อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม - องค์ที่ 6 การเรียนรู้ โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า

รายละเอียด

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

ผู้แต่ง

Diamondink

เรื่องย่อ


สารบัญ

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 1 บทนำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 2 การจากลา และการพบพาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 3 การจากลา และการพบพาน 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 4 การปรับตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 5 การปรับตัว 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 6 การเรียนรู้,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 7 การบุกรุก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 9 ช่วยเหลือ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 10 ขวาง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 11 เจ้าชายแห่งอคาด้า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 12 มิตรภาพ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 14 แผนลวง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 16 พายุโหมกระหน่ำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 17 แสงแห่งนภา,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 19 พันธะโลหิต,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 20 สองสาวอาร์ชิบัส,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 21 1 วันก่อนการประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 22 การทดสอบขั้นพื้นฐาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 23 การประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 24 มีอา เพดราก้อน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 25 มนูเอล บรอสมันด์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน

เนื้อหา

องค์ที่ 6 การเรียนรู้

“นั้นปราสาทหลวงแอสโทรเฟียขอรับ”

ราฟาเอลโร่ที่มองตามมือของเกรนเดล  ปลายทางนั้นคือ ปราสาทขนาดมโหฬารที่สร้างจากหินอ่อนพันปี   ดังนั้นเมื่อมองจากจุดที่พวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่   

ปราสาทสีขาวผ่องเมื่อต้องแสงของดวงอาทิตย์จึงราวกับว่ามันเปร่งประกายเรืองรองเป็นสีทอง ร่วมทั้งสะพานที่โยงจากตัวปราสาททั้ง 4 ด้าน ให้เชื่อมมายังป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นตลอดแนวกำแพงที่ทำจากวัสดุเดียวกัน แต่ปิดทับด้วยพืชชนิดไม้เลื้อยที่มีดอกและผล

 “บนยอดของปราสาทคือต้นไม้แห่งชีวิตที่มีอายุนับหมื่นปี และอัญมณีซิวเวอร์ซันขอรับ”

และสิ่งที่เด่นไม่แพ้ตัวปราสาท นั่นคือต้นไม้ที่ลอยตระหง่านอยู่เหนือยอดปราสาท ลำต้นมีสีขาวโพลน  ใบสีทองเจือสีเงิน 

และรากที่โอบรัดรอบอัญมณีที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของตัวมันเอง  อัญมณีที่มีสีเงินปนทองไม่ต่างจากสีใบของต้นไม้แห่งชีวิต และแสงที่รอดผ่านช่องว่างของรากไม้รอบตัวมัน ช่างส่องสว่างท่ามกลางท้องนภา




หลังจากกลับมาจากการฝึกซ้อมกับเกรนเดล และทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ชั่วโมงเรียนกับคอพิอุสก็เริ่มต้นนขึ้นอีกครั้ง ณ สถานที่เดิม

ราฟาเอลนั่งลงบนโขดหินเช่นเคย และทำการรวบรวมอนูพลังเวทย์ จนกว่ามันจะกลายเป็นแกนพลังเวทย์ เพราะหากไม่ใช่ผู้ใช้พลังเวทย์พิเศษที่มีพลังเวทย์ติดตัวมาแต่กำเนิด ผู้ใช้เวทย์ทุกคนจำเป็นจะต้องปลุกพลังเวทย์ของตนเองขึ้นมาเสียการก่อน โดยการที่จะต้องมีแกนพลังเวทย์จึงจะสามารถใช้เวทมนต์ประเภทธาตุได้

การฝึกฝนนี้ได้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งรวมทั้งการฝึกฝนร่างการภายใต้การดูแลของเกรนเดล ที่ดุูเหมือนจะโหดขึ้นเรื่อยๆ และคอพิอุสยังได้เพิ่มการต่อสู้ระยะประชิดเข้ามาในการฝึกด้วย จนตอนนี้ก็ย่างเข้าสัปดาห์ที่ 2 ของการฝึกแล้ว การอยู่กับทุกๆ คนที่นี้ช่างเงียบสงบ ราฟาเอลโร่เป็นเด็กชายที่มีอายุเพียงแค่ 8 ขวบ แต่ความแข็งแรงของเขากับพัฒนาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าพลังเยียวยาที่ติดตัวเขามาแต่กำเนินก็มีผลอย่างมาก แต่ดูเหมือนเด็กน้อยของเราจะทุ่มคะแนนทั้งหมดให้กับพ่อครัวของที่นี้ และสิ่งที่ราฟาเอลโร่รับรู้ได้ชัดเจนหลังได้รับการฝึกโหดเหนือมนุษย์ก็คือ แผลหรืออาการบาดเจ็บที่ได้รับหายเร็วอย่างเหลือเชื่อจากเมื่อก่อนต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงแต่ตอนนี้เพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้นแผลทั้งหมดก็หายเป็นปลิดทิ้ง

