดเต็มยศตอบกลับ พลางส่งสายตาเป็นห่วงไปยังลูกชายคนเดียวในลานกว้างด้านล่าง "เขาเป็นลูกของเราจริงๆ ใช่มั้ยคะ?" ซาร่าเอ่ยถามโดยที่สายตายังไม่ละจากเด็กน้อย
"ทำไมคุณพูดแบบนั้นล่ะครับ เรย์เวนเป็นลูกชายของเรานะ" แวนคลิโอเอ่ยพลางแตะบ่าภริยาอย่างแผ่วเบา
"แต่พลังเวทต้นกำเนิดของเขาต่างจากเราทั้งคู่" สีหน้ากังวลเผยให้เห็นอย่างเด่นชัด
"เวทมืดกับเวทเลือดสินะครับ เป็นเด็กที่เกิดมามีเวทต้นกำเนิดสองธาตุอีกทั้งยังเป็นพลังที่หายากทั้งคู่ด้วย"
"ค่ะ เขาเหมือน…อัจฉริยะของจักรวรรดิคนนั้นเลย"
"ไม่ใช่หรอกครับ ดูสีตาเขาสิ" ฝ่ามือหนาทั้งสองข้างค่อยๆ จับบ่าของคนหน้าตรงหน้าให้หันมามองที่ตนเอง "ตาเขาเป็นสีน้ำเงินเหมือนกับผมเลยไม่ใช่หรือครับ"
"แต่ว่า…" ซาร่าเงยหน้ามองสามีด้วยแววตาสั่นไหว
"เรย์เวน ดีลักซ์เป็นลูกของเราครับ ต่อจะให้เขาใช้เวทอะไร หรืออยากจะเป็นนักดาบด้วยก็ไม่เป็นไร"
"คุณคะ…" หยดน้ำสีใสเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง
"เชื่อใจลูกของเรานะครับ" ฝ่ามือหนาลูบเรือนผมสีดำสนิทอย่างอ่อนโยน รั้งร่างภริยาที่รักเข้ามาโอบกอด ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "มาเรียน่า"
"เจ้าค่ะ นายท่าน" หญิงสาวในชุดแม่บ้านเดินออกมาจากจุดลับสายตาด้านหลัง ก้มหัวลงเล็กน้อยตอบรับคำเรียกของผู้เป็นนาย
"เจ้าเคยเป็นนักดาบของประเทศฝั่งตะวันออก"
"เจ้าค่ะ"
"เพราะเช่นนั้นเจ้าจงไปเป็นคู่ซ้อมดาบให้เรย์เวนที" ชายหนุ่มผู้นำตระกูลทอดมองไปยังลูกชายที่ยังคงแกว่งดาบอย่างไม่หยุดพักในลานกว้าง ก่อนจะหันไปหาคนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ "จากนี้ก็ดูแลลูกชายของข้าด้วยล่ะ นี่เป็นคำสั่ง!"
"น้อมรับคำสั่งเจ้าค่ะนายท่าน"
ลานฝึก
ชิ้ง!!
เสียงดาบโลหะสองเล่มปะทะกันอย่างไม่หยุดหย่อนเนิ่นนานหลายชั่วโมง เสียงหอบหายใจที่เริ่มเหนื่อยล้าดังขึ้นเป็นระยะ ทักษะและวิถีดาบของทั้งสองคนที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เด็กหนุ่มวัย 15 ปี กำลังได้เปรียบในการประลองครั้งนี้ ปลายดาบสีเงินตวัดขึ้นอย่างรุนแรงจนทำให้ดาบเล่มยาวของนักดาบหญิงร่วงหล่นลงพื้น
แกร๊ง!!
ตุ้บ!!
