”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 - 9 การฆ่าครั้งแรก โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม,แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ผจญภัย,ดราม่า,แอคชั่น,สงคราม

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แก้แค้น,แอคชั่น,ปีศาจ,จอมเวท,เกิดใหม่ ,นักดาบ,ดราม่า,เวทมนตร์,#BL,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9 โดย fixcblue @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

”ราเชล ฮาร์ท“ นักดาบเวท ที่ปกป้องน้องชายจนพลาดท่าโดนราชาปีศาจฆ่าตาย กลับมาเกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา “ดีลักซ์” เขาต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมดเพื่อที่จะไปแก้แค้นราชาปีศาจ ครั้งนี้เขาจะทำได้มั้ยนะ?

ผู้แต่ง

fixcblue

เรื่องย่อ


 

ต่อให้มีนักอ่านแค่คนเดียว ก็จะไม่ทอดทิ้งโลกที่ฉันสร้างขึ้นมา


 

"ราเชล ฮาร์ท" อดีต 1 ใน 7 นักรบ ที่เคยสร้างชื่อในสงครามมาอย่างนับไม่ถ้วน นักดาบเวท เลเวล 9 อัฉริยะของจักรวรรดิ มีน้องชายที่รักมาก "ลูเซียส ฮาร์ท" ที่ต่อสู้เคียงข้างกันมาตลอด ครั้งหนึ่งลูเซียสสูญเสียพลังเวททั้งหมดไปจากการต่อสู้กับราชาปีศาจ แต่เขาก็ฝึกฝนดาบจนได้เป็น ซอร์ตมาสเตอร์


วันหนึ่งสองพี่น้องได้เข้าไปสอดแนมในปราสาทของราชาปีศาจ ราเชลปกป้องน้องจนพลาดท่า ลูเซียสถูกประนามที่อ่อนแอจนทำให้กำลังสำคัญอย่างราเชลต้องตาย แต่แล้วเขาก็เกิดใหม่ในตระกูลนักเวทสายรักษา "ดีลักซ์" ครั้งนี้ราเชลต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เพื่อจะเป็นนักดาบเวทอีกครั้ง เขาจะต้องแก้แค้นราชาปีศาจในครั้งนี้ให้ได้

#ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล9

สารบัญ

ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-บทนำ ข้ามาเกิดใหม่งั้นหรือ?,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-1 คุณชายแห่งนีไอโอเนีย,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-2 ไอ้เด็กเมื่อวานซืน,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-3 เจ้าเป็นข้ารับใช้ของใคร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-4 มาเรียน่า,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-5 อดีตนักรบ,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-6 ลงทะเบียนเรียนชั้นปีที่ 2,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-7 จุดด่างพร้อยหนึ่งเดียว,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-7 มือสังหาร,ข้าเคยเป็นนักดาบเวทเลเวล 9-9 การฆ่าครั้งแรก

เนื้อหา

9 การฆ่าครั้งแรก

“ใจอ่อนกับมือสังหารงั้นหรือ?” 

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นแผ่วเบาแฝงความเคร่งขรึมอันน่าเกรงขาม ดวงตาสีเลือดเหลือบมองอย่างไม่พอใจ

“เปล่าค่ะนายน้อย ฉันแค่จะเล่นสนุกนิดหน่อย” หญิงสาวตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไร้ซึ่งความเกรงกลัวก่อนจะเก็บดาบคู่กายกลับเข้าฝัก

เป๊าะ!

เสียงดีดนิ้วดังขึ้น หอกเลือดคืนสภาพกลายเป็นของเหลวและร่วงหล่นลงสู่พื้นตามแรงโน้มถ่วง

“ไร้สาระ” เขาเอ่ยเหน็บแนมก่อนจะขยับร่างกายไปนั่งบนก้อนหินที่อยู่ไม่ไกล โดยมีสาวใช้เดินตามไม่ห่าง ปลายเท้าข้างหนึ่งเหยียบท่อนแขนของนักดาบที่ถูกตัดออกไว้แน่น

