”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 - 3 เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ผู้แต่ง

fixcblue

เรื่องย่อ


 

ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา


 

"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์


วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้

#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9

สารบัญ

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-บทนำ ข้ามาเกิดใหม่งั้นหรือ?,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-1 คุณชายแห่งนีไอโอเนีย,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-2 ไอ้เด็กเมื่อวานซืน,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-3 เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-4 มาเรียน่า,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-5 อดีตนักรบ,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-6 ลงทะเบียนเรียนชั้นปีที่ 2,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-7 จุดด่างพร้อยหนึ่งเดียว,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-8 มือสังหาร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-9 การฆ่าครั้งแรก,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-10 น้ำกับไฟถ้าไกลกันได้ก็ดี,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-11 นาฬิกาเรือนเก่า,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-12 ผู้ใช้เวทห้วงเวลา,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-13 ผสานสามวงแหวนเวทมนตร์,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-14 แค่ฝึกซ้อม (1),ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-15 แค่ฝึกซ้อม (2),ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-16 คำสั่งขององค์จักรพรรดิ

เนื้อหา

3 เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร

ชายหนุ่มผิวสีแทนเข้มใส่ชุดทหารเต็มยศเดินผ่านประตูเข้ามา

“แอนเดียส”

[แอนเดียส โฮเลอร์ ซอร์ตเอ็กซ์เปิร์ตระดับกลาง ฉายานักดาบพายุ]

“ทำไมเจ้าพูดกับผู้ใหญ่เช่นนี้ล่ะ ข้าจะฟ้องอาจารย์เจ้านะ” แอนเดียสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ 

“ข้าต้องสนใจด้วยหรือไง แล้วมาทำไม” เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“มาร้านหนังสือจะให้ข้ามาทำอะไรล่ะ” แอนเดียสเดินตรงมายังเคาน์เตอร์  เขาวางหนังสือเล่มหนึ่งไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนจะเลื่อนมาไว้ตรงหน้าของเรย์เวน “ข้ามาคืนหนังสือที่ยืมไป”

“ข้าไม่ยักรู้ว่านักดาบกระจอกอย่างเจ้าจะอ่านหนังสือเป็น” เขากอดอกแน่นเอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดูเยาะเย้ย

ชายผิวแทนขมวดคิ้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลแฝงไปด้วยความไม่พอใจก่อนจะแผ่รังสีกดดันออกมาข่มคนอายุน้อยกว่า

“นี่ พูดจาให้มันดีๆ หน่อยเรย์เวน” น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวมากขึ้น “คิดว่าเจ้าสนิทกับรุ่นพี่ลูเซียสแล้วจะพูดจากับข้าอย่างไรก็ได้งั้นรึ”

เด็กหนุ่มเงยหน้ามองคนที่ยืนเต็มความสูงตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว 

เป็นแค่ซอร์ตเอ็กซ์เปิร์ตแท้ๆ ถ้าเจ้ารู้ว่าข้าเป็นใครคงไม่กล้ายืนประจันหน้าเช่นนี้หรอก 

เด็กน้อยเอ๋ย

ถ้าไม่ติดว่าข้าไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงแล้วล่ะก็… ข้าคงสั่งสอนเจ้าให้รู้เสียหน่อยว่าใครเหนือกว่า

“ขอโทษทีละกัน” เรย์เวนพูดขอโทษแบบขอไปที เขาไม่ได้แคร์อีกคนเลยแม้แต่น้อย

ฝ่ามือหนาหยิบหนังสือตรงหน้าขึ้นมาตรวจเช็กสภาพตามหน้าที่ ก่อนจะหยิบเงินค่ามัดจำหนังสือในลิ้นชักที่ลงชื่อไว้ส่งคืนให้เจ้าของ

แอนเดียส รุ่นน้องที่จบจากสถาบันทหารหลังจากลูเซียสหลายปี แต่เขาปลาบปลื้มในวิถีดาบของลูเซียสเป็นอย่างมาก และหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้ยืนในสนามรบเคียงข้างคนที่ชื่นชอบ

