อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม - องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า

รายละเอียด

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

ผู้แต่ง

Diamondink

เรื่องย่อ


สารบัญ

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 1 บทนำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 2 การจากลา และการพบพาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 3 การจากลา และการพบพาน 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 4 การปรับตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 5 การปรับตัว 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 6 การเรียนรู้,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 7 การบุกรุก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 9 ช่วยเหลือ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 10 ขวาง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 11 เจ้าชายแห่งอคาด้า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 12 มิตรภาพ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 14 แผนลวง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 16 พายุโหมกระหน่ำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 17 แสงแห่งนภา,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 19 พันธะโลหิต,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 20 สองสาวอาร์ชิบัส,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 21 1 วันก่อนการประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 22 การทดสอบขั้นพื้นฐาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 23 การประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 24 มีอา เพดราก้อน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 25 มนูเอล บรอสมันด์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน

เนื้อหา

องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน

การบ่งชี้ถึงข้อเท็จจริงของพิอุสทำให้โอโดลาสถึงกับนิ่งเงียบโดยมิสามารถโต้แย้งสิ่งใดได้เลย

ราฟาเอลโร่ตื่นขึ้นพร้อมกับสัมผัสบนเตียงที่คุ้นเคย แม้ดวงตาจะฝ้าเลือนไปชั่วขณะ  แต่ก็กลับมาแจ่มชัดในเวลาอันสั้น  กล้ามเนื้อทั่วร่างกายนั้นแข็งทื่อเพราะการอยู่นิ่งเป็นเวลานาน

ราฟาเอลโร่ลุกขึ้นนั่งบนเตียง  พร้อมกับการสะดุ้งเฮือกของโนมที่กำลังเพ่งสมาธิไปกับการจัดดอกไม้อยู่ข้างๆเตียงเขา

"ท่านราฟาเอลโร่ตื่นแล้วหรือขอรับ  รับน้ำไหมขอรับ"

 "อิ่ม  ข้านอนไปนานแค่ไหน แล้วศึกเป็นอย่างไรบ้าง"

หลังจากตอบรับเรื่องน้ำ  คำถามก็ถูกปล่อยออกมาโดยแทบมิได้ยั้งคิด

  "นี่น้ำขอรับ  ท่านสลบไปครึ่งปักษ์ขอรับ  ศัตรูเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ขอรับ  ทางเราใช้เวลา 2-3 วันในการกำจัดศัตรู  แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะจบลงด้วยดีขอรับ ให้เข้าไปแจ้งท่านเกรนเดลไหมขอรับ"

ราฟาเอลโร่สายศีรษะเพื่อเป็นการตอบคำถาม

"แต่งตัวให้ข้าที  เดี๋ยวข้าไปเอง"

หนึ่งชีวิตถือกำเนิดจากความว่างเปล่า  และร่วมล้นราวกับใบไม้ในสารทฤดู  และกลับสู่ความว่างเปล่าเช่นเคย  หากแต่ไม่ใช่ในเผ่าพันธุ์ของเอลฟ์  เผ่าพันธุ์ที่เคยเป็นที่รักของเหล่าทวยเทพ  ดวงจิตนิรันดร์จะกลับมาเกิดใหม่ในเผ่าพันธุ์เดิม  ถือกำเนิดกายเนื้อที่มีอายุขัยยืนยาว 

ดังนั้นในพิธีมอบเกียรติยศของผู้วายชนม์  จึงเป็นการภาวนาต่อต้นไม้แห่งชีวิตและอัญมณีเลอค่าซิลเวอร์ซัน  เพื่อเป็นการมอบหนทางในการกลับมาจุติใหม่อีกครั้ง  ราฟเอลโร่ก็เป็นหนึ่งในผู้สวดภาวนา  เขาเดินทางมาพร้อมกับเกรนเดล  เพื่อสวดภาวนาให้กับ ออดูลัส โมดูลาส และเหล่าผู้อุทิศตนในศึกครั้งนี้

และเมื่อตะวันเคลื่อนคล้อยแทนที่ด้วยจันทราที่ลอยเด่นอยู่บนท้องนภา ในยามที่ความเงียบเข้าปกคลุม  หากแต่ค่ำคืนนี้นั้นต่างออกไป  เสียงดนตรีนั้นได้ถูกขับขานขึ้นทั่วทุกมุมเมืองของแอสโทรเฟีย  ดวงไฟหลากสีถูกประดับประดาอยู่ทั่วทุกที่  รวมทั้งการละเล่นต่างๆ  นักขับลำนำบอกเล่าเรื่องราว  และรอยยิ้มของผู้คน  การเฉลิมฉลองถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นการสดุดีและฉลองให้แก่ชัยชนะเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ที่ยังอยู่

  "เจ้าจะไม่ไปกับข้าจริงๆ  หรือราฟาเอล"

