อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
The Lost Wing สายเลือดต้องห้ามอดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
คนแล้วคนเล่าที่เผชิญหน้ากับคริสตัลและผ่านการทดสอบไปด้วยดี
จนกระทั่งชื่อของ อลูคาร์ บรอสมันด์ ก็ได้ถูกขานออกมา การทดสอบพลังเวทย์ของเขาที่ประกอบไปด้วย ลม ดิน และไฟ ผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งอลูคาร์ได้กลับมายืนเคียงข้างราฟาเอลโร่
"เมื่อไหร่เจ้าจะได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นเสียที"
ราฟาเอลโร่เพลงยิ้มและยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย เป็นการตอบคำถาม แต่เมื่อผู้ทดสอบถัดจากอลูคาร์ทำการทดสอบเสร็จสิ้น การขานนามผู้ทดสอบคนต่อไปของอลีเซียก็ทำให้อลูคาร์ให้มายิ้มกว้างให้ราฟาเอลโร่
"ผู้เข้าร่วมฉลองคนถัดไปคือ ราฟาเอลโร่ ไบร์ ธาตุที่ระบุมา ลม ดิน น้ำ และไฟ"
สิ้นเสียงของอลีเซีย อลูคาร์ได้หันหน้างันงวยงงมาสบหน้าราฟาเอลโร่
"4 ธาตุ"
ต่างจากเหล่าผู้คนที่แสดงความรู้สึกต่างๆนานากับผู้ที่สามารถใช้พลังจตุธาตุได้ ราฟาเอลโร่ก้าวไปเบื้องหน้า พร้อมกับเสียงในหัวที่พูดคุยกับตนเอง
#นี่ข้าจะต้องดึงพลังทีละธาตุจริงๆรึ จะลองปล่อยพร้อมกันครั้งเดียวเลยดีไหมนะ# และแล้วเสียงของฟินิตี๊ก็แทรกเข้ามา #ก็ไม่ได้มีกฎอันใดห้ามไว้ เจ้าก็ทำได้ไม่ใช่เหรอ" ราฟาเอลโร่ให้ไปยิ้มให้ฟินิตี้ที่เกาะของบนบ่าของเขา
เมื่อยืนอยู่เบื้องหน้าคริสตัล ราซาเอลโร่ยื่นมือสองข้างไปยังคริสตัล ดวงตาที่เรืองแสงเพียงเสี้ยววิและปลายนิ้วมือที่สัมผัสได้กับอนูพลังธาตุทั้ง 4 ในในตัว ทันทีที่ถ้าทั้ง 4 ถูกส่งไปยังคริสตัล คริสตัลเบื้องหน้าก็แบ่งตัวออกเป็น 4 ชิ้นและแสดงรูปลักษณ์ตามธาตุที่ได้รับ
การกระทำของราฟาเอลโร่ที่หมายจะใช้เวลาให้สั้นที่สุด กลับทำให้ดวงตาทั้ง 4 ของศาสตราจารย์เบื้องหน้าเขาเบิกโพลง พร้อมกับเสียงฮือฮาที่ดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง แม้นราฟาเอลโร่จะเดินกลับมายืนเคียงข้างอลูคาร์แล้ว
"จตุธาตุเป็นไปไม่ได้/เป็นแค่เรื่องบอกเล่าในตำนานไม่ใช่หรอ/แล้วดูสิแยกประสาทยังไง/ทำแบบนี้ก็ได้หรอ"
"จะทำได้ดีมากเพื่อนยาก"
และดูเหมือนจะมีเพียงอลูคาร์ที่ดูเหมือนจะกระหยิบยิ้มย่อง ถูกอกทุกข์ใจอยู่เพียงผู้เดียว
"ทุกคนเงียบ ศาสตราจารย์อลีเซีย"
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งแต่ก็ยังคงมีเสียงบทสนทนาอย่างแผ่วเบา และการเป็นจุดสนใจเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการที่สุด
"ข้าทำอะไรผิดไป"
"เอล นี่ไม่รู้ตัวเลยหรือ มีใครเขาสามารถปล่อยพลังธาตุครั้งเดียวได้ 4 ธาตุเยี่ยงที่เจ้าทำ ในประวัติศาสตร์อาจจะมี 2 หรือ 3 แต่ 4"
สิ้นคำอธิบายของเพื่อนรัก ราฟาเอลโร่ก็สัมผัสได้ถึงหายนะที่รอเขาอยู่เบื้องหน้า
"ว่าแต่เจ้าจงใจปิดบางเรื่องภาพพลังที่ใช้ได้งั้น"