แต่เมื่อจบการศึกษาและถูกส่งไปยังแนวหน้า ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด ลูเซียส ฮาร์ท ลาออกจากทหาร เพื่อมาเปิดร้านหนังสือเล็กๆ เสียก่อน 

แอนเดียสจึงใช้เวลาช่วงวันหยุดมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ อดีตนักรบเรื่อยมา โดยหวังว่าสักวันหนึ่งลูเซียสจะกลับมาจับดาบและสั่งสอนวิถีดาบให้เขาบ้าง 

แต่คนที่หวงน้องชายเสียยิ่งกว่าอะไรอย่างราเชล ที่ตอนนี้อยู่ในร่างของเรย์เวน กลับไม่ถูกชะตาตั้งแต่ได้พบหน้าครั้งแรก

ฆ่าเลยดีหรือเปล่านะ

“นึกว่าใครมาซะอีก เอ้านี่ กินสิ” 

ความคิดในใจของเรย์เวนถูกขัดด้วยน้ำเสียงดังแว่วมาแต่ไกล

ลูเซียสเอ่ยทักคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ในขณะที่เดินถือจานอาหารออกมาจากด้านหลังร้าน

เขาหยุดยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์และวางจานอาหารลงต่อหน้าเรย์เวน

“ผมมาคืนหนังสือครับรุ่นพี่” แอนเดียสตอบกลับในทันทีน้ำเสียงเข้มก่อนหน้าแปรเปลี่ยนไป จนเรย์เวนที่นั่งอยู่กรอกตาอย่างหมั่นไส้

“งั้นเหรอ เรย์เวนจัดการเรียบร้อยใช่หรือเปล่า” เจ้าของร้านหันมาถามเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในเคาน์เตอร์

เรย์เวนพยักหน้าเบาๆ

“ครับ ผมคืนเงินไปให้แล้วด้วย”

“อืม ขอบใจนะ เจ้าก็รีบกินซะ วันนี้ต้องรีบไปเข้าหอไม่ใช่หรือไง” ลูเซียสถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางดันจานอาหารเข้าใกล้เด็กหนุ่มมากขึ้น

“ใช่ครับ” นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มของเรย์เวนเปล่งประกายจนเหมือนมีดวงดาวนับร้อยอยู่ด้านในเมื่อเห็นเมนูอาหารในจาน

ออมเล็ตใส่มะเขือเทศ

ของชอบข้าเลยนะเนี่ย

แต่ในขณะที่กำลังปลาบปลื้มกับอาหารจานโปรด ก็ถูกน้ำเสียงเชิงเยาะเย้ยจากคนผิวแทนเข้มเอ่ยขัดจังหวะ

“ที่บ้านของนายน้อยตระกูลดีลักซ์ไม่มีอะไรให้กินหรือไง ถึงได้มาฝากท้องที่ร้านหนังสือแบบนี้” 

“ยุ่งไปซะทุกเรื่องเลยนะ”

เด็กหนุ่มละสายตาจากจานอาหารจ้องมองอีกคนด้วยสายตาคาดโทษก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างทันควัน

พลังเวทสีดำที่ปะปนด้วยจิตสังหารบางๆ แผ่กระจายออกจากร่างกายของเรย์เวนส่งตรงไปยังแอนเดียส

ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกจากปาก แต่สีหน้าของคนที่ตกเป็นเป้าหมายผวาเล็กน้อยพร้อมกับก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว 

แปะ!!

“หยุดเลย!”

เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับคำสั่งของลูเซียสทำให้พลังเวททั้งหมดมลายหายไปจนสิ้นเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

“ถ้าทำแบบนี้อีก ข้าจะโกรธนะเรย์เวน” 

ลูเซียสเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่กดลงต่ำแฝงไปด้วยความจริงจัง เขาโน้มตัวลงมาผ่านเคาน์เตอร์ จนใบหน้าห่างกับเด็กหนุ่มไม่ถึงคืบ ดวงตาสีเลือดจ้องมองอย่างตำหนิ

