ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?) - บทที่ 3.1 ธีโอดอล โดย L'Amour Sangria @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค,18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL

รายละเอียด

ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

ผู้แต่ง

L'Amour Sangria

เรื่องย่อ

         "นี่มันอะไรกันวะ"

          ดอมเข่าอ่อนทรุดตัวลงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงระเบียงที่เขาวิ่งออกมาเจอ เขานั่งมองท้องฟ้าสลับกับเมืองยุโรปโบราณด้านล่างอยู่นานสองนานจนหมดแรง ดอมนั่งสำรวจตั้งแต่นิ้วมือไปจนถึงร่างกาย สองขาของตัวเอง แม้เขาจะไม่ต้องใส่แว่นก็มองได้อย่างชัดเจน ก็เพราะนี่ไม่ใช่ร่างกายของเขายังไงล่ะ





สารบัญ

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 1 ดอมดม,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 2 โดมินิค,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.1 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.2 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.1 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.2 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 5 แอรอน,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 6 อาเคเซีย,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.1 Bloody Mary ,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.2 Bloody Mary (NC18+) Theodore + Aron,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 8 คำสัตย์ปฏิญาณ

เนื้อหา

บทที่ 3.1 ธีโอดอล



เช้านี้ที่วังขององค์รัชทายาท เจ้าชายเพียงหนึ่งเดียวของอาณาจักรไรออนเทีย โดมินิค ได้เดินทางกลับมาจากการเข้าเยี่ยมพระราชาที่ปราสาทหลักแต่เช้าตรู่ เมื่อมาถึงก็มีรับสั่งให้เรียกตัวช่างทำผม และช่างโกนหนวดให้เข้าถวายการรับใช้โดยด่วน ข้ารับใช้ที่ยังไม่ได้เตรียมตัววิ่งวุ่น เนื่องจากปกตินาฬิกาชีวิตของรัชทายาทที่คอยรับใช้ จะเริ่มตื่นตอนเที่ยง ตอนเย็นออกไปเที่ยว ช่วงค่ำจะดื่มด่ำสุราและพานารีกลับมาที่วัง ไม่ปกตินักที่จะพบเจอเจ้าชายทั้งที่พระอาทิตย์ยังขึ้นขอบฟ้าได้ไม่นาน

ดอมได้รับการปรนนิบัติจากเหล่าคนใช้ทั้งชายและหญิง เพียงแค่เขาบอกว่า อยากจะอาบน้ำ เหล่าข้ารับใช้ก็แทบจะแย่งกันช่วยอาบให้ดอม เขาแทบไม่ต้องขยับตัวก็มีทั้งคนมาถูสบู่ สระผม นวดคลึงไปทั่วไปหน้าและร่างกาย ทีแรกจะมีข้ารับใช้ที่เป็นสตรีเข้ามาช่วยอาบด้วยซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือคนที่อยู่ข้างในไม่ใช่รัชทายาทคนเก่า แต่คือดอม ชายหนุ่มธรรมดาที่ยึดอาชีพสตรีมเมอร์หากิน เขาละอายเกินจะให้ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาจ้องร่างเปลือยเปล่าของตน ว่ากันตามจริงแล้วดอมเองก็ไม่สะดวกใจให้ผู้ชายมาเห็นเหมือนกัน แต่เหล่าข้ารับใช้ยื่นคำขาด ยังไงก็เข้าไปอาบน้ำให้เพราะเป็นธรรมเนียม ดอมเลยจำใจยอม

ร่างของโดมินิคจากเดิมที่ปล่อยผมและหนวดให้ยาวรุงรังเหมือนคนพึ่งออกมาจากป่า ตอนนี้เส้นผมถูกตัดจนสั้นเป็นรองทรงต่ำ ผมหน้ารวบตึงเปิดให้เห็นหน้าผากกว้างตามกรรมพันธ์ หนวดเคราถูกโกนออกจนไม่เหลือสักเส้นให้ปิดบังโครงหน้าได้รูป ทีแรกช่างโกนหนวดแนะนำให้ดอมไว้หนวดจิ้มที่ด้านบนริมฝีปาก แต่สภาพออกมาดูตลกมากกว่าหน้าเกรงขาม เขาเลยให้โกนมันทิ้งจนหมดดีกว่า

ดอมในร่างโดมินิคดูหน้าเด็กลงไปเกือบห้าถึงหกปี จากเดิมที่ปล่อยสภาพตัวเองให้เหมือนก้อนขนเดินได้จนดูเป็นคนอายุสามสิบ แต่เมื่อดอมได้เห็นโครงหน้าและหน้าตาของรัชทายาทหนุ่มที่ตัวเองเข้ามาสิงร่างชัดๆ แล้ว ปรากฎว่าโดมินิคก็หน้าตาดีพอสมควร ใบหน้าเรียวได้รูปแม้จะดูแห้งตอบไปหน่อยเพราะกินแต่เหล้าจนขาดสารอาหาร ปลายหางตาชี้ขี้นที่ทำให้ดูดุดัน คิ้วเข้ม ปากได้รูป จมูกโด่งดี หรือที่มีพวกผู้หญิงมาติดโดมินิคกันเยอะอาจจะไม่ใช่เพราะบ้ากามอย่างเดี่ยว แต่อาจจะเป็นเพราะมีหน้าตาดีอยู่เป็นทุนเดิมก็ได้

