”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา
"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์
วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้
#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9
กึก!
อยู่ๆ รถม้าก็หยุดวิ่ง
"เกิดอะไรขึ้นมาเรียน่า" ข้าหันไปถามนางผ่านหน้าต่างที่ยังคงเปิดค้างไว้ตามเดิม
"โจรป่าค่ะนายน้อย" นางตอบกลับ
"ข้าก็รู้สึกว่ามีคนตามมาตั้งนานแล้วเหมือนกัน มันออกมาแล้วหรือไง" จริงๆ ตั้งแต่ออกจากนีไอโอเนียมาก็รู้สึกมาตลอดว่าถูกตามอยู่ คงจะรอจังหวะบุกเข้ามางั้นสิ เพราะถ้าปล้นในเมืองเกิดของข้าไม่พ้นจะโดนท่านพ่อสั่งแขวนคอเป็นแน่
"เหมือนว่าจะถูกล้อมไว้หมดแล้วนะคะนายน้อย"
มาเรียน่าพูดโดยที่สายตาสอดส่องบริเวณโดยรอบ ทั้งบนต้นไม้รวมถึงพงหญ้าที่อยู่ไม่ไกล แต่ไม่มีท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
"พวกมันคงคิดว่ามีแค่สาวสวยขับรถม้าหนึ่งคน แล้วจะจัดการได้ง่ายสินะคะ"
นางเอ่ยขึ้นยังไม่ทันจบดี ก็มีชายวัยกลางคนที่แค่ดูผ่านๆ อย่างไรก็ดี มันเดินออกมาจากหลังต้นไม้ ท่าทางก็ดูออกได้ทันทีว่าไม่ใช่คนดีอย่างเห็นได้ชัด
"เห้ย! ถ้าไม่อยากตายก็ส่งของมีค่ามาให้หมด" มันพูดพลางแกว่งขวานเล่มใหญ่ไปมา
แต่พวกข้าต้องสนใจด้วยหรือไง
"ข้าเถียงขาดใจตรงประโยคสาวสวยแล้วกัน เจ้าอายุสี่สิบแล้วนะ เรียกว่ายายแก่ก็ไม่ผิดเสียหน่อย"
"นายน้อย!!! ฉันเพิ่งยี่สิบต้นๆ เองนะคะ!" มาเรียน่าหันมาตวาดใส่ แถมยังแยกเขี้ยวอย่างไม่พอใจอีกด้วย
"เจ้าพูดถึงเรื่องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วงั้นหรือ" ข้าใช้ฝ่ามือดันหน้านางให้ออกไป
"เห้ย! พวกแก เมินข้าเหรอ!!" โจรป่าตะโกนแย้งขึ้น ทำให้เราทั้งสองคนหยุดเถียงแล้วหันไปมอง "คิดจะแกล้งทะเลาะกันถ่วงเวลาหรือไง ถึงอย่างไรวันนี้พวกแกก็ไม่รอดหรอก" มันยกมือส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่ซ่อนตัวอยู่เผยตัวออกมา ผู้ชายร่างใหญ่เกือบสามสิบคนรุมล้อมรถม้าเพียงคันเดียว "เลือกมา จะทิ้งของมีค่าไว้แล้วไสหัวไป หรือจะตายอยู่ที่นี่" คำขู่สิ้นสุดมันก็ชี้ขวานอันใหญ่ตรงมาอย่างมั่นใจ
ข้ากับมาเรียน่าหันหน้าสบตากันชั่วครู่…
/ (•_•) / (•_•)
…ทะเลาะกันต่อ
/ (•ㅁ•) / (•ㅁ•)
ตึงงงง!!!!
เหมือนเจ้าโจรป่าจะอดทนกับการโดนเมินไม่ไหว จามขวานเล่มใหญ่ใส่ต้นไม้ใกล้ๆ จนล้มลงมาในครั้งเดียว
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืน คิดว่าข้าล้อเล่นงั้นหรือ!!" สายตาคาดโทษหมายจะเอาชีวิตถูกส่งตรงมา พวกลูกน้องพากันกระชับอาวุธในมือ
ตู้มมมม!!