แต่คนเด็กกว่ากลับไม่มีอาการเกรงกลัว

นี่มันลูกแมวขู่ชัดๆ น้องข้าน่ารักแหะ

“เข้าใจแล้ว” เรย์เวนหลับตาพริ้มพร้อมกับยกแขนสองข้างขึ้นยอมแพ้ก่อนจะเหลือบมองไปยังคนที่ยังทำหน้าถอดสีไม่หาย “ผมไม่แกล้งรุ่นน้องของคุณลูเซียสแล้วครับ”

ลูเซียสยังคงมองด้วยสายตาที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยวาจาอะไรออกมาอีก

พลังเวทที่เรย์เวนปลดปล่อยไปเมื่อครู่ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่เพียงเสี้ยววินาที แต่ลูเซียสก็สัมผัสได้ว่ามันไม่ได้อันตรายและเป็นเพียงแค่การขู่เล่นเท่านั้น 

แต่กลับกันคนที่ยังอ่อนประสบการณ์อย่างแอนเดียส เขาไม่รู้อะไรเลย 

แววตาที่สั่นไหวและใบหน้าถอดสีอย่างหวาดกลัว นั่นคือหลักฐาน

ยังอ่อนหัดนัก ไอ้ลูกหมา

หลังจากที่สถานการณ์น่ากดดันสงบลง ลูเซียสก็หันไปพูดคุยกับแอนเดียสอย่างออกรส เสียงหัวเราะค่อยๆ ดังขึ้นก่อนจะแผ่วเบาลงในเวลาต่อมา 

ลูเซียสโน้มตัวเอนพิงกับเคาน์เตอร์ ฝ่ามือเรียวบางแตะลงบนโต๊ะเบาๆ ขณะที่แอนเดียสพยักหน้ารับอย่างตั้งใจฟัง

ส่วนเด็กหนุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนา สายตาจับจ้องอยู่ที่จานออมเล็ตมะเขือเทศ ช้อนส้อมตักไข่สีเหลืองเข้าปากอย่างไม่รีบร้อน เขารับฟังการสนทนาของทั้งสองอย่างผ่านๆ ไม่ได้สนใจมากนัก 

นี่มันอร่อยจัง ให้ตายเถอะ

กรุ๊งกริ๊ง

แต่แล้วเสียงระฆังอันเล็กก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ทุกคนหยุดชะงัก หันไปมองที่ต้นเสียง

หญิงสาวเรือนผมสองสีชะโงกหน้าผ่านบานประตูไม้เข้ามา ก้มหัวเล็กน้อยทำความเคารพเจ้าของร้านก่อนจะกวาดสายตามองหาผู้เป็นนาย 

เรย์เวนเห็นท่าทางนั้น เขาวางช้อนส้อมอย่างเบามือ 

“มีอะไร” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบนิ่ง

“ตอนนี้ใกล้ได้เวลาแล้วค่ะนายน้อย หากช้ากว่านี้จะไม่ทันเข้าหอพักนักเรียนทหารนะคะ” คนที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน

“ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวตามออกไป”

 

 

ทางออกด้านหลัง หอพักนักเรียนทหาร ชั้นปีที่ 2

“ตอนนี้ไม่เหลือของอะไรในรถม้าแล้วค่ะนายน้อย” มาเรียน่าพูดพลางชะโงกหัวออกมาจากด้านหลังรถม้า

เรย์เวนที่ยืนมองดูการกระทำของสาวใช้คนสนิทอยู่ไม่ห่างก็หยิบอัญมณีสีเหลืองอ่อนในกระเป๋าเสื้อคลุมขึ้นมา ก่อนจะหาจังหวะโยนให้ 

“เอาไป อาร์ตี้แฟคสื่อสาร”

[อุปกรณ์เวทมนตร์สำหรับสื่อสาร มีทั้งแบบที่สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้ และรับฟังสารได้เพียงอย่างเดียว]

มาเรียน่าคว้าหมับไว้ได้ทันที

“ระหว่างที่ข้าอยู่ในสถาบันเจ้าก็ดูแลบ้านพักไปค่อยมาตอนที่ข้าเรียก ถ้าหากมีเวลา-” คำสั่งของเด็กหนุ่มยังไม่จบประโยคดี แต่เสียงของหญิงวัยกลางคนก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน

