ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?) - บทที่ 2 โดมินิค โดย L'Amour Sangria @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค,18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL

รายละเอียด

ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

ผู้แต่ง

L'Amour Sangria

เรื่องย่อ

         "นี่มันอะไรกันวะ"

          ดอมเข่าอ่อนทรุดตัวลงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงระเบียงที่เขาวิ่งออกมาเจอ เขานั่งมองท้องฟ้าสลับกับเมืองยุโรปโบราณด้านล่างอยู่นานสองนานจนหมดแรง ดอมนั่งสำรวจตั้งแต่นิ้วมือไปจนถึงร่างกาย สองขาของตัวเอง แม้เขาจะไม่ต้องใส่แว่นก็มองได้อย่างชัดเจน ก็เพราะนี่ไม่ใช่ร่างกายของเขายังไงล่ะ





สารบัญ

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 1 ดอมดม,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 2 โดมินิค,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.1 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.2 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.1 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.2 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 5 แอรอน,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 6 อาเคเซีย,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.1 Bloody Mary ,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.2 Bloody Mary (NC18+) Theodore + Aron,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 8 คำสัตย์ปฏิญาณ

เนื้อหา

บทที่ 2 โดมินิค


เรย์ เฟริกซ์ เด็กหนุ่มรูปงาม ลักษณะนิสัยเป็นคนสุภาพอ่อนน้อม สดใสร่างเริง บุตรชายของขุนนางตระกูลชนบท ที่ขยันขันแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลเขตปกครองที่ได้รับมอบหมาย แม้พื้นที่ๆ ตระกูลเฟริกซ์ดูแล จะห่างไกลเมืองหลวงและความเจริญ แต่ผู้คนในเขตปกครองก็ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี พ่อของเรย์ก็เป็นเจ้าเมืองที่ประชาชนรักใคร่ เป็นเมืองชายแดนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และสงบสุข



หนึ่งร้อยวันก่อนวันครบรอบการสถาปนาอาณาจักรไรออนเทีย ราชสารจากเมืองหลวงถูกส่งมาให้เขตปกครองของตระกูลเฟริกซ์ เป็นการเชื้อเชิญให้เจ้าทุกหัวเมือง มาร่วมสรรเสริญและยินดีกับวันครบรอบการก่อตั้งอาณาจักร บิดาที่เป็นเจ้าเมือง มารดา เรย์ น้องชายและน้องสาว พากันเก็บข้าวของที่ใช้สำหรับเดินทางและถวายแด่องค์ราชา ใส่เกวียนและรถม้าก่อนพากันเข้าเมืองหลวงตามหมาย



เนื่องจากเขตปกครองห่างไกลจากเมืองหลวงมาก จึงต้องใช้เวลากว่าสองเดือนว่าจะถึง เป็นครั้งแรกที่เรย์และน้องๆ ได้เห็นความใหญ่โตโอ่งอ่าของเมืองหลวงเต็มสองตา จากที่เคยได้ฟังเรื่องเล่าจากเหล่าพ่อค้าจรเทียบไม่ได้เลยกับการที่ได้มาสัมผัสประสบการณ์ในสถานที่จริง ครอบครัวเฟริกซ์แต่งตัวสุภาพกันเต็มยศ เตรียมพร้อมเพื่อเข้าเฝ้าพระราชาที่เป็นผู้ปกครองอาณาจักร ภายในปราสาทราชวังไรออนเทีย ช่างหรูหรา เครื่องเรือนตกแต่ง ล้วนมีแต่สีสันประดับอยู่ทั้งสิ้น เหล่าผู้คนแต่งตัวโดดเด่นประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร



เมื่อถึงเวลาได้เข้าเฝ้าองค์ราชาอเล็กเซย์ พวกเขาก็ได้พบกับชายแก่ผิวพรรณเหี่ยวย่นตามอายุ ผมหงอกที่ยาวประบ่าประดับด้วยมงกุฎสีทองฝังมณีสีแดงเม็ดใหญ่ พระราชาที่แก่เฒ่า ทอดมองลงมาจากบนบัลลังก์ แม้เสื้อผ้าจะประดับประดาด้วยอัญมณี เพชรพลอย ที่ไม่ว่าจะหรูหราแค่ไหนก็ไม่สามารถกลบความสูงวัยและอ่อนแอตามอายุของราชาได้ ด้านขวามือของราชา มีชายหนุ่มท่าทีหยิ่งยโสมองทุกคนด้วยสายตาเบื่อหน่าย กับด้านซ้ายมีสตรีสูงศักดิ์วัยกลางคนที่แต่งองค์ทรงเครื่องยิ่งกว่าสตรีทุกนางที่ได้เห็นในวัง ยืนเชิดหน้าคอตั้งระหงส่งสายตาดูถูกทุกคนที่ผ่านเข้ามาในดวงตา



องค์ราชากล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย ก่อนบิดาของเรย์จะนำของบรรณาการ เป็นอัญมณีสีฟ้าจากเหมืองแร่ประจำตระกูลส่งมอบให้กับมหาดเล็ก ก่อนเขาจะนำมันไปให้ราชาได้ชมใกล้ๆ แล้วจึงนำไปเก็บ ก่อนที่ครอบครัวเรย์จะขอตัวและออกจากห้องเข้าเฝ้าไป เรย์สัมผัสได้ถึงสายตาอันหน้าขนลุกที่กษัตริย์เฒ่ามองมายังตน แต่เขาก็เก็บเอาเรื่องนั้นไว้ในใจไม่บอกใคร เรย์คิดว่าตนอาจจะรู้สึกไปเอง ด้วยความที่เขาถูกปลูกฝังให้วางตัวเป็นผู้ใหญ่ ไม่ควรคิดหรือตั้งแง่กับผู้อื่น ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าพวกเขาแล้ว หากทำอะไรขัดใจไป อาจทำให้เกิดผลกระทบตามมาภายหลังได้



หลังจากที่งานฉลองเสร็จสิ้น เจ้าเมืองทุกคนและครอบครัวได้เข้าพักในห้องภายในพระราชวังอันหรูหรา ตามที่ทางวังจัดไว้ให้ และในคืนนั้นเองก็เป็นคืนที่ชีวิตของเรย์เปลี่ยนไปตลอดกาล



เรย์ ถูกวางยาสลบและลักพาตัวมายังที่ๆ ไม่รู้จัก เขาถูกขังไว้ในห้องแคบประมาณ สองรถม้า พื้นที่เป็นวงกลมห้อมล้อมไปด้วยกำแพงสูงเกินกว่าคนธรรมดาจะปีนขึ้นไปได้ หน้าต่างที่เป็นช่องให้แสงลอดผ่านมาได้ทางเดียวก็อยู่สูงขึ้นไปอีกจนแทบชนเพดาน ในห้องมีแค่เตียงเก่าๆ โต๊ะกับเก้าอี้ไม้ พร้อมเชิงเทียนหนึ่งอัน แต่ที่หน้าตกใจกว่าคือที่ขาขวาของเขา มีโซ่เหล็กพันธนาการขาเอาไว้อย่างแน่นหนา ที่รูกุญแจเหล็กตรงขาของเรย์สลักรูปดอกลิลลี่เล็กๆไว้อยู่ จากนั้นประตูบานสวยรูปดอกลิลลี่สีฟ้าก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นชายแก่ที่ตอนนี้สวมเพียงชุดนอนแขนงุ้มสีขาว เดินตรงเข้ามาหาเรย์



"ข้าถูกใจเจ้า" เสียงชายแก่แหบพร่าที่ได้ยิน เป็นเสียงเดียวกับที่เรย์เคยได้ยินก่อนหน้านี้ไม่ผิดแน่ นั้นเป็นเสียงของราชาจากอาณาจักรโอบีออน พระราชาเฒ่าอเล็กเซย์



