อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ
เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน
แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"งั้นรึ เป็นยามเช้าที่วุ่นวายเสียจริง บอกเขาว่าข้าจะรีบไปพบ ดื่มชารอได้เลย แล้วอย่าลืมแจ้งเจ้าบ้านให้ข้าด้วย ว่าเราจะขอใช้ห้องรับแขกสักห้อง"
"ขอรับ"
เสียงประตูเปิดออกของห้องรับแขก ที่แสงแดดในยามเช้าสาดส่องเข้ามา ผ่านกำแพงกระจกใส สามารถมองทะลุเห็นสวนสวยด้านนอก ที่ถูกจัดวางอย่างพิถีพิถัน แสงเหลืองทองของดวงอาทิตย์ทำให้บรรยากาศในห้องช่างอบอุ่น
เมื่อคอพิอุสมาเยือน แขกผู้ต้องตาคอยก็ลุกขึ้นยืน และค้อมคำนับ คอพิอุสผายมือให้กับ อัลเบิร์ตเพื่อเป็นการบอกเป็นในว่าให้เขานั่งลง ทั้งคู่นั่งลงตรงข้ามกัน บนโต๊ะตัวกว้างที่เรียงรายไปด้วยชุดน้ำชาลวดลายวิจิตรบรรจง
"อรุณสวัสดิ์ท่านดยุคอัลเบิร์ต ฟรอสทริก นานแล้วที่ไม่ได้พบ ท่านสบายดีหรือไม่"
คอพิอุสกล่าวพร้อมกับใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มสุดคุ้มและอ่อนโยน
"เป็นเกียรติของข้ายิ่งนักที่ได้พบท่านอีกครั้ง ข้าสบายดีขอรับ และดียิ่งขึ้นเมื่อได้รับข่าวปิติ"
"ข้าดีใจยิ่งนักที่ได้ยินเยี่ยงนั้น มาหาข้าเสียแต่เช้ามีเรื่องเร่งรีบอันใด ที่ทำให้ท่านต้องรีบร้อน"
อัลเบิร์ตนิ่งไปชั่วครู่พร้อมกับสีหน้าที่แปรเปลี่ยนเป็นหนักแน่นก่อนจะเอื้อนเอ่ยวาจาว่า
"ครั้งหนึ่งท่านเคยเมตตาช่วยชีวิตข้า ถึงคราที่ข้าอับจนครั้งนี้ท่านก็เชื่อมั่น และมอบโอกาสให้วงศ์ตระกูลของข้าได้ดำรงอยู่ หากคำกล่าวในจดหมายยังคงมีผล"
"ตัวข้าเชื่อมั่นในความเป็นท่านเสมอ ท่านดยุคอัลเบิร์ต หากแต่ข้ามิอาจเปลี่ยนใจผู้ใดได้ ท่านต้องเป็นผู้คว้าชัยนี้ด้วยตัวท่านเอง ส่วนเขาจะยอมรับหน้าที่นั้นหรือไม่ ก็มิมีผู้อื่นใดจะบอกได้ นอกจากเจ้าตัวเอง ท่านพร้อมจะเป็นบิดาหรือไหมท่านดยุค"
แม้ดวงตาของดยุคอัลเบิร์ต ฟรอสทริกจะวูบตระหนกเล็กน้อยกับคำถามของคอพิอุส แต่ก็กลับมาเฉียบคม และหนักแน่นในเวลาเพียงเสี้ยววิ
"หากสวรรค์ยังคงให้โอกาสข้า ข้าก็จะมีลังเลเลยขอรับ"
ดวงตาที่เปร่งประกายของคอพิอุสเปี่ยมไปด้วยความปิติ เมื่อได้ยินคำตอบของดยุคอัลเบิร์ต ก่อนที่เขาจะหันไปมองเกรนเดลที่ตอบรับเขาอย่างรู้ใจ โดยไม่ต้องกล่าวสิ่งใด เกรนเดลค้อมศรีษะให้กับผู้เป็นนายแล้วเดินออกจะห้องไป
เพียงไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับเด็กหนุ่มผมสีดำทมิฬ นัยน์ตาสีแดงฉานแต่กลับมีเสน่ห์น่าดึงดูด ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามายืนเคียงข้างคอพิอุสที่นั่งอยู่ด้วยลักษณะงดงาม แผ่สัมผัสที่อ่อนโยนน่าเข้าหา
"ราฟาเอลนี้คือดยุคอัลเบิร์ต ฟรอสทริก เป็น 1 ใน 3 ตระกูลดยุคของอคาด้า"
