”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?
ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา
"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์
วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้
#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9
ย่านการค้า
ตอนนี้บรรยากาศยามเย็นที่แสงสีส้มทองพาดผ่านท้องฟ้าลงมากระทบพื้นดินใกล้หมดลงเต็มที ร้านค้ามากมายสองข้างทางเริ่มเปิดไฟเพื่อให้แสงสว่างบ้างแล้ว ข้าเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ร้านขายขนมหวานร้านประจำ
เมื่อเห็นลูกค้าที่คุ้นหน้าคุ้นตา หญิงวัยกลางคนก็ออกมาต้อนรับอย่างเช่นทุกที ข้าชี้ไปที่อมยิ้มสีรุ้งที่อยู่ริมสุดของชั้นวางของ
“หนึ่งเหรียญเงินค่ะคุณชาย”
ข้ายื่นเงินตามจำนวนที่ป้าแม่ค้าบอกให้ก่อนจะรับอมยิ้มขนาดเท่าฝ่ามือมาลิ้มลองรสชาติ
การได้รับของหวานในเวลาแบบนี้มันช่างมีความสุขเสียจริง เพราะว่าสิ่งที่จะทำให้คนอย่างเรย์เวน หรือ ราเชล คนนี้จะยอมสยบให้ได้นั้นนอกจากน้องชายแล้วมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น คือ ของหวาน และ เครื่องดื่มมึนเมา
หากตั้งใจมาล่อลวงข้า ก็เอาของสองสิ่งนี้มาแล้วกัน
(❤ o ❤)
เห้อ~
เดรคนะเดรค วันนี้มีเรื่องวุ่นวายเช่นนั้น แต่กลับให้ข้าเอาแต่อ่านหนังสืออยู่ที่ห้องสมุดอยู่ได้ ดีแค่ไหนที่โกหกว่าจะไปเข้าห้องน้ำแล้วแอบหนีออกมานอกสถาบันได้ ในตอนแรกข้าว่าจะไปหาลูเซียสเสียหน่อย แต่ก็ต้องเลื่อนไปก่อนซะแล้ว
ไม่รู้ว่าทำไมช่วงเวลาเพลิดเพลินของข้าจะต้องมีคนมาขัดจังหวะเสียทุกที เพราะตั้งแต่ข้าก้าวขาออกมาจากสถาบันก็รู้สึกได้ว่ามีคนสะกดรอยตามมาอยู่ห่างๆ
ไม่ใช่มือสมัครเล่น
หากไม่ใช่ข้าที่พบเจอประสบการณ์ลอบสังหารมานับไม่ถ้วนเมื่อสมัยที่ยังเป็นราเชล ฮาร์ทอยู่ล่ะก็คงจะรับรู้ไม่ได้เป็นแน่
ฝีเท้าที่ไร้เสียง ระยะห่างที่ไม่ใกล้และไม่ไกลเกินไป การแต่งกายที่กลมกลืนไม่เป็นจุดเด่น แต่สิ่งที่แสดงออกอย่างชัดเจนเลยนั่นก็คือ จิตสังหาร
รังสีอำมหิตที่อาจจะไม่ตั้งใจแผ่ออกมาแต่เป็นเพราะการจดจ่อมากไปจึงควบคุมไม่ได้ ทำให้ข้ามั่นใจว่ามันคือ มือสังหารแน่นอน และจากมานาที่สัมผัสได้ เป็นจอมเวท ไม่เกินเลเวล 5
อะไรกัน จะจ้างมาปลิดชีพข้าทั้งที ใช้แค่คนระดับนี้เองหรือ?