ดอมถูกจับแต่งตัวเต็มยศ ในเสื้อแจ็คเก็ตสีแดงทรงเดียวกับที่เห็นตามรูปวาดของนโปเลียน ขนาดพอดีตัวด้านในเป็นเสื้อเชิตสีขาว ที่คอผูกคราแวทเรียบๆ แต่ประดับด้วยเข็มกลัดลวดลายสีทอง ที่บั้งไหล่ประดับด้วยลูกฟูกสีทอง กางเกงสีดำเข้ารูป ที่แผงอกเสื้อประดับอัญมณีอีกนิดหน่อยเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ดอมที่ยืนอยู่หน้ากระจกกำลังชื่นชมในความดูดีของร่างที่ตัวเองมาสิงอยู่ ลองเบ่งกล้ามแต่ก็ไม่ได้ดูดีขึ้นเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ร่างของโดมินิคแม้พอจะมีเนื้อหนังแต่ก็ผอมแห้งพอสมควร เพราะเมื่อคืนขนาดแค่อุ้มพาเรย์ที่เบาเหมือนหมอนข้างลงบันไดมาหนึ่งชั้น เขาก็แอบหืดขึ้นคอแล้ว

"ต้องหาเวลาเข้ายิมสักหน่อยแล้ว..." ดอมพึมพำ

"ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองดวงอาทิตย์ดวงน้อย ของอาณาจักร พ่ะย่ะค่ะ" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทักทายรัชทายาท โดยมีต้นเสียงมาจากด้านหลัง ดอมรีบหันกลับไปมองด้วยความตกใจ

"ไง มาเงียบไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะธีโอดอล เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่" ดอมรีบแซวกลับกลบเกลื่อนอาการตกใจ

"ตั้งแต่ที่พระองค์ทำแขนหยิกงอพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขออนุญาตนำกำหนดการด่วนมาให้พระองค์อนุมัติก่อนมื้อเช้า โปรดลงนามคำสั่งยุติการประหารชีวิตผู้ต้องสงสัยในเหตุลอบวางยาพิษพระราชาด้วยพ่ะย่ะค่ะ" ธีโอดอลทำสีหน้าเรียบเฉย

ในมือถือฐานรองเขียนสีทองที่มีหน้ากว้างเท่าสองกระดาษเอสี่มาด้วย บนนั้นมีกระดาษหนึ่งแผ่นที่ระบุเรื่องการยุติการประหารชีวิตเอาไว้พร้อมที่วางของกระดาษให้ลงนาม ด้านข้างมีปากกาขนนกที่จุมหมึกไว้แล้ววางคู่กันอยู่

"โปรดลงนามที่ชื่อท่านได้เลยพ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลพูดพร้อมเดินเข้าประชิดตัวดอมที่ยืนอยู่ มันใกล้เกินไปจนดอมรู้สึกได้ ธีโอยืนใกล้ดอมขนาดที่ว่าถ้ากระซิบเบาๆ ก็จะได้ยินกันแค่สองคน นี่อาจจะเป็นช่องว่างที่ธีโอดอลสร้างให้พวกเขาสองคนพูดคุยกันก็เป็นได้ เนื่องจากในห้องยังมีข้ารับใช้คนอื่นยืนเฝ้าอยู่ห่างๆ ดอมจึงใช้โอกาสนี้กระซิบถามธีโอไปว่า

"(ให้เราเซ็นจะดีหรอ ลายมือเรากับโดมินิคไม่เหมือนกันนะ)" ดอมก้มลงกระซิบข้างหูธีโอดอลเนื่องจากคนตรงหน้าตัวเล็กกว่าดอมพอสมควร ดอมยกปากขนนกขึ้นมาทำท่าจะเขียน แต่ก็หมุนด้ามเล่นมันไปมาจนขนนกปลิวเป็นวงกลม

"(รัชทายาทไม่เคยเซ็นเอกสารตอนไม่เมาสุรา อ้างว่าตอนนี้ท่านไม่เมาเอาก็คงไม่แปลกอะไร)" ธีโอกระซิบตอบอย่างรู้ทัน

ดอมได้ยินดังนั้นจึงเริ่มจรดปากกาขนนกลงนามในเอกสารที่ธีโอนำมาให้ ส่วนปากที่ว่างอยู่ก็แอบกระซิบถามคนตรงหน้า เกี่ยวกับเรื่องที่ให้เก็บไปคิดเมื่อวาน ถึงจะไม่ได้คาดหวังว่าธีโอดอลจะมาร่วมมือด้วยแต่ในใจก็อยากให้เป็นอย่างนั้นเพราะการที่มีธีโอดอลอยู่ด้วยอุ่นใจกว่าเป็นไหนๆ

“(แล้วเรื่องที่ให้เก็บไปคิดเมื่อคืน พอจะให้คำตอบเราได้หรือยัง)” ดอมกระซิบ

 ธีโอดอลจ้องไปที่ตาของดอมไม่กระพริบ นัยน์ตามรกตสว่างวาวฉายความแนวแน่ที่สื่อถึงการเตรียมมาอย่างดีแล้วในคำตอบ ใบหน้าทั้งสองที่ใกล้กันแค่ฝ่ามือ ทำเอาดอมแอบเขินหน้าแดงระเรื่อจนเกือบหลบสายตาเพราะเมื่อดูใกล้ๆ ใบหน้าของธีโอดอลช่างดูดี ดอมตั้งสติตั้งใจรับฟังสิ่งที่ธีโอกำลังจะพูด

"(ข้าอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ไม่ว่าหลังจากนั้นท่านจะทำมันได้หรือไม่ แต่ท่านก็เปรียบเสมือนความหวังเพียงหนึ่งเดียวในแหล่งเสื่อมโทรมแห่งนี้ หวังว่าท่านจะร่วมแบ่งปันสิ่งที่ท่านรู้เกี่ยวกับอนาคตให้ข้าบ้างนะขอรับ ท่านดอม)" ธีโอดอลพูดจบก็ส่งยิ้มทิ้งท้าย

