อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม - องค์ที่ 29 มัดมือชก โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น,พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-หญิง,รัก,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกเทพ,พระเอกอบอุ่น,ปีศาจ,เทพเซียน,แอคชั่น,รักโรแมนติด,แฟนตาซี,ดราม่า

รายละเอียด

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม โดย Diamondink @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อดีตที่ฝั่งใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต ที่สร้างบาดแผลให้แต่ละคน มักจะเป็นตัวกำหนดตัวตนของคนๆ นั้นเสมอ ทุกคนจึงมีที่มาเป็นของตัวเองเสมอ เรื่องราวการผจญภัญของเด็กหนุ่มคนนึ่ง ที่ต้องพบพานกับการสูญเสีย การหักหลัง ความรัก และมิตรภาพ ร่วมลุ้นกับโชคชะตาที่แสนจะพลิกพลัน และการเติบโตไปพร้อมกับ ตัวละครที่จะพาคุณโลดแล่นสู้โลกของจินตการกัน

ผู้แต่ง

Diamondink

เรื่องย่อ


สารบัญ

The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 1 บทนำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 2 การจากลา และการพบพาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 3 การจากลา และการพบพาน 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 4 การปรับตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 5 การปรับตัว 2,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 6 การเรียนรู้,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 7 การบุกรุก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 8 ฆ่าหรือถูกฆ่า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 9 ช่วยเหลือ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 10 ขวาง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 11 เจ้าชายแห่งอคาด้า,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 12 มิตรภาพ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 13 สายสัมพันธ์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 14 แผนลวง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 15 พายุที่กำลังก่อตัว,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 16 พายุโหมกระหน่ำ,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 17 แสงแห่งนภา,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 18 ผู้มาเยือน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 19 พันธะโลหิต,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 20 สองสาวอาร์ชิบัส,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 21 1 วันก่อนการประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 22 การทดสอบขั้นพื้นฐาน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 23 การประลอง,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 24 มีอา เพดราก้อน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 25 มนูเอล บรอสมันด์,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 26 งานเลี้ยงประกาศตน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 27 อัลเบิร์ต ฟรอสทริก,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 28 ตัวตน,The Lost Wing สายเลือดต้องห้าม-องค์ที่ 29 มัดมือชก

เนื้อหา

องค์ที่ 29 มัดมือชก

และการเตรียมตัวที่วุ่นวายที่สุดในชีวิตก่อนการเข้าเฝ้าครั้งแรกก็เริ่มต้นขึ้น หลังจากการทำกิจวัตรประจำวันที่ทำเป็นประจำในช่วงเช้าของราฟาเอลโร่


ภารกิจถัดไปที่ต้องทำต่อจากนั้น คือการวัดตัว ที่ดยุค อัลเบิร์ต ฟรอสต์ก็กล่าวว่าจำเป็นต้องตัดอาภรณ์ใหม่ และใหนๆ ก็ตัดแล้วอัลเบิร์ตจึงสั่งตัดเสื้อผ้าอีกหลายชุด ให้กับราฟาเอลโร่ การเรียนรู้กฎประจำตระกูล การจดจำชื้อและใบหน้าของเหล่าข้าราชการสำคัญๆ มารยาทพื้นฐานในการเข้าสังคม และหลายต่ออย่างที่ทำเอาราฟาเอลโร่เริ่มหัวหมุน


และแล้ววันสำคัญที่รอค่อยก็มาถึง หลังจากถูกจับแต่งตัวด้วยเครื่องราชประจำตระกูลราวกับตุ๊กตา โดยใช้สีประจำตระกูลฟรอสติก ซึ่งเป็นสี ขาว ฟ้า และน้ำเงิน ดังนั้นชุดที่ราฟาเอลโร่สวมใส่ขึงเป็นสีขาวสลับฟ้า เขาเดินเคียงข้างอัลเบิร์ตในชุดเครื่องราชสีน้ำเงินสลับขาว ไปตามทางเดินที่นำไปสู่ท้องพระโรงทองคำอันเลืองชื่อที่ถูกสร้างแยกไว้สหรับการว่าราชกิจต่างๆ