"อั่กกกก!!!"
แค่เพียงเสี้ยววินาทีร่างของข้าก็ปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของมันพร้อมกับออกแรงถีบเข้าที่สะโพกจนมันกระเด็นไปชนกับต้นไม้ใหญ่ ของเหลวสีแดงกระอั่กออกจากปากลงมากองที่พื้น คนอื่นๆ ที่เห็นภาพนั้นพากันกรูถอยหลังออกจากจุดปะทะ
[เวทเลเวล 2 เคลื่อนย้ายชั่วพริบตา]
"เจ้าเรียกใครว่าเด็กเมื่อวานซืน ห๊าาา!?" ถ้าให้นับจริงๆ ข้าสี่สิบกว่าแล้วนะ ไอ้เวรนี่!
end part
"แค่กๆ ยะ อย่าบอกนะ ว่าแก ปะ เป็นนักเวท" แค่แรงกระแทกเพียงครั้งเดียวร่างของโจรก็สะบักสะบอมพอตัวถึงกับต้องใช้แรงทั้งหมดเพื่อฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นเอ่ยวาจา
"ถ้ารู้แล้วจะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือไง" สองขาของเรย์เวนค่อยๆ ก้าวตรงเข้าไปหาจนมันพยายามจะถอยหนี "เพราะไม่ว่าอย่างไร เจ้าก็ตายอยู่ดี" ออร่าสีดำปรากฎขึ้นทั่วร่างกายจากนั้นมันก็แทรกซึมเข้าไปในท่อนแขนขวา เพียงไม่นานแขนข้างนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทที่มีความแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า
[เวทเลเวล 4 ดาร์คแฮนด์ แปรสภาพแขนให้เป็นของแข็งที่สามารถเจาะทะลุร่างกายได้]
ฉึกกกก!
"อร๊ากกกกกก!!"
ท่อนแขนเจาะเข้าที่กลางหัวใจจนทะลุออกด้านหลังโลหิตสีแดงไหลย้อยตามซอกนิ้วหยดลงสู่พื้น เสียงตะโกนของโจรป่าดังลั่น
ใบหน้าที่เปรอะเปื้อนเลือดหลุดยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะดึงแขนออกมาจากร่างที่ไร้ชีวิตจนล้มลงไปกองที่พื้น
“อย่าเข้ามา” เสียงเอื้อนเอ่ยของเด็กหนุ่มทำให้เหล่าลูกสมุนที่สูญเสียผู้นำถึงกับชะงักเพราะจากที่ได้เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ไม่มีใครกล้าขยับร่างกายเลยแม้แต่น้อย “ข้าบอกว่าอย่าไง…มาเรียน่า” สายตาดุดันเหลือบมองไปทางข้ารับใช้
หญิงสาววัยกลางคนที่ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยกำลังก้าวขาลงจากที่นั่งของคนบังคับม้า ในมือข้างซ้ายถือดาบยาวคู่กายที่ยังคงอยู่ในฝัก
“ฉันร่วมด้วยไม่ได้หรือคะ”
“ไม่ต้อง!” คำปฏิเสธหนักแน่นทำให้คนรับใช้ต้องกลับไปนั่งมองตามเดิม “ข้าจะให้พวกเจ้าเลือก” เจ้าของเรือนผมสีขาวสว่างยาวระต้นคอเอ่ยถามพร้อมกับหันหน้ามองไปยังเหล่าลูกน้องที่ยังยืนแข็งค้างไม่กล้าขยับตัว “จะวิ่งหนีไปให้ไกลภายในเวลาสิบวินาที หรือ จะตายมันเสียตรงนี้ ตอนนี้”
ทันทีพูดจบพลังเวทสีดำที่ปะปนด้วยรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาจากร่างกายทำให้เหล่าโจรป่าต่างพากันเหงื่อตก ใบหน้าซีดเผือด ขาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เหมือนหนูตัวน้อยที่ยืนสั่นกลัวต่อหน้าราชสีห์หิวโหยที่พร้อมจะเขมือบได้ทุกเมื่อ
แกร๊ง!