ดอมคิดในใจว่าสมกับเป็นธีโอดอลจริงๆ ที่เขายอมช่วยส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องในอนาคตที่ดอมรู้ แต่ยังไงดอมก็จะเล่าให้ธีโอฟังเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว เนื่องจากสิ่งที่พวกดอมวางแผนว่าจะทำไม่ใช่แค่การแฉใครสักคนที่กระทำผิด แต่เป็นการล้มระบบชั่วร้ายที่สร้างโดยขุนนางทั้งอาณาจักรเลยก็ว่าได้

 หลังจากนั้นข้ารับใช้ก็พาดอม ที่มีธีโอดอลติดตามไปด้วย ลงไปทานอาหารที่ห้องอาหาร ดอมก็พอนึกภาพออกว่าห้องอาหารของที่นี้กว้างใหญ่และหรูหราพอสมควรจากที่เห็นในเกม แต่ก็ไม่นึกว่าปราสาทนี้จะเล่นใหญ่โดยการ วางอาหารจนเต็มโต๊ะที่ยาวเกินสองเมตร เยอะขนาดนี้เลี้ยงคนได้ทั้งปราสาทเลยมั้ง ดอมคิด

"ไม่เยอะไปหน่อยหรอ" ดอมหันมาถามธีโอดอล ที่ไม่สงสัยกับความไม่รู้ของดอมแน่นอน

"เป็นเรื่องปกติของทุกมื้อพ่ะย่ะค่ะ" ธีโอตอบ

การตั้งสำรับอาหารให้เยอะ บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของอาณาจักร ซึ่งธีโอดอลรู้ดีแก่ใจ ว่าอาณาจักรไม่ได้มีทรัพยากรมากพอเท่าแต่ก่อนแล้ว การตั้งโต๊ะอาหารมากมายแบบนี้ก็สิ้นเปลืองไปจริงๆ

"งั้นมือนี้ให้เจ้าและข้ารับใช้คนอื่นๆ ทานอาหารกับเราได้มั้ย" 

ดอมรู้สึกอ่อนไหวเรื่องการกินอาหารเหลือนิดหน่อย เพราะเคยถูกเพื่อนชวนไปทำกิจกรรมจิตอาสาผู้ยากไร้ เขาไม่อยากกินทิ้งกินขว้าง

"ผู้ที่จะทานอาหารร่วมกับพระองค์ได้ มีเพียงผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าบารอนเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ หากตำแหน่งต่ำกว่านั้น ข้ารับใช้จะถูกลงโทษได้" ธีโออธิบายต่อ

"งั้นธีโอที่มีตำแหน่งเอิร์ลคงทานเป็นเพื่อนเราได้สินะ จากนี้ไปก็ฝากมื้อเช้าด้วยล่ะ" ดอมพูดยิ้มๆ

ยังไงพวกเขาก็ต้องทำงานตัวติดกันอยู่แล้ว กินข้าวด้วยกันทุกมื้อเช้าก็ไม่เห็นเป็นไร แต่ถ้าให้พูดความจริง ดอมแค่เหงา ไม่อยากกินข้าวเช้าคนเดียว

ธีโอดอลรับคำจากดอมอย่างเสียไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เนื่องจากตนเป็นเลขาที่ต้องคอยติดตามรัชทายาทอยู่แล้ว ก็แค่เพิ่มหน้าที่เพื่อนกินข้าวลงไปในสิ่งที่ต้องทำด้วยเท่านั้น

หลังจากนั้นธีโอก็พาดอมไปห้องทำงานองค์รัชทายาท ที่ทั้งชีวิตโดมินิคตัวจริงไม่เคยเข้าไปเหยียบที่นั่นมาก่อน ข้ารับใช้เร่งทำความสะอาดเก็บข้าวของให้พร้อมรอต้อนรับผู้มาเยือน เมื่อไปถึง ห้องทำงานเต็มไปด้วยกองเอกสารและหนังสือล้อมรอบ ตามจริงผู้ที่ใช้ห้องนี้บ่อยที่สุดไม่ใช่ใครอื่นเลย นอกเสียจากธีโอดอลเลขารัชทายาท งานเอกสาร ขออนุมัติ ร่างแผนงานแทบทุกอย่าง โดมินิคคนเก่าไม่รู้และไม่เคยเข้าแตะแม้แต่ปลายเส้นผม งานหนักทั้งหมดจึงตกไปเป็นของธีโอดอลแบบมัดมือชก แต่ที่พามาที่ห้องนี้ไม่ใช่ธีโอต้องการจะส่งงานคืนให้ใครทำ แต่มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่จะสามารถกันพวกข้ารับใช้ให้ออกไปได้ ป้องกันการแอบสอดรู้ของพวกขุนนาง

หลังจากธีโอไล่ทุกคนให้ออกไปแล้ว เหลือเพียงเขากับดอม ธีโอก็เริ่มบรรยายเนื้องานขององค์รัชทายาทต้องทำทันที

"ท่านดอม ข้ามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแจ้งท่าน หลังจากนี้จะมีการจัดประชุมเหล่าขุนนางอย่างเร่งด่วน โดยเนื้อหาหลักจะเป็นเรื่องการสอบสังหารพระราชา และท่านจะต้องเข้าร่วมเพื่อเป็นองค์ประชุมหลักด้วยขอรับ"

