อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ
เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คอโดลาสกษัตริย์ของเหล่าวีรชนเอลฟ์ พระองค์สัมผัสได้ถึงหนักน้ำที่ถ่วงอยู่นั้นกำลังเพิ่มขึ้น พระพักต์ที่แสดงออกถึงความกลัดกลุ้มอย่างเห็นได้ชัด
“ท่ามกลางแสงทั้งหลายที่มืดดับลง ยังคงมีแสงแห่งความหวังที่ยังคงเรือนรองอยู่ฝ่าบาท แม้จะน้อยนิดแต่ยังคงมี”
“ข้าก็หวังเช่นนั้น คอพิอุส"
หลังจากบทสนทนาของทั้งสองจบลง คอพิอุสก็หันหน้าของเขาไปด้านข้าง ฝั่งด้านที่เกรนเดลยืนอยู่ และนั้นถือเป็นการเรียกหา เกรนเดลที่สังเกตุเห็นได้ขานรับในทันที เขาเดินขึ้นมาเพื่อรับฟังสิ่งคอพิอุสจะกล่าวกับเขา
“ขอรับนายท่าน"
“ตามหาให้เจอ และทำให้แน่ใจว่าปลอดภัย"
“ขอรับ"
สิ้นเสียงเกรนเดลก็หายไปจากตำแหร่งที่เขายืนอยู่ทันที
เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว โอโดลาสและราฟาเอลโร่ก็ยืนประจำจุด ยังปากทางเข้าถ้ำเพื่อรอให้วงแหวนเวทย์ที่จะผนึกทางเข้าเสร็จสมบรูณ์ โอโดลาสเหลือบมองราฟาเอลโร่ก่อนที่จะเอ่ยกับเขา
“เจ้ากล้ามากเลยนะ รู้ใช่ไหมว่ามันเสี่ยง"
ราฟาเอลโร่กลับตอบโอโดลาสพร้อมกับรอยยิ้ม
“เมื่อมีท่านอยู่เคียงข้าง ข้าก็เบาใจขึ้นขอรับ"
“ข้าจะถือว่านั้นเป็นคำชมแล้วกัน"
แสงเรือนเป็นสายเส้นปรากฏขึ้นบนพื้นดินเบื้องหน้าทั้งคู่ นั้นแปลว่าวงแหวนเวทย์สำหรับมนต์ผนึกปากทางเข้าถ้ำเสร็จสมบูรณ์แล้ว
“เจ้าทั้งสองพร้อมแล้วใช่หรือไม่"
โมดูลาสเอ่ยชักถาม ก่อนที่เขากับออดูลัสจะเริ่มต้นร่ายเวทย์ผนึก โอโดลาสและราฟาเอลโร่ที่หันมองหน้ากันพร้อมกับพยักหน้า เป็นการบอกอีกฝ่าย
“ใช่ พวกข้าพร้อมแล้ว เริ่มได้เลย"
เมื่อการร่ายเวทย์เริ่มขึ้น ลายเส้นของวงแหวนเวทย์ที่เรืองรองอยู่แล้วก็ส่องสว่างยิ่งขึ้น บาเรียผนึกเริ่มก่อตัวจากทุกทิศทาง
พร้อมกับราฟาสเอลโร่และโอโดลาสที่พุ่งตัวไปด้านในดุจสายฟ้าฟาด เพื่อมิให้โดนพบเจอและเลี่ยงการปะทะที่จะเกิดขึ้น จนกระทั่งถึงอีกฟากฝั่ง ผนังโดยรอบของถ้ำจึงเป็นฐานรองที่มั่งคงให้ทั้งสองส่งตัวไปเบื้องหน้า ไม่นานทั้งสองก็สัมผัสได้กับรองรอยของเวทย์มนต์ที่เกิดขึ้นจากประตูมิติที่เคยเปิดเป็นทางผ่านของศัตรูมาสู่ยูนิเวิลด์ มันทำให้รู้โดยทันที่ว่ามาถึงจุดหมายแล้ว
เมื่อหยุดการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ก็ทำให้ศัตรูรู้ถึงการมีตัวตนของพวกเขาทั้งสอง ปีศาจจำนวนนับสิบหันความสนใจไปที่ทั่งคู่ และพุ่งตัวโจมตีพวกเขาในทัน โอโดลาสที่กำลังจะเข้าปะทะกันศัตรู