ไม่ช้าการสร้างแกนพลังเวทย์ก็สมบูรณ์ หลังจากการระเบิดพลังอย่างรุนแรง ดีที่คอพิอุสได้สร้างเกราะซึมซับแรงกระแทกรอบตัวเขาไว้ได้ทัน จึงไม่มีการเสียหายใดๆเกิดขึ้น

จุดไหลเวียนพลังในร่างกายทุกจุดของราฟาเอลโร่ก็ได้ถูกเปิดออก เขาสามารถสัมผัสพลังเวทย์ได้จากทุกส่วนของร่างกาย

แก่นพลังเวทย์ของราฟาเอลโร่ กระโดนข้ามขั้นไปที่สีแดงทันทีหลังการรวบตัวเป็นแก่นพลังเวทย์ พลังเวทย์ทุกส่วนในร่างกายพลั่งพลูราวกับน้ำที่ถูกปล่อยออกจากเขื่อน มันทำให้ทั้งโล่งและตัวเบาอย่างบอกไม่ถูก

“งั้นต่อแต่นี้ผมคงต้องเรียกท่านอาว่าอาจารย์แล้วใช่ไหมครับ”

ราฟาเอลโร่กล่าวด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม คอพิอุสหัวเราะเบาๆ ในลำอย่างขบขัน

 “เอาสิ ตามใจเจ้าเลย”

 “ครับอาจารย์”

คอพิอุสมองลูกศิษย์คนใหม่ด้วยสายตาเอ็นดู

 “งั้นเรามาต่อกันเลยดีไหม ข้าอยากรู้เต็มแก่แล้วว่าเจ้าจะใช้ธาตุอะไรได้บ้าง”

 คอพิอุสกล่าวพร้อมกับหงายมีและยกปลายนิ้วทั้ง 4 ขึ้นแล้วหมุนมันเป็นวงกลมเกิดพายุหมุนขนาดเล็กเหนือปลายนิ้วของเขาทันที ก่อนที่คอพิอุสจะแบนมือออก แล้วประคองพายุหมุนนั้นให้ลอยอยู่กลางฝ่ามือ

 “ธาตุลมเป็นเวทย์ที่ผู้มีพลังเวทย์ทุกคนสามารถใช้ได้ แต่จะใช้ได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับบุคคล สัมผัสอนูพลังเวทย์ของธาตุลมรอบปลายนิ้วเจ้า ใช้พลังเวทย์ในตัวควบคุมอนูพลังของธาตุลม อย่าใช้แค่พลังที่มีอยู่แต่ในตัว มันจะทำให้เจ้าใช้พลังได้น้อยลง แต่ความแรงจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว”

ราฟาเอลโร่ทำตามสิ่งที่คอพิอุสกล่าวอย่างไม่รีรอ ราฟาเอลโร่สามารถสัมผัสกับอนูพลังของธาตุลมในอากาศได้อย่างไม่ยากนัก เขาบิดอนูพลังเวทย์ของธาตุลมในอากาศได้โดยรู้สึกว่าแทบไม่ต้องใช้พลังเวทย์ในตัวดัวยซ๊ำ ก็สามารถสร้างพายุหมุนขนาดเล็กและประคองการไหลเวียนของพลังไว้ได้อย่างสวยงาม

 “ดี ต้องอย่างนี้สิ ถึงจะไม่เปลืองแรงข้า 555”

คอพิอุสกล่าวอย่างภาคภูมิ ก่อนจะอธิบายต่อ พร้อมกับผ่ายมือทั้งสองข้างขึ้น ข้างตัว ก่อนที่จะเกิดเป็นหยดน้ำที่ลอยอยู่กลางอากาศรอบตัวของพวกเขาทั้งคู่

 “น้ำนั้นอยู่ทุกแห่งรอบตัวเรา แม้กระทั่งในร่างกายหรืออากาศเพียงแค่เรามองไม่เห็นมัน ราฟาเอลเจ้าต้องมองอนูพลังของธาตุต่างๆ รอบตัวให้ออก แล้วเจ้าจะรวมเพียงอนูพลังของธาตุที่เจ้าต้องการได้ง่ายขึ้น”

#ทำยังไงถึงจะมองให้เห็นๆ# ประโยคนี้ดังซ้ำไปซ้ำมาในหัวเขา ราฟาเอลโร่หลับลงและเพ่งสมาธิไปยังดวงตา ราฟาเอลโร่ดึงพลังเวย์มาที่ดวงตาทั้งสองข้างโดยไม่ทันรู้ตัวด้วยซัำ เขาลืมตาขึ้นพร้อมกับดวงตาทั้งข้างที่เรื่องแสงออกมาช่วงครู่