โจรป่าปลายแถวคนหนึ่งตัดสินใจทิ้งอาวุธในมือแล้วออกตัววิ่งสุดชีวิต จนทำให้คนที่เหลือตั้งสติได้และพากันวิ่งหนีไปอย่างชุลมุนทั่วทิศทาง
“จะปล่อยไปหรือคะนายน้อย" สาวใช้ที่เฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ตลอดถามขึ้นเพราะยังเห็นผู้เป็นนายยืนนิ่งไม่ไหวติง
“เปล่าหรอก” คำตอบสั้นๆ ถูกเอ่ยออกมาก่อนจะเริ่มขยับตัวก้าวเดินช้าๆ ไปทางดาบเล่มหนึ่งที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่พื้น เขาบรรจงหยิบมันขึ้นมา “ข้าแค่อยากออกกำลังเสียหน่อย” เมื่อพูดจบเรย์เวนก็ปลดปล่อยพลังเวทของตัวเองใส่ลงไปในดาบที่ถืออยู่
เปรี๊ยะ!
แต่ดาบเล่มนั้นมันเปราะบางเกินไปไม่สามารถทนรับพลังเวทที่ทรงพลังได้จึงเกิดรอยร้าวทั่วคมดาบ
“ชิ! ของกระจอกก็ได้แค่นี้สินะ” เสียงพึมพำเบาๆ ออกจากปากของเด็กหนุ่มดังขึ้นพลางกวัดแกว่งดาบให้คุ้นมือ “เอาล่ะ มาล่าหนูกันดีกว่า”
เมื่อพูดจบร่างของเรย์เวนก็หายวับไปทันทีเหลือเพียงฝุ่นควันจางๆ ไว้ ก่อนจะปรากฎขึ้นตรงหน้าของโจรป่าที่ออกตัววิ่งคนแรก
“เจ้าสินะที่วิ่งก่อนใคร แต่ข้ายังไม่ได้นับเลขเลยนะ”
ฉวับ!
ดาบยาวตวัดตัดคอจนขาดกระเด็นในครั้งเดียว เลือดอุ่นๆ พุ่งกระฉูดเปื้อนเสื้อผ้าของผู้ที่ปลิดชีวิต ร่างไร้วิญญาณที่ไม่มีหัวล้มกองลงกับพื้น
สายตาเฉียบคมเหลือบไปเห็นคนที่กำลังหนีตายหลายคนอยู่ไม่ไกล รอยยิ้มมุมปากเผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างนึกสนุก
วงแหวนเวทมนตร์ปรากฎขึ้นที่ด้านบนศีรษะของเด็กหนุ่ม เงาสีดำยืดยาวคล้ายรากไม้หลายสิบอันโผล่ออกมาจากวงแหวน มันพุ่งตรงไปยังผู้คนที่กำลังหลบหนี เกี่ยวรัดร่างไว้แล้วดึงให้กลับเข้ามาใกล้ผู้ใช้พลัง เสียงกรีดร้องขอชีวิตดังลั่นป่าใหญ่
[พันธนาการเงามืด เวทเลเวล 4]
ฉวับ!
