อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Lost Wing สายเลือดต้องห้ามอดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
"ขอรับ"
ทั้งคู่เดินออกมารับแสงแดดอุ่นๆ ยามบ่าย คอพิอุสยื่นปักหลักพิงตัวเองยังระเบียง ใบหน้าจ้องมองเชยชมไม้ประดับนานาพันธุ์ที่ ถูกปลูกอย่างเป็นระเบียบในสวนหลวงที่งดงามของคฤหาสน์ตระกูลอาร์ชิบัส
"งดงามหากแต่ช่างแข็งกระด้าง"
คอพิอุสกล่าวในฐานะผู้เชยชม
"ก็เป็นการจัดแต่งจากน้ำมือของมนุษย์หากใช่การเติบโตตามวิสัยธรรมชาติ มิใช่เครื่องธรรมดาหรือขอรับ"
ราฟาเอลโร่ที่ยืนอยู่ด้านข้างมองเห็นรอยยิ้มจากใบหน้าของคอพิอุสเมื่อหันมาหาเขา
"ราฟาเอลต้านแข่งขันในรอบแรกจะเป็นการแบ่งตามสายธาตุในการต่อสู้ หากจะให้เจ้าใช้ธาตุน้ำเป็นหลักเจ้าพอจะรับมือได้หรือไม่"
"ได้ขอรับ"
"ดีงั้นก็เตรียมใจให้พร้อม ส่วนกลยุทธ์และวิธีก็ตามที่เจ้าเห็นสมควรได้เลย"
การประลองถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ผู้มีคุณวุฒิวัยวุฒิอันทรงภูมิ จะสามารถบ่งบอกถึงความสามารถของผู้ใช้เวทย์ได้รวดเร็วที่สุด และง่ายต่อความเข้าใจ ซึ่งจะสามารถบ่งบอกถึงไหวพริบในการแก้ปัญหา ตัวตน และประสบการณ์ที่มี
1 วันก่อนเพลาการประลองจริง เหล่าผู้เข้าร่วมการประลองได้ถูกเพียกหาให้มารวมตัวกัน เพื่อประเมินธาตุคุณสมบัติธาตุที่ได้ระบุเอาไว้ ประกาศผลการจับคู่หมายในการประลอง และหนึ่งในห้องโถงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลานประลองที่ใหญ่ที่สุดในสามลานประลองที่มีในอคาด้า ได้ถูกใช้สำหรับรวมตัวผู้เข้าประลองในครั้งนี้
ราฟาเอลโร่ถูกนำมาส่งที่ทางเข้าของสนามประลอง โดยรถม้าของตระกูลอาร์ชิบัส ซึ่งก็เรียกความสนใจที่เขาไม่ได้ต้องการเลย
ทันทีที่เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่า เราก้าวลงจากรถม้าพร้อมวิหคแปลกตา ด้วยบุคลิกองอาจจากการถูกขัดเกลามาเป็นอย่างดี แม้เรือนผมสีดำขลับจะร่วงหล่นปรกใบหน้าเล็กน้อย แต่ก็ตัดเข้ากับดวงตาสีแดงทับทิมนุ่มลึกแลดูมีเสน่ห์ ที่แม้แต่เพศเดียวกันยังอดหันมองไม่ได้
ราฟาเอลโร่เดินผ่านกลุ่มคนที่เขาคาดว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมการประลองที่ถูกเรียกรวมตัวเช่นกัน ระหว่างทางเสียงแว่วของการกระซิบกระซาบก็ดังผ่านหูราวกับสายลม ทำให้เขาหมายจะหาที่สงบไร้ซึ่งสายตาที่คอยจับจ้อง
เมื่อเดินมาสักระยะเบื้องหน้าคือประตูห้องโถงที่ยังคงปิดอยู่ แต่เมื่อราฟาเอลโร่หมายที่จะหักเลี้ยวท ณ มุมเสาต้นนึงราฟาเอลโร่ก็ถูกดักทางโดยชายแปลกหน้า 3 คน ในรุ่นราวคราวเดียวกัน
"ว่าไงเจ้าปีศาจ ไม่อยากรู้ว่าผู้รับเลือก จักรับสายเลือดขั้นต่ำถึงเพียงนี้ เข้าในการประลอง"
ราฟาเอลโร่ปรายมองชายหนุ่ม 3 คนเบื้องหน้า กับการแต่งกายที่แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็เป็นผ้าเนื้อดี พร้อมกับเครื่องประดับกายน้อยชิ้นและอาวุธที่ถูกสร้างจากวัสดุชั้นดี บ่งบอกว่าพวกเขามาจารตระกูลสูงศักดิ์
