อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม - องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า

รายละเอียด

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

ผู้แต่ง

Diamondink

เรื่องย่อ


สารบัญ

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 1 บทนำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 2 การจากลา และการพบพาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 3 การจากลา และการพบพาน 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 4 การปรับตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 5 การปรับตัว 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 6 การเรียนรู้,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 7 การบุกรุก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 9 ช่วยเหลือ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 10 ขวาง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 11 เจ้าชายแห่งอคาด้า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 12 มิตรภาพ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 14 แผนลวง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 16 พายุโหมกระหน่ำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 17 แสงแห่งนภา,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 19 พันธะโลหิต,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 20 สองสาวอาร์ชิบัส,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 21 1 วันก่อนการประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 22 การทดสอบขั้นพื้นฐาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 23 การประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 24 มีอา เพดราก้อน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 25 มนูเอล บรอสมันด์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 27 อัลเบิร์ต ฟรอสทริก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 28 ตัวตน

เนื้อหา

องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน

ใบหน้าอันงดงามที่แลดูราวกับตุ๊กตาของโอเรียอน่านั้นนิ่งเฉย  ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ  น้ำเสียงปฏิเสธอย่างหนักแน่นของเธอ  ต่อชายหนุ่มที่เชิญชวนอยากจะเต้นรำกับเธอ  ทำให้เขาแทบทำตัวไม่ถูก  เพราะการปฏิเสธการเต้นรำเป็นสิ่งที่หยาบคายอย่างมากสำหรับเลดี้  หลังจากการปฏิเสธ ลำคอขาวของโอเรียอน่า  ยิ่งแลดูระหงส์มากขึ้นไปอีก  เมื่อปลายคางสวยถูกเชิดขึ้นเล็กน้อย  ก่อนที่เธอจะหันหน้าไปยังฟลอร์ ด้วยสายตาไม่แยแส


ฟีโอน่าในฟลอร์เต้นรำกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์  แต่สายตาของเธอ  ยังคงชำเลืองมองคู่เต้นรำระหว่างราฟาเอลโร่และมีอา  อลูคาร์แย้มรอยยิ้มของเขาเล็กน้อยเมื่อเห็นเช่นนั้น ก่อนจะกล่าวกับเธอว่า


"เคยมีผู้ใดเคยกล่าวกับเลดี้แล้วหรือยัง  ว่าไม่รู้จะเทียบท่านกับบุปผาใดดี"


"ใยเจ้าชายถึงกล่าวเช่นนั้นเพคะ"


"ก็ยิ่งเมื่อได้จ้องมองใกล้ๆ  เลดี้ก็ยิ่งงดงามมากเสียจนบุปผาใดก็ไม่อาจเทียบท่านได้"


ฟีโอน่าปายสายตากลับมา  นัยตาสีดำของเธอก้มมองต่ำลงอย่างอิ่งอาย  แม้นการกล่าวชมตรงๆ ของอลูคาร์จะทำให้เธอประมาท  แต่เธอก็ยังคงสวนกลับเขาได้


"เจ้าชายช่างช่ำชองในการใช้วาจากับอิสตรีเสียจริง  คงกล่าวมาแล้วมากนัก"


"ข้าจริงใจ  ในสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า  และข้าอยากเห็นรอยยิ้มของเลดี้  เพราะดวงหน้าของเลดี้คู่ควรจะมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้น"


ฟีโอน่านิ่งกับคำกล่าวอันหวานหูของอลูคาร์  แต่เมื่อเธอตั้งสติได้  ก็โต้กลับได้อย่างมีเหตุผล


"ไม่มีผู้ใดบนโลกนี้จะมีเพียงความสุขได้หรอกเพคะ"


"หากกล่าวเช่นนั้นมันก็จริง  ถึงจะเป็นข้าเองก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะทำให้เลดี้มีเพียงแต่ความสุขได้หรือไม่"  


