อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Lost Wing สายเลือดต้องห้ามอดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
"วันนี้กลับบ้านมาพร้อมเพื่อนใหม่รึ"
ราฟาเอลโร่มองไปยังฟินิตี้ชั่วครู่ แล้วจึงฉีกยิ้มกว้าง และหันกลับทิศทางที่คอพิอุสยืนอยู่ ก่อนจะกล่าวตอบเป็นคำถามว่า
"ท่านอาจารย์ ลองพินิจให้ดีอีกทีสิขอรับ"
คอพิอุสหันกลับมาครานี้ตั้งใจจับจ้องไปยังวิหคที่บินวนอยู่ แม้จะต่างออกไปแต่สนามพลังแม่เหล็กที่แผ่ขยายออกมาเป็นออร่าช่างคุ้นชินเสียยิ่งนัก
"คืออย่าบอกข้านะว่า นั่นคือวิหคอัคคี"
"ใช่ขอรับ"
คอพิอุสเดินเข้ามาวางแขนลงบนบ่าของราฟาเอลโร่ พร้อมกับกล่าวกับเขาว่า
"หิวข้าวหรือยัง ไปกินข้าวเถิดแล้วก็เล่าให้ข้าฟังด้วย"
"ขอรับ"
ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเคียงข้างซึ่งกันและกันเข้าไปภายในตัวบ้าน พร้อมกับสมาชิกใหม่ที่บินตามเข้าไปมิห่างกาย
การเดินทางไปเยือนอคาด้าในครั้งนี้คอพิอุสเลือกที่จะเยือนนครของมหาวีรชนด้วยการเดินทางภาคพื้น งานเฉลิมฉลองประจำปีครั้งใหญ่ของอคาด้าเป็นการรำลึกถึงวันลงหลักปักฐานและดำรงอยู่จนกระทั่งบัดนี้
และในงานครั้งนี้อย่างที่ทราบกันดีจะมีการเฟ้นหานักเรียนหัวกะทิที่มีฝีมือดีที่สุด เพื่อเข้าเป็นนักเรียนทุนของซัสทรารัสอคาเดมี่ โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่าผู้ที่เข้าสมัครจะต้องสามารถใช้ธาตุได้ตั้งแต่ 3 ธาตุขึ้นไปและไม่จำกัดเผ่าพงษ์พันธ์ ดังนั้นเมื่ออคาด้าที่ซึ่งเป็นเมืองเปิดจึงมีผู้สมัครที่หลากหลาย
คอพิอุสและราฟสเอลโร่ได้เดินทางถึงตัวเมืองก่อนกำหนดการล่วงหน้า 3 วัน ทันทีที่เข้ามาในตัวเมือง ราฟาเอลโร่ก็สัมผัสได้ถึงความครึกครื้นของงานเฉลิมฉลองและการละเล่นมากมายแปลกตา รถม้าของทั้งคู่เคลื่อนตัวผ่านเส้นทางอันแออัดได้อย่างเชื่องช้า เพราะสองฝากฝั่งที่เต็มไปด้วยผู้คน
จนกระทั่งเมื่อรถม้าหยุดตัวลงเบื้องหน้าของคฤหาสนขนาดใหญ่ที่ประดับประดาให้รู้ว่ากำลังเฉลิมฉลองพอให้ตัวคฤหาสน์ดูมีสีสัน แต่ก็ไม่ได้แลดูวุ่นวาย แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือขบวนต้อนรับที่ถูกเรียงตัว 2 ฝั่งจากประตูคฤหาสน์จนกระทั่งมาถึงรถม้า ที่ทำให้ราฟาเอลโร่ถึงกับทำตัวไม่ถูก และนิ่งอึ้งกว่านั้นคือเสียงประกาศนามและศักดิ์ของผู้มาถึง
"ผู้มาเยือน เจ้าชายคอพิอุส ดิ กลาเดีย แห่งแอสโทรเฟีย โอรสองค์ที่สองของเอลดาร์ผู้ล่วงลับ และพระนัดดา ราฟาเอลโร่ ไบร์ท "
ราฟาเอลโร่ที่ค่อยๆ หันศรีษะไปมองคอพิอุสเมื่อได้ยินประโยคนั้น
"จ..เจ้าชาย"
คอพิอุสที่ได้ยินเช่นนั้นหันมองใบหน้าเขาซึ่งตอนนี้เป็นเครื่องหมายคำถามก็ตอบอย่างเรียบเฉยว่า
"มันไม่ได้สลักสำคัญ เพราะมันมิได้เปลี่ยนตัวตนข้า"