"มองด้วยสายตาเยี่ยงนี้ อยากมีเรื่องนักหรือใงฉันต่ำ"
การไม่ตอบโต้กลับของราฟาเอลโร่ที่น่าจะแก้ไขปัญหาได้ แต่กลับทำให้อีกฝ่ายกลับยิ่งเดือดดาล
"นี่เจ้าใบ้หรือไง หา!! เมื่อเห็นตาตระกูลมาร์ควิสและเอิร์น เจ้าก็ควรรู้จักที่ต่ำที่สูงแล้วมิใช่หรือ"
พร้อมกับการเข้าร่วมสมทับของของเพื่อนที่ยืนเคียงข้าง
"ข้าก็คิดเพียงว่าสายเลือดเจ้าที่ต่ำ แต่นี่กลับไม่รู้เลยว่ากริยาก็ทรามได้ถึงเพียงนี้"
ปฏิกิริยาหัวเราะชอบใจของ 3 คนเบื้องหน้า เริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อราฟาเอลโร่เริ่มขยับริมฝีปาก
"จำนรรจากันเรียบร้อยแล้วหรือยัง หากมิมีสิ่งใดแล้วก็ช่วยเปิดทางให้ข้าด้วย"
ปฏิกิริยาก้าวร้าวคุกคามปรากฏขึ้นโดยพลัน ในมือทั้งสาม เริ่มมีการรวบรวมอนุพลังเวทย์ในการเริ่มโจมตี แต่ก่อนที่สงครามประสาทจะกลายเป็นศึกทำร้ายร่างกาย เสียงปรบมือหนึ่งก็แว่วดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงโปร่งของเจ้าของเสียง ที่มีผิวขาวราวหิมะแรกเหมันต์ดวงตาคมสีดำขลับและเรือนผมสีเดียวกัน พร้อมกับเริ่มขยับริมฝีปากแดงอวบอิ่ม
"ริมฝีปากกล้ายิ่งนักเพราะ พ่อหนุ่มในตาสีโลหิต"
ทุกคนหลีกทางให้เขาพลัน เมื่อชายหนุ่มเลือกที่จะย่างมาหยุดอยู่เบื้องหน้าของราฟาเอลโร่ พร้อมกับเสียงกระซิบกระซาบของท่านมาร์ควิสและเอิร์ล และผู้คนที่เห็นเหตุการณ์โดยรอบ
"ไม่รอดแน่/เจ้าปีศาจมันมิตายดีแน่/สมน้ำหน้ายิ่งนัก/เอาจริงเหรอนี่/ดวงตานั้นหรือว่าจริง/จะหาเรื่องเขาทำไมกัน"
ทั้งคู่ยืนจ้องเข้าไปในดวงตาของกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มไม่คาดคิดขึ้นมาบนใบหน้า ต่างฝ่ายต่างยื่นมือออกมาจับทักทายกันอย่างสนิทสนม
"เป็นไงเอล ปากกล้าขนาดนี้ คงสบายดีสินะ"
"ข้านึกว่าจะไม่ได้พบเจ้าเสียแล้ว"
การทักทายที่ทำให้ผู้คอยสังเกตการณ์ทั้งหลายกลับทำสีหน้าไม่ถูก เพราะใครจะนึกฝันว่าเจ้าชายแห่งอคาด้า จะมีเพื่อนรักที่นอกเหนือจากเชษฐาของตน แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทันได้สนทนาสิ่งใดไปมากกว่านั้น ประตูสู่ห้องโถงก็ถูกเปิดออก พร้อมกับชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ระหว่างประตูนั้น
"ยินดีต้อนรับผู้เข้าร่วมทุกท่านข้าคือหนึ่งในที่อาจารย์ของซัสทรารัส ศาสตราจารย์แม็กนัส ลูมินัส เชิญผู้เข้าร่วมการประลอง ติดตามข้าเข้ามาด้านในเพื่อรับการทดสอบ"
สิ้นเสียงเหล่าผู้เข้าสมัครทุกคนที่รอกันอยู่ ณ ที่นั้นก็ต่างก้าวเท้าตามแม็กนัสเข้าไปด้านในห้องโถง ที่สามารถบรรจุเหล่าผู้คนได้นับหมื่น เมื่อผู้เข้าร่วมการประลองถึงที่หมาย ก็มีคนอีก 4 คนที่ได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว แม็กนัสเดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ตัวที่ 2 จากทางขวามือ สบทบกับผู้ที่รออยู่ก่อนแล้ว บนที่นั่งที่ถูกยกสูงขึ้นจากพื้นเป็นขั้นบันไดขึ้นไปด้านบน คนทั้ง 5 ได้นั่งรายล้อมเป็นครึ่งวงกลม ก่อนที่ชายใส่แว่น มีผมและเคราสีดอกเลา จะเริ่มกล่าว
"ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่การคัดเลือกศิษย์ยานุศิษย์ของซัสทรารัส นามข้าคือ อัลเบอทริก เวลูเมอร์ ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของซัสทรารัส ซ้ายมือของข้าคือ ศาสตราจารย์แม็กนัส ลูมินัส ถัดไปคือ ศาสตราจารย์อลิเซีย โรมมิอุส ส่วนซ้ายมือของข้าคือ ศาสตราจารย์อิลิคธีโอ แห่งป่าอลัว และศาสตราจารย์โทลคีล อลูทาร์ตามลำดับ ศาสตราจารย์ทั้ง 4 จะเป็นผู้สอนนักเรียนทั้ง 15 คนที่ผ่านการประลองและได้เข้าเรียนที่ซัสทรารัส ในฐานะนักเรียนทุน ก่อนการจับคู่การประลอง จะมีการทดสอบเกณฑ์เบื้องต้น ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานในการสมัคร ตามธาตุทั้งสามที่ระบุมาในใบสมัคร"
หลังจากจบการทักทาย อัลเบอทริก ได้พยักหน้าให้กับอลีเซีย ศาสตราจารย์หญิงคนเดียวที่นั่น เธอเป็นผู้หญิงรูปร่างเล็กที่มีเรือนผมสีม่วงสลับฟ้าท่าทางแลดูใจดี อลีเซียลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะโบกมือ 1 ครั้ง ปรากฏคริสตัลพร้อมแท่นวางเบื้องหน้าเหล่าผู้สมัคร
"การทดสอบนี้คือการส่งพลังเข้าไปยังคริสตัล เป็นการยืนยันว่าสามารถใช้ธาตุได้ตามที่ระบุมา คริสตัลจะเปลี่ยนสีและคุณลักษณะตามธาตุต่างๆที่ได้รับ เรามาเริ่มกันที่ เอลเลฟีนี โกลฮาร์ม ธาตุที่ระบุมาคือ ลม น้ำ และความมืด"
สิ้นเสียงของอลีเซียเสียงฮือฮาก็โหมดังขึ้นตามด้วยเสียงกระซิบกระซาบ
"ความืดงั้นเหรอ/อะไรกัน/น่าขยะแขยงชะมัด"
"อึ เพียงเท่านั้น ไม่แปลกเท่าเจ้าหรอก ข้าอยากเห็นสีหน้าของคนพวกนี้เสียจริง เมื่อรู้ว่ามีคนที่สามารถใช้ธาตุพลังได้ถึง 6 ธาตุ"
คำพูดของอลูคาร์ที่อยู่ข้างๆ เมื่อราฟาเอลโร่หันไปสบหน้าที่นึกสนุกของเพื่อน ก็อดที่จะหวั่นใจไม่ได้
"เงียบ ทุกคนขอความเงียบด้วย"
เสียงของอัลเบอทริกทำให้เสียงความคิดเห็นต่างๆ นานาเงียบลง เอลเลฟีนี ก้าวออกมาด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งเกินหญิงทั่วไป อีกนัยนึ่งเธอไม่ได้ดูเป็นผู้หญิงหากแต่แลดูเป็นชายที่หน้าตาหวานเสียมากกว่า เรือนผมสีน้ำตาลที่ตัดสั้นไม่ต่างจากทรงผมของผู้ชาย
เอลเลฟีนี กางฝ่ามือออกไปยังคริสตัลเบื้องหน้า และเริ่มรวบรวมอนูพลังเวทย์ เกิดเป็นพายุหมุนล้อมรอบคริสตัลใส บ่งบอกว่าเธอมีพลังธาตุลมในตัว จากนั้นเมื่อเธอรวบรวมอนูพลังและส่งมันออกไปเป็นครั้งที่สอง คริสตัลใสบิดเกลียวกลายเป็นคลื่นน้ำบนแท่นศิลา และสุดท้ายแสงของคริสตัลที่ใสสะอาดมองทะลุได้ กลับมืดดำทะมึนราวกับหลุมดำไร้ที่สิ้นสุด การทดสอบนั้นแปลว่า เอลเลฟีนี คือผู้ใช่ธาตุและมีคุณสมบัติเป็นหนึ่งในผู้เข้าประลอง