ราฟาเอลโร่ค้อมคำนับทำความเคารพอัลเบิร์ต ในขณะที่ท่านดยุคเลือกที่จะลุกขึ้น และเดินตรงมาที่เขา ความใกล้ทำให้มองเห็นเรือนผมสีเงินอันเงางามเป็นเอกลักษณ์ เช่นเดียวกับคิ้ว สัญลักษณ์ของตระกูลฟรอสทริก ซึ่งแทนที่จะทำให้เขาแลดูมีอายุ มันกลับทำให้อัลเบิร์ตงดงามอย่างน่าเหลือเชื่อ
เมื่อมองผ่านๆ ดยุคอัลเบิร์ตจะแลดูเย็นชา แข็งกระดา และเฉยเมยต่อทุกสิ่ง แต่ดวงตาของเขาในขณะนี้มันช่างอ่อนโยน และเปร่งประกายแห่งความหวัง
"ยิ่งได้ชมใกล้ๆ ลักษณะยิ่งงดงาม หน้าตาก็หล่อเหลาเลยทีเดียว"
อัลเบิร์ตกล่าวเชยชมเด็กหนุ่มตรงหน้า ด้วยสายตาที่บ่งบอกว่านั่นคือความจริง
"ข้ากำลังหาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยดูแลธุระหลายอย่างในตระกูล ขณะศึกษาที่ซัสทรารัสเจ้าคิดว่า จะพอมีเวลาช่วยงานชายแก่คนนี้อีกสักแรงหรือไม่"
ราฟาเอลโร่เหลือบคอพิอุสที่นั่งอยู่อย่างลังเล และรอยยิ้มนั้นของคอพิอุสก็ทำให้เขาตัดสิ้นใจง่ายขึ้น
"ท่านยังทรงภูมิและหาได้ชราเลยขอรับ และหากข้าจะเป็นประโยชน์กับท่าน ข้าก็ยินดียิ่งนัก แต่ข้ายังมิรู้ประสา กลัวว่าจะกลายเป็นภาระของท่านเสียมากกว่า"
#ช่างเป็นเด็กหนุ่มพี่ถ่อมตนและจิตใจดี ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีพอสมควรเลย# อัลเบิร์ตนึกกับตนเอง
"มิมีผู้ใดเก่งก่อนที่จะเรียนรู้หรอกพ่อหนุ่ม ข้าเชื่อจากใจว่าเจ้าจะแบ่งเบาข้าได้มาก"
"หากเป็นเช่นนั้นกระผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"
1 เดือนต่อจากนี้จะเป็นการเริ่มทำการเรียนการสอนที่ซัสทรารัส หากแต่ก่อนที่จะถึงวันนั้นราฟาเอลโร่จะต้องทำการย้ายจากที่พักชั่วคราว ณ คฤหาสน์ตระกูลอาร์ชิบัส ไปยังคฤหาสน์ฟรอสทริก
"ราฟาเอล เช้านี้เจ้าจะไปกินอาหารเช้าพร้อมกับข้าหรือไม่"
เสียงเรียกของคอพิอุสดังมาจากประตูที่ถูกเปิดอยู่แล้ว ขณะที่ราฟาเอลโร่ในกางเกงนอนเพียงตัวเดียว กำลังกับง่วงอยู่กับการจัดสัมภาระเข้ากระเป๋า เพราะวันนี้คือวันที่เขาจะต้องย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลอาร์ชิบัส
"คงไม่ขอรับ ผมตื่นสาย แล้วยังเหลือของที่ยังต้องจัดเข้ากระเป๋าอยู่เยอะเลยขอรับ"
"อื่ม เห็นแล้วละ จัดต่อเถอะ เดียวข้าจะให้เกรนเดลยกอาหารเช้ามาให้เจ้าที่ห้องก็แล้วกัน"
"ขอบพระคุณมากเลยขอรับ"
เมื่อจัดการกับสัมภาระ และตัวเองเรียบร้อย ราฟาเอลโร่ที่ทานข้าวเช้าจนอิ่ม ก็เลือกที่จะมานั่งยืดเหยียดร่างกาย ณ ระเบียงห้องพักที่ยื่นตัวเข้าไปในสวน สูดอากาศบริสุทธิ์ และชมสวนของตระอาชิบัสก่อนที่จะออกเดินทาง ไปที่คฤหาสน์ฟรอสทริก