ว่ากันว่าท้องพระโรงทองแห่งอคาด้า เป็นที่รวมตัวของเหล่าข้าราชบริพาร ทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายที่นี้ ซึ่งประกอบไปด้วยห้องพำนับประจำของข้าราชการลำดับขั้นต่างๆ เมื่อหิวจะสามารถตามหาถูกปากได้เลยที่นี้ แม้กระทั้งพื้นที่พักเพื่อคลายความเหนื่อยล้า


ดยุคอัลเบิร์ต ที่เข้าไปด้านในท้องพระโรงก่อน ผ่านอีกเส้นทางหนึ่ง ได้บอกให้ราฟาเอลโร่ยืนรอที่ประตูทางเข้าหลัก จนกว่าจะมีเสียงกล่าวเบิกตัวให้เข้าเฝ้า


  เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วยามได้ ราฟาเอลโร่นั่งค่อยอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย ก็ได้ยินเสียงขานนามของเขาดังขึ้น


เมื่อก้าวเข้าสู่ท้องพระโรงทองคำ ราฟาเอลโร่ก็พบกับเพดานทองคำที่จะสูงเฉดฟ้า ต้นเสาที่สลักเสลารูปภาพบอกเล่าเรื่องราวหลายสิบต้น ที่เรียงรายไปสู่บัลลังก์สัมฤทธิ์ ระหว่างกลางของเสาถูกขั้นด้วยโต๊ะของเหล่าข้าราชสักนัก โดยมีโต๊ะของดยุค ทั้ง 3 แหล่งอคาด้าที่ตั้งใกล้กับบัลลังก์สัมฤทธิ์มากที่สุด โดยมีทหารองครักษ์ประจำข้าราชการแต่ละคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง


และเมื่อสังเกตุให้ดีถัดจากเหล่าทหารองครักษ์ด้านหลังพวกเขาคือประตูที่เรียงรายจากทางเข้าทั่ง 2 ฟากฝั่งไปจนถึงบัลลังก์สัมฤทธิ์   


และเบื้องเขาในตอนนี้ ผู้ที่นั่งบนบัลลังก์สัมฤทธิ์ในตอนนี้ คือ องค์กษัตริย์แอเธอเรด บรอสมันด์ กษัตริย์ของเหล่ามวลมนุษย์แห่งอคาด้า ความน่าเกรงขาม เย่อหยิ่งเล็ก แต่ยังคงความน่านับถือที่แผ่ออกมาจะบุรุษเยื้องหน้า ที่เขาสามารถสัมผัสได้ยังคงเป็นเช่นเดิม  


หากแต่สายตาที่มองมาที่เขาในครานี้กับอ่อนโยนมากกว่า ทรงแย้มสรวนเล็กน้อยมาที่เขา


"สวัสดีหนุ่มน้อย ข้าดีใจที่ได้พบเจออีกครา เจ้าในตอนนี้เติบโตมาได้ดีเลยทีเดียว"


"ขอบพระทัยในพระกรุณา พะย่ะค่ะ"


"ในที่สุดตระกูลฟรอสติกก็พบเข้ากับผู้ที่เหมาะสมเสียทีสินะ"


"พะย่ะค่ะ ทรงเป็นกังวลกิจของตระกูลฟรอสติก หม่อมฉันซาบซึ้งใจกับพระกรุณายิ่งนัก"


"ดีแล้ว งั้นเราก็ควรเริ่มพิธีเลยเสียดีกว่า" 


"องค์กษัตริย์มอบเครื่องราชประจำตำแหน่ง"


เสียงกล่าวดำเนินพิธีการดังขึ้น พร้อมกับมีผู้คุกเข่ายื่นสิ่งของในทองพานให้กับแอเธอเรด สัญชาตญาณก็บอกเขาให้เข้าไปหาพระองค์ ราฟาเอลโร่เดินขึ้นบันไดของบัลลังก์สำเร็จ และคุกเข่าลงเบื้องพระพักตร์กษัตริย์แอเธอเรด ที่หยิบตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลฟรอสติก  


หากแต่ตรานี้เป็นเกล็ดหิมะทองคำ ต่างจากตราเกล็ดหิมะที่ทำขึ้นจากเพรชของอัลเบิร์ต แอเธอเรดติดติดตรานั้นที่หน้าอกด้านซ๊ายของราฟาเอลโร่  


"ข้ายินดีที่ได้เด็กหนุ่มอย่างเจ้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิ"