ภาพความทรงจำตีกลับเข้ามาในหัวของราฟาเอลโร่อย่างรวดเร็ว ตอนนี้สามารถตอบได้แล้วว่าทำไมทุกคนถึงให้ความเคารพเขา เริ่มตั้งแต่หมอที่เคยตรวจดูอาการของวิหคเพลิง โนมและเอลฟ์เกือบร้อยที่ทำงานในบ้าน แม้กระทั่งแอเธอเรดกษัตริย์ของอคาด้าที่ให้เกียรติคอพิอุส
"ข้ายินดีเหลือเกินที่ท่านชายให้เกียรติพวกเรา มาพักที่คฤหาสน์อาร์ชิบัส พร้อมกับนัดดา"
ราฟาเอลโร่มันใจกับตัวเองว่าเมื่อละสายตาจากคอพิอุส ราฟาเอลโร่กลับเห็นคู่สนทนาของคอพิอุสมองมาที่เขา หรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อเพ่งพินิจในตัวเขา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มกว้าง
"ท่านดยุคให้เกียรติข้าเกินไปแล้ว พูดคุยกันธรรมดาเถอะข้ารู้สึกเกร็ง"
ก่อนที่คอพิอุสจะหันมาที่ราฟาเอลโร่และแนะนำคู่สนทนาของเขา
"อ้อราฟาเอลนี้คือ โอเคนลัน อาร์ชิบัส ผู้นำตระกูลดยุคที่เก่าแก่ถือครองธาตุดิน เป็นธาตุประจำตระกูล"
ราฟาเอลโร่ค้อมตัวครึ่งบนลงเพื่อทำความเคารพ
"คำนับขอรับ"
ก่อนที่จะทันสังเกตว่าท่านดยุคเลื่อนตัวมาอยู่เบื้องหน้าเขาพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งแตะมาที่บ่าด้านหนึ่งของเขา และราฟาเอลโร่ก็สัมผัสได้ถึงอนูพลังเวทย์ที่ก่อตัวขึ้นในมือข้างที่เอื้มสัมผัสบ่าของเขา ก่อนที่ฟินิตี้จะบินโฉบลงมาเลือกบ่าข้างที่กำลังถูกแตะเพื่อเกาะ
"ขออภัยที่คู่สัญญาของข้าเสียมารยาทขอรับ"
ราฟาเอลโร่รู้ดีว่านั้นคือปฏิกิริยาการปกป้องจากคู่พันธะสัญญาของเข้า
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ราฟาเอลโร่สินะ ปีนี้อายุอานามเท่าไหร่แล้วละ"
"15 ขอรับ"
"อื่ม อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับบุตรสาวสองคนของข้าเลย นั้นไงคนโตที่มีเรือนผมสีมะเดื่อเช่นข้า ฟีโอน่า ตอนนี้อายุ 15 เท่ากันเลย"
ราฟาเอลโร่มองตามปลายนิ้วที่ชี้ไป เผยให้เห็นหญิงสาวที่เขาไม่ทันได้สังเกต ผิวขาวที่เปล่งประกายกับเรือนผมสีดำสนิท หน้าม้าที่โอบล้อมใบหน้ารูปไข่ จมูกและดวงตาอันคมกริบ รับกันกับริมฝีปากรูปกระจับที่อวบอิ่ม #งดงามเหลือเกิน# นั่นคือสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวของเราฟาเอลโร่ที่กำลังสร้างรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า เพื่อตอบกลับรอยยิ้มของเด็กสาว
"และคนรองเรือนผมสีบรอนซ์เหมือนแม่ของนาง เอ๋!!อยู่ไหนละ โอเรียอน่าออกมาจากด้านหลังพี่เจ้าได้แล้ว"
เรือนผมเป็นลอนเงาสีบลอนด์ โผล่พ้นออกมาจากด้านหลังของพี่สาว ก่อนจะตามด้วยตาดวงสีเดียวกับท้องฟ้าที่ทอเป็นประกาย เมื่อทั้งตัวพ้นออกมาจึงเห็นแก้มที่ระเรื่อแดงนิดๆด้วยความเขินอาย โอเรียนอน่าหันไปมองหน้าพี่สาวที่กำลังยิ้ม ก่อนที่เธอจะหันไปมองราฟาเอลโร่และยิ้มให้เขาเข่นเดียวกัน
#ช่างเปร่งประกาย#(ความคิด)