คงต้องหาพื้นที่ดีๆ เพื่อรอรับการโจมตีเสียหน่อย
ข้าเริ่มเดินออกห่างจากพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านมากขึ้นเรื่อยๆ และคนที่สะกดรอยตามข้าก็ตามมาเช่นกัน จนสองข้าของข้าเดินมาหยุดอยู่ที่ป่าอะโคไนต์ พืชที่มีพิษร้ายแรงเมื่อกลืนกินเข้าไป แต่หากนำมาใช้อย่างถูกวิธีมันจะถูกนำมาทำเป็นโพชั่นลดอาการเจ็บปวดตามข้อต่อได้ และป่านี้ก็อยู่ในความดูแลของท่านพ่อเสียด้วย คงไม่มีใครมาเข้ามาเห็นอะไรที่ไม่ควรในช่วงเวลานี้
end part
เสียงกัดก้อนน้ำตาลที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดดังขึ้น เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนทหารก็ดึงก้านไม้เรียวเล็กออกจากริมฝีปาก แค่เพียงสะบัดปลายนิ้วหัวแม้มือเล็กน้อยก้านไม้นั้นก็ลอยขึ้นเหนือศีรษะ ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางตามแรงโน้มถ่วงร่วงหล่นลง แต่ยังไม่ทันที่จะสัมผัสโดนพื้นดิน ร่างของเด็กชายวัยสิบแปดปีก็หายวับไป
ชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดเสื้อคลุมสีดำ สวมผ้าปิดหน้า ที่เฝ้าคอยสะกดรอยตามมาตั้งแต่ออกจากสถาบันยืนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังต้นไม้ใหญ่ มือขวาคว้าไม้คฑาประจำกายจากในเสื้อคลุมออกมาตามสัญชาตญาณ
“ใครจ้างเจ้ามาฆ่าข้า”
เสียงทุ้มต่ำที่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามดังขึ้นจากด้านหลังของชายสวมผ้าปิดหน้า เขาสัมผัสได้ถึงแววตาดุดันและน่าหวาดกลัวได้โดยที่ไม่ต้องหันไปมองเลยแม้แต่น้อย เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามใบหน้า ในมือกระชับไม้คฑาไว้แน่นหมายจะปลิดชีพฝ่ายตรงข้าม
“อะ อะไรกัน ไม่มีใครจ้างทั้งนั้น” ด้วยความเป็นมืออาชีพ ไม่มีทางที่โดนข่มขู่เท่านี้จะทำให้เจ้าตัวเอ่ยนามของผู้ว่าจ้างได้
“จะบอกว่าเจ้าคิดจะสังหารข้าด้วยเจตจำนงค์ของตัวเองหรือไง”
เจ้าของดวงตาสีเลือดยื่นมือมาจากด้านหลังกอบกุมใบหน้าครึ่งล่างของอีกฝ่ายไว้ ปลายเล็บจิกเข้าไปจนของเหลวสีแดงสดไหลซึมผ่านผ้าบาง
ไร้เสียงตอบกลับจากชายหนุ่มมือสังหารมีเพียงการขยับศีรษะลงเล็กน้อย
แต่ทันใดนั้นความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นเข้ามาจากช่วงเอวด้านหลัง
ของแข็งสีเงินแวววาวถูกเสียบทะลุร่างกายจนโผล่ออกมาให้เห็นที่หน้าท้องด้านหน้า โลหิตไหลย้อยจากปลายดาบหยดลงสู่พื้นดิน ฝ่ามือที่กอบกุมใบหน้าร่วงหล่นอย่างหมดเรี่ยวแรง
“หึ! ถึงจะดูเป็นคนมีความสามารถแต่ก็ยังเป็นแค่เด็กล่ะนะ” ชายหนุ่มผ้าปิดหน้าพึมพำเบาๆ ก่อนจะหันหลังมาหาเป้าหมายที่ต้องจัดการ