  "ไม่ดีกว่าขอรับ"

หลังจากส่งคอพิอุสและเกรนเดล  เพื่อเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงแล้ว   ราฟาเอลโร่เดินมานั่งลงที่โต๊ะใต้ต้นแอปเปิ้ลหน้าบ้านอยู่นาน  ดวงตาจ้องมองไปยังท้องฟ้าเบื้องบน  สัมผัสกับสายลมอ่อนๆที่ลูบไล้ผ่านใบหน้าของเขาไป

  "วันนี้ดวงจันทร์สวยจริง"

เพื่อยลแสงของจันทราที่ส่อสว่างบนท้องนภา  แต่แล้วก็เกิดลำแสงสีขาวทองพุ่งผ่านฟากฟ้าทะลุผ่านบาเรียของแอสโทรเฟียเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย

  "นั่นอะไรน่ะ"

การมาเยือนของอีกหนึ่งอาคันตุกะ  ที่ทุกคนต่างให้ความเคารพและชื่นชมในตัวเขา  คอพิอุสยืนหน้าโต๊ะหินอ่อนตัวยาวที่ตั้งไว้เบื้องหน้าบัลลังก์  และทำความเคารพกษัตริย์ที่ทรงประทับอยู่ที่นั้นพร้อมครอบครัว

  "นั่งตรงนี้เสียสิ"

คอโดลาสกล่าวพร้อมกับวางมือลงบนเก้าอี้ขวาข้างกายของพระองค์ที่เตรียมไว้เพื้อคอพิอุส ส่วนซ้ายมือของพระองค์คือราชินีผู้งดงาม รัศมีของราชินีผู้ทรงวัยวุฒิและคุณวุฒิเปล่งประกายในตัวของพระนางอย่างเห็นด้วยชัด พร้อมกับบุตรชายและบุตรสาวที่นั่งถัดไปซึ่งเปี่ยมไปด้วยสิโฉมที่งดงาม

และเหล่าขุนนางทั้งหลายที่ต่างแวะเวียนมาทักทายอย่างไม่ขาดสาย  การแสดงต่างๆและอาหารเลิศรสทำให้ทุกคนต่างพากันเพลิดเพลินไปกับค่ำคืนที่ยังเยาว์นัก 

ก่อนที่แสงสว่างสีทองทอประกายเจิดจ้าจนต้องเบือนหน้าหนี  ร่วงลงสู่พื้นห้องโถง  ความเงียบสงัดเข้าครอบงำทุกชีวิตในห้องโถงทันที  ปีกสีขาวของผู้มาเยือนที่สยายออกและแสงสว่างจ้าที่ค่อยๆเลือนหายไป

  "ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะนี้ด้วยพะยะคะฝ่าบาท"

เป็นเสียงที่ช่างอบอุ่นฟังสบาย  และใบหน้าที่อ่อนโยน ทำให้คนปกติสามารถคล้อยตามได้โดยง่าย

  "พูดสื่อสารแห่งทวยเทพได้มาเยือนและประทานพรถึงเพียงนี้ก็นับเป็นเกียรติยิ่งแล้ว"

คอโดลาสกล่าวด้วยสีหน้านิ่งเฉยไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

  "เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในชัยชนะของท่าน  เราได้นำปราการแห่งนภามามอบให้ตามบัญชาของโอดินหวังว่ามันจะช่วยท่านและประชาชนได้อย่างที่ผ่านมา"

  "เป็นเกียรติในความกรุณายิ่งนัก

หลังการตอบรับของคอโดลาสผู้สื่อสารก็แบมือออกปรากฏเป็นกล่องสีเขียวมรกตใจกลางมือนั้น เขาเปิดมันออกพร้อมกับออร่าที่แผ่ขยายออกจากกล่องในมือ 3 ครั้ง  มันขยายตัวออกสมทบเข้ากับบาเรียของแอสโทรเฟีย  ก่อนที่เขาจะปิดมันลง

  "องค์ราชันย์แห่งทวยเทพคาดหวังความร่วมมือในทุกด้านจากท่านนะขอรับ  และหากมีสิ่งใดที่ท่านอยากจะแจ้งให้องค์ราชันทรงทราบก็เชิญท่านกล่าวได้เลยขอรับ"

คอโดลาสแย้มรอยยิ้มอย่างเป็นมารยาทก่อนจะตอบบทสนทนา

  "หากองค์ราชันย์ให้ความคาดหวังข้าถึงเพียงนี้  ข้าก็จะมิทำให้ต้องเสียพระทัย ขอฝากท่านแจ้งว่าข้าขอขอบพระทัยในพระกรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้ด้วย"