เรย์ถูกโดนจับไปเป็นทาสบำเรอกามให้กับตาเฒ่าอเล็กเซย์ตัณหากลับ โดยเขาโดนข่มขู่ว่า ถ้าขัดขืนหรือพยายามจะหนี เงินสนับสนุนทั้งหมดที่ส่งไปให้เขตปกครองของตระกูลเฟริกซ์จะถูกยกเลิก เรย์ไม่รู้ว่าลมปากของตาเฒ่าน่ารังเกียจนี้จะจริงแท้แค่ไหน แต่เขาก็ไม่อาจหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ชะตากรรมอันเลวร้ายของเรย์ที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นยังดำเนินต่อไปอย่างยาวนานไม่รู้วันคืน ยิ่งเฒ่าบ้ากามถูกใจเรย์มากเท่าไหร่ ก็เหมือนเขาจะแตกสลายเข้าไปทุกที มีหลายครั้งที่เรย์จะจบชีวิตตัวเองด้วยเชิงเทียนปลายแหลมที่เป็นของใช้ชิ้นเดียวที่ตั้งอยู่ในห้อง แต่เมื่อเขานึกถึงหน้าครอบครัวที่ต้องกำลังตามหาเขาอยู่ เรย์ก็หยุดสิ่งที่กำลังจะทำทันที



เรย์จะได้รับอาหารแค่ตอนที่ต้องปรนนิบัติราชาเฒ่าเท่านั้น และตั้งแต่ที่ราชาเฒ่าถูกวางยาพิษจนติดเตียง เรย์ก็ถูกขังลืมอยู่ในห้องแคบๆ นานกว่า 3 อาทิตย์แล้ว โดยไม่ได้รับข้าวและน้ำอีกเลย







ณ ห้องบรรทมที่ใหญ่ที่สุดในปราสาทหลัก ซึ่งเป็นห้องของใครไปไม่ได้นอกเสียจากผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน นั้นคือพระราชาอเล็กเซย์แห่งอาณาจักรไรออนเทีย พระราชาแก่สูงวัย กำลังนอนสงบนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียงที่รายล้อมด้วยข้ารับใช้ ที่ปรึกษา และพระราชินีที่มาเข้าเฝ้าแทบทุกวัน

สาเหตุที่ทำให้เจ้าแผ่นดินกลายเป็นเจ้าชายนิทราเนื่องจากพระองค์ถูกลอบสังหารโดยการวางยาพิษ ซึ่งพิษที่ได้รับก็ร้ายแรงมากพอที่จะทำให้พระราชาไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย พิษดังกล่าวก็ถูกค้นพบว่าได้นำเข้ามาจากอาณาจักรฟามาเนีย พิษชนิดนี้ยังไม่ถูกตั้งชื่อ แต่มีความร้ายแรงขนาดที่ไม่มียารักษาหรือยาถอนพิษที่ผลิตได้ในอาณาจักรโอบีรอน ทำได้เพียงร้องขอให้อาณาจักรต่างแดนผลิตและนำส่งมาให้เท่านั้น แต่ด้วยความที่ทั้งสองอาณาจักรอยู่ห่างไกลกันมาก ปกติต้องใช้เวลาเป็นปีในการสั่งผลิตและขนส่ง หรือต่อให้ได้เร็วที่สุดก็ใช้เวลาร่วม 6 เดือน เหล่าแพทย์หลวงและบริวารได้พยายามค้นหากันแทบพลิกแผ่นดินแล้ว แต่ก็ไม่พบสักหยดของยาถอนพิษหรือการนำเข้าพิษจากทุกช่องทาง ตอนนี้เลยทำได้แค่ให้นักบวชจากทางลัทธิ นิกายอามิทิสซ์มาสวดภาวนาให้ร่างกายพระราชาแข็งแรงขึ้นเพื่อให้ต่อสู้กับพิษได้เท่านั้น

ข้ารับใช้หลวงรีบวิ่งเข้ามาในห้องบรรทมของพระราชา เดินตรงเข้าไปหา ดยุคโยฮัน ฟาบริซ ที่ปรึกษาส่วนพระองค์ ควบตำแหน่งหัวหน้าราชเลขา มีศักดิ์เป็นพ่อแท้ๆของธีโอดอล

โยฮัน รับฟังคำกระซิบของข้าหลวง ก่อนที่ใบหน้ามีริ้วรอยของเขาจะขมวดเข้ากันยุ่ง เขาดันแว่นกรอบหนาขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่โยฮันจะหันไปแจ้งกับสตรีที่เฝ้าอยู่ข้างเตียงของพระราชา ราชินีอาเคเซียว่า

"ฝ่าบาท ขณะนี้ รัชทายาทโดมินิคมาขอเข้าเฝ้าองค์ราชาพ่ะย่ะค่ะ" โยฮันเอ่ย ความเป็นกังวลเผยออกมาบนใบหน้าไม่สู้คนอย่างชัดเจน

ราชินีได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แม้จะเป็นท่านหญิงที่มีอายุแล้ว แต่ทั้งรูปร่างและหน้าตาก็งดงามราวหญิงสาวแรกรุ่น ใบหน้าที่ไม่มีแม้แต่รอยเหี่ยวย่น ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางพื้นหนา เนินอกที่อวบอิ่มถูกดันทรงขึ้นมาด้วยชุดเดรสคอเซ็ตรัดรูปสีม่วง กระโปรงสุ่มไก่สีม่วงอ่อนประดับด้วยลิ่มทอง ทำให้ช่วงสะโพกและเอวของนางคดกิ่วเหมือนรูปทรงนาฬิกาทราย ปากแดงระเรื่อยกยิ้ม ก่อนจะเดินไปยังปลายเตียงเพื่อรอรับลูกชายที่กำลังจะเข้ามา

ประตูห้องถูกเปิด รัชทายาทโดมินิค สวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำกับรองเท้าหนังไม่เข้าชุด ในสภาพเมามาย ผมเผ้าชี้ฟู หนวดเครารุงรัง เดินตรงไปที่เตียงนอนของพระราชาทันทีไม่สนผู้ใด

ราชินีผู้เป็นแม่เอ่ยต้อนรับลูกชาย

"โดมินิค ลูกรักของแม่ แม่แปลกใจจริงๆ ที่ลูก..." แต่ไม่ทันที่นางจะพูดจบประโยค ก็ต้องหยุดไปเนื่องจากลูกชายที่นางทักทาย ไม่แม้แต่จะหยุดฟังคำพูดของนางเลย รัชทายาทโดมินิคตรงปรี่เข้าไปประชิดเตียงของราชาอเล็กเซย์ผู้เป็นพ่อ ก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงและตระครุบกอดพ่อของตนเอาไว้

"แง่~ ท่านพ่อ ลูกไม่นึกเลยว่าท่านจะนอนป่วยเป็นผักขนาดนี้ ลูกผิดไปแล้ว ลูกมาเยี่ยมช้าไป ลูกมาเยี่ยมแล้วนะ ทั่นพ่อววววววว" ดอมในร่างองค์รัชทายาท ร้องไห้ตะโกนโวยวายราวเก็บเด็กน้อยอยากได้ของเล่น แสร้งว่ากำลังเสียใจอย่างสุดซึ่งอย่างออกนอกหน้า ทำเอาข้ารับใช้ และผู้ติดตามของพระราชาต่างอยู่ในท่าทีตื่นตระหนก แทบจะเรียกได้ว่าทุกที่ๆ ดอมได้ไปเยือน เต็มไปด้วยผู้คนที่รู้สึกหวาดผวาและประหลาดใจกับพฤติกรรมแปลกๆ ของรัชทายาทเลยก็ว่าได้