"นายน้อยเรย์เวนคะ ฉันแพ้แล้วค่ะ" มาเรียน่าพูดเสียงสั่นเครือขณะที่คุกเข่าลงกับพื้นหิน ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา
"ลุกขึ้นมา เอาอีกรอบ!" เด็กหนุ่มยืนเหยียดตรงหันดาบชี้ไปที่ข้ารับใช้สาวคนสนิท
"นายน้อยคะ!! ฉันไม่ใช่คู่ซ้อมของนายน้อยแล้วค่ะ!!" สีหน้าไม่พอใจแสดงออกมาพร้อมกับดีดดิ้นไปทั่วลานฝึก
"เจ้าอายุเท่าไหร่กันมาเรียน่า ถึงได้งอแงเป็นเด็กเช่นนี้" เรย์เวนส่งสายตาเอือมระอาก่อนจะเก็บดาบยาวเข้าฝัก
"ก็นายน้อยเก่งนี่คะ ฉันฝึกกับนายน้อยไม่ได้แล้ว พอแล้วค่ะ ยอมแพ้" พูดจบอัศวินหญิงก็นอนแผ่ราบไปกับลานหินขนาดใหญ่
"พ่อจะหาครูสอนดาบให้เจ้าดีหรือไม่" เสียงของผู้นำตระกูลดังขึ้นขณะที่ค่อยๆ ย่างกรายเข้ามาใจกลางลานฝึกที่ทั้งสองคนอยู่
"ท่านพ่อ/นายท่าน!"
"ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าจะว่าอย่างไรล่ะเรย์เวน" รอยยิ้มที่จริงใจปรากฏขึ้น เรย์เวนเห็นใบหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก
แวนคลิโอเป็นพ่อที่ดีและสมบูรณ์แบบมาก ไม่เคยบังคับ ฝืนใจให้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ แล้วยังสนับสนุนทุกทางที่เขาเลือกเดินจากใจจริง ต่างจากซาร่า รายนั้นเห็นนิ่มๆ ยิ้มหวาน พูดจาอ่อนโยน เปรียบเสมือนนางฟ้าแต่ตอนเข้าโหมดฝึกพลังเวทกลับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
"ก็ดีนะครับท่านพ่อ ผมเองก็อยากเก่งให้มากกว่านี้ แล้วก็อยากมีวิถีดาบเป็นของตัวเองด้วยครับ" เด็กหนุ่มตอบพลางสบตาผู้นำตระกูลอย่างตั้งใจ ก่อนจะเบนสายตาไปยังสาวใช้ที่กำลังจะลุกขึ้นยืน "เพราะฉะนั้นไล่มาเรียน่าออกได้เลยครับ"
"นายน้อย!!!!" ผู้หญิงหนึ่งเดียวในที่นั้นตวาดลั่น
"ขึ้นเสียงอีกแล้ว ข้าเป็นนายเจ้านะ!" ไม่พ้นที่เรย์เวนจะหันไปค้อนใส่อีก
"แต่ถึงยังไง นายน้อยก็น่ารักสำหรับฉันเสมอนะคะ" ไม่พูดเปล่ามาเรียน่ากระโจนเข้าไปกอดเอวสอบของเรย์เวนทันที
ภาพที่ได้เห็นทั้งสองคนหยอกล้อเล่นกันอย่างสนิทสนม เป็นภาพที่คุ้นตาของคนในตระกูลดีลักซ์ไปแล้ว
มาเรียน่าเป็นหญิงรับใช้เพียงคนเดียวที่เรย์เวนสนิทใจให้เข้าใกล้ได้ถึงเพียงนี้ สามารถพูดจาแบบเป็นกันเองแบบไม่เคอะเขิน สามารถฝึกซ้อมดาบด้วยกันได้ เป็นผู้ช่วยเรย์เวนได้ทุกๆ อย่าง เป็นผู้ติดตาม เป็นพี่เลี้ยง เป็นคนขับรถม้าส่วนตัว ไม่เว้นแม้กระทั่ง............
