อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม - องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์ โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า

รายละเอียด

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

ผู้แต่ง

Diamondink

เรื่องย่อ


สารบัญ

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 1 บทนำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 2 การจากลา และการพบพาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 3 การจากลา และการพบพาน 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 4 การปรับตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 5 การปรับตัว 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 6 การเรียนรู้,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 7 การบุกรุก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 9 ช่วยเหลือ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 10 ขวาง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 11 เจ้าชายแห่งอคาด้า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 12 มิตรภาพ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 14 แผนลวง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 16 พายุโหมกระหน่ำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 17 แสงแห่งนภา,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 19 พันธะโลหิต,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 20 สองสาวอาร์ชิบัส,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 21 1 วันก่อนการประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 22 การทดสอบขั้นพื้นฐาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 23 การประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 24 มีอา เพดราก้อน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 25 มนูเอล บรอสมันด์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน

เนื้อหา

องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์

 “ไม่ เจ้ากลับก่อนเลย ข้ามีที่ที่อยากจะแวะไปก่อนกลับ”

ราวกับคำพูดนั้นเป็นเเม่เหล็กดึงดูดอลูคาร์ดเข้าหาราฟาเอลโร่  

 “ไม่ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าคลาดสายตาอีกเป็นอันขาด วันนี้ข้าจะไปด้วย”

ทันใดทันอลูคาร์ดกระโจนคว้าตัวของราฟาเอลโร่ แรงถ่วงทำให้รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่น่ารำคาญ การหายไปหลังจากภาระกิจภาคสนามอยูู่เป็นนิจ ซึ่งกินเพลานานสองนาน กว่าเขาจะปรากฏกายอีกครั้ง  ก็จวนจะได้เวลามื้อเย็นแล้ว

 “ตามใจเจ้าเลย แล้วก็ปล่อยข้าด้วย"

ทั้งคู่ใช้ก้าวพริบตา และมาหยุดอยู่ที่ปลายอุโมงค์  ทางเข้าถ้ำปิดขนาดใหญ่  ราฟาเอลโร่ก้าวนำไปตามทางเดินที่ลาดลงไปสู่ตัวถ้ำ

 “ที่นี้ร้อนชะ…มัด โห!!!!ใหญ่โคตร“

อลูคาร์ดที่เมื่อมองตามแผ่นหลังของสหายรัก วินาทีนั้นเขาก็พบกับวิหคเพลิง ปักษาโบราณที่มีขนาดตัวเกือบครึ่งของถ้ำที่มันพำพักอยู่ กำลังก้มหัวของมันลงเบื้องหน้าราฟาเอลโร่ที่ไม่รอช้าจะสัมผัสมันอย่างอ่อนโยน

 “อืม กลิ่นนี้สินะที่ติดตัวเจ้ากลับบ้านทุกครั้ง”

อลูคาร์ดยกมือข้างนึงขึ้นปิดจมูกที่แสบ  เพราะกลิ่นของกำมะถันปะปนกับไอร้อนระอุที่โชยขึ้นจากพื้นดิน ระหว่างเดินลงมาตามทางลาด แต่ดูเหมือนหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัวตรงหน้าจะไม่ได้สนใจเขาเลย

 “ขอข้าสัมผัสด้วยได้ไหม”

อลูคาร์ดเดินมายืนเคียงข้างราฟาเอลโร่  พร้อมกับยื่นมือหมายจะสัมผัสกับศรีษะของนกเพลิงตรงหน้า  แต่วิหคโบราณตัวนี้  เย่อหยิ่งเกินที่จะยอมรับคนที่พึ่งพบปะในคราแรก  ดังนั้นมันจึงถ้อยลู่ไปด้านหลัง ยกหัวของมันขึ้นสะบัดและแผดเสียงกรีดร้องออกมา

 “ใจเย็นๆ ข้าไม่จับแล้วก็ได้”

อลูคาร์ดสบถอย่างใจเย็น  เมื่อเห็นสถานะการที่เปลี่ยนไป  ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ที่นั้นพักใหญ่เลยที่เดียว ก่อนที่จะตัดสิ้นใจกลับออกมา และเดินทางกลับ

เมื่อถึงบ้านที่พำนักอยู่ด้วยกัน  ก็เป็นเวลาย่ำสนธยาแล้ว  ทั้งคู่เดินเคียงข้างกันและกัน  เข้ามาให้ในห้องโถงพร้อมกล่าววาจากิริยาที่หยอกล้อกันตามประสาสหายที่สนิทกันมาก

“ข้าจะไม่ไปที่นั้นอีกแล้ว ไอ้นกบ้านั้น มันพยายามจะฆ่าข้า”

อลูคาร์ดกล่าวด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ  กับปฏิกิริยาของวิหคเพลิงที่มีต่อเขาซึ่งต่างจากราฟาเอลโร่