ธีโอดอลพูดพร้อมส่งม้วนกระดาษประมาณห้าม้วนมาให้ ซึ่งในนั้นระบุรายงานการประชุมครั้งก่อนเอาไว้ ดอมหยิบมาคลีอ่านดูก็ถึงกับขมวดคิ้ว เนื้อหามันวนๆ ซ้ำๆ คล้ายๆ กันในทุกรอบ แจ้งแค่เรื่องอาการพระราชา การสั่งยาถอนพิษ และรายชื่อผู้เห็นเหตุการณ์ที่ถูกพิจารณาให้ขังไว้ในคุก ดอมเดินไปนั่งที่โต๊ะกลางที่ใช้ทำงานของรัชทายาท โดยมีธีโอดอลถือหนังสือสองสามเล่มเดินตามไปด้วย

"รายงานการประชุมไม่เห็นบอกรายละเอียดเหตุการณ์ก่อนหลังที่จะเกิดเหตุ หรือ คำให้การพยาน อยู่เลยนี้ ผู้รับผิดชอบในการตรวจหาความผิดในคดีนี้คือ แบรนเดอร์ ไจส์ ผู้บัญชาการกองคณะอัศวินนกเหยี่ยว เป็นถึงผบ.แต่ทำได้แค่นี้เองหรอ และทำไมถึงเป็นกองอัศวินเหยี่ยว แทนที่จะเป็นอัศวินราชสีที่ดูแลเรื่องในวัง แล้วจะเอาหลักฐานที่ไหนไปสาวถึงตัวคนผิดกัน" ดอมถึงกับเอามือกุมขมับ

กองอัศวินประจำอาณาจักรไรออนเทีย ถูกแบ่งเป็นสามกอง ได้แค่ กองอัศวินราชสี มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยพร้อมทั้งอารักขาปราสาทไรออนเทียและราชวงศ์ เหล่าอัศวินส่วนใหญ่จึงมีแต่ชนชั้นสูง ลูกขุนนาง ต่อมาคือ กองอัศวินเหยี่ยว มีหน้าที่ดูแลความสงบของประชาชนและอาณาจักรภายใน มีจำนวนอัศวินและทหารมากที่สุด มีหน้าที่แก้ปัญหาและระงับเหตุที่เกิดขึ้นกับประชาชนเป็นส่วนใหญ่ และสุดท้าย กองอัศวินหมาป่า มีหน้าที่ออกรบ ถึงจะมีบุคลากรไม่เยอะแต่ทุกคนล้วนเก่งกาจ อัศวินส่วนมากมีฐานะเดิมมาจากสามัญชน ไม่ก็ทหารรับจ้างที่ทำผลงาน แต่เนื่องจากไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ จึงมักจะถูกเหยียดอยู่บ่อยครั้ง และยังได้รับเงินบำเหน็จน้อยที่สุดในบรรดาทุกกองทัพ โดยเหล่าขุนนางให้เหตุผลว่า ไม่มีการออกรบกองทัพนี้ก็ไร้ประโยชน์ ทั้งที่เวลาออกรบเบี้ยที่พวกอัศวินหมาป่าได้รับก็ยังคงน้อยอยู่ดี ดอมจึงแอบหัวเสียแค่ผู้รับผิดชอบคดี ก็ผิดวัตถุประสงค์แล้ว

ความจริงดอมก็พอรู้อยู่แล้ว ว่าตัวการของเรื่องลอบปลงพระชนม์อเล็กเซย์คือใครบ้าง ดอมตั้งใจว่า จะอ้างทำเป็นสืบจากลำดับเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ แล้วค่อยๆ สาวไปหาผู้กระทำผิดตัวจริง แต่นี่เหมือนเขาต้องเริ่มใหม่ทั้งหมดเองตั้งแต่ศูนย์ เพราะแม้แต่บันทึกคดีก็ยังไม่มีให้

"ที่ผู้รับผิดชอบครั้งนี้เป็นกองอัศวินเหยี่ยว เนื่องจากได้รับเหตุผลว่าผู้ที่น่าจะก่อเหตุไม่ใช่ชนชั้นสูงพ่ะย่ะค่ะ จึงใช้กองอัศวินเหยี่ยวที่มีไว้เพื่อดูแลชาวเมืองรับผิดชอบเรื่องนี้ ว่าแต่ท่านดอมทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วหรือขอรับ" ธีโอดอลเบิกตากว้าง โน้มศีรษะลงเล็กน้อยหาผู้ที่นั่งอยู่ ดอมหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่

"แน่สิธีโอ ถึงจะรู้ว่าใครเป็นคนร้ายแล้วก็เถอะ แต่หลักฐานยังมีไม่พอที่จะเอาผิดคนพวกนั้นได้ ไปลากเก้าอี้มานั่งได้เลย พวกเราคงต้องวางแผนกันสักหน่อยแล้ว"

____________________________

ณ ห้องประชุมใหญ่ในปราสาทหลักของพระราชา แม้จะไม่ใช่ห้องรับรองที่ใหญ่ที่สุด แต่เนื่องจากการประชุมคราวนี้จัดด้วยวาระเร่งด่วน ขุนนางที่เรียกประชุมจึงมีแต่ตระกูลใหญ่ที่เป็นเสาหลักแก่อาณาจักรไรออนเทีย โต๊ะตัวยาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง เหล่าขุนนางยศใหญ่ต่างจับจองที่นั่งเก้าอี้กันอย่างครบทุกตัว ยกเว้นเก้าอี้ที่ดูหรูหราที่สุดตรงหัวโต๊ะ ที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปแตะต้อง เพราะเป็นที่นั่งเฉพาะสมาชิกราชวงศ์ที่จะนั่งได้เท่านั้น

ในระหว่างที่เหล่าขุนนางกำลังรอให้องค์รัชทายาทที่เป็นหัวเรือหลักในการเปิดประชุม พวกเขาก็ได้มีการพูดคุยโต้เถียงกันอย่างออกรส เกี่ยวกับ อาการล่าสุดของพระราชา การหาตัวผู้กระทำผิด และประเด็นหลักที่ขาดไปไม่ได้ การสั่งยุติการประหารชีวิตของเหล่าข้ารับใช้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปลงพระชนม์