"ฮ่าๆ ทั้งสองคนพอกันก่อนได้หรือไม่" เสียงหัวเราะอย่างชอบใจพร้อมกับคำเอ่ยเตือน ทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก "เรย์เวน ลูกอยากไปฝึกเวทมนตร์กับพ่อหรือเปล่า"
"ผมก็ฝึกเวทตามแบบของผมทุกคืนนะครับท่านพ่อ" เด็กหนุ่มตอบกลับพร้อมกับผลักร่างของคนรับใช้ให้ออกห่าง
"ลูกชาย เจ้าไม่อยากเรียนเวทรักษาเพิ่มอีกหรอกหรือ "
"ปะ เปล่านะครับท่านพ่อ" เขาตอบน้ำเสียงตะกุกตะกัก แถมยังหลบสายตา "ผมกลัวจะทำได้ไม่ดีอีกนะขอรับ"
อาจจะเป็นเพราะเวทต้นกำเนิดของเรย์เวนไม่ใช่เวทรักษา จึงทำให้ไม่สามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญเหมือนผู้เป็นพ่อ แม้จะรีดเค้นมานาออกมามากเพียงใดก็ตาม
"ใอ่เอ้าอ่ะอายอ่าน อายอ้อยใอ้เอทอักอาไอ้อ่วยอากเอยเอ้าอ่ะ" (ใช่เจ้าค่ะนายท่าน นายน้อยใช้เวทรักษาได้ห่วยมากเลยเจ้าค่ะ) มาเรียน่าพยายามที่จะเข้าร่วมบทสนทนาระหว่างพ่อกับลูก แต่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะโดนฝ่ามือหนาของนายน้อยบีบปากอยู่ด้วยความหมั่นไส้
"หุบปากซะ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า" น้ำเสียงทุ้มต่ำของเรย์เวนเอ่ยดุพร้อมแยกเขี้ยวอีกครั้ง
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ก่อนที่พ่อจะหาครูสอนดาบให้เจ้าใหม่ได้ มาฝึกเวทกับพ่อไปก่อนก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรอกหรือ" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามซ้ำแต่สีหน้าของลูกชายยังลังเลไม่กล้าตอบกลับ "แค่เพียงเวทพื้นฐานเท่านั้น พ่อไม่ได้จะบังคับลูกรีดเค้นมานาเสียหน่อย" แวนคลิโอพยายามอธิบายความคิดของตนเองให้ชัดเจนขึ้น
"เอ่อ..."
"เจ้าจะเลือกฝึกกับพ่อหรือฝึกกับแม่ แต่พ่อว่า-" เขาเอ่ยขึ้นยังไม่ทันจบประโยคแต่ลูกชายตัวดีก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
"ผมจะฝึกกับท่านพ่อครับ!!"
หน้าคฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาหลังมื้อเช้าได้ไม่นาน สามีและภริยากำลังยืนดูลูกชายคนเดียวขนข้าวของเครื่องใช้จำเป็นใส่รถม้าเพื่อเตรียมตัวไปเรียนที่สถาบันทหารในเมืองหลวง โดยมีข้ารับใช้หญิงคนสนิทคอยช่วยอยู่ไม่ห่าง
rachel part
"ผมไปก่อนนะครับ ท่านพ่อ ท่านแม่" ข้าก้มหัวให้ทั้งคู่เล็กน้อย ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตา
ทั้งสองคนจะทำหน้าเศร้าไปถึงเมื่อไหร่กัน ข้าแค่ไปเรียนเองนะ
"แม่ขอกอดหน่อยสิลูกรัก" จะกอดข้าอีกแล้วรึ อร๊ากกกก (*`ω´) จะขอทำไมในเมื่อจะดึงข้าไปรวดเร็วเช่นนี้ ท่านแม่!! "ดูแลตัวเองด้วยนะลูก วันหยุดก็กลับมาที่บ้านนะ" ท่านแม่พูดพลางลูบแผ่นหลังของข้าไปด้วย ถึงจะน่ารำคาญไปบ้าง แต่ก็รับรู้ได้ถึงความรักและความเป็นห่วงจากใจจริง
ไม่อยากปฏิเสธเลยว่านี่คือสิ่งที่ข้าโหยหามาตลอด…
"ปิดเทอมที่ผ่านมา ผมก็อยู่ที่บ้านนานแล้วนะครับท่านแม่" ใช่ ข้าอยู่แต่บ้านจนเบื่อไปหมด