“คงจะคิดว่าข้าสะกดรอยตามมาเพียงคนเดียวงั้นสิ” สายตาเบนไปยังด้านหลังของเรย์เวนอีกทีสบเข้ากับนักดาบมือสังหารผู้ร่วมภารกิจอีกสองคน
“เอาอย่างไรดี” เสียงของนักดาบคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ต้องทำให้มั่นใจว่าตายจริงๆ ผู้ว่าจ้างขอมาว่าให้ฆ่าอย่างเหี้ยมโหดเสียด้วยสิ” คนที่ถือคฑาเวทมนตร์ตอบกลับเช่นนั้น เพื่อนร่วมงานอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่จึงเสียดาบทะลุหัวใจของเด็กหนุ่มเข้าไปอีกหนึ่งแผล
“พวกเจ้าคงไม่คิดว่านั่นจะทำให้ข้าตายจริงๆ หรอกใช่หรือไม่”
น้ำเสียงเรียบนิ่งที่ขัดกับสีหน้าทะเล้นอย่างนึกสนุกของเจ้าของเรือนผมสีขาวสว่างดังขึ้น ทำให้มือสังหารทั้งสามคนหันขวับไปยังต้นกำเนิดเสียงที่อยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ด้านบนศีรษะ
“หากเป็นเช่นนั้นคงโง่เง่าสิ้นดี” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยอขึ้นเล็กน้อย
“ดะ ได้อย่างไรกัน”
ชายผ้าปิดหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะรีบหันมามองร่างที่ถูกดาบสองเล่มเสียบทะลุอยู่ ภาพที่เห็นคือร่างกายของเด็กหนุ่มตรงหน้าค่อยๆ สลายหายไปพร้อมกับออร่าสีดำที่ปรากฏขึ้นรอบๆ
“อะไรกัน เป็นนักเวทภาษาอะไรไม่รู้จักเวทพื้นฐานอย่าง [ทวิน] งั้นหรือนี่”
[เวทเลเวล 2 : ทวิน เวทแยกร่าง โดยที่ทั้งสองร่างจะมีพลังเวท ทักษะ รูปร่างเหมือนกันทุกประการแต่ถ้าหากร่างใดร่างหนึ่งถูกฆ่าจะสลายหายไปและอีกร่างจะกลายเป็นร่างต้นทันที]
“จัดการมัน”
แต่ความตกตะลึงเพียงชั่วครู่ก็ไม่อาจทำให้ความตั้งใจของมือสังหารหายไปจากความคิดได้ คำสั่งจากนักเวทที่สวมผ้าปิดหน้าดังขึ้น นักดาบอีกสองคนก็พุ่งตัวขึ้นไปบนต้นไม้ทันที
“ให้ตายสิ ข้าไม่มีดาบเสียด้วย”
วงแหวนสีดำปรากฎขึ้นด้านบนศีรษะของเด็กหนุ่มดวงตาสีเลือด เส้นเงาดำโผล่ออกมาจากวงเวทสกัดการโจมตีของนักดาบไว้ได้
“มาเรียน่า”
“ขา นายน้อย”
มือสังหารสามคนเผยสีหน้าประหลาดใจเมื่อพบเห็นคนที่ไม่ควรอยู่ที่นี่ก้าวขาออกมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ ในมือถือดาบยาวคู่กายพร้อมดึงมันออกมาจากฝักรอรับคำสั่ง
“เจ้าจัดการนักดาบสองคนนี้ที ข้าจะฆ่านักเวทนั่นเอง”
พูดจบเจ้าเรือนผมสีขาวสว่างก็พุ่งตัวลงมาจากต้นไม้มาหานักเวทคนที่เอ่ยถึงทันที ฝ่ามือสองข้างประกบเข้าหากันจนเกิดเสียงดัง เส้นเงาดำถูกบังคับให้โจมตีไปยังชายสวมผ้าปิดหน้า
แต่ก็ถูกเกราะเวทสีฟ้าสกัดการโจมตีไว้ได้
“แหมๆ ให้ฉันจัดการสองคนเลยนะคะ”