"องค์รัชทายาทกำลังคิดอะไร ทำไมถึงปล่อยให้พวกที่ลอบสังหารพระราชายังลอยนวลอยู่ได้ ตัดสินพระทัยแค่นี้ยังไม่เด็ดขาด แล้วอนาคตจะบริหารอาณาจักรได้อย่างไร"

ขุนนางชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดขึ้น สายตาเหลือบมองขุนนางสูงวัยผู้หนึ่งที่นั่งอยู่ตรง ตำแหน่งด้านซ้ายมือของที่นั่งหัวโต๊ะ

"ท่านก็พูดเกินไป ข้าเห็นด้วยกับองค์รัชทายาท ต่อให้คนกระทำผิดอยู่ในกลุ่มผู้ต้องโทษประหารจริง แต่ผู้ที่บริสุทธิ์ก็โดนลงโทษไปด้วย ท่านว่าไม่เกินไปหน่อยหรือ"

เหมือนขุนนางอีกฝั่งที่มีความคิดเห็นคล้ายกับธีโอดอล ออกตัวเห็นด้วยกับการกระทำในครั้งนี้ของรัชทายาท

"ใช่แล้ว อย่างน้อยๆ เราก็ควรจะพิจารณาการให้ปากคำของพยายานให้ครบถ้วนกว่านี้ ก่อนจะลงมติให้ลงโทษประหาร.." ขุนนางอีกคนกล่าวเสริม แต่มันกลับทำให้ขุนนางอีกคนเดือดดาล จนพูดแทรกขึ้นมาด้วยอารมณ์โทสะ

"นี่ท่านกำลังกล่าวหาว่าลูกชายของข้า ที่เป็นถึงผู้บัญชาการกองอัศวินเหยี่ยว บกพร่องในหน้าที่ สอบปากคำพยานไม่ครบถ้วนงั้นหรอ การประชุมครั้งก่อนก็สรุปไปแล้ว พวกนักโทษไม่ปริปากพูดกันเอง ท่านแจ็คเกอร์ ท่านต้องช่วยข้าทูลเรื่องนี้กับฝ่าบาทนะขอรับ"

ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นพ่อของ ผบ.กองอัศวินเหยี่ยว กล่าวฟ้อง พร้อมหันไปหาผู้ที่นั่งด้านซ้ายของหัวโต๊ะอีกครั้ง ชายแก่ รูปร่างผอมสูง ผมสีชาอ่อน ที่ตอนนี้กำลังใช้มือลูบหนวดทรงกระเจี๊ยบเขียวของตนอยู่ ยกยิ้ม หน้าตาเจ้าเล่ห์ไม่ยอมคน มองไปที่ผู้เรียกหาตน ก่อนจะเหล่มองผู้ที่คิดต่าง

"ทุกท่านอย่างพึ่งร้อนใจไป ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ทุกอย่างจะต้องกลับเป็นอย่างเดิม ถ้าอย่างนั้นเราก็มาเตรียมพร้อมอย่างสงบปากเพื่อรอท่านผู้นั้นกันดีกว่า" มาควิสแจ๊คเจอร์เอ่ยเสียงเย็น

ท่าทางหยิ่งผยองของชายแก่มากประสบการณ์ กำลังแสดงว่าตนนั้นอยู่เหนือผู้อื่น ทำเอาบรรยากาศในห้องเงียบสนิทลงอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว ในสมัยของกษัตริย์องค์ก่อนหน้า ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระเชษฐาของราชาอเล็กเซย์องค์ปัจจุบัน ตอนนั้นอาณาจักรไรออนเทียได้วางระบบและรากฐานไว้แข็งแกร่งมาก ทุกฝ่ายต่างตั้งใจทำงานในหน้าที่ของตน ปกครองดูแลประชาชนและบ้านเมืองอย่างดี แต่ไม่นานพระเชษฐาก็สวรรคตด้วยอาการป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นเหตุให้ราชาอเล็กเซย์ได้ขึ้นครองราชย์แทน ว่ากันว่าที่ประเทศยังคงเคลื่อนที่และพัฒนาอยู่ได้เป็นเพราะรากฐานเก่าที่ได้วางเอาไว้

เพียงไม่นานนักตัวเอกของการประชุมก็ปรากฎตัว รัชทายาทโดมินิค ในชุดเต็มยศ หน้าตาสะอาดสะอ้านไร้หนวดเครา ทรงผมที่จัดตรงเรียบร้อยดูภูมิฐานสมกับฐานะที่เขาเป็น สร้างความประหลาดใจให้กับขุนนางในห้องที่พบเห็นได้ไม่น้อย ทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพรัชทายาทกันอย่างพร้อมเพรียง

""ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงคุ้มครองดวงอาทิตย์ดวงน้อย ของอาณาจักร พ่ะย่ะค่ะ""

ขุนนางทุกคนกล่าวเต็มเสียง

"ทุกท่านนั่งลงได้" ดอมตอบ

เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นครูประถมที่นักเรียนกำลังทำความเคารพตอนเข้าห้อง

ดอมเดินเข้าไปนั่งที่หัวโต๊ะ ส่วนธีโอดอลที่เดินตามอยู่ไม่ห่างก็เข้าไปนั่งตรงตำแหน่งด้านขวาของหัวโต๊ะเช่นกัน เมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้วก็เริ่มเข้าการประชุม