เด็กหนุ่มยกแขนขวาในระดับสายตา พลังเวทหลอมรวมจนเกิดหลุมสีดำขนาดใหญ่ มันดูดกลืนซากศพ เลือด และร่องรอยจากการต่อสู้ไปจนหมดสิ้น เหมือนที่แห่งนั้นไม่เคยเกิดอะไรรุนแรงมาก่อน

[เวลเลเวล 5 : แบล็กโฮล ดูดกลืนทุกสิ่งที่ไม่มีชีวิต]

ฝ่ามือหนาคว้าท่อนแขนที่ตั้งใจไม่ดูดกลืนเข้าไปในหลุมดำส่งให้ข้ารับใช้ 

เธอรับมันมาอย่างลังเล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ทะ ทำไมหรือคะ นายน้อย”

“ดูที่ข้อมือ จะมีรอยสักอยู่” เมื่อได้รับคำตอบมาเรียน่าก็พลิกชิ้นส่วนร่างกายที่ถืออยู่หาร่องรอยดังกล่าว “สัญลักษณ์ของพวกกลุ่มมือสังหาร ไปสืบหาผู้ว่าจ้างแล้วจัดการซะ”

“รับทราบค่ะนายน้อย” เธอผงกหัวเล็กน้อยรับคำสั่งและบรรจงเก็บท่อนแขนที่ได้มาลงในเสื้อเอี๊ยมด้านหน้า

“ข้ามีอีกเรื่องที่อยากให้สืบดู”

“เรื่องอะไรคะ”

“ที่นีไอโอเนียเกิดเรื่องอะไรหรือไม่ เหตุใดเมื่อวานท่านพ่อถึงดูมีท่าทางกังวล” 

ท่อนแขนหนาของเด็กหนุ่มท้าวเข้ากับหัวเข่า ฝ่ามือถูกยกขึ้นปกปิดใบหน้าครึ่งล่างของตนเอง ปลายนิ้วขยับลูบไปมาที่คาง ดวงตากลับกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มดังเดิมฉายแววสงสัย

“อ๋อ ถ้าเป็นเรื่องนั้น ฉันรู้ค่ะ”

“เกิดอะไรขึ้น” เขาเอียงคอหันไปมองสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างกายเล็กน้อย

“เรื่องโจรป่าค่ะ มีรายงานเข้ามาว่ามีโจรลอบปล้นชิงทรัพย์สินอยู่รอบๆ เมืองนีไอโอเนียทำให้การเข้าออกเมืองมีปัญหา แต่เรื่องนั้นถูกจัดการแล้วค่ะ” มาเรียน่าร่ายยาวถึงสาเหตุ ก่อนจะหยุดชะงักชั่วครู่ “จริงๆ นายท่านก็สงสัยเช่นกันว่าเป็นฝีมือของผู้ใด"

“ข้าเองสินะ ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่มีประโยชน์เสียจริง” เมื่อได้รับคำตอบที่ตนเองต้องการ เจ้าของเรือนผมสีขาวก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง 

“ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องกลับเข้าสถาบันก่อน ป่านนี้เดรคคงตามหาตัวข้าให้วุ่นเป็นแน่”

“โอ้ะ! เดี๋ยวค่ะนายน้อย" แรงฉุดรั้งที่ปลายแขนเสื้อทำให้เจ้าตัวต้องหันกลับไปหาคนที่ส่งเสียงเรียก

“มีอะไ-”

“ชุดนักเรียนเลอะเลือดอีกแล้ว ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าชุดอื่นไม่เป็นไรแต่ชุดนักเรียนไม่ได้น่ะ เพราะว่าต้องตัดใหม่อีกนะคะนายน้อย!!” 