หญิงสาวข้ารับใช้เอ่ยขึ้นพร้อมกับหันปลายดาบเข้าปะทะกับคู่ต่อสู้ทั้งสองคนอย่างไม่ลังเลจนเกิดเสียงกระทบของโลหะดังสนั่นผืนป่า
“นี่น่ะหรอมือสังหาร กระจอกกว่าที่ข้าคิดไว้อีกนะ”
เรย์เวนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เข้าไล่ต้อนด้วยพลังเวทอันทรงพลังจนทำให้อีกฝ่ายทำให้แค่ปัดป้องการโจมตีจนล่าถอยไปเรื่อยๆ
แขนขวาถูกยืดเหยียดไปด้านหน้า วงเวทสีดำปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือ ออร่าสีดำก่อตัวรวมกันก่อนจะพุ่งเข้าหาชายหนุ่มจอมเวทที่สร้างเกราะเวทรอไว้ป้องกัน แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะพลังเวทสีดำที่พุ่งเข้ามาระเบิดออกอย่างรุนแรงจนเกราะเวทถูกทำลาย ทำให้ร่างกายกระเด็นไปชนต้นไม้ใหญ่จนกระอั่กของเหลวสีแดงออกมา
[เวทเลเวล 5 : ระเบิดแห่งความมืด ระเบิดพลังเวทสีดำที่ทำลายล้างได้แม้กระทั่งเกราะเวท]
“แค่กๆ”
“ปวกเปียกชะมัด” ฝ่ามือขวาถูกยกขึ้นพอดีกับกลางอก กำมือแน่นพร้อมชูนิ้วชี้และนิ้วกลางขึ้น ออร่าสีดำรวมตัวอยู่รอบๆ กายของเด็กหนุ่มจนเกิดเป็นลูกบอลสีดำขนาดเท่ากำปั้นหลายสิบลูกก่อนมันจะลอยอย่างเชื่องช้าเข้าไปหาศัตรู
“คิดว่าของแค่นี้จะทำอะไรข้าได้หรือไง”
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนได้ก็ใช้มือซ้ายปัดลูกบอลดำให้กระเด็นออกห่าง พร้อมชูไม้คฑาหันไปหาเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนทหาร
แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากร่ายเวท ฝ่ามือซ้ายที่สัมผัสโดนลูกบอลสีดำก่อนหน้าก็เริ่มเน่าเปื่อย
“อร๊ากกกกกกก”
[เวทเลเวล 5 : คำสาปบอลดำ ลูกบอลสีดำที่ถ้าพลาดโดนเข้าจะทำให้ร่างกายส่วนนั้นเน่าเปื่อย]
“ไม่มีใครสั่งสอนหรือไง ว่าห้ามเอามือไปแตะโดนของประหลาดสุ่มสี่สุ่มห้าน่ะ”
คำพูดเหยียดหยามดังขึ้นพร้อมกับบังคับทิศทางให้ลูกบอลขยับเข้าหาฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น จนไปสัมผัสเข้ากับร่างกายส่วนอื่นๆ
“อร๊ากกกก”
เสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อร่างกายของตนเองกำลังจะเน่าเปื่อยไปทีละนิด แต่สติที่ยังไม่แตกกระเจิงทำให้ขยับไม้คฑาร่ายเวทรักษาให้กับตัวเองไว้ได้ แววตาอาฆาตหันไปมองเด็กหนุ่มที่ยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ ไม้คฑาถูกชี้ตรงไปอีกครั้งริมฝีปากขยับขึ้นลงเล็กน้อย เกิดออร่าสีฟ้ารอบตัวของเจ้าของเรือนผมสีขาวก่อตัวเป็นวงกลมขนาดใหญ่ล้อมรอบร่างกายไว้จนไม่สามารถขยับหนีออกไปได้
วงกลมพลังเวทค่อยๆ บีบตัวเล็กลงเรื่อยๆ จนร่างกายของเด็กหนุ่มเบียดเสียดอยู่ภายใน
ตู้มมมมม!!
แผละ!