“ไม่หรอกถ้าไม่เช่นนั้น  เจ้าคงตายไปแล้ว  มันแค่ยังไม่คุ้น”

ราฟาเอลโร่กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่พยายามกลั้นเสียงหัวเราะ  และอีกหนึ่งรอยยิ้มจากผู้เฝ้ามองที่ผุดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้บนใบหน้าของคอพิอุสที่ทั่งรักและเอ็นดูศิษย์ทั่งสองของเขา คอพิอุสนั่งรั้งอยู่ที่ตำแหน่งเดิม  ที่นั่งประจำบนโต๊ะอาหาร  พร้อมกด้วยเกรนเดลที่จะยืนอยู่ด้านหลังเยื้องไปทางขวามือของคอพิอุสเสมอ  เพลานี้เป็นเวลาอาหารเย็น  เมื่อทั้งคู่มาถึง  โต๊ะอาหารก็ถูกเติมเต็มไปด้วยอาหารแล้ว

 “กลับมาแล้วรึเจ้าทั้งสองคน มาสิมากินข้าว”

คอพิอุสก็กำลังจะเริ่มรับอาหาร เรียกให้ทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะอาหาร  บรรยากาศที่มีนั้นช่างอบอุ่น และเบิกบาน  แม้ต่างคนจะต่างที่มา แต่หากมิมีเส้นแบ่งระหว่างเชื้อชาติแลยศฐา และต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

 “อลูคาร์ด องค์แอเธอเรดได้ส่งจดหมายแจ้งกำหนดการกลับอคาด้ามาแล้วนะ”

ราฟาเอลโร่และอลูคาร์ดที่หันหน้าจองมองกันและกัน หลังสิ้นเสียงคอพิอุส ทั้งที่รู้ว่าสักวันการจากลาจะมาเยือน แต่ต้องยอมรับว่ามิได้เผื่อใจกับการพลัดพราก  และด้วยหน้าที่  ความสนิทสนม น่าจะทำให้ทั่งคู่ลืมเลือน

 “ฮ่าๆ ข้าลืมเสียสนิทเลย ว่าจะต้องกลับ”

เสียงหัวเราะแห้งของอลูคาร์ดกลับทำให้บรรยากาศมันยิ่งกร่อย

 “ข้าเองก็ไม่คิดว่าเราจะผูกพันกันมากขนาดนี้ โดยเฉพาะเจ้าทั้งสอง  ยังไงก็ยังมีเวลากว่าสองสัปดาห์ ในการกล่าวคำอำลา”

คอพิอุสกล่าวขึ้นอย่างเห็นใจ  เขาพยายามปล่อยโยนศิษย์ทั้งคู่

 “ท่านอาจาราย์ ที่นี้เองก็เป็นเปรียบเสมือนดังบ้านของข้า มิตรภาพที่เกิดขึ้นยังที่แห่งนี้ช่างปลอบประโลมจิตใจข้ายิ่งนัก”

 “ที่นี้ยินดีต้อนรับเจ้าอลูคาร์ด  หากต้องการแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน  หรือต้องการความช่วยเหลือก็อย่าได้ลังเลที่จะกลับมา”

เมื่อเวลาของการรับประทานอาหารค่ำได้จบลง  การแช่ตัวในอ่างที่มีน้ำอุณหภูมิอุ่นพอดีมักจะเป็นการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจที่ดี  แต่วันนี้มันกลับไม่ได้ทำให้เรื่องกวนใจนั้นคลายลงเลย  ทั้งคู่มักจะนั่งแช่ในอ่างน้ำอุ่นด้วยกัน  โดยอยู่กันคนละฟากฝั่งของอ่าง

 “รู้ไหมเอล เจ้าเป็นคนที่ทำให้ข้าแทบไม่มีเวลาคิดถึงบ้านเลย”

การเริ่มต้นบทสทนาหลังจากความเงียบงันของอลูคาร์ด

 “แล้วนั้นดีหรือไม่ดี”

แต่ราฟาเอลโร่กลับกล่าวถามพลางขมวดจังจัง

 “5555 เจ้านี่ตบมุกเป็นบ้างไหมเนี่ย เฮ้อ(ถอนหายใจ)แต่รู้อะไรไหม  เมื่อถึงบ้านข้าก็คงอดคิดถึงเจ้าไม่ได้”

แม้อลูคาร์ดจะมองว่าราฟาเอลโร่  ซื่อตรง  จริงจัง  และไร้ซึ่งความขบขัน แต่เขาก็ยอมรับอย่างจริงใจว่าราฟาเอลโร่  เป็นเพื่อนที่ดีและอาจจะดีที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมาเลยก็ได้

 “ข้าก็เช่นกัน”

