อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ
เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หลังจากการอธิบาย เกรณเดลก็ยื่นมือออกมาหนึ่งข้างและดีดมัน เปลวเพลิงถูกจุดให้ติดทันทีหลังเกิดประกายไฟเล็กน้อย เกรนเดลคงสภาพเปลวเพลิงไว้บนปลายนิ้วของเขา
ราฟาเอลโร่สูดลมหายใจเข้า หลังจากพยายามทำความเข้าใจ และเมื่อที่ดีดนิ้วเพียง 2-3 ครั้งเปลวเพลิงก็ถูกจุดขึ้น พร้อมกับการคงสภาพเปลวเพลิง เมื่อเห็นเช่นนั้นเกรนเดลก็หันไปที่คอพิอุสที่มองเขากลับเช่นกัน รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคอพิอุส ก่อนจะหันกลับไปมองที่ลูกศิษย์ของตน เกรนเดลค้อมศรีษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการรับรู้ในสิ่งคอพิอุสต้องการจะสื่อ
“ราฟาเอล การฝึกจะมีทั้งหมด 3 ขั้น นั้นก็คือ ขั้นแรกพื้นฐาน ขั้นที่สองพลังเวทแปลเปลี่ยน และขั้นที่สามเวทอัตลักษณ์ หลังจากนี้เราจะเข้าสู่ขั้นแรกฝึกควบคุม ผสาน และโจมตี”
เมื่อรู้แล้วว่าราฟาเอลโร่สามารถใช้ธาตุอะไรได้บ้าง หลังจากนี้การฝึกที่เพิ่มเข้ามาคือการฝึกให้ใช้ธาตุทั้ง 4 ให้ชำนาญ ซึ่งหมายถึงการฝึกของทุกวันจะเพิ่มการใช้ธาตุเข้ามาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การต่อสู่ หรือแม้การทำกิจวัตรประจำวัน
เวลาเป็นสิ่งที่เราไม่อาจที่จะควบคุมได้ หากว่าเราไม่ได้ใส่ใจกับมัน หากมีสิ่งที่ต้องทำ หรือแม้กระทั่งการจดจ่อกับความสุขตรงหน้า เวลาก็จะไม่ใส่ใจเราเช่นกัน และผ่านเลยเราไปอย่างรวดเร็ว 3 ปีแล้วที่ราฟาเอลโร่ตัดสิ้นใจเดินทางมาที่แอสโทรเฟีย เขาเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคอพิอุส เกรนเดลเองนับวันก็ยิ่งสนิทสนมกับราฟาเอลโร่มากขึ้น แต่การฝึกก็ยังดำเนินต่อไป จนตอนนี้แกนพลังเวทของราฟาเอลโร่เปลี่ยนเป็นสีส้มแล้ว และเขาก็อยู่ในขั้นที่สองการใช้เวทแปลเปลี่ยน ราฟาเอลโร่ที่สัมผัสกับอนูเวทย์รวบๆ ตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับที่จะควบคุมมัน คอพิอุสมักจะชมว่าเขาเรียนรู้ได้เร็วเสมอ
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่อาการดี ช่วงเช้าที่ราฟาเอลโร่ฝึกการใช้เวทย์พิเศษอยู่กับเกรนเดล
“พลังเยียวยา เป็นพลังที่หาได้ยากยิ่ง การรักษาตัวเองให้หายจากอาการบาดเจ็บนั้น นับว่าวิเศษแล้ว แต่หากท่านสามารถแบ่งปันการเยียวยานี้ให้กับคนรอบข้างได้ พลังเวทย์ที่มีมันจะยิ่งทรงคุณค่า”
เกรนเดลกล่าวพอกับชักกริชกรีดที่ข้อมือ ด้วยใบหน้าที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“ท่านเกรนเดล อย่าครับ ผมเพิ่งลองทำได้ไม่กี่ครั้งเอง”
ราฟาเอลโร่ร้องทักเสียงดัง เมื่อเห็นเกรนเดลเชือดข้อมือของตัวเองด้วยมีดพก เลือดไหลหยดเป็นทาง ราฟาเอลโร่คว้าข้อมือข้างที่เป็นแผลของเกรนเดลขึ้นมาอย่างเป็นห่วง และมองเกรนเดลด้วยสายตาตำหนินิดๆ ก่อนจะวางมือข้างนึงเหนือบาดแผลนั้น มือข้างนั้นเรืองรองขึ้น พร้อมกับแผลนั้นที่หายดีในพริบตา ราฟาเอลโร่มองไปที่เอลฟ์พ่อบ้านที่กำลังกำและแบมือ ทดสอบว่าเอ็นข้อมือที่พึ่งกรีดไปยังทำงานได้ดีไหม แล้วแอบถอนหายใจเบาๆ เกรนเดลมักจะจริงจังกับหลายๆ เรื่องเสมอ และจริงจังจนน่ากลัว