ประโยคบ่นยืดยาวถูกเอ่ยออกมาจากสาวใช้ ที่กำลังใช้ผ้าสะอาดที่พกไว้ในชุดเอี๊ยมเช็ดคราบเลือดให้อย่างตั้งใจพลางส่ายหัวไปมา

“ข้าตั้งใจหรือไงเล่า!” เสียงตะคอกแฝงไปด้วยความรำคาญแต่กลับยืนนิ่งไม่ขัดขืน ก่อนจะไล่สายตามองข้ารับใช้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า 

“ว่าแต่เจ้าเถอะ นึกเช่นไรถึงใส่ชุดเมดมาฆ่าคน เสียสติไปแล้วหรือไง”

“เพิ่งเห็นหรือคะนายน้อย”

“ก็ใช่นะสิ”

“จะให้ฉันเปลี่ยนอย่างไรทันคะ อยู่ๆ นายน้อยก็เรียกฉันมา หยิบมาได้แต่ดาบเท่านั้นแหละค่ะ” มาเรียน่าหยุดมือก่อนจะกอดอกแน่น ใบหน้าบึ้งตึงมองไปยังผู้เป็นนาย

“ช่างเถอะ เสร็จแล้วใช่หรือไม่ ข้าไปล่ะ” 

เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีสาวใช้พร้อมรีบบอกปัดก่อนสาวเท้าเดินหนีหลีกเลี่ยงถ้อยคำบ่นยืดยาวน่ารำคาญ

“เดี๋ยวสิคะนายน้อย!!”

“มีอะไรอีก” ฝีเท้าหยุดชะงักก่อนจะหันไปตามเสียงตะโกนเรียก

“ยังมีรอยคราบเลือดอยู่เลย หากกลับไปเช่นนั้นท่านเดรคต้องสงสัยแน่ๆ” มาเรียน่าพยายามอธิบาย “ไปเปลี่ยนชุดที่บ้านพักก่อนดีกว่านะคะ”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวข้าโกหกว่าแยมหกใส่เอาแล้วกัน” เด็กหนุ่มโบกมือลาพร้อมก้าวเดินหนีอีกครั้ง

“มีแต่คนไม่มีสมองเท่านั้นแหละค่ะที่จะเชื่อ” สาวใช้บ่นพึมพำไล่หลัง ด้วยสีหน้าบูดเบี้ยวไม่พอใจ

“เช่นเจ้าน่ะหรือ”

“นายน้อย!!!”

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อ 8 ปีก่อน

คฤหาสน์ตระกูลดีลักซ์ เมืองนีไอโอเนีย

ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงจันทร์สีนวลสาดส่องกับเรือนผมสีขาวจนเกิดแสงสะท้อนอย่างเห็นได้ชัด เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียงสิบปีในชุดลำลองสีขาวกำลังยืนเคียงข้างพี่เลี้ยงสาวอยู่ด้านบนหลังคาสีน้ำเงินของคฤหาสน์ สายตาทอดมองไปยังเบื้องล่างที่เกิดการปะทะระหว่างอัศวินของตระกูลและผู้บุกรุก

คงคิดว่าหากบุกเข้ามายึดคฤหาสน์ของเจ้าเมืองได้ก็จะยึดที่ดินในปกครองไปได้

เป็นเวลากว่าสามวันแล้วที่ผู้นำตระกูลมีกิจธุระที่ต่างเมืองโดยที่ทิ้งลูกชายคนเดียวที่ยืนกรานว่าจะไม่ไปและขออยู่เฝ้าที่พักให้

ตระกูลดีลักซ์ที่ถือครองพลังเวทรักษาที่แข็งแกร่ง ด้อยด้านการสู้รบ แต่กลับปกครองเมืองที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในจักรวรรดิและที่ดินอีกมากมาย จึงมีหลากหลายตระกูลไม่น้อยที่จ้องจะยึดนีไอโอเนียเป็นเมืองขึ้น 

และนี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดหากต้องการเข้ายึดครอง

ภายในจักรวรรดิ เป็นเรื่องปกติที่เจ้าเมืองแต่ละเมือง จะทำสงครามแย่งชิงอาณาเขตซึ่งกันและกัน โดยที่องค์จักรพรรดิเห็นชอบและจะไม่มีทางเข้ามาก้าวข่ายเด็ดขาด ยกเว้นเสียแต่ว่าสงครามมันบานปลายจนสร้างความเดือดร้อนไปยังพื้นที่ที่ไม่ต้องการจะทำสงครามด้วย เมื่อนั้นทางจักรวรรดิจะเข้ามายุติสงครามด้วยตนเอง