แต่ต้องถึงกับสะงักฝีเท้าของเขาทันทีที่แสงจ้าให้ความรู้สึกอุ่นๆ สว่างขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว จนไม่สามารถเห็นสิ่งใดในบริเวณที่เขายืนอยู่ ศัตรูที่ต้องแสงนั้นสลายหายไปในพริบตา ส่วนพวกที่รอดก็ความหวาดกลัวและตื่นตระหนกจนถอยร่นไปอีกทาง
“ราฟาเอลนี้เจ้า ใช้ธาตุแสงได้งั้นรึ เจ้านี้มักจะมีเรื่องให้ตกตะลึงอยู่เสมอเลยนะ"
การไล่ต้อนศัตรูและจำกัดพื้นที่ให้เหลือน้อยที่สุดเป็นเป้าหมายของทั้งคู่ แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาจำต้องแน่ใจว่าพิษจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย
เมื่อราฟาเอลโร่สามารถไล่ต้อนศัตรูได้ เพื่อให้เขาไม่เสียสมาธิโอโดลาสจึงเสนอ ว่าจะเป็นผู้ที่สร้างบาเรียเพื่อป้องกันพิษ ซึ่งจะเคลื่อนนำพวกเขาทั้งสองไปด้านหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นเกราะไม่ให้ศัตรูผ่านมาทางด้านพวกเขาโดยง่าย
ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีทั้งคู่ยืนมองศัตรูที่ถูกไล่ต้อนไปยังปากถ้ำ และถูกจำกัดพื้นที่ งัวเงียล้มตัวลง และหลับอยู่บนพื้นอย่างช้า ๆ
“ดีละเท่านี้ก็เพียงแค่ให้ศัตรูสิ้นใจ และปล่อยให้พิษสลาย"
โอโดลาสละสายตาและเลือกที่จะเดินไปนั่งพักพิงผนังถ้ำเพื่อรอ ขณะที่ราฟาเอลโร่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ไม่แน่ใจว่านั่นนับเป็นโชคดี หรือรางร้ายกันแน่
“ท่านโอโดลาส มันมีบ้างอย่างแปลกไป มันไม่น่าจะเป็นเยียงนี้"
โอโดลาสที่กำลังนั่งทอดกาย ถึงกับกระโดดยืนขึ้นทันที และกลับมายังตำแหน่งเดิม เคียงข้างราฟาเอลโร่ ทั้งคู่ยืนจ้องมองร่างของศัตรุเบื้องหน้าที่กำลังบิดเบี้ยวไปมาจนกระทั่งระเบิดออก
โลหิตและเศษชิ้นส่วนของร่างกายกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งสองสบตากันด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่จะตัดสิ้นใจพุ่งตัวกลับไปร่วมตัวกับสมาชิกในกลุ่มอย่างร้อนรน
เมื่อกลับมายังปากทางเข้าถ้ำ หัวใจของเขาทั้งคู่ก็ถึงกับหล่นวูบ บริเวณโดยรอบบ่งบอกได้ว่าเกิดการต่อสู้ และก็รู้ได้ในทันทีว่าเพลี่ยงพล้ำ เมื่อทั้งคู่พบโมดูลาสและออดูลาสสิ้นใจจากไปแล้ว ส่วนธีโอลันก็บาดเจ็บสาหัส โดโลวีนไม่ได้รับความบาดเจ็บทางร่างกาย แต่สถาพจิตใจกลับย้ำแย่อย่างหนัก
“โดโลวีนมันเกิดอะไรขึ้น"
โอโดลาสเอ่ยถามโดโลวีนที่กล่าวตอบราวเรื่องราวด้วยน้ำตานองหน้า และน้ำเสียงสะอึกสะอื้น
“ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อขุนนางตนนึ่งปรากฏตัวขึ้น ออดูลัสและโมดูลาสพุ่งเข้าโจมตีนาง แต่การสะบัดมือเพียงครั้งเดียวก็ทำให้พวกเขาก็สิ้นใจในทันที เมื่อเห็นทั้งคู่สิ้นใจข้าสติหลุด และพยายามที่จะโจมตีนาง ธีโอลันเอาตัวเข้ามาขว้างและช่วยชีวิตข้าเอาไว้ จึงได้รับบาดเจ็บ”
โอโดลาสที่ฟังเรื่องราวทุกอย่าง แสดงถึงคงามสับสนบ่นเปบนสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็พยายามรวบรวมสติ
“แล้วที่ร่างของศัตรูเป็นเช่นนั้น ด้วยเหตุอันใดท่านโดโลวีน”
ราฟาเอลโร่เอ่ยถามโดโลวีน ในสิ่งที่ไม่น่าเกิด
“มันเป็นเพราะนาง ปีศาจระดับขุนนางที่โพล่มา เป็นคนทำ”
การสูญเสียได้สร้างความสะเทือนใจต่อทั้งสามอย่างยิ่ง แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะมิปราณีพวกเชาเลยแม่แต่น้อย ไม่แม้แต่จะหยิบยืนเวลาในการอำลาสหายร่วมรบ
พื้นดินก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ไอดำทมิฬยิ่งกว่าโลหิตของศัตรู แผ่ออกมาจากเลือดและชิ้นส่วนซากศพของศัตรูที่กระจัดกระจาย ทำให้พื้นปฐพีเกิดการขยับตัวจนเกิดรอยแยกบนพื้นดิน ลำแสงสีดำพุ่งตัวจากรอยแยกที่พื้นขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบน บาเรียอีกชั้นถูกสร้างขึ้นจากมนต์ซากศพโอบล้อมรอบแอสโทรเฟีย
ลำแสงที่โพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทำให้เกิดเมฆสีเทาดำปกคลุมไปทั่ว ความมืดมิดคืบคลานจนแสงของดวงสุริยะมิอาจส่องผ่าน ราวกับความมืดมิดยามดึกสงัด เมื่อการสั่นสะเทือนหยุดลง ปีศาจจำนวนมากจนมิอาจนับได้ก็คืบคลานขึ้นมาจากรอยแยกบนพื้น
“ให้ตายเถอะ นี้มันยังแย่ได้อีกใช่ไหม"
โอโดลาสสถบหลังจากวางโดโลวีนและธีโอลันใว้ใกล้กันหลังโขนหิน เมื่อปฐพีเกิดรอยแยกโอโดลาสจำต้องคว้าตัวโดโลวีนที่ไม่ยอมขยับ และราฟาเอลโร่ที่แบกธีโอลันหลบพื้นที่แยก ก่อนที่จะหบ่นล่วงลงไป
“โดโลวีนเจ้าต้องดึงสติกลับมา ข้ารู้ว่ายามนี้เจ้ารู้สึกเช่นไร เพราะพวกเราก็มิต่างจากเจ้า แต่ธีโอลันที่ช่วยชีวิตเจ้าจะตาย หากเจ้าไม่ดึงสติกลับมาและช่วยพวกเรา ข้าและราฟาเอลไม่ไหวหากเจ้าไม่ช่วย"
โอโดลาสพยายามดึงสติของโดโลวีนกลับมาในขณะที่ราฟาเอลโร่กำลังต่อสู้กับศัตรูที่เข้ามาโจมตีพวกเขา และโชคยังดีที่ดูเหมือนว่สคำภาวนาของโอโดลาสจะเป็นผล
เสียงที่เรือนรางจองโอโดลาสกลับมาเเจ่มชัดขึ้นโดโลวีนเริ่มที่จะดึงสติของตัวเองกลับมาได้ ดวงตาที่เหม่อลอย กลับมาทอประกายอีกครั้ง เธอกระชับคำแต่ธนูเข้ากับมือข้างตัว และพยักให้กับโอโดลาส ก่อนที่เขาจะออกไปต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ราฟาเอลโร่