"แต่แม่ยังไม่หายคิดถึงลูกเลย" สองแขนยังกอดรัดแน่นไม่ยอมปล่อย
"ท่านพ่อช่วยพูดให้ท่านแม่ปล่อยผมทีสิครับ" สายตาเว้าวอนถูกส่งไปให้แวนคลิโอผู้เป็นพ่อที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
"ได้สิ คุณครับปล่อยชายลูกเราเถอะ" น้ำเสียงสุภาพพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน จนในที่สุดท่านแม่ก็ปล่อยข้าเสียที "ให้ผมกอดลูกชายบ้าง" ยังไม่ทันได้ตั้งตัวข้าก็ถูกผู้ชายอายุใกล้เลขห้าดึงเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น
ให้ตาย…
เห็นข้าเป็นตุ๊กตาหมีกันหรือไง o (‧""‧) o
"ท่านพ่อ ผมอายุ 18 แล้วนะครับ กอดรัดเด็กหนุ่มแนบแน่นเช่นนี้ ท่านพ่อไม่เขินบ้างหรือครับ"
"อะไรกัน ก็เจ้าเป็นลูกชายพ่อนี่ แค่นี้จะไปเขินทำไมหรือ" ไม่พูดเปล่ายังใช้ฝ่ามือละเลงผมข้าจนยุ่งเหยิงไปหมด
เห้อ…
"ปล่อยเถิดครับท่านพ่อ ถ้าช้ากว่านี้ผมจะเข้าหอพักสายนะครับ" ข้ากอดตอบเล็กน้อยก่อนจะออกแรงดันร่างที่สูงใหญ่ของท่านพ่อออกเบาๆ เงยหน้าสบตาอีกครั้ง
"อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่ามีบาดแผลนะลูกชาย" เป็นอีกครั้งที่ฝ่ามือหนาขยี้กลุ่มผมของข้า แต่รอบนี้แผ่วเบากว่าครั้งก่อน ความเป็นห่วงถูกส่งตรงมาจนข้ารู้สึกได้
"ผมไปเรียนนะครับ ยังไม่ได้ไปรบเสียหน่อย"
"ฮ่าๆ เดินทางปลอดภัยนะลูก" พูดจบก็หันไปหาสาวใช้คนสนิทของข้าที่วันนี้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถม้าอีกด้วย "ดูแลลูกชายข้าดีๆ ล่ะ"
"รับทราบเจ้าค่ะนายท่าน" มาเรียน่าก้มหัวเล็กน้อยตอบรับคำสั่ง
"ท่านพ่อเองก็ต้องเข้าเมืองหลวงไปเตรียมตัวสอนเหมือนกัน ทำไมไม่เดินทางไปพร้อมผมเลยล่ะครับ" จริงๆ ข้าก็สงสัยอยู่นานแล้ว ท่านพ่อก็เป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันการแพทย์ ที่จะเปิดเทอมในพรุ่งนี้เช่นกัน ทำไมถึงไม่เข้าเมืองหลวงไปพร้อมข้ากันนะ
"พ่อยังมีธุระที่ต้องจัดการ เดี๋ยวจะไปค่ำๆ นะลูกชาย" คำพูดพร้อมรอยยิ้มที่เห็นจนชินตา แต่ถึงยังไงก็ยังแอบสงสัยอยู่ดี
เอาเถอะท่านพ่อคงจะจัดการเองนั่นแหละ
"เช่นนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
เสียงฝีเท้าของม้าสองตัวที่กำลังวิ่งผสานกับเสียงล้อรถม้าที่ดังเป็นระยะ สายลมเย็นพัดปะทะเข้ากับใบหน้า สายตาทอดมองไปยังผืนป่าที่เชียวชอุ่ม พืชพันธุ์ธรรมชาตินานาชนิดที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในเมืองนีไอโอเนียที่ขึ้นชื่อในด้านธรรมชาติและสมุนไพรหายาก
ทิวทัศน์ที่ได้เห็นมันมากกว่าสิบแปดปีที่เกิดใหม่ในชีวิตนี้มาโดยตลอด ในชีวิตก่อนข้าเป็นเพียงบุตรชายของตระกูลเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในตรอกซอกซอยของเมืองหลวง ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับตระกูลดีลักซ์นี้ได้เลย