“ฉันรู้แล้วค่ะ หากมีเวลาว่างฉันจะไปช่วยงานท่านลูเซียสค่ะ”

“อืม” เจ้าของเรือนผมสีขาวพยักหน้าเบาๆ กับสิ่งที่ได้ยิน

“แต่ว่านะคะนายน้อย…” มาเรียน่าชะงักคำพูดไปชั่วครู่พลางเก็บอาร์ตี้แฟคที่เพิ่งได้รับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ

“อะไร”

“ที่นายน้อยให้ฉันไปช่วยงานท่านลูเซียสบ่อยๆ เพราะว่าอยากให้เราสองคนรักกันใช่หรือเปล่าคะ” 

เธอพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้น ทำท่าเขินอายบิดไปมา สองมือกอบกุมใบหน้าที่ยิ้มแย้มราวกับเด็กสาวที่กำลังมีความสุข

เรย์เวนที่เห็นภาพนั้นถอนหายใจออกมาเบาๆ

ให้ตาย อายแทนชะมัด

“เหลวไหล ลูเซียสไม่มีทางชอบเจ้าหรอก” เรย์เวนปฏิเสธสิ่งที่สาวใช้คิดอย่างหนักแน่น

“ทำไมคะ ฉันออกจะงดงามขนาดนี้” 

เป็นอีกครั้งที่มาเรียน่าพูดออกมาอย่างมั่นใจด้วยท่าทางประหลาดๆ โยกตัวไปมา ราวกับกำลังเต้นรำโดยไร้ซึ่งเสียงดนตรี 

“หยุดทำท่าแบบนั้นเถอะ ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าซะ” เด็กหนุ่มขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตากลมโตหรี่ลงมองอย่างไม่สบอารมณ์

แต่อีกคนกลับไม่มีท่าทีเกรงกลัว เธอยกแขนสองข้างขึ้นเท้าเอว รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“ถ้านายน้อยฆ่าฉัน ฉันก็ตายสิคะ”

เอ้า ก็ต้องตายสิ

“เห้อ!” เสียงถอนหายใจบวกกับท่าทางเบื่อหน่ายของเด็กหนุ่มทำให้หญิงสาวเรือนผมสองสีหัวเราะคิกคักชอบใจใหญ่

มาเรียน่า เป็นคนรับใช้คนเดียวที่เรย์เวนไว้ใจจนสามารถพูดคุยกันได้โดยไม่ต้องใช้คำสุภาพ ส่วนเหตุผลที่เป็นเช่นนั้น แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร

อาจจะเป็นเพราะตอนที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างนี้ มาเรียน่าเป็นคนแรกๆ ที่เขาพบเจอพร้อมกับท่านพ่อและท่านแม่ก็เป็นได้

ในทุกครั้งที่เธอได้รับคำสั่งจากเรย์เวน อาจจะมีบ้างที่เธอพูดคุยหยอกล้อ หรือโต้เถียงอย่างเป็นกันเอง แต่เมื่อถึงเวลาจริงจัง เธอไม่เคยตั้งข้อสงสัยในคำสั่ง และลงมือทำอย่างไม่อิดออด แม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการปลิดชีพใครสักคนก็ตาม…

“มาเรียน่า”

เด็กหนุ่มที่ยกมือข้างขวาขึ้นกอบกุมใบหน้าเพราะความเบื่อหน่ายเมื่อครู่เอ่ยเรียกชื่อสาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงข้าม

“ขา นายน้อย” คนที่ถูกเรียกขานรับด้วยเสียงอ่อนหวาน

“เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร” 

เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเอ่ยออกมา สายตามองลอดผ่านร่องนิ้วที่ปกปิดใบหน้า นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำเงินเข้ม ตอนนี้แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสดคล้ายโลหิต