เหมือนเขาตกตะลึงจนหยุดหายใจไปชั่วครู่ ฟินิตี้หันมองหน้าราฟาเอลโร่ เมื่อความคิดนั้นดังขึ้นโดยที่ราฟาเอลโร่มิได้ปิดกัน
"เอาละเราเราควรพาอาคันตุกะของเราเข้าไปด้านในแล้วล่ะ ที่นี่ตรงนี้เริ่มร้อนแล้วจริงไหมท่านคอพิอุส"
โอเคนลันที่เดินกลับไปสมทบกับคอพิอุส พลางพูดคุยกันต่อ ได้เดินนำเข้าไปด้านใน
#ช่างเปล่งประกาย นั่นคำชมอะไรของเจ้า#
เสียงของฟินิตี้เรียกสติที่ล่องลอยของราฟาเอลโร่กลับมา
#จริงๆ และในหัวของข้า คิดอะไรไม่ออกเสียด้วยซ้ำ#
#55555#
เสียงหัวเราะที่ก้องกังวานดังอยู่ในหัวของราฟาเอลโร่
#มันไม่ตลกเลยนะ#
#ได้ๆ ไม่ตลกแล้ว#
เสียงที่พยายามกลั้นความขบขันของฟินิตี้ ที่ราฟาเอลโร่มองค้อนวิหคอัคคีเล็กน้อย เพราะเนื่องด้วยทั้งคู่เชื่อมกันซึ่งรู้อารมณ์ของอีกฝ่าย โดยที่คนภายนอกแทบไม่สังเกตุเห็น เพราะใบหน้าของราฟาเอลโร่มักจะไม่แสดงความรู้สึกออกมามากนัก
เมื่อเข้ามาในตัวคฤหาสน์จะต้องเดินผ่านโถงทางเดินที่มีต้นเสาทรงยุโรปเรียงรายตามทางเดิน ปลายทางคือทางแยก แต่ทุกคนก็หยุดลงตรงหน้าประตูห้องโถงขนาดใหญ่สำหรับจัดเลี้ยงก่ิยที่จะแยกย้าย ทางแยกหน้าประตูห้องโถงนั้นคือทางแยกที่นำไปสู่ปีกซ้ายและขวาของตัวคฤหาสน์ ปีกขวาจะนำไปสู่ที่พักสำหรับครอบครัวแต่ดยุค ส่วนปีกซ้ายคือเรือนรับรองสำหรับอาคันตุกะ
"ท่านคอพิอุส ข้าได้จัดเตรียมห้องพักสำหรับท่านและนัดดา ไว้ที่ปีกซ้ายของคฤหาสน์เรียบร้อยแล้ว เดียวข้าจักให้คนนำทางท่านไป ท่านอยากจะไปที่เรือนรับรองก่อนหรือไม่"
"หากท่านมิว่าอันใด เราสองเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล ถ้าได้พักเสียหน่อยจะเป็นการดี"
"เชิญท่านเลย เอาเป็นว่าท่านพักผ่อนเสียให้หายเหนื่อย แล้วค่อยพบกันอีกครั้งช่วงมื้อเย็นดีหรือไม่"
"ท่านโอเคนลันช่างมีน้ำใจ งั้นพบกันช่วงมื้อเย็น"
ราฟาเอลโร่และคอพิอุสได้ถูกนำไปห้องรับรองที่อยู่ปีกซ้ายของคฤหาสน์ ส่วนเกรนเดลขอแยกตัวไปเก็บสัมภาระเสียก่อน ห้องของทั้งคู่เป็นห้องใหญ่ที่มีห้องนอน 2 ห้องที่ถูกแยกด้วยห้องนั่งเล่นตรงกลางถึงแม้ห้องจะอยู่ชั้น 1 แต่เมื่อเปิดประตูไปสู่ระเบียงที่ต่อจากห้องนั่งเล่น ก็จะสามารถเห็นสวนหลวงของคฤหาสน์ซึ่งถูกอกถูกใจคอพิอุสเป็นอย่างมาก
คอพิอุสเลือกห้องนอนฝั่งขวา ส่วนห้องซ้ายมือของห้องนั่งเล่นจึงเป็นของราฟาเอลโร่ไปโดยปริยาย และทั้ง 2 ห้องก็มีห้องน้ำในตัว
"นายท่านจะให้คนรับใช้ เตรียมน้ำให้อาบเลยไหมท่านนาย"
คอพิอุสที่มองไปยังราฟาเอลโร่เป็นเชิงต้องการคำตอบ
"ของข้า เตรียมเลยขอรับ"
ก่อนที่คอพิอุสจะหันไปให้คำตอบสาวใช้
"งั้นเตรียมน้ำให้ห้องซ๊ายมือเลยส่วนห้องข้าขอเป็นเตรียนก่อนมื้อเย็นสัก 2 ชั่วยามแล้ว"
หญิงรับใช้ทำความเคารพ ก่อนออกไปตระเตรียมคนและอุปกรณ์ เมื่อประตูนั้นปิดเงียบตามหลังของเธอแล้ว คอพิอุสก็หะนมากล่าวบ้างสิ่ง
"ข้าขอคุยกับเจ้าชั่วครู่ มีเรื่องที่เจ้าต้องรู้"