ในขณะที่ดอมกำลังทำเป็นเล่นใหญ่เสียใจที่พ่อป่วยอยู่นั้น มือก็รีบควานหา กุญแจดอกลิลลี่ ที่ถ้าจำไม่ผิด น่าจะแขวนอยู่ที่คอของพระราชา ซึ่งก็จริงตามคาด ดอมกระตุกเบาๆ ดึงเอากุญแจออกมาและซ่อนมันเอาไว้ในอกเสื้อทันทีก่อนจะลุกขึ้นออกจากเตียงพระราชาไป

ดอมพึ่งนึกได้ว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ตนพึ่งเดินผ่าน นางเรียกตัวเองว่าแม่ และเรียกเขาว่าลูกชาย แน่นอนที่สุด เธอคนนี้ต้องหนีไม่พ้น หนึ่งในบอสย่อยของเกมที่ดอมเคยเล่น พระราชินีผู้เลี้ยงสุนัขดุร้าย อาเคเซีย ไรออนเทีย

"ขอพระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองขอรับ ท่านแม่ ลูกมัวแต่เป็นห่วงท่านพ่อ จนลืมทักทาย วันนี้ท่านแม่ก็ทรงงดงามและเยาว์วัยเช่นเคยนะขอรับ" ดอมกล่าวพร้อมก้มหัวและยกปลายเสื้อคลุมอาบน้ำทั้งสองข้างขึ้นน้อยๆ สร้างความขบขันให้กับข้ารับใช้ที่ได้เห็น บางคนถึงกับแอบหัวเราะในลำคอจนถูกหัวหน้าผู้รับใช้ห้ามปรามด้วยสายตา

ดอมตั้งใจทำ เขาพยายามทำตัวให้แปลกประหลาดคล้ายคนเมาไร้สติให้มากที่สุด จะได้ไม่ถูกสงสัยถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เพราะก่อนเข้ามา ธีโอดอลก็พูดอยู่ว่า ตั้งแต่ที่พระราชาป่วย ดอมที่เป็นลูกชายแทบไม่เคยไปหาหรือไปเยี่ยมเลยสักครั้ง การไปหาครั้งนี้ต้องสร้างความประหลาดใจให้ไม่น้อยเป็นแน่ จากคำพูดของธีโอถ้าให้ดอมแปลตรงตัวคงประมาณว่า นายกำลังทำตัวแปลกสุดๆเลยนะ ทุกคนต้องระแวงนายแน่นอน

ดอมเลยแกล้งเป็นคนเมาแล้วเรื่อนไปทั่วซะเลย

"ไม่เจอกันนาน ลูกชายข้าปากหวานขึ้นเหลือเกิน แม่ได้ยินว่าเจ้าสั่งยกเลิกการประหารชีวิตเหล่าข้าหลวงงั้นหรอ เกิดอะไรขึ้นเล่าลูกชาย" อยู่ๆ ราชินีก็ยิงคำถามที่ไม่คาดฝันออกมา นางคิดอะไรถึงมาถามเรื่องจริงจังกับคนเมาได้

"โอ้ย ท่านแม่ จะฆ่าตอนนี้หรือตอนไหนก็มีค่าเท่ากันขอรับ ลูกแค่จะเก็บพวกมันไว้ดูเล่นอีกสักหน่อยเท่านั้น อย่าใส่ใจในความรักสนุกของลูกเลย" ดอมแถที่สุดเท่าที่ทำได้ พยายามนึกว่าถ้ารัชทายาทคนก่อน อยากจะไว้ชีวิตผู้อื่นควรจะต้องมีเหตุผลที่ไร้สาระแบบไหนถึงจะดูสมกับเป็นขยะเปียกได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น

ราชินียกยิ้มน้อยๆ ทำหน้าหน่ายว่าเข้าใจ

"ตามที่ลูกต้องการเลย แต่อย่าให้ช้านักล่ะ รีบเร่งหาตัวคนผิด ก่อนมันผู้นั้นจะก่อเหตุซ้ำอีก" ราชินีพูดทิ้งท้ายก่อนหันหลังเดินออกจากห้องไปอย่างนางพญา ข้ารับใช้ผู้ติดตามราชินีก็ตามออกไปเช่นกัน

เมื่อดอมทำตามเป้าหมายของตัวเองในการไปเอากุญแจเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าสู่แผนต่อไป เขาออกมานอกห้องที่มีธีโอดอล เลขาส่วนตัวยืนรออยู่ ดอมเห็นธีโอ ความอดทนของอาการปวดหัวทั้งหมดที่เขาอดกลั่นเอาไว้ก็แสดงออกมา ดอมเซไม่เป็นท่าจนผู้เป็นเลขาต้องรีบวิ่งเข้าไปประคอง

"ธีโอ เราปวดหัวมาก อยากพักที่ปราสาทแห่งนี้ ช่วยเตรียมที่พักให้เราที เราอยากพักห้องที่มีประตูสีเขียว ลายดอกกุหลาบสีทอง ต้องเป็นห้องนี้เท่านั้น ห้องอื่นเราไม่ยอม" ดอมที่ปวดหัวจริงแต่ก็แกล้งๆ เล่นใหญ่ด้วย ร่ายยาวถึงความต้องการอันแปลกประหลาดของตัวเอง ทำไมไม่ไปพักในวังของตัวเอง ทำไมต้องเป็นประตูสีเขียวลวดลายดอกกุหลาบสีทองด้วย ธีโอดอลได้แต่ตั้งคำถามในใจ

"ฝ่าบาท ทางวังมีห้องที่จัดไว้ดีกว่านั้นเพื่อรับรองอยู่ ให้ข้าพาไปที่นั้น..." ธีโอพยามจะอธิบาย แต่ดอมเองก็โวยวายไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"ไม่เอาๆ เราบอกแล้วไงว่าไม่ยอม ทำไมเจ้าถึงขัดใจเราเลขา เราเป็นรัชทายาทเลยนะ พอกันที เราปวดหัว คืนนี้เราจะนอนที่ห้องนั้น" ดอมใช้อำนาจของตำแหน่ง กับการพูดไม่รู้เรื่องของคนเมาเพื่อผ่านสถานการณ์นี้ และก็สำเร็จดังหวัง

ธีโอดอลหันไปหาหัวหน้าข้ารับใช้ก่อนจะพยักหน้าให้เขานำทางไปยังห้องรับรองประตูสีเขียว ลวดลายกุหลาบสีทอง ซึ่งแน่นอนข้ารับใช้ทุกคนรวมถึงตัวธีโอดอลเองก็แปลกใจ เนื่องจากห้องรับรองในปราสาทของพระราชาที่มีดอกไม้ประดับที่ประตูทุกห้องส่วนใหญ่ จะเป็นที่พำนักของเหล่าท่านหญิงคนสนิทของพระราชา หรืออีกในคือเหล่านางคณิกา ที่พระราชาเรียกให้มาปรนนิบัติ ซึ่งตามจริงไม่ค่อยจะมีราชนิกูลเข้าไปพักเลยด้วยซ้ำ

แต่ก็ไม่มีใครสามารถขัดใจองค์รัชทายาทหนึ่งเดียวของอาณาจักรได้ ธีโอดอลพาดอมเข้าไปถึงในห้องดังกล่าวก่อนจะพาไปที่เตียงนอน ซึ่งทันทีที่หัวถึงหมอน ดอมก็รีบไล่ทุกคนให้ออกไปจากห้อง

"ไปให้พ้นเลยทุกคน อย่าโผล่หน้ามาให้เห็นถ้าเราไม่ได้เรียก ไม่งั้นจะประหารให้หมด" ดอมชี้มือขึ้นฟ้าพันกันยุ่ง ธีโอดอลรู้ดีว่าดอมไม่ได้เมาเพราะตั้งแต่เช้าดอมกินแค่ยาของที่ลูเซียนให้ไว้ ก่อนจะมาที่นี้เขาก็ดูสงบนิ่งดี แต่พอมาถึงที่ปราสาทของราชาเขาก็กลายเป็นคนเมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ธีโอได้แต่พยายามหาคำตอบอย่างเงียบๆ