เขาขยับตัวตวัดดาบเป็นวงกลมเพียงครั้งเดียว ก็สามารถตัดขาดร่างทั้งหมดกว่าสิบชีวิตรวมไปถึงต้นไม้ใหญ้ที่อยู่รอบๆ จนขาดครึ่ง เลือดซาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณเหมือนห่าฝนขนาดย่อมจนพื้นดินชุ่มไปด้วยของเหลวสีแดงสด กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว
เด็กหนุ่มในชุดผ้าคลุมสีดำสนิทเปลี่ยนป่าใหญ่ที่เป็นทางผ่านไปยังเมืองหลวงให้เป็นสนามล่าหนูส่วนตัว เขาไล่ปลิดชีพเหล่าโจรป่าไปเรื่อยๆ จนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว ไม่เว้นแม้คนที่ก้มลงคุกเข่าอ้อนวอนขอให้ไว้ชีวิตจนหน้าผากแนบชิดกับพื้นดินก็ถูกแทงทะลุหัวใจเช่นกัน
เวลาผ่านไปไม่นาน เด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวสว่างที่ตอนนี้เปรอะเปื้อนโลหิตทั่วทั้งตัวเดินถือดาบที่คงเหลือไว้เพียงด้ามจับเพราะมันแตกสลายไปกับการฟาดฟันจนหมดสิ้นกลับมาที่รถม้าในสภาพที่ยังข่มอารมณ์ที่พลุ่งพล่านตอนสังหารผู้คนเมื่อครู่ไว้ไม่ได้ ดวงตาสีแดงไม่ต่างจากเลือดที่ถูกปอยผมหน้าม้าปกปิดไว้ยังคงฉายแววน่ากลัวของความเป็นผู้ล่า
“มาเรียน่า~” เสียงเรียกลากยาวดังขึ้นเมื่อเดินมาถึงกลับไม่พบคนที่ต้องการเจอ
“ขา นายน้อย” หญิงสาวเดินถือถังไม้ขนาดพอดีที่ใส่น้ำไว้จนเต็มออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ “ฉันเตรียมน้ำไว้สำหรับล้างหน้ากับเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนเรียบร้อยแล้วค่ะ” คำพูดพร้อมรอยยิ้มและท่าทางสดใสของมาเรียน่าไม่เกรงกลัวต่อผู้เป็นนายเลยแม้แต่น้อย อาจเป็นเพราะเขาคุ้นชินกับสถานการณ์เหล่านี้แล้วก็เป็นได้
เด็กนักเรียนทหารวัยสิบแปดปีสังหารหมู่เหล่าโจรป่าร่วมสามสิบชีวิตด้วยตัวคนเดียวโดยไร้ซึ่งบาดแผล…
rachel part
เมืองหลวงเพทรัสในจักรวรรดิ
กึก!
"ถึงแล้วค่ะนายน้อย" มาเรียน่าลงจากที่นั่งคนขับรถม้าลงมาเปิดประตูให้ ข้าลุกขึ้นเดินลงจากรถม้าโดยที่ไม่ลืมหยิบหนังสือเล่มหนาติดมือมาด้วย
"ยังมีกลิ่นเลือดอยู่หรือไม่" คนสนิทของข้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ทำท่าดมฟุดฟิดทั่วร่างกายก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ
“หายห่วงค่ะนายน้อย ไม่มีกลิ่นหลงเหลือแล้วค่ะ”
“เจ้าแน่ใจนะ” ข้ายกแขนขึ้นสูดดมเพื่อตรวจสอบด้วยตัวเองอีกครั้ง กลัวว่าเราทั้งคู่จะชินกับกลิ่นเลือดจนแยกไม่ออกน่ะสิ