หัวข้อการประชุมหลักคือการหาตัวผู้กระทำผิดที่ลอบสังหารวางยาพระราชา จากที่ดอมได้ข้อมูลมาจากธีโอดอล และจากที่ได้มาสังเกตเองที่ในการประชุมแห่งนี้ ขุนนางถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือผู้ที่เห็นด้วยกับการสั่งลงโทษด้วยการประหารชีวิตของผู้ที่เป็นพยาน ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ทั้งเชื่อมั่นว่าคนผิดอยู่ในกลุ่มนั้น การปล่อยให้ราชาโดนวางยาพิษได้ก็เท่ากับพกพร่องในหน้าที่สมควรถูกลงโทษ ต้องเชือดไก่ให้ลิงดูจะได้ไม่มีใครกล้ากระทำผิดอีก ซึ่งขุนนางฝั่งนี้ไม่มีใครคิดจะหาผู้กระทำผิดแบบจริงจังเลยสักคน ส่วนอีกฝ่ายดูเป็นผู้เป็นคนกว่า พยายามใช้หลักการและเหตุผล ทั้งการสอบปากคำอย่างละเอียด การเก็บหลักฐานในสถานที่ สืบเนื่องไปถึงการหาเหตุจูงใจของบุคคลน่าเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นหลักการปกติที่ควรมีตั้งแต่แรก ดอมที่ทนฟังอยู่นานจึงลงข้อสรุปให้ทุกฝ่ายได้รับรู้พร้อมกันดังนี้

"เราจะขอจัดตั้งทีมสอบสวนของคดีนี้ อีกครั้ง โดยทุกตระกูลที่อยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ จะต้องส่งตัวแทนมาหนึ่งคน และตัวแทนจากกองอัศวินทั้ง สามเหล่าทัพ มาอีกกองละสองคน โดยเราจะแต่งตั้งให้ผู้บังคับบัญชากองอัศวินหมาป่า นามแอรอน เอลเมท เป็นหัวหน้าคณะสืบสวน"

ทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่งของดอม ในห้องประชุมก็เกิดการโกลาหลอีกครั้ง ทุกฝ่ายต่างแย่งกันยกมือไม่ก็พูดออกมาทั้งความไม่พอใจและห้ามปราม

"ไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ข้าขอคัดค้าน อัศวินหมาป่าเป็นเพียงสามัญชน จะให้ขุนนางอยู่ใต้บังคับบัญชาของชาวบ้านธรรมดา ข้าเห็นว่าไม่สมควรพ่ะย่ะค่ะ" หนึ่งในขุนนางตวาดเสียงแข็ง ประหนึ่งเห็นรัชทายาทเป็นเพียงเด็กน้อยที่สามารถดุด่าได้

"ข้าก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน สิ่งที่ท่านรับสั่งคล้ายว่า การสืบส่วนที่มีมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดล้วนไม่มีประโยชน์ ท่านกำลังดูถูกกองอัศวินเหยี่ยว ที่ลูกชายข้าเป็นผู้บังคับบัญชาอย่างนั้นหรือ"

ขุนนางวัยกลางคนออกตัวปกป้องลูกชายที่เป็นถึงหัวหน้ากองอัศวิน ซึ่งว่ากับตามจริงขุนนางหลายคนก็ไม่เห็นจะพูดผิดตรงไหน ลูกชายของเขาทำงานได้แย่จริงๆ ดอมเองก็เคยบ่นเช่นนั้นให้ธีโอฟัง

"แต่ข้าว่าเป็นสิ่งที่สมควรแล้วพ่ะย่ะค่ะ เนื่องจาก ท่านแอรอน เอลเมท เป็นอัศวินที่มีชื่อเสียง ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้การเคารพนับถือ ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นกลางและซื่อสัตย์ การให้เขามาออกหน้าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ประชาชนที่รอฟังข่าวได้พ่ะย่ะค่ะ"

ขุนนางท่านหนึ่งกล่าวด้วยเหตุผล สร้างความไม่พอใจให้ขุนนางอีกหลายๆคน รวมถึงขุนนางแก่มาควิสแจ๊คเกอร์ ที่ตอนนี้แอบกำหมัดแน่นอยู่ใต้โต๊ะ ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยคำพูดออกมา

"องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ ตระกูลแจ็คเกอร์ขอคัดค้าน สิ่งที่ท่านกำลังรับสั่ง นอกจากจะเป็นการละเลยพระราชาที่ประชวรจากการถูกลอบสังหาร ยังไม่ให้เกียรติขุนนางยศสูงทุกท่านที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ สามัญชนจะมาเข้าใจเรื่องของชนชั้นสูงได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ โปรดทรงถอนคำพูดและให้ดำเนินการปฏิบัติตามเดิมด้วยพ่ะย่ะค่ะ" แจ็คเกอร์เค้นเสียง กล่าวกับรัชทายาทประหนึ่งกำลังออกคำสั่ง ทำเอาทุกคนในที่ประชุมเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

ซึ่งโดยปกติทุกครั้ง ในการตัดสินใจเรื่องต่างๆในที่ประชุมส่วนใหญ่ แท้จริงแล้วไม่ได้ออกมาจากองค์รัชทายาทหรือคนในราชวงศ์จริงๆเลยสักครั้ง ผู้กุมบังเหียนที่แท้จริงดูเหมือนจะเป็นตระกูลแจ็คเกอร์เสียมากกว่า ที่ไม่ว่าจะเสนอหรือแย้งอะไร ก็จะถูกเห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียหมดเนื่องจากทุกคนรู้กันดี ว่าอำนาจที่แท้จริงมาจากทางฝั่งราชินี ผู้ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของมาควิสแจ็คเกอร์ ซึ่งในกรณีนี้ก็เช่นกัน ขุนนางหลายคนต่างคิดว่าครั้งนี้ก็คงเป็นไปตามความต้องการของตระกูลแจ็คเกอร์อีกเช่นเคยจนกระทั่งดอมตอบกลับไปว่า