เมื่อได้ยินดังนั้นผู้สื่อสารก้มศีรษะให้คอโดลาสเล็กน้อยเพื่อเป็นการรับรู้  ก่อนที่ปีกสีขาวด้านหลังจะเปล่งแสงสว่างบาดตาออกมาอีกครา  การกระพือปีกเป็นครั้งเดียวสามารถส่งตัวเขาพุ่งขึ้นและหายไปอย่างรวดเร็ว  เกิดเป็นลำแสงสีขาวพาดผ่านท้องฟ้าเช่นเคย  เพียงแต่ครานี้กลับพุ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม แม้จะเกิดลมกระโชกแรง  แต่ก็มิได้สร้างความเสียหายเลยแม้แต่นิดเช่นเดียวกันกับเพดานห้องโถง

  "คอพิอุส ข้ากับเจ้ามีเรื่องที่ต้องคุยกันเวลานี้"

บทสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างคอโดลาสกับผู้สื่อสารแห่งทวยเทพเมื่อครู่  เป็นคล้ายกับบทสนทนาทั่วไปก็จริง  แต่สำหรับคนที่รู้เส้นลึกหนาบางแล้ว  มันกับแฝงไปด้วยบางสิ่งบางอย่างที่ยากเกินจะหยั่งถึง คอพิอุสและคอโดลาสเดินหลบเหล่าฝูงชนเข้ามายังห้องว่างข้างเคียง

  "คอพิอุสแลดูว่าเหล่าทวยเทพจะเริ่มได้กลิ่นแล้วนะ   ต้องให้เจ้าเริ่มจัดการแล้วล่ะ"

  "พะยะค่ะฝ่าบาท"

  "แต่ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใด ข้าจะยังให้การสนับสนุนมากที่จะต้องการ  เมื่อเพลามาถึง"

  "ข้าซึ้งในน้ำพระทัยยิ่งนักพะยะคะ"

เมื่อกล่าวถึงอีกหนึ่งนครที่เลื่องลือไปทุกหนแห่ง  ก็คงจะหนีไม่พ้นมหานครหลวง อคาด้า นครแห่งมวลมนุษย์ธรรมดาที่มีอายุยืนยาวแข็งแกร่ง  ร่วมถึงวิวัฒนาการที่ไม่แพ้มหานครใด 

การปกครองแบบระบอบขุนนางนำโดยดยุค 3 ตระกูลใหญ่นั่นคือ ฟรอสติก ตระกูลแห่งเหมันต์ อาร์ชิบัสตระกูลแห่งปฐพี เฟรมสตริงตระกูลแห่งอัคคี 3 ตระกูลใหญ่ที่กุมอำนาจเหลือล้น  อีกทั้งยังความแข็งแกร่งนั้นยังนำพาความสงบสุขมาสู่อคาด้า

แต่หนึ่งในสามตระกูลตอนนี้กำลังอับจนซึ่งหนทางไม่ใช่เพราะสถานะทางด้านเศรษฐกิจหรือความมั่นคงทางการเมือง  หากแต่ไร้ผู้สืบสันติวงศ์ เรื่องราวอันเลวร้ายเมื่อนานมาแล้วในศึกบุปผาทองคำทำให้เขาสูญเสียภรรยาสุดที่รัก  และนั้นเป็นสาเหตุของอาการเป็นหมันถาวร  จึงทำให้เขาไม่สามารถมีทายาทได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ค่ำคืนหนึ่งในยามวิกาล  เมื่อในยุคอัลเบิร์ต ฟรอสทริก  ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับงานเอกสารบนโต๊ะของตน เขาก็สัมผัสได้ถึงใครอีกคนนึงนอกจากตัวเองในห้องทำงาน  อัลเบิร์ตหยุดทุกอย่างตรงหน้า

"เจ้าต้องการอะไร"

เขาเอ่ยถามร่างนึงที่หากต้องการทำร้าย  คงไม่ยืนอย่างเงียบงันเป็นเวลานานและปล่อยให้เขารู้ตัว ร่างนั้นย่างกรายออกมาจากเงามืด  ทั้งร่างถูกปกปิดไปด้วยผ้าคลุมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ

"ขออภัยที่รบกวนท่านดยุคเข้านำจดหมายและข้อความมาส่งให้ครับ"

ก่อนที่จดหมายจะถูกวางไว้บนโต๊ะทำงานของดยุคอัลเบิร์ต  เขาไม่รีรอที่จะหยิบจดหมายนั้นขึ้นคลายผนึกออก  หากแต่ใช้เวทย์ตรวจสอบการลงอาคมเวทย์เสียก่อน  จะคลี่อ่านข้อความในจดหมาย

"ส่วนข้อความคือ  ข้าผู้ชายที่ชุดท่านขึ้นจากเงามืด เป็นถ้อยคำของท่านเอง"

อัลเบิร์ตไงหน้าขึ้นจากกระดาษในมือทันที  เมื่อได้ยินวลีนั้น  แต่เขากลับพบเพียงความว่างเปล่าเบื้องหน้า