“หากผมยังดึงพลังมารักษาให้ไม่ได้ จะเป็นยังไงครับ"
ราฟาเอลโร่กล่างอย่างตัดพ้อนิดๆ ด้วยความเป็นห่วง
“ก็ทำได้มิใช่หรือขอรับ ส่วนข้าเองก็เชื่อในตัวท่านขอรับ และการลงมือทำจริงๆ ย่อมเป็นการฝึกฝนที่ดีกว่า”
เกรนเดลกล่าวด้วยรอยยิ้ม ไม่มีอะไรจะสามารถเปลี่ยนสีหน้าของเขาได้จริงๆ ระหว่างการสนทนานั้น คอพิอุสก็ปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสอง ในมือกำม้วนกระดาษแผ่นนึง ด้วยท่าทางเร่งรีบ
“ราฟาเอล ข้ามีงานแรกให้เจ้าทำ เกรนเดลช่วยนำทางให้ราฟาเอลด้วย”
“ขอรับ”
เกรนเดลที่มือทาบอกค้อมศีรษะลงเล็กน้อย เพื่อรับคำสั่ง
“ตอนนี้เลยหรอครับ"
ในขณะที่ราฟาเอลโร่ตกใจกับความกระทันหันนี้ แม้จะมีการพูดถึงอยู่บ่อยครั้งว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องออกภาคสนาม แต่ก็ไม่คิดว่าจะมาแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย
“มีการบุกรุกเกิดขึ้น และพวกนั้นกำลังลักพาสัตว์เวทย์ที่เก่าแก่ และทรงพลัง ภายในการดูแลของเรา มันเป็นเรื่องเร่งรวด ข้าอยากให้พวกเจ้ารุดหน้าไปก่อน และเมื่อร่วมรวมทีมเฉพาะกิจได้แล้วข้าจะรีบตามไป”
แล้วทั้งสองพยักหน้ารับคำสั่งจากคอพิอุส
“ทั้งคู่ดูแลกันให้ดี ราฟาเอลนี้คือภาระกิจแรกของเจ้าอย่าบุ่มบ่ามทำอะไรเกินตัว”
“ครับ/ขอรับ”
เกรนเดลและราฟาเอลโร่ขานรับสิ่งที่คอพิอุสบอกพวกเขา หลังทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วง คอพิอุสก็อันตรธานหายไปจากจุดที่เขายืนอยู่ ราฟาเอลโร่และเกรนเดล จึงออกเดินทางทันทีที่หลังเตรียมตัวเสร็จ เกรนเดลพกแส้เหล็กอัคคี อาวุธประจำตัวที่สร้างโดยช่างฝีมือแอลฟ์ ส่วนราฟาเอลโร่ที่ยังไม่มีอาวุธประจำตัว ได้คว้าเอาดาบและมีดสั้นที่ใช้ในการฝึกไป
ทั้งสองพุ่งตัวผ่านแนวป่าด้วยความชำนาญ และด้วยความเร็วที่ใช้ไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงหุบเขา ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์เวทย์ หุบเขาที่ครึ่งหนึ่งของหินถูกหลอมให้เป็นสีดำ เนื้อหินที่เงาวับ และลื่น อีกทั้งการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ด้านใน ก็สั่นสะเทือนเขาทั้งลูกเป็นระยะๆ แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ขึ้นมายืนอยู่ปากทางเข้าอย่างไม่ยากเย็นนัก ขณะเคลื่อนตัวผ่านอุโมงค์เพื่อเข้าไปสู่รังด้านใน ราฟาเอลโร่สัมผัสได้ถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลิ่นของกำมะถันก็ทำให้ทั่งลำคอ และดวงตาแสบจนน้ำตาไหล