"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ"


ต่อด้วยการลงนามอะไรสักอย่างขององค์กษัตริย์ในเอกสารสำคัญที่แอดเธอเรดมอบให้พระองค์ลงนามด้วยตัวเขาเอง


"ราฟาเอลโร่ ไบร์ ได้ถูกอวยยศศักดินาให้เป็น ลอร์ดราฟาเอลโร่ ไบร์ ฟรอสติก ผู้สืบทอดของตระกูลฟรอสติกนับแต่นี้ไป"


ราฟาเอลโร่ที่ก้าวถอยหลังลงจากบัลลังก์สัมฤทธิ์ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมองราชาแอเธอเรด และต่อด้วยมองไปยังดยุกอัลเบิร์ต พร้อมกับเรื่องข้องใจต่างๆ ก่อนหน้าที่พุดเข้ามาในหัวของเขา ทุกอย่างตอนนี้ต่างสมเหตุสมผลแล้ว


ก่อนที่จะเดินไปยืนเคียงข้างอัลเบิร์ต พร้อมกับความคิดอีกหลายอย่างที่พุดเข้ามาในหัว  


ราวกับถูกมัดมือชก หลังจากพิธีสถาปนาราฟาเอลโร่ก็ได้พูดคุยกับดยุคอัลเบิร์ต อีกครั้งเพื่อหยั้งรู้ถึงเจตนาของเขา และได้รับรู้ความจริงเรื่องที่ว่า เขาสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก พร้อมกับการที่เขาไม่สามารถมีทายาทได้อีกแล้ว ราฟาเอลโร่มองชายที่ไร้หนทางเบื้องอย่างจับจิต การสูญเสียผู้เป็นที่รักเขาเข้าใจมันดี  


ทำให้การร้องขอของดยุคอัลเบิร์ตสำหรับราฟาเอลโร่แล้วนั้นช่างยากที่จะปฎิเสธ ดยุคอัลเบิร์ตเอง ก็ให้คำมั่นว่าจะไม่ผูกมัดหากวันนึ่งที่เขาต้องการจะคืนศักดินา และกล่าวว่าฐานันดรนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเขา ซึ่งราฟาเอลโร่ก็ยอมรับว่านั้นคือเรื่องจริงเมื่อมองถึงเหตุผลหลายๆ อย่าง และในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงแรงกดทับของน้ำหนักบนบ่าทั่งสองข้างที่เพิ่มขึ้น


หลังพิธีสถาปนาผ่านพ้น ราฟาเอลโร่ก็ต้องเข้ารับการเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง และหน้าที่ของลอร์ดที่เป็นผู้สืบทอด และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจ  


และยามว่างเวลาส่วนใหญ่ราฟาเอลโร่จะใช้ไปกับอลูคาร์ ที่เมื่อเจ้าชายแห่งอคาด้าอยู่ที่ใดก็เป็นเห็นราฟาเอลโร่อยู่ด้วนกัน ซึ่งเป็นเวลาก่อนเปิดภาคเรียนที่ใกล้เข้ามา


และสิ่งที่ทำให้ราฟาเอลโร่แปลใจมากก็คือ ข่าวคราวเรื่องการรับอวยยศของเขาดูเหมือนจะแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ เพราะทุกที่ที่เขาและอลูคาร์ไปเยือน ต่างมีฝูงชนจำนวนมากอ้อมล้อมและให้ความสนใจ


แต่ก็ไม่แปลกเลยที่ผู้คนจะรู้ว่าได้ในทันทีว่าทั้งสองอยู่ ณ แห่งหนใด


"อุ้ยนั่น ดูนั่น ใช่นักเพลิงของท่านลอร์ดราฟาเอลโร่หรือไม่"


"ใช่ๆ ไปทางด้านนู้นแล้วไปกันเถอะ ข้าอยากเห็นใบหน้านั้นสักครั้ง ได้ยินว่างดงามหาตัวจับยากยิ่งนัก"


"ใช่งามเพียงใบหน้าเท่านั้น แต่รูปร่างก็ช่างสมชายชาตรี หากได้เข้าไปอยู่อ้อมกอดนั้น คงทำเอาข้าแทบจะละลายเลยละ"


"ใช้เพียงท่านลอร์ดเพียวผู้เดียวเสียที่ไหน" 