"หากต้องการอะไรเพิ่มเติมโปรดรับสั่งได้เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะเฝ้าอยู่ด้านนอก"

ธีโอดอลกล่าวก่อนออกจากห้องไป หลังจากนั้นดอมก็เผลอหลับไปจริงๆ

ดอมสะดุ้งตัวตื่นขึ้นกลางดึกเพราะความหิว จะว่าไปวันนี้เขาก็แทบจะไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย เขาลุกขึ้นไปกินน้ำที่อยู่หัวเตียง ก่อนจะหยิบกุญแจที่อยู่ในอกเสื้อออกมา ดอมหายปวดหัวแล้ว และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ดึกพอจะไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายกับเขาอีก ถึงเวลาที่ดอมจะทำตามแผนที่วางไว้

ในห้องรับรองนี้จัดว่าหรูหราพอสมควร มีห้องแยกในตัว แบ่งเป็นห้องนั่งเล่นที่อยู่หน้าประตู ห้องน้ำ ห้องนอนและห้องแต่งตัวที่อยู่ในห้องนอนอีกที ตามเกมที่ดอมเคยเล่นมา ในห้องรับรองที่มีประตูสีเขียวลวดลายบนประตูเป็นรูปดอกกุหลาบสีทอง จะเป็นทางเข้าไปยัง เส้นทางลับ ซึ่งเป็นทางที่เชื่อมกับห้องลับของปราสาทซ่อนอยู่

สภาพของห้องตอนนี้ไม่ค่อยต่างจากในเกมมากนัก ดอมเดินไปที่ห้องแต่งตัว เขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าด้านในเป็นตู้ไม้โล่งๆ ที่ไม่มีแม้แต่ราวแขวนผ้า มองเข้าไปที่มุมหลังตู้ด้านขวา จะเห็นรอยเว้าที่ทำให้พื้นไม้ดูไม่เสมอกันอยู่ ดอมเอื้อมมือไปดึงออกแรงนิดหน่อย พื้นไม้หลังตู้เสื้อผ้าก็เปิดออกเผยให้เห็นว่าด้านหลังแผ่นไม้เป็นช่องทางเดินยาว ที่สูงและกว้างพอดีตัวคนอยู่ ดอมเห็นว่าทางเดินนั้นมืดมากไม่มีแสงรอดมาแม้แต่น้อย ดอมจึงหันไปคว้าตะเกียงที่อยู่ในห้องแต่งตัวและพกมันไปด้วย

ช่องทางยาวที่ล้อมรอบไปด้วยอิฐ ถึงจะมืดมากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีแสงลอดเลยทีเดียว ทุกระยะทางประมาณสองเมตร จะมีอิฐก้อนหนึ่งถูกดึงออกซึ่งอยู่ระดับสายตาคนพอดี มองออกไปในช่องที่อิฐหายไปจะพบวิวด้านนอกปราสาท ซึ่งปกติกำแพงปราสาทควรจะหนาพอสมควรเพื่อความแข็งแกร่ง แต่กำแพงตรงส่วนนี้คงจะทำให้กลวงเพื่อให้ใช้เป็นทางเดินลับได้ ดอมเดินจนไปเจอบันได ห้องที่ดอมพักอยู่ที่ชั้นสาม หากขึ้นบันไดไปก็จะเป็นชั้นสี่ ซึ่งเป็นชั้นที่มีของห้องบรรทมของกษัตริย์อยู่พอดี

ดอมขึ้นบันไดไปและเดินไปตามทางเรื่อยๆ จนเจอทางแยกถูกแบ่งไปสามทาง ซึ่งดอมรู้ดีอยู่แล้วว่าแต่ละทางจะพาไปยังที่ไหนจากในเกมที่เขาเล่น ทางแยกแรกถูกประตูสีแดงลายดอกกุหลาบขวางอยู่ซึ่งมันถูกล็อคไม่สามารถเปิดได้

  แต่ถ้าเปิดได้มันจะเชื่อมตรงเข้ากับห้องบรรทมของพระราชาพอดี ทางซ้ายเป็นทางเดินยาว ถ้าเดินต่อไปอีกจนสุดทาง ก็จะเจอประตูดอกโบตั๋นแต่เขายังเข้าไปไม่ได้เพราะยังไม่มีกุญแจไขปลดล็อคประตู ส่วนทางที่สามเป็นบันได และทางที่สามนี้เองคือเป้าหมายของดอมในตอนนี้ ที่เขาแกล้งทำมาทั้งหมดเพื่อไปเอากุญแจและเข้าพักที่ปราสาทพระราชาก็เพียงเพื่อจะช่วยเหลือคนๆ หนึ่ง ที่เขารู้จักดีจากในเกมที่เขาเล่น ตัวละครที่มีภูมิหลังแสนเศร้า ขนาดที่ทำเอาช่องแชตรวมถึงตัวดอมด้วยนั่งซึมกันเป็นวันๆ ทันทีที่ดอมตื่นมาในร่างนี้และตั้งสติได้ถึงปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ดอมก็คิดได้เลยว่านี้เป็นสิ่งแรกที่เขาต้องทำให้เร็วที่สุด

ดอมขึ้นบันไดไปจนถึงขั้นสุดท้าย เขาเจอกับประตูสีฟ้าลวดลายดอกลิลลี่ ดอมใช้กุญแจดอกลิลลี่ที่ขโมยมาจากราชา ปลดล็อคประตู ก่อนจะเดินในห้องแคบๆ ด้านใน กลิ่นฝุ่นและความอับชื้นลอยฟุ้งออกมา ในห้องที่ไฟตะเกียงส่องถึง เห็นเพียง โต๊ะเก่าๆ เตียงที่ดูผุพัง และบานหน้าต่างที่อยู่สูงเกินกว่าจะปีนถึง เขาเดินตรงไปที่เตียง พยายามทำใจกับสิ่งที่กำลังจะเห็นอยู่ตรงหน้า เขาภาวนาในใจขอแค่เพียงอย่างเดียว ขอให้เขามาทันเวลา ขอให้คนตรงหน้าของเขา ยังมีชีวิตอยู่ ก็เพียงพอแล้ว

  บนเตียงไม้เก่าๆ ที่มีสภาพยับเยิน มีร่างๆ หนึ่งนอนนิ่ง ร่างนั้นผอมแห้งจนแม้แต่ชุดเดรสสีขาวแขนยาวงุ้มก็ปกปิดเอาไว้ไม่มิด บริเวณขาขวาที่ถูกล็อคด้วยโซ่กุญแจ ตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาก็บวมคล้ำจนเป็นสีดำสนิท ใบหน้าซีดเซียวแห้งตอบ เส้นผมยาวรุงรังแผ่สยาย ถึงจะดูสิ้นหวังแค่ไหนก็ไม่สามารถบดบังความงามของคนผู้นี้ได้ ดอมเห็นแล้วปวดใจแทบทรุด เขาก้มลงเอาหูแนบกับหน้าอก พยายามฟังหาเสียงของชีพจรที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้ายังมีอยู่ไหม

ดอมสัมผัสไม่ได้ถึงเนื้อหนังของมนุษย์เลย ไม่ว่าจะจับโดนตรงไหนก็เหมือนจะโดนแต่กระดูก ดอมหลับตา คิดในใจว่าเขาคงเสียคนตรงหน้าไปแล้ว ทันใดนั้นเองก็มีเสียงแหบกระซิบดังออกมาจากคนตรงหน้า