เสียงระเบิดดังขึ้นตามมาด้วยเสียงเศษชิ้นเนื้อของร่างกายร่วงหล่นลงสู่พื้น ทำให้มาเรียน่าที่ยังเผชิญหน้าอยู่กับนักดาบเพียงหนึ่งคนเพราะอีกคนได้ทำการปลิดชีพไปแล้วหันมามองด้วยความตกใจ เมื่อสอดส่องสายตาจนทั่วกลับมองไม่เห็นร่างของผู้เป็นนาย และเศษเสื้อผ้าที่คุ้นเคยกองอยู่ที่พื้น ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นได้
“นายน้อยยยยยยยย!!”
เสียงตะโกนของหญิงสาวดังลั่นด้วยความตื่นตระหนก แม้สายตาจะสั่นไหวแต่ยังตั้งรับการโจมตีได้อย่างสมบูรณ์
ใบไม้พริ้วไหวที่ด้านหลังของชายสวมผ้าปิดหน้าอย่างรวดเร็วเพราะการเคลื่อนชั่วพริบตาที่มองตามไม่ทัน ปรากฎร่างของคนที่ควรจะกลายชิ้นเนื้อทำหน้าระรื่น
“ตะโกนเสียงดังทำไม มาเรียน่า”
“จะได้สมจริงไงคะ นายน้อย” สาวใช้ตอบกลับในขณะที่ยังแกว่งดาบไล่ต้อนชายหนุ่มอย่างนึกสนุกด้วยใบหน้ายิ้มระรื่นไม่ต่างจากเด็กหนุ่ม
สองคนนี้เล่นละครในช่วงเวลาความเป็นความตายงั้นหรือ?
“บัดสบเอ๊ย!”
มือสังหารหันไปตามต้นกำเนิดเสียงด้านหลังก็พบเห็นคู่ต่อสู้ที่อยู่ในสภาพไร้รอยขีดข่วน พร้อมสายตาเหยียดหยามที่เห็นตลอดการต่อสู้ครั้งนี้
“โง่ซ้ำซาก โจมตีร่างแยกแต่กลับใจชื้นงั้นหรือ?”
“ปากดีนัก! เจ้าก็มีดีแค่ร่างแยกเท่านั้น!” จอมเวทถอยหลังกรูไปตั้งหลัก กระชับคฑาในมือครั้งนี้เขาหลับตาลงทำสมาธิ แสงสีฟ้าสว่างวาบออกมาจากร่างกาย ออร่ารอบๆ ก่อตัวกันจนเกิดอักษรรูนหลายสิบประโยคเรียงร้อยอยู่กลางอากาศ พลังเวทเอ่อล้นจนพื้นดินและต้นไม้สั่นสะเทือน ก่อนจะเกิดลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังเป้าหมาย
และเป็นอีกครั้งที่ได้ยินเสียง ตู้ม! ของระเบิดพลังเวท ครั้งนี้มันดังกว่าก่อนหน้ามาก เกิดควันขโมงลอยคุ้งไปทั่วบริเวณผืนป่า
เมื่อกลุ่มควันหลงจากการระเบิดลอยจางหายไปในอากาศ ก็พบภาพที่ตกตะลึงอีกครั้ง
ก่อนที่ลูกไฟจะพุ่งตรงเข้าหาเด็กหนุ่ม เพียงเสี้ยววินาทีฝ่ามือหนาก็ขยับเหยียดตรงไปทางศพของนักดาบที่เพิ่งสิ้นชีพไปไม่นาน แค่เพียงขยับปลายนิ้วเล็กน้อยของเหลวเหม็นคาวสีแดงสดก็ลอยขึ้นเหนือพื้นดินก่อนจะเคลื่อนที่มาก่อตัวเป็นวงกลมทึบล้อมรอบร่างกายอย่างรวดเร็ว
[เวทเลเวล 5 : เกราะเลือด ป้องกันการโจมตีจากพลังเวทที่เทียบเท่าหรือด้อยกว่าได้อย่างสมบูรณ์]
“มะ ไม่จริงน่า จากที่ได้รับข้อมูลมา ดะ เด็กนี่ใช้ดาบและเวทมืดเท่านั้น”
สีหน้าซีดเผือดแข้งขาอ่อนแรงอย่างเช่นคนไร้หนทางสู้ เพราะไม่ว่าโจมตีไปเพียงใดก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลให้คนตรงหน้าได้