อุโมงค์ที่ผ่านเข้ามาว่าใหญ่แล้ว แต่เมื่อสุดปลายอุโมงค์ และมองลงมาตามแนวราบชัน จะพบพื้นที่ของถ้ำปิดขนาดใหญ่ ณ ใจกลางของถ้ำผู้ใช้เวทย์ราว 20 ต่อสู้กับสัตว์เวทย์ที่เริ่มจะอ่อนแรง เพื่อที่จะผนึกมันลงในภาชนะ มันถูกพันธนาการด้วย the ice chain (เป็นโซ่ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเวทย์น้ำแข็ง ความแข็งจะขึ้นอยู่กับพลังของผู้สร้าง) ในขณะที่บินอยู่กลางอากาศ ท่ามกลางไอความร้อนระอุที่พุ่งตัวขึ้นจากพื้น
สัตว์เวทย์ลักษณะคล้ายกับนก ที่มีขนาดตัวเท่าบ้าน ไอความร้อนจากพื้นที่ว่าร้อนแล้ว แต่เปลวเพลิงสีส้มแดงที่แผ่ออกมากขนทุกเส้นที่บนตัวของมันนั้นร้อนยิ่งกว่า หากไม่มีเวทย์จองจำ โอบล้อมรอบตัวของมัน ผู้ใช้เวทย์ทั้ง 20 คน คงถูกหลอมละลายไปนานแล้ว เวทย์จองจำที่บีบให้มันลดขนาดตัวไปอยู่ในภาชนะ ที่ต้องใช้นักเวทย์จำนวน 10 คนในการร่าย แต่กลับเกิดรอยร้าว เป็นช่องว่างหลายจุด ทำให้โดนโจมตีกลับ ถึงแม้จะมีพลังที่ทรงพลานุภาพ แต่การกำจัดนักเวทย์ที่มี วอร์ริเออร์ อาร์เชอร์ และเพียร์แฮน ที่ค่อยปกป้องนักเวทย์ที่กำลังร่ายเวทย์ และโจมมันกลับ ทำให้มันเริ่มอ่อนแรง และแผนการคงลุล่วงในไม่ช้า หากไม่มีการโจมตีโดนไม่ได้ตั้งตัว
เกรนเดลเป็นผู้ใช้เวทย์สายธาตุเพลิง ซึ่งมีแส้เหล็กอัคคีที่ถูกสร้างโดยเหล็กลาวาหายาก ที่ไวต่อเวทย์ไฟมาก มันสามารถยืด หด และแข็งตัวได้ตามใจปราถนาของผู้ใช้ แต่ผู้ใช้เองก็ต้องควบคุุมพลังเวทย์ได้อย่างชำนาญเท่านั้น เกรนเดลเป็นผู้ใช้อาวุธระยะกลางได้อย่างรุนแรง การสังหารของเขานั้นเฉียบคม และรวดเร็วตามประสบการณ์ ดังนั้นฝั่งซ๊ายที่เขารับผิดชอบถึงมีจำนวนคนมากว่า แต่ก็ถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย
ส่วนราฟาเอลโร่ที่ตอนนี้ถูกเกรนเดลเฝ้ามองอยู่ห่างๆ ก็จัดการกับศัตรูของเขาได้ดี การถูกเคียวกรำมาตลอด 3 ปี โดยผู้ใช้เวทย์ถึง 2 คน ที่มีทั้งประสบการณ์ และความสามารถ มีผลอย่างยิ่งต่อฝีมือของเขา
ราฟาเอลโร่สามารถหลบหลี และจัดการกับศัตรูของเขาให้ล้มลงไปได้โดยไม่ต้องชักอาวุธด้วยซ้ำ และยังเลี่ยงจุดตาย เพียงแค่โจมตีให้แรงพอที่จะทำได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสลบไป หลังจากจัดการกับศัตรูเสร็จ ราฟาเอลโร่ก็หันไปหาสัตว์เวทย์ด้วยความเป็นห่วง
แต่จากการถูกโจมตี วิหคเพลิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังคงคลุ้มคลั่ง เมื่อหลุดจากการพันธนาการ มันก็หันมาโจมตีใส่ราฟาเอลโร่ที่อยู่ใกล้สุดทันที เพลิงขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวทย์มหาศาล เทียบเท่าได้กับพลังไฟของมังกร พุ่งตรงมาที่ราฟาเอลโร่อย่างรวดเร็ว
ในเฉียววินาทีนั้นกำแพงวายุหิมะได้ถูกสร้างขึ้นในพริบตา ราฟาเอลโร่ใช้กระแสลมเพื่อเบี่ยงเบนทิศทางของเปลวเพลิง และใช้ความเย็นสูงเพื่อทอนกำลังของความร้อน
ไฟอัคคีระลอกแรกได้ผ่านไปแล้ว ราฟาเอลโร่มองตามกระแสลมที่เปลี่ยนทิศทางของเปลวเพลิง เขาเห็นกำแพงหินทั้งสองด้านของถ้ำถูกหลอมละลายจนกลายเป็นลาวาไหลลงมาเป็นสาย #นี้ขนาดใช้ความเย็นตัดกำลังของความร้อนแล้วนะ# ราฟาเอลโร่สูดลมหายใจแล้วตั้งสมาธิ # ระลอกที่สองกำลังจะมา#