"ช่วย... ฆ่าข้า ..เทิด ยมทูต"

เสียงแหบพราส่งออกมาจากในลำคอเล็กๆ นั้น ดอมรีบเงยหน้าขึ้น ปากแตกแห้งของร่างเล็กพูดออกมาไม่ผิดแน่ ทันใดนั้นดอมรีบหันไปใช้กุญแจดอกลิลลี่ที่เขามีไขปลดล็อคโซ่ที่ข้อเท้าของร่างบนเตียง ก่อนจะถอดเสื้อคลุมอาบน้ำของตัวเองคลุมคนตรงหน้า แล้วรีบอุ้มร่างที่สูงราว 160 กว่าๆ ออกจากห้องไปทันที

"เรย์ นายยังไม่ตาย อดทนไว้นะ อดทนไว้อีกนิด ฉันมาช่วยแล้วนะเรย์" ดอมพูดในขณะที่กำลังวิ่งและกอดร่างผอมไว้ในอ้อมอก

ดอมรีบร้อนมากแม้แสงจากตะเกียงจะไม่มากพอที่ทำให้เห็นเส้นทางเดินอย่างชัดเจนแต่ดอมก็พยายามสุดชีวิตที่จะเดินให้ไวที่สุด ดอมคิดในใจว่าน่าจะรีบเรียกลูเซียนให้มารอที่ห้องก่อน แต่อีกใจที่ไม่เรียกก็เพราะเผื่อใจไว้แล้วว่าอาจจะไม่ได้พาใครออกมาจากห้องลับนั้น

ดอมลงมาจนถึงช่องทางออกตรงตู้เสื้อผ้าด้วยหัวใจเต้นรัว ในหัวตอนนี้คิดแค่ว่าจะรีบไปบอกข้ารับใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องยังไง ถึงจะสามารถจะเรียกลูเซียนมาได้ อ้างว่าตัวเองรู้สึกไม่สบาย อยากให้ลูเซียนมาตรวจให้ คงจะไม่มีพิรุธหรอกมั้ง

แต่ทันทีที่ดอมก้าวเข้ามาในห้องนอนเขาก็ชะงักไป ดอมเห็นใครบางคนมายืนรออยู่ก่อนแล้ว

ผมยาวสีเงินสะท้อนกับแสงโคมไฟภายในห้อง คนผู้นั้นนั่งหลังตรงบนเก้าอี้รับรองข้างเตียงอีกฟาก สายตาเย็นชามองตรงมาที่เขา ดอมตัวเย็นเฉียบ ความคิดในหัวตีกันยุ่งเหยิง ทำไมเจ้านั้นมาอยู่ที่นี้ได้ ถ้าเรื่องที่เขาช่วยเรย์ไว้รู้ไปถึงคนของอเล็กเซย์ เรย์ต้องไม่ปลอดภัยแน่ แล้วเขาควรทำยังไงต่อไปดี

"ขออภัยพ่ะย่ะค่ะ พอดีกระหม่อมเห็นว่าฝ่าบาทยังไม่ได้เสวยอะไรเลยทั้งวัน จึงนำอาหารว่างมาถวาย" ธีโอพูด สายตายังคงจับจ้องไปยังคนที่อยู่ในอ้อมแขน ดอมทำทีไม่สนใจก่อนจะอุ้มเรย์ไปวางไว้บนเตียงนอนของตน

"เจ้าไม่เกรงกลัวเราเลยสินะ เราสั่งไม่ให้ใครเข้ามา เจ้ากำลังคิดว่ากำลังขัดขืนคำสั่งใคร" ดอมพูดทั้งไม่มองหน้า เขาแอบหงุดหงิดเล็กน้อย ทั้งที่บอกว่าไม่ให้ใครเข้ามาแท้ๆ ทำไมธีโอถึงเข้ามาได้

"กระหม่อมจะปฏิบัติตามคำสั่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนสั่ง แล้วท่านพอตอบได้หรือไม่ ว่าตัวท่านในตอนนี้เป็นใครกันแน่" ธีโอดอลยิงคำถามที่เล่นเอาดอมเย็นไปทั่วสันหลัง

ดอมค่อยๆ หันหน้ามามองผู้พูด ไม่อยากจะเชื่อว่าธีโอดอลจะจับได้แล้วจริงๆ ว่าเขาไม่ใช่องค์รัชทายาทคนเดิม แต่เป็นใครไม่รู้มาเข้าสิงร่าง ดอมหาวิธีจะหนีจากสถานการณ์อย่างไรดี แต่ไม่ว่าทางไหนก็อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจ ธีโอเป็นคนซื่อสัตย์เกินกว่าจะปิดบังสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ ยิ่งกับโดมินิคที่ไม่มีความน่าเชื่อถือด้วยแล้วยิ่งไม่คิดจะไว้หน้าแน่นอน เพราะต่อให้ครั้งนี้เขาแก้ตัวจนเอาตัวรอดไปได้ แต่ในครั้งถัดไปมันก็จะเกิดขึ้นอีก วนซ้ำไปจนสุดท้ายเขาอาจจะไม่ได้รับความเชื่อใจจากธีโออีกเลย จนอาจต้องตายด้วยน้ำมือของธีโอไปเลยก็ได้

"ก็ได้ เราจะบอกทุกอย่าง แต่ก่อนอื่นช่วยตามลูเซียนมาดูอาการของคนๆ นี้ก่อนได้มั้ย เขากำลังจะตาย อย่างน้อยๆ ก็ทำเพื่อความยุทติธรรมที่เจ้ายึดถือ ธีโอดอล คนๆ นี้ไม่สมควรต้องจบชีวิตลงอย่างไม่เป็นธรรม" ดอมพูดด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาจะถูกตัดสินต่อไปจะเป็นยังไง แต่อย่างน้อยๆ ก็ต้องทำให้เรย์รอดก่อน

"ทำไมต้องเป็นลูเซียน ให้ตามหมอหลวงคนอื่นมาได้หรือไม่" ธีโอถาม จริงๆ เขาก็อยากช่วยชีวิตคนแต่การตามคนนอกเข้ามาตอนนี้มันลำบากมากจริงๆ

"เพราะลูเซียนเป็นคนที่เห็นคนไข้มาก่อนทุกสิ่งและเป็นคนดีที่เชื่อถือได้ ธีโอเจ้าก็รู้เรื่องนั้นดี พวกเจ้าเติบโตมาด้วยกันนี้" ดอมพูด

ทำเอาธีโอดอลถลึงตาโต ดอมพูดประหนึ่งรู้ว่าทั้งเขาและลูเซียนเติบโตมาด้วยกัน ความจริงนี้ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อของเขา และจริงอย่างที่ดอมว่า ลูเซียนเป็นหมอที่ดีมากขนาดที่ต่อให้บุกน้ำลุยไฟก็จะพาตัวคนไข้ไปรักษาให้ได้

"เข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นในวังของพระราชาก็มีกฎ ในยามค่ำคืนห้ามมีผู้ใดเข้าออกโดยไม่มีหนังสือรับรองว่าเป็นข้าหลวงของปราสาทพระราชา ลูเป็นแค่แพทย์หลวงฝึกหัด คงเข้าไม่ได้แน่จนกว่าจะเช้า แต่ตามจริงก็พอมีหนทางอยู่พ่ะย่ะค่ะ" ธีโออธิบาย ดอมเองก็ตั้งใจฟังอย่างดี

"แล้วต้องทำยังไงล่ะ" ดอมถามต่อทันที

"ท่านต้องเรียกลูเซียนมาในฐานะคู่นอนพ่ะย่ะค่ะ เดิมท่านมีชื่อเสียงในเรื่องความมักมากในกาม ยังไงข้าหลวงทุกคนคงหน่ายใจและปล่อยผ่านให้ พ่ะย่ะค่ะ" ธีโอพูดพร้อมแอบสังเกตคนตรงหน้า