หญิงสาวเห็นภาพตรงหน้าจึงรีบนั่งลงคุกเข่าลงกับพื้นดินทันที

เธอรู้ได้ในทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น 

ดวงตาของเรย์เวนจะเปลี่ยนเป็นสีเลือด ก็ต่อเมื่อ…

โกรธ

จริงจัง

คับแค้นใจ

ใช้พลังเวทเกินขีดจำกัด

หรือ

กำลังลงมือฆ่าใครสักคน…

“ฉันเป็นข้ารับใช้ของนายน้อยแต่เพียงผู้เดียวค่ะ”

 

เมื่อ 8 ปีก่อน เรย์เวนอายุ 10 ขวบ

คฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์ เมืองนีไอโอเนีย

“เดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ นายท่าน”

หญิงสาวในชุดคนรับใช้แบบตะวันตกเต็มยศยืนโบกมือ พร้อมใบหน้ายิ้มแย้มให้รถม้าของเจ้าของคฤหาสน์และภริยาที่กำลังเดินทางไปทำกิจธุระที่เมืองอื่น

แต่เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวไปไกลจนลับสายตา ดวงตาสีเทาของเธอก็ฉายแววดุดันในทันทีเมื่อหันไปหาอัศวินหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“ส่งอัศวินตามไปคุ้มกันนายท่านเพิ่มอีกสักสี่ถึงห้าคน แล้วก็แอบๆ ไปล่ะ เพราะนายท่านไม่ชอบให้ขบวนรถม้ามันวุ่นวายเอิกเกริก”

“รับทราบครับ” 

เมื่อได้รับคำสั่งจากผู้ที่มียศสูงกว่า อัศวินก็รีบไปปฏิบัติตามทันที

สองขาเรียวยาวก้าวเดินกลับเข้ามาในคฤหาสน์หลังใหญ่ แค่เพียงเปรยตามองก็ทำให้คนรับใช้คนอื่นๆ พากันก้มหน้างุดด้วยความเกรงกลัว

[มาเรียน่า จอมยุทธระดับสูง เพลงดาบแสงจันทร์]

อดีตนักดาบหญิงแห่งชุงกุก ที่ปัจจุบันกลับกลายมาเป็นหัวหน้าคนรับใช้ คนสนิทของมหาจอมเวท และคู่ซ้อมดาบให้คุณชายของตระกูลดีลักซ์

[ชุงกุก (중국) ในภาษาเกาหลี หมายถึง ประเทศจีน]

หญิงสาวในชุดคนรับใช้คล้ายกันเดินตรงเข้ามาก้มหัวให้เล็กน้อย

“คุณมาเรียน่าคะ นายน้อยเรย์เวนเรียกพบที่ห้องค่ะ”

“อืม ฉันเข้าใจแล้ว”

มาเรียน่าเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเรย์เวน มือขวาจับที่ลูกบิดประตูแน่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก และพ่นออกมาอย่างใจเย็น รอยยิ้มสดใสปรากฏขึ้นบนใบหน้า

ห้องนอนของนายน้อยเรย์เวน ดีลักซ์ พื้นที่ต้องห้ามของคฤหาสน์ นอกจากแวนคลิโอผู้เป็นพ่อ และซาร่าผู้เป็นแม่ ก็มีเพียงแค่มาเรียน่าเท่านั้นที่จะสามารถก้าวเข้าไปได้

แกร๊ก!

“แบล็กบาเรีย”

[เวทเลเวล 3 : แบล็กบาเรีย สร้างโดมสีดำจากพลังเวทเพื่อปิดกั้นเสียงและปิดกั้นการมองเห็นจากด้านนอก]

ทันทีที่สองขาก้าวเข้ามาในห้อง เสียงร่ายเวทของเด็กน้อยวัยสิบปีก็ดังขึ้น พื้นที่โดยรอบถูกล้อมด้วยโดมสีดำอันใหญ่ที่ปกคลุมห้องส่วนตัวของเรย์เวนไว้ทั้งหมด

“โห่ เรียกฉันมาอวดพลังเวทใช่มั้ยคะเนี่ย นายน้อยของมาเรียน่าเก่งที่สุดเลยค่ะ” 