"ใช่ ท่านอลูคาร์เจ้าชายของเราก็ใช่ย่อย ดูเหมือนเมื่อมีพระสหายข้างกาย ก็ทรงเสด็จออกนอกวังบ่อยขึ้นมาก เป็นบุญตาของพวกเรายิ่งนัก"


นั้นคือเหตุผล เมื่อครั้นได้พบฟินิตี๊ที่ส่งเสียงบินโฉบนำทาง หนุ่มสาวน้อยใหญ่ก็ต่างจะพากันกรูไปในทิศทางนั้น เพียงเพื่อจะได้พานพบท่านลอร์ดคนใหม่ และเจ้าชายรองแห่งอคาด้า


แม้กระทั่งในวันเปิดภาคเรียน ทั้งคู่ก็กลายเป็นเพรชสีหมึกที่ถูกจับตามองมากที่สุด แต่เมื่อมีคนรักฉันใดก็ย่อมมีคนเกลียด และริษยาฉันนั้น  


เนื่องด้วยอคาด้าเป็นประเทศเปิด หลายเชื้อชาติ ภาษา หลายศักดินา ซัสทรารัสจึงเป็นที่แห่งหนึ่งที่รวมตัวของคนหลายชนชั้นเช่นกัน เจ้าชายบางประเทศจึงมีดูแคลนการคบหาระหว่างเจ้าชายอย่างอลูคาร์ และคนไร้หัวนอนปลายเท้าอย่างราฟาเอลโร่แม้จะได้รับการอวยยศ


"เจ้าชายอลูคาร์และท่านลอร์ดไม่ผ่านระแวกนี้บ้างหรือ ข้าละอยากเห็นใบหน้าของทั้งคู่เพื่อเป็นแรงใจเสียหน่อย"


"แต่ข้าได้ยินคับคล้ายคับคลามาว่า ทั้งคู่คบหาดูใจกัน ืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืื และไม่พึ่งใจในอิสตรี"


"เรื่องเท็จแน่ แลดูทั้งคู่ซิราวกับสวรรค์ประทานพรเช่นนั้น มีทั้งรูปโฉม ฝีมือเองก็เป็นเลิศ"


"แต่ก็ไม่เคยเห็นทั้งคู่จะสนใจใคร่รู้ในอิสตรีใดเลยใช่หรือไม่"


"ก็จริง หรือตะใช่เรื่องจริงงั้นหรือ"


เสียงพูดคุยของกลุ่มสตรีที่ดังมาจากอีกฝากฝั่ง แม้เป็นเรื่องบังเอิญที่ทั้งคู่กำลังจะผ่านหัวมุมนี้ไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของกลุ่มสตรีทีี่กำลังนั่งจับกลุ่มพูดคุยเรื่องของพวกเขา จนทั้งคู่ที่ตอนนี้หลังพิงกำแพงต้องมองหน้ากันและกัน ราฟาเอลโร่ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่


"ในเรื่องเลยเถิดถึงเพียงนี้ อันที่จะเราเพียงแค่จีบหญิงสักคน เรื่องก็จบจริงไหม"


"อลูคาร์ข้ามิได้คิดว่าการใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือจะเป็นความคิดที่ดีเสียเท่าไร"


"แล้วเจ้าจะทำเยี่ยงไร"


"ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเองไม่ดีกว่าหรือ ข้าว่าสักพักก็คงจะดีขึ้น"


"เอางั้นก็ได้ แต่เสียอย่างไรข้าขอโปรยเสน่ห์เสียบางเผื่อจะทำให้ทุกอย่างจบลงได้เร็วขึ้น"


ราฟาเอลโร่ที่มองหน้าของตนได้แต่ยิ้นแหยงๆ ให้กับความคิดของอลูคาร์ พร้อมกับเสียงในใจ (เจ้าอยากทำอันใดก็ทำเลย ข้าเหนื่อย)


ก็ที่ทั้งคู่จะปรากฎตัวต่อหน้ากลุ่มอิสตรีเหล่านั้น เพื่อเดินผ่านไปในขณะเดียวกันก็ส่งรอยยิ้มสายตาหวานหยดย้อย ในขณะที่ราฟาเอลโร่ที่ได้แต่มองการกระทำนั้น ด้วยสีหน้าเรียบเฉย