ตามจริงถ้าพูดดูถูกขนาดนี้ถ้าเป็นดอมคนเก่าต้องโกรธมากไปแล้ว แต่นี้ยังคงนิ่งเฉยและเหมือนกำลังคิดอย่างจริงจัง

"อ่า เอางั้นก็ได้" ดอมกุมขมับ ถึงจะแอบรู้สึกผิดกับลูเซียนที่ทำให้ต้องมาแปดเปื้อนเพราะเขา แต่ใจก็อยากให้เรย์ได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด

"งั้นรอสักครู่พ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลลุกขึ้นพร้อมก้าวยาวไปที่หน้าประตูห้องรับรองทันที ดอมดึงม่านที่เสาเตียงลงมาเพื่อบังคนที่นอนอยู่บนเตียง ธีโอออกไปเพื่อคุยอะไรบางอย่างกับข้ารับใช้ที่ยืนอยู่นอกห้อง ก่อนที่เขาจะเดินกลับเข้ามา

ธีโอดอลกลับเข้ามาก็เห็นดอมกำลังประคองหัวของเรย์ที่สลบอยู่เพื่อป้อนน้ำให้

"เรย์ ได้ยินไหม ค่อยๆ ดื่มน้ำก่อนนะ กลืนเท่าที่กลืนไหว" ไร้การตอบรับจากคนที่อยู่ตรงหน้า

ดอมได้แต่ปลอยใจตัวเองว่าก็ยังดีที่ยังรู้สึกได้ถึงลมหายใจอยู่ ดอมคิดว่าตามจริงเรย์ที่ถูกขังไว้ในห้องนั้นเกือบสิบเจ็ดวันไม่น่าจะรอดได้ แต่เท่าที่เขาแอบสังเกตุในห้องมีเศษจานเปล่ากับขวดแก้วน้ำวางอยู่ เป็นไปได้ว่าธีโอมีเสบียงเก็บไว้บ้างอยู่บางส่วน เป็นสาเหตุที่ทำให้เขารอดมาถึงตอนนี้

"ข้าบอกคนรับใช้ให้เรียกลูเซียนมาให้แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเรามีเรื่องให้ต้องคุยกัน ฝ่าบาท" ธีโอกล่าวเสียงเรียบ

สังเกตได้ว่าเขาไม่ใช้คำราชาศัพท์กับดอมแล้ว ดอมได้ยินก็ลุกขึ้นย้ายไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกที่ตั้งไว้ในห้อง ธีโอดอลเองก็เดินตามมาเช่นกัน ทั้งคู่นั่งมองหน้ากันภายใต้แสงเทียนจากโคมไฟ บนโซฟาตัวหรูและความเงียบงัน ดอมเป็นคนเอ่ยขึ้นก่อน

"ธีโอดอล เจ้ามั่นใจได้ยังไง ว่าเราไม่ใช่คนที่เจ้าคิด เราอาจจะเป็นคนเดิมที่แค่คิดได้ และอยากปรับปรุงตัว"

ดอมเริ่มกล่อมคนที่อยู่ตรงหน้าโดยการลองเบี่ยงประเด็นให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นที่เป็นไปได้มากกว่า แต่ทันใดนั้นเองธีโอก็ชักดาบยาวที่เหน็บตรงเอวออกมาก่อนจะยกมันขึ้นจ่อไปที่คอของดอม

"องค์รัชทายาทที่ข้ารู้จักนั้นใจเสาะ เจ้าชู้ บ้ากาม เสเพลไม่เอาไหน ใช้แต่อารมณ์ ไม่เคยเห็นใจผู้ใด ต่างกับท่าน การวางตัว น้ำเสียง คำพูดอ่อนโยน สายตา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการกระทำ แม้แต่จังหวะหายใจก็ราวกับเป็นคนล่ะคน ท่านเป็นปีศาจหรือเทพตนใดที่มาเข้าสิงอยู่ในร่างของมนุษย์โสมมผู้นี้กันแน่" ธีโอดอลพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร่าง

ในขณะที่ดอมได้แต่ช็อตกับดาบที่จ่อคอตัวเองอยู่ เขานึกไม่ถึงว่าจะต้องมาตายตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ในร่างคนอื่น

ดอมคงจะไม่โกหกธีโอดอลอีกต่อไป ไม่ใช่เพราะเขากลัวคำขู่ แต่อย่างที่เคยบอกไป ครั้งนี้รอดได้ แต่ครั้นหน้าก็คงจับได้อีก ธีโอดอลที่เขารู้จกเป็นคนมีไหวพริบ เขาเกลียดชังคนโกหก และคนที่ไม่มีความยุทติธรรมเข้าไส้

ดอมวิเคราะห์ เขาไม่ควรพูดเรื่องที่คนเหล่านี้เป็นตัวละครในเกม ให้ถือว่าดอมเป็นตัวเอกของเกมไปเลยล่ะกัน เพื่อตัดความยุ่งยากในการอธิบายซึ่งเขาก็ไม่ได้โกหก แค่บอกไม่ครบเท่านั้น

"ธีโอดอล สิ่งที่เรากำลังจะพูดอาจจะเหลือเชื่อมากจนไปพูดให้ใครฟังต่อก็คงหาว่าเจ้าเสียสติ แต่โปรดตั้งใจฟังให้ดี เรามาจากอนาคตในอีก 200 ปี ข้างหน้า อาณาจักรแห่งนี้ตกอยู่ในคำสาป วิญญาณทุกดวงถูกกักขังและผนึก เราที่หลงทางได้มาเจอปราสาทแห่งนี้เข้า แม้จะกลัวแต่พอเราได้ยินเรื่องราวของเหล่าดวงวิญญาณที่ขอความช่วยเหลือซึ่งเจ้าคือหนึ่งในนั้น เราจึงทำทุกวิถีทางเพื่อปลดปล่อยดวงวิญญาณให้เป็นอิสระ ระหว่างนั้นเราได้เจอกับวิญญาณอาฆาตที่ชื่อ โดมินิก โอบีออน เขาเป็นปีศาจร้ายไล่ทำลายวิญญาณตนอื่น เราถูกทำร้ายจนสาหัส และพอรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในร่างของโดมินิคเสียแล้ว"

ดอมอธิบายตามความจริงทั้งหมดแม้เรื่องที่เล่าจะเป็นแค่เนื้อเรื่องของเกมก็ตาม แต่สำหรับสถานการณ์นี้มันคือความจริง

"อนาคตงั้นรึ แล้วคำสาปที่ว่านั้นคืออะไร" ธีโอถามต่อ นัยน์ตาของเขาสั่นไหวดูกำลังสับสนวุ่นวายอย่างเห็นได้ชัด

"โดมินิค เจ้าของร่างนี้อีกหนึ่งปีข้างหน้า เขาจะขึ้นเป็นราชา หลังจากนั้นเขาได้จับแม่มดเร่ร่อน 6 ตน มาทรมานและสังหารอย่างเลือดเย็น นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของคำสาป" ดอมอธิบายต่อ เขาสังเกตเห็นว่าธีโอเริ่มลดดาบลงทีละน้อย

