ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?) - บทที่ 5 แอรอน โดย L'Amour Sangria @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค,18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตะวันตก,แฟนตาซี,ลึกลับ,ย้อนยุค

แท็คที่เกี่ยวข้อง

18+,วิญญาณ,เวทมนตร์,เกมจีบหนุ่ม,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,นิยายวาย,ต่างโลก,#BL

รายละเอียด

ดอม สตรีมเมอหนุ่ม หลุดเข้าไปอยู่ในเกมจีบหนุ่มสยองขวัญ แต่ช่วงเวลาที่เขาหลุดเข้าไป ดันเป็นเหตุการณ์ก่อนทุกคนจะกลายเป็นวิญญาณ 1 ปี เขาจะต้องหาทางยับยั้งไม่ให้ทุกคนต้องตายให้ได้

ผู้แต่ง

L'Amour Sangria

เรื่องย่อ

         "นี่มันอะไรกันวะ"

          ดอมเข่าอ่อนทรุดตัวลงไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงระเบียงที่เขาวิ่งออกมาเจอ เขานั่งมองท้องฟ้าสลับกับเมืองยุโรปโบราณด้านล่างอยู่นานสองนานจนหมดแรง ดอมนั่งสำรวจตั้งแต่นิ้วมือไปจนถึงร่างกาย สองขาของตัวเอง แม้เขาจะไม่ต้องใส่แว่นก็มองได้อย่างชัดเจน ก็เพราะนี่ไม่ใช่ร่างกายของเขายังไงล่ะ





สารบัญ

เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 1 ดอมดม,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 2 โดมินิค,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.1 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 3.2 ธีโอดอล,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.1 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 4.2 เรย์,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 5 แอรอน,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 6 อาเคเซีย,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.1 Bloody Mary ,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 7.2 Bloody Mary (NC18+) Theodore + Aron,เป็นรัชทายาทตัวร้าย จะยากแค่ไหนกันเชียว (How hard is the boss fight?)-บทที่ 8 คำสัตย์ปฏิญาณ

เนื้อหา

บทที่ 5 แอรอน



"ท่านเอิร์ลธีโอดอล สภาพในที่ประชุมที่เราเห็นเมื่อเช้ามันอะไรกัน แข่งประกวดชายงามงั้นรึ"

ดอมเกาศรีษะจนผมที่เซ็ทไว้พันกันยุ้ง ในขณะที่กำลังเดินออกจากห้องประชุม เพื่อไปยังห้องทำงานของตน

"คาดว่าพวกเขาคงจะรับรู้ข่าวลือที่เราสร้างขึ้นแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทั้งได้เลื่อนขั้นเป็นแพทย์ส่วนพระองค์ ได้รับเงินสนับสนุนกองอัศวิน ใครต่างก็คิดว่าการเป็นคนโปรดขององค์รัชทายาทจะได้ทั้งลาภยศชื่อเสียง เลยนัดกันส่งคนหน้าตาดีมาทำให้พระองค์พึงพอใจพ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลเลขาคนสนิทยังคงเดินตามติดไม่ห่างองค์รัชทายาท การประชุมที่พึ่งผ่านพ้นไปเมื่อครู่ เป็นการเรียกรวมพลเหล่าผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาในทีมสืบสวนหาผู้กระทำผิดในการวางยาพิษพระราชาอเล็กเซย์ แม้จะจัดขึ้นเพื่อพบหน้าค่าตาและให้คำสั่งเล็กน้อยพอเป็นพิธิแก่ทีม แต่ทุกคนที่เข้าร่วมต่างถูกคัดเลือกมาด้วยหน้าตา ขุนนางหนุ่มหล่อเหลาหลายคน แต่งชุด จัดผม พรมน้ำหอมกันอย่างจัดเต็ม เพื่ออวดโฉมให้เป็นที่พึงพอใจแก่องค์รัชทายาท เผื่อพวกเขาจะได้โอกาสเป็นคนโปรดตกถังข้าวสารอย่างกองอัศวินหมาป่ากับแพทย์ฝึกหัดบ้าง 

"เมื่อครู่นี้ท่านแอรอนกับกองอัศวินหมาป่ามีเรื่องจะรายงานท่านเป็นการส่วนตัว เนื่องจากเขาแจ้งว่าได้ดำเนินงานที่ท่านสั่งไว้บางส่วน ข้าจึงให้พวกเขาไปรออยู่ที่ห้องทำงานก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลกล่าวเสียงเรียบ ดอมพยักหน้าตอบรับก่อนจะสั่งเพิ่มเติมไปว่า