อลูคาร์ดนับว่าเป็นสหายคนแรกที่ราฟาเอลโร่มี แม้จะยังไม่อยากที่จะกล่าวอำลา  เนื่องด้วยใจเขาช่างหวั่นเกรงนัก  ว่าจะมิมีวันได้พบเจอกันอีกครา

 และแล้วห้วงเวลาก็ทำให้เราทุกคนต้องย่ำต่อไปข้างหน้าแม้จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม  กำหนดการกลับไปที่อคาร์ด้าของอลูคาร์ดที่อีกสองสัปดาห์นับจากวันที่คอพิอุสแจ้งข่าวก็มาถึง ในวันนั้นรถม้าประจำตำแหน่ง  ตามศักดินาของเจ้าชายแห่งอคาด้าก็จอดเทียย ณ ที่เดิม  พร้อมการกล่าวอำลา

 “ขอบพระคุณขอรับท่านอาจารย์ ท่านให้ข้ามากกว่าที่ข้าคิดจะได้รับเสียอีก  ท่านเกรนเดลเองก็ดีกับข้าเสมอ”

เป็นคำกล่าวที่แสนภาคภูมิที่ศิษย์คนหนึ่งจะมีได้ เกรนเดลที่พยักหน้ารับ  คอพิอุสเองก็แสนจะภูมิใจกับอลูคาร์ด  ที่แม้นจะเป็นช่วงสั้นๆ  แต่เด็กคนนี้ก๋ถือเป็นศิษย์ที่เขารัก  ก่อนการจากลาคอพิอุสเดินเข้าไปหาอลูคาร์ดตรงหน้า

 “ข้ามี 2 สิ่งที่อยากจะมอบให้กับเจ้า นี้คือสิ่งแรก"

คอพิอุสยื่นมือที่เคยไขว้หลังออกมาเบื้องหน้าอลูคาร์ด  มันคือตราประทับเวทย์ที่สามารถผ่านเข้าออกบาเรียแห่งแอสโทรโทรเฟียได้ตามใจนึก

"อย่างที่บอกที่นี้ยินดีต้อนรับเจ้าเสมอ  ส่วนชิ้นที่สอง”

เกรนเดลย่างเท้ามาด้านข้างคอพิอุสพร้อมกับยื่นดาบเล่มหนึ่งให้กับคอพิอุส  ที่หยิบแล้วยื่นให้ลูกศิษย์ตรงหน้า

“นี่เป็นดาบที่ตีโดยช่างฝีมือที่ดีสุดของเอลฟ์  มันเป็นดาบที่เบา  แต่คมนั้นตัดได้แม้กระทั่งเหล็กกล้า ดาบเล่มนี้เข้าได้ดีกับพลังธาตุดินและไฟในตัวเจ้า  มันมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เหมาะกับผู้ใช้ ”

 ดาบที่รับมานั้นมีลวดลายวิจิตรบรรจงตามเอกลักษณ์ของแหล่งที่สร้าง  เขาชักดาบออกจากปอกดาบ  ในพริบตานั้นดาบในมือก็แปลเปลี่ยนตัวเองให้รับกับรูปลักษณ์ และปรับขนาดให้เข้ากับเจ้าของที่ถือมัน

 “ขอบพระคุณขอรับ  ข้าจะใช้มันเป็นอย่างดี”

นัยน์ตาคู่นั้นทอเป็นเปร่งประกาย  เขามิเคยคาดฝันว่าจะได้รับสิ่งที่ช่างล้ำค่าเช่นนี้  ไม่เพียงต่อตัวของเขา  แต่มันจะตอกย้ำว่า  เมื่อครั้งหนึ่งนั้นเขาเคยมีความทรงจำที่ทรงคุณค่าเพียงใด  แต่ดวงตาที่ทอเป็นประกายเมื่อครู่กลับหายไป เมื่ออลูคาร์ดก็จำต้องบอกลากับสหายที่มิเคยห่างกันในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อลูคาร์ดสวมกอดราฟาเอลโร่  พร้อมกล่าวถ้อยคำกำชับ

 “เอลถ้าไปที่อคาด้า  เจ้าเรียกหาข้าได้เสมอนะ”

ซึ่งก็นับว่าเป็นคำพูดที่ช่างห่วงใย  ราฟาเอลโร่เองก็หวังว่าสักวันจะได้ไปเยี่ยมเยื้อมเขา

 “ขอบคุณนะ อลูคาร์ด ข้าจะไม่ลืมมิตรภาพระหว่างเราเลย”

 “ข้าก็เช่นกัน แล้วพบกันนะเอล”

แม้นจะหดหู่อยู่บ้างแต่การจากลาก็เป็นความจริงที่ต้องเกิดขึ้นและทำได้เพียงคาดหวังว่า  กาลเวลาจะนำเส้นทางของพวกเขาทั้งคู่มาบรรจบกันอีกครั้ง