"ซึ่งจากคำบอกเหล่าจากเหล่าดวงวิญญาณทำให้รู้ว่า เหล่าแม่มดไม่ได้ทำผิดอะไร พวกนางถูกกล่าวหาและใช้เป็นเครื่องมือ แต่ใช่ว่าการกระทำของโดมินิคจะมีแต่คนเห็นด้วย มีคนกลุ่มหนึ่งให้การช่วยเหลือเหล่าแม่มดอยู่ หนึ่งในนั้นคือ เจ้ากับลูเซียน เพราะเราเคยได้รับความช่วยเหลือจากพวกเจ้า เราถึงได้เชื่อใจและขอให้ช่วยไงล่ะ และเรายังรู้อีกว่า เจ้ากับลูเซียนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เรื่องนั้นเจ้าบอกกับเราเอง" ดอมมั่นใจในข้อมูลนี้เพราะเป็นข้อมูลที่ได้มาจากอีเวนต์หลักของเกม หลังจากที่เขาได้ลูเซียนมาร่วมในปาร์ตี้แล้ว

ธีโอดอลผู้มีสีหน้าเรียบเฉยอยู่ตลอดเวลา แสดงสีหน้าประหลาดใจจนถึงหน้าถอดสี เขาเลือกถามคำถามสุดท้ายขึ้นมาเพื่อเป็นตัวตัดสิน เขาไม่อยากสับสนอีกต่อไป หากคำตอบที่เขาได้รับจากดอมเป็นภัยกับผู้อื่น เขาก็ยินดีที่จะรับโทษกบฏ สังหารรัชทายาทที่อยู่ตรงหน้าให้ตายลงตรงนี้ทันที ธีโอลดดาบลงก่อนจะเอ่ยถามออกมาว่า

"ท่านที่อยู่ในร่างองค์รัชทายาทและอีกไม่นานจะได้รับอำนาจยิ่งใหญ่มากกว่านี้ โปรดบอกข้าที หลังจากนี้ท่านมีเป้าหมายจะทำอะไรกับอาณาจักรแห่งนี้" ธีโอเน้นย้ำว่าตอนนี้ดอมมีอำนาจมากเพียงใด เขาจะใช้มันยังไงก็ได้ หากดอมมีแนวคิดที่จะเข่นข้าทำร้ายผู้คน หรือมีด้านที่ใจคอโหดเหี้ยมเขาคงปล่อยไว้ไม่ได้ สู้ให้ดอมกลับเป็นเจ้าชายเสเพลแบบเก่าที่ใจไม่สู้คนยังดีเสียกว่า

"ถึงเราจะเป็นผู้ที่มาจากช่วงเวลาอื่น แต่เราก็รู้อนาคตกับอดีต เพียงบางส่วนเท่านั้นธีโอ เป้าหมายของเราคืออะไรก็ยังไม่รู้เลย บอกได้แค่ว่าถ้าเรายังอยู่ที่นี่ ด้วยทุกสิ่งที่ทำได้ เราจะไม่ยอมให้ใครต้องเจ็บปวดและสูญเสียกับความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในปราสาทแห่งนี้อีก"

ดอมตัดพ้อก่อนทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟา ก่อนหน้านี้ดอม เป็นแค่สตรีมเมอร์ในช่องเล็กๆ ผู้ติดตามไม่กี่พัน เดิมทีดอมมีพี่น้องสามคน เขาเป็นลูกคนเล็ก เรียนจบมหาลัยมาก็หางานทำนิดหน่อย ก่อนจะมาเอาดีด้านทำยูทูป เขาคิดเสมอว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้ใช้ชีวิตที่ตัวเองต้องการ เขาแทบไม่เคยนึกถึงเป้าหมายอะไรที่ไกลกว่านั้น ถ้าให้ตอบให้จริงกว่านี้ ก็คงเพราะถึงนี้จะเป็นเกมแต่มันก็กลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว เรย์คือคนจริงๆที่กำลังใกล้ตาย ธีโอดอลก็เป็นคนที่มีเลือดเนื้อ มีหัวใจคนหนึ่งที่อยากทำตามความถูกต้อง เขาเองก็คงอยากช่วยเหลือและได้รับการช่วยเหลือจากเหล่าตัวละครที่เขาผูกพันเท่านั้นเอง

"แค่คำพูดท่านจะพูดอะไรก็ได้ ข้าจะเชื่อได้อย่างไร" ธีโอดอลยังคงระแวง ไม่ผิดเลยที่จะระแวง

"งั้นเรามีข้อเสนอ หากเจ้าไม่คิดจะร่วมมือกับเรา เราจะให้บรรดาศักดิ์กับเจ้าพร้อมเขตปกครองและให้เจ้าไปเป็นเจ้าเมือง อยู่ไกลจากเรา แต่หากเจ้ายังคงอยู่เคียงข้างเรา ก็ให้เจ้าลองจับตาดูเราเป็นไง พิสูจน์ด้วยตาของเจ้าเองว่าเราเป็นเช่นไร จะทำตามที่บอกไว้ได้ไหมเราให้เจ้าตัดสิน" ดอมยิ้ม

เขาเชื่อใจธีโอกว่าที่ตัวเองคิด เขาเชื่อว่ายังไงธีโอต้ออยู่ข้างเขาอย่างที่ดอมเคยพูดไว้ก็ไม่ผิด เรื่องที่ดอมเล่ามาทั้งหมด ต่อให้เอาไปพูดให้ใครฟังก็ไม่มีคนเชื่อ แถมจะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสติไม่ดีอีกด้วยธีโอคิด

"ข้าขอให้คำตอบท่านในวันพรุ่งนี้" ธีโอเอ่ยเสียงเรียบ

"ได้สิ เราเองก็ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น"

"แล้วให้เราเรียกท่านว่าอะไร ขอทราบนามของท่านได้หรือไม่" ธีโอดอลเริ่มเปิดใจ ดอมรู้ดีเลยตอบไปว่า

"ดอม เรียกเราว่าดอมก็ได้ จะว่าไปชื่อโดมินิคเองก็ตั้งเป็นชื่อเล่นว่าดอมได้เหมือนกัน ไม่น่ามีพิรุธอะไร" ดอมตอบกลับยิ้มๆ ธีโอดอลยังคงปั้นหน้านิ่งอยู่

ในช่วงเวลาที่พวกเขาคิดว่ากำลังพูดคุยกันเพียงสองคน หารู้ไม่ว่ายังมีใครอีกคนที่ได้สติและรับฟังเรื่องทุกอย่างอยู่...

ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เป็นที่รู้กันว่าลูเซียนแพทย์หลวงฝึกหัดได้มาถึงแล้ว ธีโอดอลรีบลุกขึ้นทันทีเพื่อไปรับลูเซียนที่ประตู

ธีโอดอลก็พาลูเซียนเข้ามาในห้องนอน เมื่อดอมลุกขึ้นยืนแล้วหันไปจะทักทาย ก็ต้องตกใจกับการแต่งตัวของลูเซียนที่ใส่ชุดคลุมอาบน้ำตัวเดียวสะพายกระเป๋าพยาบาลสีดำใบใหญ่

"ใครให้พี่หมอแต่งตัวแบบนี้" ดอมสะพรึง ใครกันที่บังคับให้หมอหนุ่ม ที่มีภาพลักษณ์ อบอุ่น ใจดี มานุ่งผ้าอาบน้ำลายแปลกๆผืนเดียวเดินว่อนทั่วปราสาทกัน ถึงเมื่อเช้าดอมเองก็ทำแบบนั้น แต่ข้างในเสื้อคลุมอาบน้ำก็ใส่เสื้อกางเกงอยู่ครบนะ

"เออ...ข้าได้รับสั่งให้มาเป็นนายบำเรอให้ท่าน แล้วพวกข้ารับใช้ก็จับข้าแต่งตัวแบบนี้ขอรับ" ลูเซียนยิ้มแห้ง มองดอมด้วยใบหน้าเลื่อนลอย ถึงหมอจะไม่ได้ดูเคอะเขินอะไรแต่ก็ดูไม่ค่อยสบายใจกับชุดที่ใส่เท่าไหร่