ก่อนที่อลูกคาร์จะหันมาถามเรื่องที่เขาเครื่องของใจ
"ก็ประมาณนั้น อันที่จริงท่านอาจารย์เป็นคนจัดการเรื่องของการเข้าประลองในครั้งนี้"
"งั้นท่านก็คงมองออกนี่ขนาด 4 ธาตุถ้าบอกเป็น Hex เจ้าได้ถูกบูชาเป็นเทพเจ้าแน่ๆ"
(Hex คือผู้ที่สามารถใช้พลังธาตุทั้ง 6 ได้)
ราฟาเอลโร่ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความยุ่งยากที่กำลังจะมาถึง เมื่อการทดสอบผ่านไปเหล่าผู้เข้าประลองทั้ง 24 คนต้องทำการสุ่มจับคู่ต่อสู้ โดยจะมี 12 คนเขียนนามของตนและใส่ลงไปในโหลทึบแสงเพื่อให้อีก 12 คนจับเลือกหนึ่งในรายชื่อเป็นผู้เข้าประลอง
ด้วยเหล่าศาสตราจารย์มอบอภิสิทธิ์ให้ผู้เข้าประลองเป็นฝ่ายเลือกเองว่าใครจะเป็นคนลงนามในกระดาษและผู้ใดจะเลือกเป็นฝ่ายหยิบ ซึ่งราฟาเอลโร่ และอลูคาร์ จะเห็นพ้องใจจะเป็นผู้เลือกคู่ต่อสู้ของตน หลังจากการสุ่มผู้ต่อสู้เหล่าผู้เข้าประลองทั้ง 24 คนจะต้องระบุธาตุหลักที่ตนถนัดหรือจะใช้ในการต่อสู้ ซึ่งจะถูกบันทึกไว้
หลังการเข้ารับการทดสอบขั้นพื้นฐานเสร็จสิ้น รถม้าของราชวงศ์ และตระกูลอาร์ชิบัส ก็จอดเทียบด้านหน้าทางเข้าสนามปลอมให้เห็นเด่นเป็นสง่า
"นี่เจ้าพักบ้านตระกูลอาชิบัสงั้นหรือ"
"ใช่ท่านอาจารย์กับเกรนเดลก็พักที่นั่นเช่นกัน"
แต่เหมือนทั้งคู่จะเลือกที่จะไปต่อด้วยกัน และให้รถม้าตระกูลชิบัสกลับไปก่อนพร้อมข้อความถึงคอพิอุส
ทั้งคู่ใช้เวลาช่วงบ่ายด้วยกันที่ร้านน้ำชาเล็กๆในตัวเมือง นั่งโต๊ะด้านในสุดที่พ้นหูพ้นตาผู้คน
"รับอะไรดีเจ้าค่ะ"
เด็กสาวที่ทำงานที่ร้านน้ำชากล่าวถามด้วยท่าทีเขินอาย
"ข้าเขาเป็นชาดาร์เจอริ่ง กับแซนวิชทูน่า"
"ส่วนค่าขอเป็นชาเอิร์ลเกรย์ กับแซนวิชแฮม"
เด็กสาวจดรายการอาหารก่อนจะโปรยตามองทั้งคู่ และหันกลับไปด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ อลูคาร์เพียงอมยิ้มกับกริยาเช่นนั้น
"นางเป็นอะไร"
"แหมพ่อหนุ่มนุ่มนิ่ม ก็ได้ก็ได้ นางเขินนะ"
อลูคาร์พี่กะจะหยอกเย้าเพื่อนของตน ต้องเปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นราฟาเอลโร่ทำหน้าจริงจัง
"เขินงั้นรึ"
อลูคาร์ที่พยักหน้าและใช้นิ้วชี้กลับไปมาที่ตัวเขาเองและราฟาเอลโร่
"เจ้ากับข้างั้นรึ มีอะไรให้ต้องเขิน"
"555 คือนางชอบพวกเราทั้งคู่เลยเขินและประมาท"
เมื่อได้ยินประโยคนั้นราฟาเอลโร่ก็พยักหน้าอย่างช้าๆแสดงความเข้าใจแต่ไม่ได้กล่าวอันใดอีก อะลูกค้ายิ้มกับปฏิกิริยานั้นแล้วใช้มือเท้าคางของตนจ้องมองไปยังฟินิตี้ที่อยู่บนบ่าของราฟาเอลโร่
"เจ้านกนั่นคืออะไร ข้าคิดจะถามตั้งแต่แรกเห็นแต่อย่างอื่นดึงความสนใจไปข้า"
ราฟาเอลโร่ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะตอบ
"เจ้าจำนกที่พยายามจะฆ่าเจ้ามิได้งั้นรึ"
"เจ้านกตัวเท่าบ้านในถ้ำนั่นน่ะหรอ แล้วไงเหลือตัวแค่นี้"
"ข้ากับฟินิตี้ได้ผูกพันธะกันนะ"
"ฟินซิตี้??"