หญิงสาวเงยหน้ามองม่านพลังสีดำก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม

แต่ประโยคที่เอื้อนเอ่ยออกไปกลับไปไม่ได้รับเสียงตอบรับ เธอหันไปยังเด็กน้อยที่นั่งไขว่ห้างกับเก้าอี้พนักพิงแขนซ้ายท้าวเข้ากับโต๊ะข้างหัวเตียง สายตาดุดันจนผิดสังเกต มองมาที่เธอเหมือนจ้องจะเอาชีวิตและที่ยิ่งไปกว่านั้น

ดวงตาเป็นสีแดงเหมือนเลือด

อยู่ๆ ออร่าสีดำสนิทแฝงไปด้วยความกดดันรุนแรงก็แผ่ตรงมายังหญิงสาว พลังเวททรงพลังจนไม่สามารถหยัดยืนอยู่ได้ มาเรียน่าทรุดลงไปกับพื้นห้อง พยายามจะฝืนร่างกายให้ลุกขึ้นแต่ทำไม่ได้แม้จะเงยหน้าขึ้นมองสบตา 

เหมือนโดนราชสีห์ตัวใหญ่ใช้อุ้งเท้าที่มีเล็บแหลมคมบดขยี้ลงกับพื้น

นี่ใช่พลังเวทของเด็กสิบขวบจริงเหรอ?

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในหัว ร่างกายที่เหมือนจะถูกบดขยี้อ่อนแรงลง การหายใจเริ่มติดขัด สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนราง ของเหลวสีแดงไหลย้อยออกจากมุมปาก

แต่เวลาผ่านไปไม่นานรังสีความกดดันก็เริ่มลดลง จนหายใจได้คล่องขึ้น 

มาเรียน่าพยายามเงยหน้ามองคนที่ยังไม่หยุดปลดปล่อยพลังเวท

“นะ นาย นะ น้อย”

“เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร” 

 

To be continued


จุดเริ่มต้นของคู่หูนายน้อยเรย์เวนและข้ารับใช้อย่างมาเรียน่าค่ะ

ข้อมูลตัวละคร ราเชล ฮาร์ท

อายุ 26 ปี เป็นอันริยะทั้งดาบและเวทมนตร์ ได้เป็นผู้บัญชาการหน่วยที่ 1 (คนเก่าตายพอดี) ตั้งแต่เรียนจบ (อายุ 21 ปี) บรรลุเลเวล 9 ตอนอายุ 23 ปี มีอารมณ์ขัน ทะเล้น แต่หน้าดุ ปากจัด ติดเหล้า ชอบกินพุดดิ้ง ขี้ลืมโดยเฉพาะตารางเรียน รักน้องชายมากๆ ในสนามรบจะเลือดเย็น ฆ่าเหมือนเล่นสนุก แต่รักพวกพ้องมาก คติของราเชลคือต้องชนะ ศึกโดยเสียทหารในหน่วยให้น้อยที่สุด เป็นที่มาของสมญานาม วีรบุรุษแห่งสนามรบ เนื่องจากเป็นผู้บัญชาการสูงสุดเวลาประชุมทางทหารที่พระราชวังมักจะทะเลาะกับเหล่าขุนนางบ่อยๆ เรื่องงบในสงคราม แต่องค์จักรพรรดิชอบราเชลมากเพราะเป็นคนเก่งที่หาคนแทนได้ยาก เลยทำให้ราเชลไม่กลัวใครหน้าไหนไม่ก้มหัวให้ใครยกเว้นองค์จักรพรรดิคนเดียวส่วนคนอื่นด่าหมดตี้ (^ ^)

รูปลักษณ์

ผมสีขาวเหมือนหิมะในหน้าหนาวยาวระต้นคอที่ไว้ผมยาวเพราะไม่ชอบให้แดดโดนต้นคอ ร้อน) ดวงตาสีเลือด ตา
เฉี่ยวดุ ผิวขาวซีด สูง 185 cm อิมเมจคือเสือดาวหิมะ

คำติดปาก : ให้ตาย ให้ตายเถอะ…