[เกราะเลือด] ค่อยๆ สลายตามการควบคุมของผู้ใช้เวทมนตร์เผยให้เห็นนัยน์ตาสีแดงเข้มเปี่ยมไปด้วยรังสีอำมหิตที่แลดูกระหายเลือดดุจสัตว์ป่ายิ่งกว่าครั้งไหน
“ข้อมูลที่ได้มามันผิดนะ"
ประโยคขาดช่วงชั่วครู่ ในขณะที่แขนซ้ายถูกยกขึ้นสุดแขน โลหิตที่ล้อมรอบร่างกายแปรเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นหอกแหลมคมลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
"เพราะข้า…พิเศษกว่านั้น” น้ำเสียงเยือกเย็นจบลงพร้อมกับฟาดแขนเหยียดตรงไปด้านหน้า หอกเลือดก็พุ่งเข้าไปปักทะลุร่างกายของมือสังหารด้วยความเร็วที่แทบจะมองตามไม่ทัน
“อร๊ากกกกก!!!”
เสียงกรีดร้องดังลั่นก่อนสิ้นใจด้วยความเจ็บปวด ร่างกายที่ถูกแท่งของแข็งสีแดงเสียบแทงพรุนไม่เหลือช่องว่าง เลือดไหลทะลักอย่างไม่สิ้นสุดจนพื้นดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงชาด
[เวทเลเวล 4 : หอกโลหิต สามารถเจาะทะลุเกาะเหล็กได้]
“ดะ ได้ โปรด ไว้ชีวิต ข้าด้วย” เสียงร้องอ้อนวอนขอชีวิตจากชายนักดาบที่อยู่ในสภาพแขนทั้งสองข้างถูกตัดขาด ร่างกายสะบักสะบอมชุ่มไปด้วยเลือด กำลังนั่งคุกเข่ากับพื้นดินเงยหน้ามองหญิงสาวที่ถือดาบสีเงินจ่อลำคอ
“ดะ ได้โปรด”
ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบรับจากผู้กุมชะตาชีวิต เสียงดาบตวัดดัง ฉวับ! ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของศรีษะที่กระเด็นร่วงไปกระทบพื้นตามแรงเฉือน เจ้าของเรือนผมสีขาวที่เดินผ่านมาทางด้านหลังใช้ [ดาร์คแฮนด์] ปลิดชีวิตในทันทีที่เข้ามาใกล้ เลือดสีแดงพุ่งออกจากลำคอของร่างที่ไร้ชีวิตเหมือนน้ำพุที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวง
“ชักช้า” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตำหนิเล็กน้อย
ปลายนิ้วของเด็กหนุ่มขยับขึ้นลง ของเหลวก็ก่อตัวเป็นหอกขนาดเล็กจ่อปลายแหลมเข้ากับลำคอของสาวใช้
“เจ้าบังอาจใจอ่อนกับมือสังหารงั้นหรือ?”
To be continue
ตัดจบได้ละครไทยมาก อนุญาตให้ดักตีหัวนักเขียนได้ค่ะ 5555555555555 และแล้วก็ฆ่าแหลกอีกแล้วงับน้องเรย์เวน ไม่ปราณี ไม่ลีลา ฆ่าหมดไม่สนลูกใครตัวจริงเสียงจริง
หากอยากด่า อยากบ่น ตามทวงนิยาย สามารถไปตามได้ที่ แอป X เลยค่ะ @gukkeyjbj หรือเล่นแท็ก #ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9 ได้เลยนะคะ
***เหรียญเงิน เท่ากับ สิบห้าบาท 100 เหรียญเงิน เท่ากับ 1 เหรียญทอง หรือก็คือ 1500 บาท (เป็นหน่วยเงินที่คิดเองนะคะ)