"ท่านต่างหากที่กำลังทำให้เราและราชวงศ์ขายหน้า หลักฐานแค่นั้นสามารถเอาผิดใครได้ที่ไหน นี้ท่านกำลังทำให้เราเป็นตัวตลกหรือ ถึงตอนนี้จะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ในอนาคตเราอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นทรราชเข่นฆ่าประชาชนก็เป็นได้" ดอมตอบกลับแบบที่ทำให้ขุนนางในห้องตัวเย็นวาบ

"ฝ่าบาทคงจะป่วยไปแล้วอีกคนนะพ่ะย่ะค่ะ ท่านจะไม่ฟังความเห็นของผู้ที่มีประสบการณ์มากมายที่เป็นลุงของท่าน จริงๆหรือพ่ะย่ะค่ะ"

แจ็คเกอร์เริ่มเสียงแข็งไม่พอใจ เขาโมโหมากที่ลูกไก่เชื่องๆ ที่เขาเคยเลี้ยง กลับมาจิกมือเขาซะได้

ดอมนั่งพิงพนักเก้าอี้เอามือกอดอก ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้แจ็คเกอร์พร้อมกล่าวตอบไปว่า

"ใช่แล้ว ท่านพูดถูกท่านลุง ท่านเป็นลุงของเรา แต่ใครกันแน่นะที่มีสายเลือดของราชวงศ์ไรออนเทียไหลเวียนอยู่ในกาย ใครกันในแผ่นดินที่สามารถมาขัดความประสงค์ของเราได้ งั้นเราขอสรุปตามนี้ ขอทุกท่านจงปฏิบัติตาม"

ดอมพูดตัดบทในน้ำเสียงเรียบนิ่งและแน่วแน่ เป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่ขุนนางแทบทุกคนไม่เคยเห็น แจ็คเกอร์ที่ถูกตอกหน้าตรงๆ นั่งแข็งทื่อไม่พูดอะไรต่อ

ดอมคิดในใจว่าเขาพูดตรงเกินไปหรือเปล่า เหมือนกำลังสร้างศัตรูอยู่เลย แต่ก็พลั้งปากไปแล้วตามอารมณ์ หลังจากนี้คงต้องมีสติให้มากๆ ซะแล้ว

หลังจากนั้นไม่นานการประชุมครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง ขุนนางน้อยใหญ่ต่างทยอยลุกกันออกไป สีหน้าแต่ละคนในที่นั้นช่างหลากหลาย บางคนหน้าถอดสี บางคนสบายดี บางคนยังคงนึกสงสัย ลอบมองให้แน่ใจว่าผู้ที่อยู่หัวโต๊ะใช่เจ้าแผ่นดินที่ตนรับใช้จริงรึเปล่า แม้ทุกคนจะออกไปกันจนหมดแล้ว แต่ก็ยังมีคนนั่งอยู่ไม่ขยับไปไหน คนแรกคือดอมเองที่ยังไม่ลุกออกไปเพราะรอดูท่าทีทุกคน ส่วนธีโอดอลเลขาก็ยังคงนั่งเฝ้าดอมอยู่ไม่ห่าง แต่อีกคนที่ยังนั่งอยู่เป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากชายแก่ที่พึ่งถูกหักหน้าไปเมื่อครู่ มาควิสแจ็คเกอร์ยังนั่งอยู่กับที่ สีหน้าบึ้งตึงราวกับคนแก่เอาแต่ใจ เขาชักสีหน้าแรงหันมามองทางดอมพร้อมเอ่ยปากต่อว่า

"เจ้าพูดแบบนี้ได้เยี่ยงไรกัน เจ้าไม่ฟังที่ข้าบอกได้ยังไง เจ้าอยากทำให้ราชวงศ์ล่มสลายในยุคของเจ้าอย่างนั้นหรือ" แจ็คเกอร์ตวาดลั่น

ดอมคิดในใจ ล่มสลายอะไรกันกับอีแค่ไม่ทำตามคำสั่งโง่ๆ ของลุงแก่ๆ คนหนึ่ง ตาแก่นี้บ้าอำนาจแล้วพูดเพ้อเจ้อ

"ฟังก่อนท่านลุง อย่าพึ่งอารมณ์เสียไป ครู่นี้เราแค่พูดเพื่อให้พวกขุนนางตายใจ เพราะถ้าไม่ขู่ออกไปคงไม่มีใครยอมเห็นด้วยกับเราแน่ ที่เราต้องการให้สามัญชนอย่างแอรอนมาร่วมในคดีนี้ก็เพราะเราอยากจะดึงมันให้ตกต่ำต่างหากขอรับ" ดอมกล่าว สีหน้ายิ้มกริ่มอย่างพอใจ

ดอมเตรียมเล่าเรื่องเท็จเพื่อเอาใจแจ็คเกอร์ ซึ่งเรื่องพวกนี้เขาได้ปรึกษากับธีโอดอลมาอย่างดีแล้ว ว่าควรพูดยังไงให้ตาแก่คนนี้ตายใจ

"แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องลอบสังหารยังไงกันเล่า หลานชาย" เป็นดังที่คาดไว้ ตาแก่โลภมากนี้ให้ความสนใจกับเรื่องที่เขาพูดจริงๆ