แต่เหตุการณ์นั้นยังไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองนีไอโอเนีย

“ทันทีที่ท่านพ่อและท่านแม่ไม่อยู่ก็เริ่มสงครามเลยสินะ” เจ้าของเรือนผมสีขาวบ่นพึมพำ

“นายน้อยไปพักเถอะค่ะ ฉันจะคอยคุ้มครองให้เอง ส่วนเรื่องนี้ให้อัศวินจัดการ” ข้ารับใช้สาวกล่าวให้เด็กน้อยที่ยังเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจเย็น

“เจ้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรือมาเรียน่า”

“คะ?” เธอเอียงคอมองคนถามอย่างนึกสงสัย “นายน้อยหมายถึงอะไรคะ?”

“จะบุกมาทั้งที แต่มากันน้อยเหลือเกิน ไม่คิดเช่นนั้นรึ” เรย์เวนพูดพลางสอดส่องสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะเหลือบกลับไปมองลานด้านหน้าคฤหาสน์ที่ตอนนี้เป็นจุดปะทะใหญ่

“อ่อ เรื่องนั้น พวกมันคงคิดว่าตระกูลดีลักซ์อาจจะจัดการง่ายก็ได้นะคะ”

“ไม่หรอก มันต้องมีจอมเวทแอบซุ่มอยู่แน่นอน” 

เด็กหนุ่มพูดจบก็ยกสองมือขึ้นประสานกันตรงกลางหน้าอก หลับตาพริ้มตั้งสมาธิ ไม่นานพลังเวทก็ขยายออกเป็นวงกว้างครอบคลุมพื้นที่ของคฤหาสน์และด้านนอกทั้งหมด

[เวทเลเวล 3 : ตรวจจับมานา สามารถขยายพื้นที่ตรวจจับมานาและสิ่งมีชีวิตได้ ระยะขอบเขตขึ้นอยู่กับพลังเวทของผู้ใช้วิชา]

“ทิศเหนือ 3 คน ทิศตะวันออก 4 คน อยู่หลังพุ่มไม้ 3 บนต้นไม้อีก 1 ที่สวนดอกไม้ของท่านแม่มี 5 คน 2 คนในนั้นมีจอมเวทอยู่ด้วย น่าจะเลเวล 4 ไม่ก็ 5” 

เรย์เวนร่ายยาวตามลำดับเมื่อตรวจจับผู้บุรุกได้เพิ่มเติมจากที่เห็นตรงหน้า

“ฉันจะไปจัดการเองค่ะ นายน้อยไปพ-”

“แค่กๆ” มาเรียน่าเอ่ยขึ้นยังไม่ทันจบประโยค ผู้ใช้วิชาตรวจจับก็กระอั่กเลือดออกมาทั้งที่ยังหลับตา สองมือยกขึ้นเช็ดรอบปากอย่างลวกๆ

“นายน้อย!!” พี่เลี้ยงสาวที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปประคองทันที

“ไม่เป็นไร” เขาเอ่ยห้ามสาวใช้ที่กำลังตื่นตระหนก “เมื่อครู่ข้าทำเกินตัวไปหน่อย มานาข้าไม่พอน่ะ”

“ไปพักเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้เลย ฉันจะจัดการเองค่ะ” 

เป็นอีกครั้งที่เธอพยายามเกลี่ยกล่อมให้เด็กน้อยวัยสิบปีกลับเข้าไปพัก เขายังเด็กเกินไปที่จะต้องมาเห็นภาพเช่นนี้และไม่ควรทำเกินกำลังตนเอง

“ไม่ต้อง ข้าจะจัดการเอง” เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เผยรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก

“แต่ว่า…”

“เจ้าจะให้ข้าฝึกดาบแต่กับเจ้าและหุ่นซ้อม โดยที่ไม่ให้ลองสู้จริงเลยงั้นหรือ” เขาเงยหน้ามองข้ารับใช้ข้างกายที่ยังทำหน้ากังวล 

“เจ้าแค่รออยู่ที่นี่ก็พอ” 