“ค่ะ นายน้อย” ในเมื่อนางมั่นใจข้าก็ตามนั้นแล้วกัน
จัดเสื้อผ้าให้ดูดีหน่อยไม่ได้มาหาน้องชายเสียนาน ถึงแม้ว่าลูเซียสจะไม่รู้ว่าเด็กวัยสิบแปดปีคนนี้จะเป็นพี่ชายที่มาเกิดใหม่ก็เถอะ
กรุ๊งกริ๊ง~
"ยินดีต้อนรั- อะ อ้าว นึกว่าใคร เจ้าเด็กนี่"
คนที่กำลังยืนทำความสะอาดที่ชั้นหนังสือหันมองมายังประตูเมื่อได้ยินเสียงผู้คนที่มาเยือน
เรือนผมซอยสั้นสีขาวสว่างดุจหิมะในหน้าหนาว ดวงตาเฉี่ยวเรียวเล็กที่มีสีแดงเหมือนเลือด เอกลักษณ์ของตระกูลฮาร์ท จมูกโด่งเป็นสันรับกับกรอบหน้า ริมฝีปากชมพูระเรื่อ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว เสื้อคลุมยาวสีน้ำตาลเข้ม ยังคงดูดีเสมอ แม้จะมีอายุสี่สิบกว่าปีแล้วก็ตาม
[ลูเซียส ฮาร์ท ซอร์ตมาสเตอร์ ฉายานักดาบสายฟ้า อดีต 1 ใน 7 นักรบและผู้บัญชาการหน่วยที่ 7]
"ไม่ได้เจอกันนาน คุณลูเซียสเอ่ยทักผมเช่นนี้หรือครับ" สองขาก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจ้าของร้านที่สูงกว่าเกือบสิบเซนติเมตร เพราะเป็นผู้ชายที่โตเต็มวัยสินะ แต่ก่อนยังตัวเล็กกว่าข้าอยู่เลย
"แล้วมีอะไร มาทำไมล่ะ" เมื่อรับรู้ว่าใครที่มาเยือนร้านหนังสือเก่าของตัวเองแล้ว ก็หันกลับไปทำความสะอาดตามเดิม
"ผมเอาหนังสือมาให้ครับ ที่ตอนนั้นคุณบอกว่าอยากได้" มือซ้ายยื่นหนังสือเล่มหนาที่หยิบมาจากบนรถม้าด้วยส่งให้คนตรงหน้า
จริงๆ มันก็แค่หนังสือนิทานปรัมปราเรื่องหนึ่ง แต่มันนานและเก่ามากทำให้เจ้าของร้านหนังสือคนนี้ตามหาอยู่นานแต่ก็ไม่ได้เอามาไว้ในครอบครองเสียที
ลูเซียสเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกทั้งเคยเอ่ยปากออกมาด้วยซ้ำว่าถ้าไม่ได้เป็นทหารก็คงเปิดร้านหนังสือธรรมดาในย่านการค้าให้เด็กๆ ได้อ่านหนังสือดีๆ หรือนี่มันดีแล้วก็ไม่รู้ที่ลูเซียสได้ลาออกเช่นนี้ เพราะนี่มันก็คือความฝันอีกอย่างหนึ่งของน้องชายข้าเช่นกัน
"ไปได้มาจากไหนน่ะเรย์เวน ข้าตามหามานานมากเลยนะ"
"บังเอิญได้มาจากพ่อค้าที่เดินทางไปเมืองนีไอโอเนียครับ"
โกหก
จริงๆ ใช้ให้มาเรียน่าไปตามหาต่างหากล่ะ แล้วยังขู่ไปอีกว่าถ้าหามาไม่ได้จะไล่ออก นางวุ่นวายหาอยู่นานเลยด้วยซ้ำกว่าจะได้มา
"ขอบใจมากนะ ราคาเท่าไหร่ ข้าจะจ่ายคืนให้"
"ไม่เป็นไรครับ ผมได้มันมาแบบไม่เสียเงิน"
"หืม ไหนบอกว่าได้มาจากพ่อค้า" สายตาฉายแววสงสัยออกมาอย่างชัดเจน
"อะ เอ่อ" บอกว่าอย่างไรดีล่ะเนี่ย "พ่อค้าให้มาเป็นของตอบแทนครับ พอดีผมช่วยอะไรเขาไว้นิดหน่อย" จะเชื่อข้าไหมนะ