ฟีโอน่ายิ้มให้กับคำพูดของอลูคาร์ก่อนที่จะขบขันอย่างแผ่วเบาอย่างสุภาพ


"เจ้าขบขันอันใด  ข้ารึ"


"เพคะ  คือ..  ก็มันช่างฟังดูสวนทาง"


อลูคาร์มีใบหน้าขบคิดชั่วครู่


"นั้นสินะ"


เขากล่าวขึ้นมาลอยๆ  และหันกลับมามองใบหน้าคมคายที่อยู่ตรงหน้า  ทั้งคู่จ้องมองกันและกันก่อนที่จะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน


 "อีกแล้ว  ข้าขอโทษๆ"


มีอากล่าวขอโทษอย่างทันควัน  เมื่อเหยียบเท้าราฟาเอลโร่เข้าเต็มแรงอีกครั้ง  ส่วนราฟาเอลโร่ก็ทำได้เพียงแต่ยิ้มและกล่าวว่า


"ข้าไม่เป็นไร"


"จะไม่เป็นไรได้เยี่ยงไร  ข้าเหยียบเข้าเต็มแรงหลายหนแล้วนะ  ข้าไม่เต้นแล้ว"


"เดียว  งั้นลองแบบนี้  จะลองวางเท้าหลังเท้าของข้าดูไหม" 


"แต่ถ้าทำแบบนั้นเจ้าจะ ....."


"ลองดูก่อนเถอะ"


มีอามองไปยังใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของราฟาเอลโร่  ก่อนจะทำตามที่เขาบอกอย่างโดยดี  เธอวางเท้าเหยียบลงบนหลังเท้าทั้งสองข้างของราฟาเอลโร่  เมื่อเริ่มเต้นรำอีกครั้ง  มีอาก็พบว่า ตัวของเธอเบาหวิว  และรู้สึกว่าราฟาเอลโร่นั้งข่างช่ำชองในการเต้นรำเอามากๆ


"เป็นไงบ้าง"


มีอาค่อยๆ ค่อยเผยรอยยิ้มของตนเป็นครั้งแรกและกล่าวตอบว่า


"สนุกมากๆ เลย"


ราฟาเอลโร่ยิ้มรับสาวน้อยตรงอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นรอยยิ้มจริงใจของเธอ


"ดีแล้ว  เจ้าควรยิ้มแบบนั้นเยอะๆ นะ"


มีอาหุบยิ้มของตนในทันทีที่เธอรู้ตัว  แล้วก้มหน้าลง


"ทำไมละไม่ดีใจหรือ หากรู้สึกดี ก็ควรยิ้มออกมา  เจ้ารู้ตัวไหมว่ารอยยิ้มของเจ้าน่ารักเอามากๆ"


มีอาชะงักกับคำพูดประโยคนั้นของราฟาเอลโร่ชั่วครู่  เธอแย้มรอยยิ้มกว้างเสียยิ่งกว่าเดิม  พร้อมกับน้ำตาคลอชั่วขณะ  ก่อนที่มันจะหายวับไป  แล้วเหลือไว้เพียงรอยยิ้ม


หลังจากงานเลี้ยงเพื่อประกาศตนเข้าเป็นนักเรียนของซัสทรารัสอย่างเป็นทางการนั้นจบลง  เช้าของอีกวันก็เริ่มต้นขึ้น  ราฟาเอลโร่ที่พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม  ตื่นขึ้นมานั่งบนเตียงในคฤหาสน์อาร์ชิบัส  จ้องมองไปยังเครื่องแบบ  เครื่องเขียน  หนังสือ  และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ซัสทรารัสจัดส่งมาให้ วางกองเป็นตั้งที่ปลายเตียงของเขา 