"ดีเลย นี่ก็จะเที่ยงแล้ว ให้พวกเขาทานข้าวพร้อมเราไปเลยแล้วกัน ฝากวานให้ยกอาหารไปที่ห้องทำงานทีนะ ขอบใจมาก"

เลขารับคำสั่งก่อนแยกตัวออกไปเพื่อไปประสานงานต่อ ดอมกับผู้ติดตามอีกสองคนจึงเดินต่อเพื่อไปยังห้องทำงาน ระหว่างเดินผ่านทางเชื่อมยาวระหว่างทางทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออกที่อยู่ชั้นสองของปราสาท ทางเดินที่เปิดโล่งที่มีเพียงเสาของอาคารสามารถมองลงไปยังด้านล่างได้ ดอมก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันของเหล่าสาวใช้ดังขึ้นมาว่า

"น้องชายเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง หาเขาเจอหรือยัง"

สาวใช้วัยรุ่นคนหนึ่งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห่วงใย

"ยัง ข้ายังไม่ได้รับข่าวใด ๆ จากอัศวินเหยี่ยวเลย"

เสียงหญิงสาวอีกคนที่ฟังดูเศร้าสร้อยเอ่ยตอบ 

"ทั้งที่เจ้าไปที่นั่นแทบทุกวัน ก็ไม่มีความคืบหน้าเลยอย่างนั้นหรือ อัศวินเหยี่ยวจัดตั้งมาเพื่อดูแลประชาชนแท้ ๆ แต่ทำตัวเหลวแหลกไม่ต่างกับนักเลง แต่ข้าไม่แปลกใจเท่าไหร่ ทำไมพวกเขาถึงเป็นแบบนี้ ก็เพราะมีพระราช..."

แต่ไม่ท่านที่หญิงสาวคนแรกจะผู้จบ หญิงสาวอีกคนก็รีบร้องปราม

"ห้ามพูดเชียว เดี๋ยวหัวก็หลุดจากบ่าหรอก อย่างน้อย ๆ ข้าก็ทำงานในวัง เข้าพบกองอัศวินได้ทุกเมื่อ ดีกว่าพวกชาวบ้านที่จะพบยังทำไม่ได้"

แม้ดอมจะไม่ได้หยุดเดินแต่ก็ยังคงตั้งใจฟัง จนสามารถรับรู้ได้ว่าน้ำเสียงที่พวกนางใช้พูดคุยกันต่างผิดหวังปนโกรธแค้นกันขนาดไหน แค่การพูดคุยเรื่องทั่วไปของสาวใช้ยังเชื่อมไปถึงเรื่องของความสิ้นหวังของปกครองได้ ถ้ามีให้ถกกันจริง ๆ ปัญหาเหล่านี้คงมีเยอะเป็นร้อยเป็นพันจากที่มันสะสมมานาน 

ดอมเดินทางจนมาถึงห้องทำงานส่วนตัวของรัชทายาท เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับธีโอดอลกับเหล่าอัศวินหมาป่ามายืนรอในห้องอยู่ก่อนแล้ว คนทั้งหมดก้มหัวทำความเคารพแต่ไม่ได้เอ่ยสรรเสริญเพราะเอ่ยไปแล้วเมื่อตอนอยู่ที่ประชุม

"กระหม่อมเห็นว่าพระองค์มาถึงช้ากว่าที่ควร ระหว่างทางติดปัญหาอะไรหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

ธีโอดอลเดินตรงเข้ามาช่วยถอดเสื้อคลุมประดับยศสีแดงที่ดอมสวมอยู่ออกให้ ก่อนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

"ไม่มีอะไรธีโอ เราแค่แอบเดินทอดน่องนิดหน่อยเอง"

ดอมยิ้มแห้ง ที่เขาช้าก็เพราะมัวแต่ไปแอบฟังบทสนทนาของเหล่าสาวใช้อยู่นั่นเอง ดอมในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนโปร่งเข้าไปนั่งประจำที่ยังโต๊ะทำงานใหญ่ของตน ก่อนจะหันมาสนใจเหล่าอัศวินตรงหน้าที่ยืนรออยู่

"ขอบคุณทุกท่านที่มานะ ยังไงถ้ารายงานเรียบร้อยแล้วพวกท่านยังไม่มีธุระด่วนอะไร ก็อยู่ทานอาหารกับเราก่อน"