แขนซ้ายที่ยืดเหยียดจนสุดแขน แสงสีดำสลัวสว่างวาบขึ้นจากฝ่ามือปรากฎดาบยาวที่แวนคลีโอผู้เป็นพ่อได้ให้ไว้สำหรับฝึกซ้อม ก่อนที่มือขวาจะคว้าด้ามจับแล้วชักออกมาอย่างชำนาญ

สายตาจดจ้องไปยังพื้นที่ที่ต้องการจะไป บรรยากาศรอบตัวของเด็กน้อยพลันเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จิตสังหารรุนแรงเสียยิ่งกว่าตอนกดดันสาวใช้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

ฟิ้วว

การกระทำไวกว่าความคิด เด็กหนุ่มพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วหลงเหลือเพียงฝุ่นควันและเสียงของอากาศที่เสียดสี จนสาวใช้ที่ยืนเคียงข้างก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน

มาเรียน่ายังคงอดห่วงไม่ได้ แต่ไม่อาจฝ่าฝืนคำสั่งที่บอกให้รออยู่ที่เดิมของผู้เป็นนายได้ สายตาฉายแววกังวลมือขวากำดาบแน่น

เด็กหนุ่มเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังทิศทางที่ตรวจจับผู้บุกรุกได้ ก่อนจะตวัดดาบเข้าจุดตายอย่างไม่ลังเล ของเหลวสีแดงสดของศัตรูฝากร่องรอยไว้บนเสื้อผ้าสีขาวจนเปลี่ยนสี 

เขาวิ่งไปตามจุดต่างๆ ที่สัมผัสได้ ไม่ทันที่ศัตรูจะได้ตอบโต้ หัวของพวกนั้นก็หลุดร่วงออกจากบ่าก่อนที่จะจับดาบขึ้นป้องกันตัวเสียอีก

คนที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ด้านบนเกือบมองตามไม่ทัน เห็นเด็กน้อยไล่ปลิดชีพทีละคน อย่างคนที่เคยลงมือฆ่ามาไม่ต่ำกว่า 20 ปี สีหน้ากังวลก่อนหน้าตอนนี้กลับกลายเป็นตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง

ทิศเหนือ

ทิศตะวันออก

จนมาถึงสวนดอกไม้

แค่เพียงชั่วพริบตาร่างของผู้บุกรุกทั้งนักดาบและจอมเวทถูกคมดาบฟาดฟันจนชิ้นส่วนของร่างกายกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง ของเหลวสีแดงข้นไหลอาบพื้นดิน ดอกไม้หลากหลายสีสันภายในสวนถูกย้อมไปด้วยเลือด

แกร๊ง!

ตุ้บ!

เรย์เวนปล่อยดาบในมือ ทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นดินท่ามกลางศพที่ตนเพิ่งทำการสังหาร มาเรียน่าที่เฝ้ามองอยู่ตลอดจึงรีบพุ่งตัวมาหาทันที

“นายน้อย!! เป็นอะไรไปคะ!? ” 

เธอมั่นใจว่านายน้อยของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแน่นอน แต่เพราะอะไรถึงล้มลงเช่นนี้

เมื่อวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะที่มองเห็นใบหน้าอย่างชัดเจน ก็ต้องแปลกใจอีกครั้ง

เด็กหนุ่มจ้องมองฝ่ามือที่ชุ่มไปด้วยเลือดด้วยแววตาเป็นประกายและกระหายเลือดดุจสัตว์ป่า ร่างกายแผ่รังสีอำมหิตออกมาอย่างรุนแรง จนหญิงสาวเกิดอาการคลื่นไส้ สองขาสั่นระริกไม่กล้าก้าวเดินเข้าใกล้ไปมากกว่านี้

“หึหึ ฮ่าๆๆๆๆ มือสั่นหรือ ฮ่าๆ ให้ตายสิ ฮ่าๆ ไม่ได้ฆ่าคนมาตั้งนาน” เสียงหัวเราะแผ่วเบาในลำคอค่อยๆ พรั่งพรูออกมาเต็มเสียงปะปนด้วยคำพูดที่ชวนให้ขนลุกราวกับปีศาจที่กระหายในเลือดมนุษย์

ใบหน้าของมาเรียน่าถอดสีเมื่อเห็นภาพตรงหน้า นี่เขาเพิ่งเอ่ยปากรับคำว่าจะเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ให้กับใครกันแน่ 

เด็กน้อยสิบขวบที่เพิ่งจะลงมือฆ่าคนอย่างเลือดเย็นแล้วยังหัวเราะออกมาได้อย่างไม่รู้สึกผิดบาปในใจคนนี้น่ะหรือ ?

แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วไม่สามารถกลับคำได้ เป็นสิ่งที่ยึดมั่นอยู่ในใจไม่อาจฝ่าฝืน จากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทางที่เด็กคนนี้เลือกเดินจะย้อมไปด้วยยาพิษสีแดงฉานหรือมีขวากหนามมากมายเพียงไหน 

เอก็จะเป็นคนที่พร้อมจะถวายชีวิตรับใช้โดยไม่หาเหตุผลมาโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

เก็บความเกรงกลัวเอาไว้ภายใน สองขาค่อยๆ ก้าวเข้าหาเด็กน้อยฝ่ารังสีความกดดันเข้าไปทีละก้าว จนคนที่นั่งอยู่รู้สึกได้ถึงคนที่เข้ามาใกล้

สองมือของเรย์เวนยกขึ้นกอบกุมใบหน้าเหลือบมองมายังพี่เลี้ยงสาวที่ยืนอยู่ห่าง ๆ ดวงตาที่เคยเป็นสีน้ำเงินเข้มสีประจำตระกูลตอนนี้กลายเป็นสีเลือดแดงสด สายตาที่คาดเดาไม่ออกว่าเจ้าตัวคิดอะไรภายในใจมองลอดออกมาผ่านช่องว่างระหว่างนิ้ว

“มาเรียน่า~” เสียงเรียกคานยางทำให้คนที่ถูกเรียกชื่อแปลกใจ

“ค่ะ นายน้อย” เธอก้มหัวลงเล็กน้อย

“เจ้ากลัวข้าหรือเปล่า” เมื่อได้ยินคำถาม หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นสบตา แต่กลับพบรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าที่เปรอะเปื้อน เหมือนดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าแต่ถูกย้อมไปด้วยเลือด 

“ข้าเป็นเช่นนี้แค่ตอนนี้เท่านั้น อย่ากลัวข้าไปเลยน้าา~”

ในคืนนั้นคุณชายคนเดียวของนีไอโอเนียได้ทำการสังหารผู้บุกรุกที่อยู่รอบนอกจนหมดสิ้น โดยมีมาเรียน่าตามประกบไม่ห่าง ก่อนจะทำการฆ่าปิดปากเหล่าอัศวินและสาวใช้ที่เข้ามาอยู่ผิดที่ผิดทางพลาดท่าเห็นการกระทำของอันน่าสยดสยองและเลือดเย็นของเด็กน้อย 

เพื่อไม่ให้เรื่องนี้ถึงหูของผู้นำตระกูลจึงจำเป็นต้องใช้วิธีนี้วิธีเดียว

การฆ่าครั้งแรกในฐานะ เรย์เวน ดีลักซ์ ยิ่งไปกระตุ้นสัญชาตญาณของสัตว์ร้ายนักล่าที่อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอีกครั้ง

 

To be continue


ตอนย้อนอดีตน้องเรย์เวนแค่ตื่นเต้นเกิน เลือดสูบฉีดเลยดีดไปหน่อยไม่ได้โรคจิตขนาดนั้นนนน อย่ากลัวน้องนะคะ อย่ากลัวนะ เดี๋ยวนักเขียนกลัวแทนเอง กึกๆๆๆๆๆ (เสียงฟันกระทบกัน)

ปล. การฆ่าในที่นี้หมายถึงฆ่าคนนะคะ ส่วนฆ่ามอนหรือปีศาจนั่น น้องฆ่ามาตั้งแต่เริ่มจับดาบถนัดมือแล้วค่ะ บุกเข้าป่าไปล่ามอนจนมาเรียน่าต้องตามติดเพราะกลัวเป็นอันตราย