ราฟาเอลโร่นั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องไม้ใบนึงจากตู้เสื้อผ้า  มันคือกล่องไม้เมื่อครั้งก่อนที่แม่เคยมอบไว้ให้กับเขา  ราฟาเอลโร่บรรจงเปิดกล่องไม้อย่างเบามือ  สิ่งแรกที่เห็นคือชุดแพรไหมสีฟ้าปักกลิ่มด้วยทองที่เมื่อครั้งหนึ่งเขาอยากจะมอบให้กับแม่ของเขา  ก่อนจะใช้นิ้วโป้งสัมผัสลงบนชุดอย่างเบามือ


"ท่านแม่ลูกได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวแล้วนะขอรับ"


หลังจากนั้นราฟาเอลโร่จึงวางชุดนั่นลงข้างกาย  เผยให้เห็นของอย่างอื่นในกล่องที่อยู่ท่ามกลางเหรียญทองจำนวนมาก  ราฟาเอลโร่หยิบแหวนขึ้นมาตรงหน้าของอีกชิ้นที่ถูกส่งมอบให้กับเขา  แหวนเกลียวคู่ส่องประกายวาววับหยอกล้อกับแสงของดวงอาทิตย์ในยามเช้า 


ราฟาเอลโร่เพ่งพินิจไปที่แหวนในมือ  ตอนนี้เขาสัมผัสได้เป็นครั้งแรกถึงกลิ่นอายเล็กน้อยของพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากแหวนอย่างน่าประหลาด  มันงดงามให้ความรู้สึกน่าค้นหา  แต่ก็เศร้าในเวลาเดียวกัน  


"นั่นเป็นแหวนที่งดงามเลยทีเดียว"


เสียงของคอพิอุสที่กล่าวดังจากประตูทางเข้า  จุดที่เขายืนอยู่  ทำให้ราฟาเอลโร่หันวับไปที่เขา  พร้อมกับหลุดออกมาจากภวังค์  


"เป็นแหวนที่ท่านแม่ให้มา  ก่อนที่ท่านจะสิ้นนะขอรับ"


"งั้นเจ้าก็ควรสวมมันไว้ตลอดนะ"


"ผมก็อยากจะทำเช่นนั้น  แต่มันแลดูใหญ่เกินกว่าจะสวมไว้มาตลอดเลย"


"ให้โอกาสมันเสียสักครั้งก่อนที่เจ้าจะกล่าวเช่นนั้นดีไหม"


เมื่อได้ยินคอพิอุสกล่าวเช่นนั้น  ราฟาเอลโร่ที่จ้องมองแหวนในมือของเขาอยู่ตอนนี้  จึงตัดสิ้นใจสวมมันเข้าที่นิ้วชี้ข้างซ๊าย 


แหวนหลวมเลื่อนผ่านนิ้วไปจนถึงโคนของนิ้ว ก่อนที่ตัวเรือนของแหวนจะเปร่งแสง  และปรับขนาดของตัวมันเองให้เล็กลง  โอบรัดรอบนิ้วชี้ของราฟาเอลโร่อย่างพอดี 


ก่อนที่ภาพบางอย่างจะแทรกเข้ามาในหัวอย่างมาทันตั้งตัว  ภาพหลายภาพผุดเข้ามาในหัวอย่างพร่าเลือนเกินกว่าจะมองออก  มันทำให้ห้องทั้งห้องหมุนขว้างชั่วขณะ  จนราฟาเอลโร่ต้องส่ายศรีษะ  ทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะจิต  เขากลับจ้องมองแหวนที่สวมลงบนนิ้วได้อย่างพอดี  ก่อนที่เสียงของคอพิอุสจะดึงความสนใจของเขาให้หันไป


"เห็นไหมว่าพอดีเลย  จะถูกหรือผิดทุกสิ่งในโลกควรมีโอกาสแรกเสมอ"


"ท่านอาเองก็ตื่นเช้าเช่นเคยเลยนะขอรับ"


"ข้าอยากแวะเอาของมามอบให้เจ้า"