"ใช่นั่นคือนามของนาง"
"เจ้าหนี้มีเรื่องให้ตื่นตะลึงอยู่ตลอดเลยนะ ข้าเองก็นึกฝันอยากจะผูกพันธะกับสัตว์เวทย์สักวัน"
ทั้งคู่พูดคุยเรื่องสัพเพเหระอยู่ด้วยกันนาน 2 นาน จนกระทั่งเมื่อถึงเวลาอลูคาร์ได้มาส่งราฟาเอลผโร่ที่คฤหาสน์อาร์ชิบัสก่อนที่เขาจะกลับ เมื่อราฟาเอลโร่ได้พบเข้ากับคอพิอุส และเกรนเดล ในห้องนั่งเล่นทั้งคู่ก็เริ่มซักถามเขาเรื่องการทดสอบพื้นฐาน ก่อนที่จะทำการแยกย้าย
แล้ววันของการประลองก็มาถึง และสถานที่ของการประลองนั้นก็คือสนามประลองเกรทมิดเดิล เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในทั้งหมด 3 สนามประลองของอคาด้า ผู้เข้าร่วมการประลองทั้ง 24 คน ได้สวมใส่ชุดที่ถูกเตรียมไว้ให้ซึ่งเป็นสีขาวทั้งชุด เนื้อผ้ายืดหยุ่นกระชับเข้ากับร่างกาย ห้องรับรองถูกจัดไว้ให้สำหรับทุกคน และอีก 1 ห้องสำหรับรวมตัวเหล่าผู้เข้าประลอง ในห้องรวมตัวนั้นจะมีระเบียงที่ยืดออกเพื่อให้ผู้เข้าประลองที่ต้องการสามารถมองการประลองได้จากตรงนี้
หลังจากการเตรียมตัวราฟาเอลโร่ และอลูคาร์ ก็เป็นอีก 2 คนที่ยืนอยู่ตรงจุดที่สามารถมองดูการประลองได้ เพราะดูเมื่อเขาจะกระตือรือร้นด้วยสีหน้าที่จริงจัง
"มีอะไรงั้นรึ เจ้าจึงยืนยันว่า จะต้องดูการประลองนี้ให้ได้"
สายตาของอลูคาร์กลับจ้องไปยังเด็กหนุ่มที่มีเรือนผมสีน้ำตาลแดงในตาสีฟ้า ที่กำลังย่างเท้าไปยืนประชันหน้ากับคู่ต่อสู้ใจกลางสนามประลอง ณ ขณะนี้
"นั่นคือมิคาเอล เฟรมสตริง บุตรชายคนเดียวของดยุคเอ็ดมันด์ เฟรมสตริง 1 ใน 3 ตระกูลดยุคที่ทรงอำนาจที่สุดในอคาด้า แต่ประเด็นอยู่ตรงที่ กล่าวกันว่าเขาเป็นอัจฉริยะในการต่อสู้ เด็กชายที่อายุเพียง 11 ปี แต่สามารถเข้าร่วมกองทัพเพื่อขับไล่ปีศาจ แล้วไหนจะวีรกรรมอันโชกโชนในสนามรบอีก"
ราฟาเอลโร่มองตามสายตาของอลูคาร์ ไปยังใบหน้าคมคายของเด็กหนุ่มแลดูสูงศักดิ์ ที่ไม่น่าเชื่อว่าตอนนี้กำลังปล่อยจิตอาฆาต ที่ทำให้คู่ต่อสูงที่ประชันหน้าถึงกับเข่าอ่อน
เมื่อการประกาศนามของผู้เข้าประลองจบลง มิคาเอลก็ใช้พลังธาตุไฟของหุ้มร่างกาย และเสริมพลังธาตุไฟให้กับฝีเท้า