ดอมพูดกึ่งขอร้องเนื่องจากเขาก็พอรู้ตัวว่าอัศวินที่ติดตามแอรอนมาอีกสามคน ดูจะไม่ค่อยไว้ใจเขาเท่าไหร่ ผู้ติดตามคนแรกคือ รองผู้บัญชาการ ลูอิส วอลล์รัน ผู้ที่มองตาขวางใส่ดอมในตลอดการประชุม กับอีกสองคนเป็นฝาแฝดผมสีชาอ่อน นาม คาร์ลอส กับ คิลเดล เอเลียต แฝดชายรูปร่างเล็ก แต่งตัวเหมือนกันทุกระเบียดนิ้ว พวกเขาดูเด็กเกินกว่าจะมาเป็นอัศวิน แต่ธีโอได้กระซิบบอกในที่ประชุมว่าแข็งแกร่งระดับต้น ๆ ของกองอัศวินเลยก็ว่าได้ ส่วนทางด้านหัวหน้าใหญ่ของแก็งอัศวินหัวกะทิอย่างแอรอน ก็ยังคงสวมหน้ากากเหล็ก ตีสีหน้านิ่ง ไม่แสดงอารมณ์อยู่เหมือนเดิม แอรอนเอ่ยตอบดอมว่า

"เป็นพระกรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมขอปฎิเสธ กระหม่อมมาเพื่อแจ้งผลการตรวจสอบเบื้องต้น ของลำดับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ อ้างอิงจากการเข้าสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์และเอกสารที่มีบางส่วนพ่ะย่ะค่ะ ทั้งหมดรวบรวมและสรุปไว้ตรงหน้าพระองค์"

ดอมนั่งฟังน้ำเสียงของแอรอนในการรายงานก็รู้สึกประหนึ่งเขากำลังนั่งฟังเสียงสิรี่เวอร์ชั่นผู้ชายอย่างไรอย่างนั้น ทั้งแข็งทื่อและไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆ รัชทายาทหยิบเอกสารบนโต๊ะที่หนาประมาณสิบแผ่นขึ้นมาอ่านผ่าน ๆ ธีโอดอลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โต๊ะขององค์รัชทายาทก็ดูเอกสารในมือดอมไปพร้อมกัน แม้ดอมจะจดจ่ออยู่กับเนื้อหาของเอกสาร แต่ไม่ใช่สำหรับธีโอดอลคนละเอียดที่กำลังทึ่งกับเอกสารที่ได้เห็น

"ท่านแอรอนจัดทำเอกสารชุดนี้ภายในคืนเดียวหรือขอรับ"

ธีโอเอ่ยถาม ถึงดอมจะไม่ได้ละสายตาจากเอกสารแต่หูก็รับฟังอยู่เช่นกัน

"ขอรับ" แอรอนตอบเสียงเรียบ

ธีโอดอลรู้ดีว่าเอกสารที่เขาพึ่งได้เห็นอยู่นี้ ไม่ใช่สิ่งที่จะดำเนินการได้ภายในคืนเดียว ลำดับเหตุการ รายชื่อ และการสอบถามเบื้องต้นด้วยตัวเอง ต่อให้จะไม่ละเอียดแต่ก็ครบถ้วน อย่างน้อย ๆ ต้องใช้เวลาสักสามวันถึงจะทำออกมาได้ ธีโอสะกิดรัชทายาท สำหรับดอมแค่มองตาธีโอก็พอจะรู้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร เขาอยากจะให้ดอมเอ่ยชม ผู้มีความสามารถต่อหน้าคนอื่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์รัชทายาท แต่แม้ดอมจะเข้าใจเขาก็เลือกที่จะทำอีกแบบ

"ท่านแอรอน เราขอบคุณมากจริง ๆ ที่รวบรวมข้อมูลมาให้เราขนาดนี้ แต่มันไม่ใช่งานที่ท่านต้องเร่งโหมทำคนเดียวเลย โปรดดูแลตัวเองด้วย อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน"

ดอมดึงหน้าตึงใส่แอรอนคล้ายคุณครูกำลังดุนักเรียน ถึงหัวหน้าอัศวินคนนี้จะเหมือนคนเหล็กเท่าไหร่ก็ตามแต่ดอมก็รู้ดีว่าข้างในนั้นยังเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ

"รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ" แอรอนขานรับ

ธีโอที่ตั้งใจว่าให้ดอมแค่ชมพอเป็นพิธี กลับกลายเป็นการตำหนิไปซะได้ แต่ก็ไม่ถึงกับผิดหวังเพราะดูจากปฎิกิริยาของผู้ติดตาม ที่ทำสีหน้าประหลาดใจในความห่วงใยที่โดมินิคมีให้กับหัวหน้าของตนแล้ว ก็คงจะตั้งแง่กับดอมน้อยลง

ในส่วนของเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุการลอบวางยาพิษสังหารพระราชาอเล็กเซย์ผู้เป็นบิดาของโดมินิคตามเอกสารที่ได้มาจากแอรอน สรุปสั้น ๆ ได้ดังนี้

หนึ่ง พระราชาอเล็กเซย์ทานอาหารมือเย็นกับเหล่านางสนมเจ็ดคน ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติอะไร หลังจากเข้าบรรทมได้ไม่นานพระองค์ก็มีอาการชักกลางดึก สาวใช้ สองคนที่เฝ้าอยู่ภายในห้องเรียกให้คนข้างนอกตามหมอหลวงเพื่อมาดูอาการ

สอง อัศวินองค์รักสี่คน เข้ามาสำรวจและตรวจสอบภายในห้อง พร้อมให้การอารักขา 

สาม หัวหน้าพ่อบ้านเข้ามาตรวจสอบอาการและให้ยาถอนพิษเบื้องต้นไป

สี่ แพทย์หลวงให้การวินิฉัยว่าพระราชาอเล็กเซย์ถูกวางยาพิษ อาการเบื้องต้นคือทำให้อวัยวะภายในปั่นป่วนจนอาเจียนเป็นเลือด และทำลายแก่นดวงวิญญาณให้ค่อย ๆ แตกหัก แม้จะรักษาร่างกายจนดีขึ้น แต่เพราะดวงวิญญาณยังแตกสลายอยู่จึงยังไม่ฟื้นได้สติ จนกว่าจะได้รับยาถอนพิษที่ตรงชนิด

ห้า ท่านดยุคโยฮัน กับ ท่านมาต์ควิตแจ็คเกอร์ เข้ามาในห้องบรรทม พร้อมสั่งเรียกเหล่าข้ารับใช้ในช่วงเวลานั้น คนครัว และอัศวินที่อารักขาทั้งหมด ให้ถูกนำตัวไปไว้ในคุกเพื่อรอการสอบสวน

หก มื้อเย็นของพระราชาอเล็กเซย์ถูกตรวจสอบแล้วไม่พบส่วนผสมของยาพิษ หรือสิ่งผิดปกติเจือปนในอาหารหรือวัตถุดิบ

เจ็ด ตรวจสอบเสื้อผ้าที่สวม สิ่งของที่จับรอบตัวของพระราชาแล้ว ไม่ตรวจเจอพิษหรือสิ่งผิดปกติ คาดเดาว่าพิษอาจจะถูกกรอกเข้าปากโดยตรง 

ดอมนึกถึงบันทึกที่เคยได้อ่านสมัยตอนที่กำลังเล่นเกม จำได้ว่าหลังจากนี้อีกไม่นาน พระราชาอเล็กเซย์ก็จะสวรรคต โดมินิคผู้เป็นรัชทายาทก็จะถูกราชาภิเษกให้ขึ้นดำรงดำแหน่งพระราชาของอณาจักรโอบีรอน เหล่าขุนนางอำมาตที่คอยวางแผนและรอเวลาก็จะเข้ามาจับจองที่นั่งเป็นผู้คอยชักจูงกษัตริย์คนใหม่ผู้โง่เขลาให้ไปตามใจตน เสพสุขอำนาจ เมินเฉยบ้านเมืองจนกระทั่งเข้าสู่เนื้อเรื่องของเกมที่ทุกอย่างต้องพังพินาศเนื่องจากความเห็นแก่ตัวและการปกครองที่ล้มเหลว

แต่ถ้าเขาใช้เหตุการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์เขาก็จะสามารถจัดการขุนนางชั่วร้ายแถวหน้าออกได้อีกเป็นกระบุง รวมไปถึงเหล่าผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลังได้อีกด้วย

"เหล่านางสนมทั้งเจ็ดคนเป็นสตรีที่ถูกคัดเลือกและส่งตัวมาจากวังของราชินี ถูกตรวจสอบและรายงานมาจากทางวังราชินีแล้ว ว่านอกจากร่วมทานอาหาร ก็อยู่แต่ในที่พักโดยตลอด ไม่เข้าข่ายผู้ต้องสงสัยงั้นเหรอ"