"อ่า อย่างนั้นเองหรอกหรือ" สีหน้าของลูเซียสดีขึ้น สายตามองหนังสือเล่มที่ตามหาในมืออย่างมีความสุข รอยยิ้มเล็กๆ เผยออกมา
น้องข้าน่ารักเสียจริง
"จ้องข้าแบบนั้นอีกแล้วนะ"
คงจะรับรู้ได้ว่าตัวเองเผยมุมน่าอายให้เด็กหนุ่มเห็นล่ะมั้ง ถึงได้ขมวดคิ้วเช่นนั้น แต่แล้วยังไงล่ะ ไม่ว่าจะการกระทำแบบไหนข้าก็ชอบอยู่ดี ก็เจ้าเป็นน้องชายข้านี่นา
"มีอะไรติดหน้าข้าหรือไง"
"ปะ เปล่าครับ"
"ถ้าแค่จะเอาหนังสือมาให้ก็เรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรอกหรือ ทำไมถึงยังไม่กลับอีก" ครั้งนี้ลูเซียสมองหน้าด้วยความงงงวยพร้อมกับกอดอกแน่น
"ผมหิว"
"หืม ไม่ได้ทานอะไรก่อนมาหรือไง เจ้าเป็นถึงคุณชายแห่งนีไอโอเนียเลยนะ"
"เดินทางมาก็นานหลายชั่วโมงก็เลยหิวครับ คุณลูเซียสช่วยทำอะไรง่ายๆ ให้ผมกินหน่อยสิ เดี๋ยวผมเฝ้าร้านให้" พูดจบก็รีบสาวเท้าเดินเข้ามานั่งในเคาน์เตอร์ โดยที่เจ้าของร้านยังคงมองตามด้วยความสงสัย
ข้าไม่ได้หิวอะไรขนาดนั้นหรอก แค่อยากอยู่กับน้องชายนานกว่านี้อีกหน่อยก็เท่านั้นเอง
"ทำอะไรตามใจตัวเองตลอดเลยนะ" ถึงจะแสดงออกมาว่าน่ารำคาญไปบ้าง แต่ก็ยังทำให้อยู่ดี นั่นแหละ ลูเซียส "เฝ้าร้านดีๆ ล่ะ ข้าจะไปทำอะไรให้กิน"
"ครับๆ"
พูดจบเจ้าของร้านก็เดินหายเข้าไปด้านหลัง ท่าทีเมื่อหันหลังให้ก็ยังยิ้มให้กับหนังสือเล่มนั้นอยู่ดี คงจะขึ้นเอาไปเก็บชั้นสองแน่ๆ
ร้านหนังสือนี้แบ่งเป็นสองชั้น ชั้นล่างเป็นร้านหนังสือ ส่วนชั้นบนเป็นโซนที่พักอาศัย ลูเซียสอยู่ที่นี่ตัวคนเดียว ไม่ได้แต่งงาน และเท่าที่รู้มาร้านนี้เป็นของขวัญขององค์จักรพรรดิที่ยกให้ตอนที่ลูเซียสขอลาออก เพราะความเป็นจริงแล้วเหล่าทหารยศสูงหลายๆ คนรวมถึงบรรดานักรบ ก็ไม่มีใครตั้งข้อครหากับลูเซียสเลยแม้แต่น้อย ทุกคนล้วนเข้าใจสภาพการณ์ในคืนนั้นดี แต่น้องข้าเองก็คงมีเหตุผลนั่นแหละ
ระหว่างที่รออาหารก็ตรวจสอบดูหน่อยแล้วกันว่ามีใครเข้ามาก่อกวนที่นี่หรือเปล่า เพราะถึงอย่างไรก็ยังมีคนที่ชื่นชอบในตัวของ ราเชล มากถึงขั้นตามก่อกวน ลูเซียส ที่ปกป้องพี่ชายไว้ไม่ได้มาตลอด และน้องข้าที่ไม่จับดาบมาตั้งแต่ตอนนั้นจึงไม่เคยตอบโต้คนพวกนั้นเลย
นั่นมันทำให้หงุดหงิด ข้ามักจะคอยสืบหาและจัดการมันลับหลังลูเซียสเสมอ
อาร์ตี้แฟคสอดแนมถูกหยิบออกมาจากที่ซ่อน
[อุปกรณ์เวทมนตร์ที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด]