คอพิอุสกล่าวพร้อมกับคลี่ผืนผ้าที่แทบจะโปร่งใสเบื้องหน้าราฟาเอลโร่  ที่ถึงกับต้องเพ่งมองจึงเห็นว่ามันเป็นเสื้อแขนยาว  ในขณะที่รับมาไว้ในมือ  ก็สัมผัสได้ถึงความถึงความลื่นของเสื้อผ้า  แต่แทบจะไร้ซึ่งน้ำหนักจนกลัวว่าจะมันจะขาดเพราะลมหายใจ


"สิ่งนี้คือ"


"นี่คือ  เสื้อเกราะที่ถักทอจากใยไม้ของต้นไม้แห่งชีวิตแห่งแอสโทรเฟีย  มีพลังของชีวิตสูง   บางเบา  ยืดหยุ่น  แต่แกร่งยิ่งกว่าอาวุธมีคมใดๆ  ซึมซับแรงกระแทกได้สูง  และเมื่อสวมใส่จะอันตรธานกลืนหายไปกับผิวของผู้สวมใส่ จนกว่าเจ้าจะถอดมันออก  แต่สวมมันไว้ตลอดนะเพื่อตัวของเจ้าเอง"


"ขอรับ"


ราฟาเอลกล่าวรับด้วยรอยยิ้ม  เมื่อล่วงรู้เจตนาความห่วงใยของคอพิอุสมีให้เขา


"จริงๆ  ข้าก็อยากให้อาวุธที่เข้ากับพลังของเจ้าสักชิ้น  แต่ช่างเอลฟ์ของเรายืนยันว่าไม่สามารถสร้างให้ได้  ข้าเลยจะมอบสิ่งนี้ให้แทน"


คอพิอุสยื่นของอีกชิ้นให้ราฟาเอลโร่  บางสิ่งที่มีลักษณะคล้ายก้อนดีบุก  ปรับเปลี่ยนรูปร่างของมัน  ในขณะที่คอพิอุสยื่นมันมาให้ราฟาเอลโร่  มันกลายเป็นเข็มกลัดรูปดาวห้าแฉกสีเงินใส  และกล่าวว่า


"นี่คือ  อุปกาณ์เวทย์ใช้ในการสื่อสาร  เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เวทย์สื่อสารของข้าและเกรนเดล  มันจะสามารถเปลี่ยนรูปได้ตามใจนึกของเจ้า  สามารถสื่อสารระหว่างอุปกรณ์เวทย์ที่เชื่อมต่อกันแล้ว  เมื่อแตะเจ้าจงส่งพลังเวทย์ใส่เข็มกลัด  เพียงนึกถึงผู้ที่ต้องการ  เจ้าก็จะสามารถติดต่อกับอุปกรณ์เวทย์ที่เชื่อมต่อกันไว้ได้ในทันที"


ราฟาเอลโร่เผยรอยยิ้มด้วยความดีใจ  ให้กับคอพิอุส


"แล้วถ้าอยากมานั่งกินข้าวด้วยกันสักมื้อ  ก็ใช้ตรานี่ผ่านเข้าออก  หากเมื่อใดที่ว่างเว้นจากกิจต่างๆก็กลับบ้านนะ  เฮ้ย  ข้านี้  นับวันยิ่งเหมือนคนแก่ขี้เหงาเข้าไปทุกที"


สิ้นประโยคของคอพิอุส  ราฟาเอลโร่ก็โพสเข้ากอดคอพิอุสอย่างที่เขาเคยทำเมื่อครั้งยังเยาว์  และอย่างเคยราฟาเอลโร่ก็ได้รับการกอดกลับอย่างอ่อนโยน 


เคาะ!!!!  เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นจากประตูที่เปิดอยู่  เกรนเดลย่างสามขุมเข้ามาในห้อง


"นายท่าน  อัลเบิร์ต  ฟรอสทริก  ขอเข้าพบขอรับ"