ในขณะที่ราฟาเอลโร่กำลังมองไปรอบๆ อย่างไร้ซึ่งจุดอยู่นั้น สายตาเขาก็สะดุดเข้ากับใครบ้างคนที่อยู่ในสวน พยายามไล่จับอะไรบ้างอย่าง ร่างกายเขาก็ขยับตัวเองเข้าไปในสวน โดยที่มิได้คิดถึงสิ่งใด จนเข้ามาใกล้พอที่จะเห็นชุดที่ตัดอย่างปราณีตในร่างๆ หนึ่ง ที่กำลังมุดเข้าไปใต้โต๊ะ
ราฟาเอลโร่ยกมือปรามนางกำนัลที่กำลังจะกล่าวบ้างสิ่งให้เงียบลง ก่อนที่จะมีเสียงดังออกมาจากใต้โต๊ะ
"คว้าตัวได้แล้วไลลา ข้าจะออกไปเดียวนี้แหละ"
"ท่านหญิงระวังคะ"
ด้วยความที่เร่งรีบนำตัวเองออกจากใต้โต๊ะ ศรีษะของเธอจึงโขกเข้าเป็นแรงกับขอบโต๊ะ แต่แทนที่จะรู้สึกเจ็บ ฟีโอน่ากลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย ดวงตาของเธอจึงเลื่อนมองไปที่ขอบโต๊ะ เธอเห็นมือๆหนึ่งที่ป้องศรีษะของเธอไว้ และเมื่อมองไปอีกด้านเธอก็เห็นใบหน้าของเจ้าของมืออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก
"เลดี้ท่านเจ็บหรือไม่"
ฟีโอน่ามองราฟาเอลโร่ด้วยสายตาที่เป็นประกาย พร้อมกับรอยยิ้มละมุดบนใบหน้า
"ไม่เลยคะ ขอบคุณนะคะ"
ฟีโอน่ากล่าวพร้อมกับพยายามจะลุกออกมาจากใต้โต๊ะ แต่ร่างกายเธอก็ต้องเซ เพราะมือที่สวมถุงมือหนาทั้งข้างกำลังประคองบ้างสิ่งอยู่ ราฟาเอลโร่ประคองร่างของฟีโอน่าไว้แนบอกก่อนที่เธอจะล้ม
"ไม่เป็นไรใช่ไหม"
เขามองใบหน้างดงามตรงหน้า แก้มขาวทั้งข้างระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดจนกลายเป็นสีชมพู ราฟาเอลโร่ยิ้มให้ฟีโอน่า ก่อนที่ดวงตาจะเลื่อนไปเห็น ตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมุดเข้าไปใต้โต๊ะ ราฟาเอลปล่อยโอ้มแขนที่พยุงตัวเธอออก เมื่อเห็นว่าเธอไม่เป็นไรแล้ว
"เป็นเพราะเจ้ากระรอกน้อยนี้เองซินะ ที่ทำให้เลดี้ต้องมุดเข้าไปใต้โต๊ะ"
คำถามทำให้ฟีโอน่ารู้สึกตัว เธอแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองล่องลอยไปตอนไหน
"เอ่อ คะ มันน่าจะบาดเจ็บจากการต่อสู้ซ๊ำร้ายยังตกลงมาจากที่สูง แล้วปีนกลับขึ้นไปไม่ได้นะคะ"
"ถ้าข้าจะขอดูแผลนั้น บนตัวกระรอกน้อยได้หรือไม่"
"คะ"
ฟีโอน่าค่อยๆ คลายมือที่โอบรอบตัวของกระรอกออก ทำให้ราฟาเอลโร่สามารถเห็นถึงแผลฉกรรจ์ที่ขาหลังของมัน เขาไม่เลลังที่จะยืนนิ้วไปที่แผลนั้น ถึงจะอ่อนแรงมาก
แต่เจ้ากระรอกสูงสุดใจ เพราะความกลัวมันหันไปกัดเข้าที่นิ้วของราฟาเอลโร่ทันที ก่อนที่จะเกิดแสงเรืองออกมาจากนิ้วที่ถูกกัดของเขา ฟีโอน่าร้องทักด้วยความตกใจทันที
"ท่านราฟาเอลเป็นอะไรมากไหมคะ"
ราฟาเอลโร่ส่ายศรีษะ พลางยิ้มให้กับเธอ ฟีโอน่าจ้องมองไปยังนิ้วที่ถูกกัด แต่ไร้ซึ่งร่องรอยขีดข่วน ก่อนที่เธอจะก้มลงมองกระรอกบาดเจ็บในมือ ที่ตอนนี้หายสนิท เธอจะจ้องมองกลับไปที่ราฟาเอลโร่ด้วยสายตกตะลึ่ง ปากพลางพึ่มพำว่า
"สายเวทย์พิเศษ"
ราฟาเอลโร่ยกนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากของตนเอง ก่อนที่จะกล่าวกับเธอว่า