เมื่อก่อนข้าเคยคิดว่าเมืองชนบทด้านนอกคงจะใช้ชีวิตยากลำบากมากเสียกว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง แต่เปล่าเลย… นี่มันช่างสุขสบายกว่ามากจริงๆ ผู้คนที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน บรรยากาศก็ช่างน่าอภิรมย์เสียจริง
ถ้าหากว่าน้องชายข้าได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่ก็คงจะดีไม่น้อย
ครืดดดดดด
เสียงเปิดหน้าต่างที่เชื่อมส่วนที่นั่งของรถม้าและด้านหน้าออก ทำให้คนที่ตั้งใจบังคับม้าเหลือบมามองเล็กน้อย
"มีอะไรหรือเปล่าคะนายน้อย" นางตอบกลับโดยที่สายตายังมองตรงไปทางด้านหน้า
"แวะไปที่ร้านหนังสือของลูเซียสก่อนนะ"
"นายน้อยเรียกท่านลูเซียสห้วนๆ อีกแล้วนะคะ ท่านลูเซียสเป็นถึงอดีตนักรบ แล้วก็อายุมากกว่าตั้งเยอะ" เป็นรอบที่ร้อยได้มั้ง ที่คนรับใช้ของข้าสั่งสอนเรื่องนี้ อายุมากกว่าแล้วยังไงล่ะ นั่นน้องชายข้านะ
"หุบปากซะ ข้าจะเรียกอย่างไรมันก็เรื่องของข้า"
"นายน้อยนิสัยไม่ดีเลยค่ะ" มาเรียน่าคงทำหน้างออยู่แน่ๆ ถึงข้าไม่หันไปมองก็รู้ดี เพราะนางเป็นแบบนั้นเสมอ
ลูเซียส ฮาร์ท น้องชาย ที่อายุน้อยกว่าข้าหนึ่งปี เป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ หลังจากที่ข้าตายในคืนนั้น น้องชายก็ถูกประณามจากประชาชนว่าเป็นคนอ่อนแอที่ไม่สามารถสู้เคียงข้างและช่วยชีวิตพี่ชายได้
ทำให้สูญเสียอัจฉริยะของจักรวรรดิไป
ลูเซียสจึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยที่ 7 คืนยศนักรบ หันหลังให้สงคราม และมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดา ไม่กล้าจับดาบอีกต่อไป
อยากจะรู้เสียจริงว่าใครมันเป็นคนเริ่มลือเรื่องนี้ หากข้ารู้จะจับมันแหกปากให้ฉีกถึงหูเลยคอยดูเถอะ
เห้อ…ในคืนนั้นไม่ว่าใครจะเข้าไปในปราสาทก็เสี่ยงตายกันได้ทั้งนั้น ทำไมคนถึงได้พากันโทษแต่น้องชายข้ากันนะ
สี่ต่อสอง
ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงราชาปีศาจและองค์รักษ์ 3 ตน การที่ลูเซียสรอดกลับมาได้นั่นมันก็ปาฏิหาริย์แล้ว จริงๆ มันควรเป็นข้าเองด้วยซ้ำที่เป็นคนผิด ดึงดันจะไปสอดแนมที่ถิ่นของศัตรูให้ได้ แม้ว่าทุกคนจะเอ่ยคัดค้านก็ตาม
ลูเซียส ข้าขอโทษ…
กึก!
อยู่ๆ รถม้าก็หยุดวิ่ง
"เกิดอะไรขึ้นมาเรียน่า" ข้าหันไปถามนางผ่านหน้าต่างที่ยังคงเปิดค้างไว้ตามเดิม
"โจรป่าค่ะนายน้อย"
To be continued
ตอนแรกมาแล้วค่าาา มาถึงก็เจอโจรป่ากันเลย ช่วงเวลาอาจจะไทม์สคริปเยอะหน่อยแต่อธิบายค่อนข้างละเอียดนิดนึงหวังว่านักอ่านจะไม่งงกันค่ะ แล้วก็นิยายเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นมุมมองของตัวเอกเป็นหลักยกเว้นช่วงต่อสู้ที่จะบรรยายผ่านมุมมองบุคคลที่สาม
รับรองว่าสู้กันแหลก แอคชั่นนัว ปะทะเวทและวิถีดาบกันกระจาย แต่ก็ซ่อนปมและดราม่าหน่อยๆ ด้วยค่ะ เลิฟไลน์น้อยมาก น้อยจนนักเขียนเองยังหาไม่เจอเลยว่าอยู่ตรงไหน 5555555
พูดคุยและทวงตอนต่อไปได้ที่ X : @gukkeyjbj
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่าาาาาา