ถึงจะแอบส่งมาเรียน่าให้มาสอดส่องดูแลอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่มั่นใจ พอกดเข้าไปที่ปุ่มกลมๆ นั่นภาพก็ฉายขึ้น ข้ารีบมองดูมันอย่างรวดเร็ว
อืม ไม่มีอะไรที่น่าห่วง
ตั้งแต่ปีที่แล้วที่ข้าได้เข้ามาเรียนในสถาบันทหาร ก็เริ่มเข้าหาและตีสนิทลูเซียสในฐานะนักเรียนทหารคนหนึ่งมาตลอด คอยมาช่วยงานที่ร้านหนังสือจนสนิทกัน รวมไปถึงสนิทกับมาเรียน่าไปด้วย และแน่นอนลูเซียสไม่รู้ว่าข้าคือใคร
แต่ข้าพอใจกับที่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เพราะมันจะดีมากที่เวลามีใครเข้ามาก่อกวน ข้าจะได้ออกตัวปกป้องน้องชายได้โดยที่ไม่มีใครมาตะขิดตะขวงใจ
กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงกระดิ่งที่ห้อยอยู่ด้านบนของประตูดังขึ้น นั่นแสดงว่ามีคนเปิดมันเข้ามา
"ยินดีต้อนรั- มาทำไมไม่ทราบ" ข้าเอ่ยทักลูกค้าตามปกติ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าใครที่ก้าวผ่านประตูเข้ามา
ชายหนุ่มเรือนผมและดวงตาสีน้ำตาล ผิวสีแทนเข้ม มีแผลเป็นที่มุมปาก ด้านหลังสะพายดาบใหญ่ ใส่ชุดทหารเต็มยศ
"แอนเดียส"
To be continued
น้องเรย์เวนฆ่าแหลกตั้งแต่ต้นเรื่องเลย มาเรียน่าก็ไม่มีท่าทีกลัวน้องสักนิด คือชินกับนิสัยแล้วแหละ55555555
ขอแนะนำตัวละคร เรย์เวน ดีลักซ์
อายุ 18 ปี เป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล เวทรักษา "ดีลักซ์" มีคนสนิทที่เป็นทุกอย่างให้คือ มาเรียน่า ปัจจุบันกำลังเข้าเรียนสถาบันทหารชั้นปีที่ 2 เลือกเดินสายนักดาบเวทเหมือนชีวิตก่อน นิสัยเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่แอบมีความลับเรื่องกลับมาเกิดใหม่ที่บอกใครไม่ได้ พ่อแม่สงสัยในตัวตนตั้งแต่เด็กแต่ก็ปล่อยผ่าน เพราะสีของดวงตาและสภาพร่างกายที่ฟื้นฟูได้เร็วเหมือนกับทุกคนในตระกูล แสดงความเป็นตัวเองได้มากที่สุดก็ต่อเมื่ออยู่กับมาเรียน่าเท่านั้น ทั้งที่ไม่รู้ตัวตนของเรย์เวนแต่ก็ไม่ถามไม่สงสัยและรับใช้อย่างซื่อสัตย์ ชอบกินของหวานมากกว่าเดิมเพราะชีวิตก่อนโดนน้องชายดุบ่อยๆ แต่ชีวิตนี้มีแต่คนตามใจ ไปไหนมาไหนมีขนมติดมือตลอด ปากไม่เคยว่าง
รูปลักษณ์
ผมสีขาวยาวระต้นคอ (เป็นส่วนเดียวในร่างกายที่เหมือนชีวิตที่แล้ว) ดวงตาสีน้ำเงินเหมือนทะเลสาบตอนกลางคืน ตากลมโต หน้าหวาน แก้มเยอะ(กินเก่ง) ผิวขาว สูง 178 cm
คำติดปาก : ให้ตาย,ให้ตายเถอะ