"เราขอโทษลูเซียนด้วย ถ้าไม่สั่งไปแบบนั้น ดูเหมือนว่าจะเข้ามาที่นี้ไม่ได้น่ะ โปรดเข้าใจเราด้วย พอดีว่าเรามีเหตุด่วนให้เจ้าช่วยมาดูทางนี้ให้ที" ดอมรีบจูงมือลูเซียนพาไปยังเตียงที่กันไว้ด้วยม่าน ดอมปัดม่านขึ้นก่อนจะให้พี่หมอได้ดูอาการคนไข้ที่อยู่บนเตียง

"เหมือนเขาจะอดอาหารมานาน ขาขวาได้รับบาดเจ็บหนักจากโซ่เหล็ก เขาแทบไม่ขยับตัวเลย" ดอมพูดตามสิ่งที่เขาเห็น เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าอธิบายไปทั้งหมดแล้วหรือยัง

ลูเซียนไม่พูดอะไร เขาตรวจเช็คร่างกายของเรย์ที่นอนอยู่ทันที อุปกรณ์ในกล่องปฐมพยาบาลถูกเปิดใช้ ดอมถอยออกมาเพื่อให้พื้นที่หมอทำงาน

"ท่านไปเจอเขาได้อย่างไร" ธีโอเอ่ยถาม

"ข้าแอบได้ยินมากจาก มาควิสแจ็คเกอร์ ที่กำลังคุยกับลูกชาย เกี่ยวกับชายคนที่ถูกลักพาตัวมาเพื่อสนองตัณหาให้พระราชา และได้รู้ถึงห้องลับที่พวกเขาพาคนที่ลักพาตัวไปซ่อน เราเลยรีบไปช่วยเขาไงล่ะ" ดอมกล่าว

เขาพูดจริงครึ่ง โกหกครึ่ง เรื่องคนที่ลักพาตัวคือเรื่องจริง เป็นฝีมือแจ็คเกอร์ไม่ผิดแน่ แต่สำหรับเส้นทางสู่ห้องลับดอมรู้มาจากบันทึกของเรย์ในตอนที่เล่นเกมนั้นเอง

"เรามีเรื่องจะขอร้องทั้งกับธีโอและลูเซียน ถ้าเรื่องที่เราพบคนๆ นี้ เปิดเผยออกไป พวกที่รู้เห็นเรื่งอนี้คงได้มาตามฆ่าปิดปากเขาเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดแน่ๆ เป็นไปได้เราอยากจะให้เก็บมันไว้เป็นความลับ จนกว่าเราจะหาทางช่วยเหลือเขาได้อย่างปลอดภัยก่อน เราขอร้องพวกเจ้าได้ไหม" ดอมพูด เขาแทบจะก้มหัวให้ทั้งสองก่อนธีโอดอลจะเข้ามาจับบ่าของดอมเอาไว้

"กระหม่อมจะไม่บอกใครพ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลกลับมาพูดอย่างเป็นทางการกับดอม เนื่องจากมีคนอื่นอยู่ ถ้าดูไม่ให้ความเคารพจะผิดสังเกตได้ ธีโอเข้าใจดีถึงสิ่งที่ดอมจะสื่อ ถึงเรื่องร่วมมือกันจะอยู่ในขั้นของการพิจารณา แต่สำหรับเรื่องช่วยชีวิตคน เขาไม่ติดที่จะร่วมมืออยู่แล้ว

"ลูเซียน ถ้าเขาฟื้นเจ้าจะลองคุยกับเขาดูก่อนก็ได้แต่ก่อนหน้านั้นก็ขอให้เก็บเป็นความลับไว้ก่อน เพราะยังไงเขาก็เป็นคนไข้ของเจ้าแล้ว" ดอมเอ่ยเพราะเห็นลูเซียนยังนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

"คนไข้ต้องมาก่อนขอรับ หากอะไรที่เป็นอันตรายกับคนไข้ ข้าก็ไม่อยากเสี่ยง แต่การเก็บเป็นความลับกับการรักษาดูจะเป็นไปได้ยาก บาดแผลที่ขาเขาสาหัตมาก ร่างกายก็อ่อนแอเกินกว่าจะผ่าตัด ถ้าจะต้องเก็บเป็นความลับ ข้าคงต้องพาเขาเข้าไปรักษาในเมืองในพื้นที่ๆ ห่างไกลพวกขุนนางขอรับ" ลูเซียนหันมาตอบรับ เขาวิเคราะห์สถานการณ์โดยมีคนไข้เป็นศูนย์กลาง ดอมได้ยินก็หาทางช่วยแก้ไข

"ถ้าเป็นอย่างนี้ล่ะ เราจะย้ายให้เจ้าเข้ามาอยู่ในเรือนย่อยของปราสาทองค์รัชทายาท โดยแต่งตั้งให้เจ้ามาเป็นแพทย์ประจำตัวของเรา และจ้างคนนอกมาเป็นผู้ช่วยเจ้า ห้ามให้ใครเข้าออก นอกจากคนของเจ้ากับเรา คำสั่งทุกอย่างขึ้นตรงกับเราเพียงผู้เดียว แบบนี้พอทำได้ไหมธีโอดอล"

ดอมจำได้ตอนเล่นเกม เขาได้อ่านบันทึกของธีโอดอลที่กล่าวถึงปราสาทขององค์รัชทายาท ในบันทึกว่าอดีตราชาอเล็กเซย์มีลูกลับๆ หนึ่งคน ชื่อไอเดน แต่น่าแปลกตรงที่ว่า ไอเดนที่มีศักดิ์เป็นเจ้าชายลำดับที่สองในตอนนั้นกลับต้องเข้าไปอยู่ในเรือนแยกย่อยของปราสาทรัชทายาท ราวกับถูกใครกลั่นแกล้ง ธีโอดอลครุ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยตอบดอม

"ได้อยู่พ่ะย่ะค่ะ ความจริงการมอบเรือนแยกให้มันดูจะเกินสิ่งที่แพทย์หลวงฝึกหัดคนหนึ่งควรได้รับ แต่เราสามารถกลบมันได้ด้วยเรื่องที่ว่า ลูเซียนเป็นคนโปรดของท่าน ซึ่งยืนยันได้จากการที่ท่านเรียกลูเข้ามาปรนนิบัติในวันนี้ พวกขุนนางคงไม่มีใครกล้าพูดแย้งเรื่องนี้ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ธีโอดอลคิดอุบาย ดอมแอบนึกในใจว่าเขากับธีโอก็ทำงานเข้าขากันกว่าที่คิด

"งั้นย้ายเข้ามาพรุ่งนี้เลย ฝากธีโอดอลจัดการให้เราที" ดอมหันไปสั่งแม้จะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ธีโอจะยังอยู่ข้างเดียวกับเขารึเปล่า

"รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ" ธีโอรับปากก่อนก้มหัวลงเล็กน้อยเพื่อทำความเคารพ

ลูเซียนตกใจที่อยู่ๆ เขาก็จะได้เรือนรักษาเป็นของตัวเอง ถึงจะยังงงๆ แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับคนไข้ เขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธ

หลังจากนั้น พวกเขาก็รอกันพักหนึ่งให้ไม่ดูผิดวิสัยของคนที่กำลังร่วมรักกัน ก่อนลูเซียนจะใช้ผ้าพันเรย์อย่างมิดชิดแล้วพาอุ้มออกจากห้องไป โดยมีธีโอดอลเดินนำออกไปก่อนครู่หนึ่งเพื่อเคลียร์เส้นทาง ดึงความสนใจของทหารยามให้ไม่เข้ามาตรวจสอบคนที่ลูเซียนพาออกไป







พี่หมอไม่ได้แก้ผ้าหมดค่ะ ใต้เสื้อคลุมใส่ชุดปกติ แค่แอบไปเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นหลอกคนรับใช้