คอพิอุสที่สังเกตุเห็นแอบยิ้มมุมปากอย่างชื่นชม เมื่อมองเห็นมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใช้พลังเวทย์ในตัวเพียงนิด ราฟาเอลโร่ก็สามารถถึงอนูพลังของธาตุน้ำที่อยู่ในอากาศมารวมกันจนเกิดเป็นหยดน้ำ

 “ดี ทำได้ดี เจ้ามองเห็นแล้วสินะ งั้นบอกข้าที่ว่าในตัวเจ้ามีครบทั่ง 4 ธาตุเลยไหม”

ราฟาเอลโร่รวมรวบสมาธิอยู่ครู่นึ่งมองอนูพลังเวทที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายก่อนที่จะตอบ

 “ครับ เท่าที่ผมเห็น น่าจะมีทั้งสี่ธาตุ”

 “ดีเลย แต่ยังไงก็ต้องเรียนรู้วิธีที่จะดึงพลังออกให้ใช้ให้ถูกวิธี”

คอพิอุสกล่าว ก่อนที่จะแยกขาทั้งสองข้างออกจากกันเล็กน้อย เขาหงายมือขึ้น ต้นแขนแนบลำตัว แล้วค่อยๆ ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับดินใต้เท้าของเขาที่ยกสูงขึ้นต่างระดับจากพื้นปกติราว 10 นิ้ว

 “ยืนให้มั่นคงราฟาเอล สัมผัสกับอนูของธาตุดินที่อัดแน่นอยู่ใต้เท้าเจ้า แล้วค่อยๆ ควบคุมอนูพลังเวทย์ของธาตุดินให้เปลี่ยนรูปร่าง ตามที่เจ้าต้องการ”

ราฟาเอลทำตามที่คอพิอุสกล่าวทันที เขาสามรถมองเห็นอนูของธาตุดินที่บีบอัดกันอย่างหนาแน่นเบื้องหน้าห่างจากตัวไปไม่กี่นิ้ว และพยายามแยกส่วนของอนูพลังเวทย์และยกมันขึ้น โชคยังดีที่ตอนนี้คอพิอุสยืนสังเกตุการณ์อยู่ข้าง  ไม่ใช้ตรงข้ามกับราฟาเอลโร่เพราะอยู่ๆ พื้นดินตรงหน้าราฟาเอลโร่ก็พุ้งพวดขึ้นมา

 “อืม ต้องฝึกอีกนิด แต่สำหรับครั้งแรกถือว่ายอดเยี่ยม”

 “ขอบคุณครับ”

ราฟาเอลโร่กล่าวในขณะที่มองดูคอพิอุสทำให้พื้นดินกลับสู่สภาพเดิม

 “ส่วนธาตุไฟเป็นธาตุที่ข้าไม่ถนัดเอาซะเลย ต้องของความช่วยเหลือจากใครบ้างคน”

พูดจบคอพิอุสก็มือขวาที่สวมแหวนเกลี้ยงสีทองไว้ที่นิ้วมาจรดที่ริมฝีปาก

 “เกรนเดล”

แหวนที่สวมอยู่ส่องแสงวาววับเมื่อสิ้นเสียงของคอพิอุส ไม่นานนักเกรนเดลก็มาปรากฏตรงหน้าพวกทั่งคู่

 “ขอรับ นายท่าน”

เกรนเดลกล่าวในขณะที่โค้งศีรษะลงเล็กน้อย

 “ช่วยสอนการใช้เวทย์ไฟให้ราฟาเอลที”

เกรนเดลหันมาจ้องมองราฟาเอลโร่พร้อมกับรอยยิ้ม

 “ยินดีด้วยนะขอรับ”

 “ขอบคุณครับ”

ราฟาเอลโร่เองก็กล่างรับด้วยรอยยิ้ม

 “ธาตุไฟเป็นธาตุที่ของใช้พลังในตัวของผุู้ใช้เป็นส่วนใหญ่ขอรับ ดังนั้นความแข็งแกร่งของเวทย์จะขึ้นอยู่กับพลังในตัวของผู้ใช้ครับ แต่ก็เป็นธาตุที่ซับซ้อนขึ้น เพราะต้องใช้ควบคู่กับธาตุลมในอากาศ การจะใช้เวทย์ไฟผู้ควบคุมไฟจะต้องการเพียงแค่ประกายไฟ หรือการเสียดสีเพียงเล็กน้อย เพื่อสร้างเปลวไฟขอรับ”