"ท่านเห็นหรือไม่ว่าช่วงนี้เจ้าไพร่อย่างแอรอน มันชักทำตัวเด่นเกินพวกขุนนาง ทำนอกเหนือคำสั่งและหน้าที่ไปปราบโจร กบฏป่า โดยไม่ขออนุญาต แถมยังได้ความดีความชอบจากชาวบ้าน มีแต่คนสรรเสริญ อีกหน่อยคงไม่มีใครเห็นหัวพวกขุนนาง เราเห็นอย่างนั้นก็นึกหมั่นไส้ เลยคิดว่าหากดึงมันมาร่วมในแผนสืบสวนหาตัวผู้ทำผิด ให้อำนาจของแอรอนทั้งหมดขึ้นตรงมาที่รัชทายาท เราจะขัดขวางไม่ให้มันทำสำเร็จเองท่านลุง มันจะต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการปฏิบัติงานผิดพลาดแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"

ดอมแกล้งหัวเราะแบบที่ตัวร้ายชอบทำกัน ซึ่งแผนอาจจะฟังดูโง่สมกับที่รัชทายาทคิดได้ แต่ที่ทำไปเพื่อให้ตาแก่แจ็คเกอร์ตายใจ ไม่เข้ามาขัดขวางที่เขาจะให้แอรอนเข้ามาช่วยในการสืบสวน

แอรอนเป็นหนึ่งในตัวละครในเกม EHC ชายหนุ่มที่ตัวเอกสามารถเลือกจีบได้ อัศวินผู้กล้าหาญ และขยันขันแข็งที่หลังจากนี้หนึ่งปีจะโดนกลั่นแกล้งให้ไปเป็นทหารยามเฝ้าหน้าประตูปราสาท แผนการที่ดอมได้วางไว้หลังจากนี้จะต้องใช้กำลังคนมากพอสมควร และต้องเป็นแรงงานที่ซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ไม่เป็นพวกเดี่ยวกับเหล่าขุนนางหรือราชินี เพราะฉะนั้นกองกำลังที่เหมาะสมที่สุดคงหนีไม่พ้น กองอัศวินหมาป่า ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของแอรอน หากใช้วิธีนี้ดอมก็จะสามารถดึงเอาแอรอนเข้ามาในแผนการได้โดยง่าย ถึงแอรอนจะไม่ใช่คนที่รักความถูกต้องมากเท่าธีโอดอล แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวลไปเฉยๆ ดอมมั่นใจว่าถ้ากล่อมดีๆ แอรอนต้องมาเป็นพวกเขาได้แน่ๆ

แจ็คเกอร์ที่ได้ฟังก็รู้สึกได้เลยว่า ช่างเป็นแผนที่โง่เง่าสมกับเป็นโดมินิคจริงๆ ความคิดอันไม่รอบคอบที่จะขัดขวางการทำงานของอัศวินแอรอน ก็จริงที่สามารถขัดขวางการทำงานได้ แต่ความน่าเชื่อถือของรัชทายาทเองก็จะลดลงเช่นกัน เพราะเป็นต้นเหตุทำให้คดีไม่คืบหน้า ตาแก่จึงช่างใจ ไม่ถือสาหาความรัชทายาทหนุ่มต่อ ในใจคิดปล่อยให้มันเสียหายไปก็ดี เอาคืนที่มาหักหน้าตน

"ถ้าหลานเห็นว่าดี อย่างนั้นลุงคนนี้จะไม่ขัด แต่ไม่รู้แม่ของเจ้าจะว่าอย่างไร เจ้าจัดการเองก็แล้วกัน ข้าขอตัว"

มาควิสที่สบายใจไปหน่อยหนึ่งแล้วก็ขอตัวกลับ เขาออกจากห้องไปพร้อมข้ารับใช้อีกคน หลังจากในห้องไม่เหลือใครแล้ว ดอมกับธีโอดอลก็หันมองหน้ากันทันที

"ผิดจากที่บอกมั้ยล่ะธีโอ ตาแก่นั้นคิดว่าตัวเองเป็นราชาแล้วด้วยซ้ำ" ดอมเอามือท้าวคางทำสีหน้าเบื่อหน่าย

"ปกติรัชทายาทมักจะเห็นด้วยกับเขาเสียทุกอย่างข้าจึงจับสังเกตไม่ได้ แต่พอท่านดอมขัดใจเข้าหน่อย ก็ทำท่าเอาแต่ใจเหมือนเด็ก ปิดความถือดีไว้ไม่มิดจริงๆ" ธีโอดอลยิ้มน้อยๆ ตอบรับคำจากดอม ก่อนจะเริ่มถามหาแผนการต่อไป

"แล้วทีนี้จะเริ่มยังไงต่อดีขอรับท่านดอม"

"คงต้องเรียกทั้งแอรอน และหัวหน้าอัศวินเหยี่ยวนั้น มาเข้าพบล่ะนะ ให้คนเก่ามาส่งมอบงานพอเป็นพิธีสักหน่อย ถึงจะไม่มีงานอะไรให้ส่งมอบก็เถอะ จะได้จำหน้าไอนั้นไว้คิดบัญชีทีเดียวด้วย"

ดอมกล่าวคาดโทษ ความจริงอัศวินที่ชื่อ แบรนเดอร์ ไจส์ อะไรนั้น เขาไม่เคยเจอคนชื่อนี้ในเกมเลย เป็นไปได้ว่ามันน่าจะตายก่อนเกิดคำสาป แต่ทำตัวเหยาะแหยะแบบนี้ยังเป็นถึงผู้บัญชาการได้ อำนาจของแจ็คเกอร์มันไปไกลถึงขนาดนั้นแล้วงั้นรึ หรือว่าจะเป็นอำนาจของราชินีกันแน่ ดอมได้แต่คิดในใจ



_____________________________________

ฝากคอมเมนต์ กดไลค์ หรือกดแชร์ ให้กำลังใจผู้แต่งด้วยนะคะ เขียนยาวมาก พยายามมากๆ เลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ 3.2 มาพรุ่งนี้เลยค่ะ