ดอมอ่านมาถึงจุดนี้ เอ่ยเสียงเพื่อให้ทั้งแอรอนรู้สึกเอะใจ

"จากการตรวจสอบห้องที่พวกนางเข้าพักเป็นห้องลายบุพภาชาติทั่งเจ็ด ได้แก่ ห้องดอกเวอร์บีน่า ดอกไฮเดรนเยีย ดอกแอสเตอร์ ดอกคอสมอส ดอกเดซี่ ดอกทิวลิป และดอกกุหลาบ ในส่วนรายชื่อสตรีทั้งเจ็ดคน กระหม่อมร้องขอไปทางพระราชวังพระราชินีแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อได้ยินชื่อห้องพักดอกกุหลาบ ธีโอดอลก็ถึงเบิกตากว้างเพราะห้องพักลวดลายประตูดอกกุหลาบสีทองเป็นห้องเดียวกันกับที่ดอมเข้าพักในวันที่เขาไปเยี่ยมพระราชานั่นเอง 

"อย่างนั้นเราพอสืบหารายชื่อสตรีทั้งเจ็ดคนในคืนนั้นกันเองได้ไหม"

ดอมเอ่ยถามเพราะเขารู้อยู่แก่ใจแล้วว่า กุญแจสำคัญในการหาตัวผู้กระทำผิดคือหนึ่งในนางสนมทั้งเจ็ดคนในคืนนั้น

"กระหม่อมขอเรียนตามในรายงานที่กองอัศวินนกเหยี่ยวเคยเขียนไว้ แจ้งว่าเพราะมีสตรีชั้นสูงอยู่ในกลุ่มนางสนมด้วยจึงไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ และหลังจากนั้นปราสาทของราชินีก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกอีกเลยแม้กระหม่อมจะร้องขอไปในนามองค์รัชทายาทก็ตาม"

แอรอนรายงานเสียงเรียบ ดอมยกยิ้มภูมิใจในความรอบคอบของหัวหน้าอัศวินที่ถึงขั้นสวมรอยเป็นองค์รัชทายาทเพื่อสืบคดี แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม

"เข้าใจแล้ว วันนี้พอก่อนแล้วกัน เตรียมตัวไว้ให้พร้อมด้วยล่ะ เผื่อพรุ่งนี้เราอาจจะมีเรื่องด่วนให้พวกท่านช่วยเหลือ ว่าแต่ จะไม่อยู่ทานข้าวด้วยกันจริง ๆ เหรอ"

ดอมเอนตัวลงพิงกับผนังเก้าอี้ เอาสองมือประสานเข้าที่ท้ายทอย เอียงคอมองเหล่าอัศวินที่อยู่ตรงหน้า เหล่าอัศวินทำหน้าเจื่อนบางคนถึงกับหน้าถอดสี ยกเว้นเสียแต่แอรอนที่ยังตีหน้านิ่ง

"กระหม่อมมีเรื่องด่วนต้องไปดำเนินการต่อ ขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อจบเรื่องงานแอรอนก็ขอตัวออกจากห้องไปทันที แบบไม่ไว้หน้าคนชวนกินข้าว พร้อมกับลูกน้องอัศวินที่ไม่กล้าขัดรีบทำความเคารพรัชทายาท และดินตามลูกพี่ออกไป

ทันทีที่สิ้นเสียงประตูปิดจนในห้องเหลือกันเพียงธีโอดอลกับรัชทายาท ธีโอที่เก็บคำพูดไว้ในใจอยู่นานก็เร่งถามดอมเรื่องเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พึ่งพูดคุยกันไปเมื่อครู่ทันที

"ท่านดอม ห้องดอกกุหลาบที่ว่าคือห้องเดียวกับที่ท่านเข้าพักในคืนนั้นที่พระราชวังหลวง และท่านก็พา เรย์ เฟริกซ์ ในสภาพปางตาย ออกมาจากเส้นทางลับภายในห้องใช่ไหมขอรับ"

ธีโอดอลกลับมาพูดเป็นกันเอง เขาประติดประต่อหลายอย่างเข้าด้วยกัน ดอมหันไปสบตาผู้พูดที่ยืนอยู่ข้างเก้าอี้ก่อนยิ้มให้

"ถูกต้องแล้วธีโอ แล้วเจ้าคิดว่าอย่างไรอีกล่ะ"

ดอมถามต่อธีโอดอลยืนกอดอกเริ่มวิเคราะห์

"เรย์ เฟริกซ์ เป็นทาสที่ถูกขังไว้สำหรับพระราชาและในเมื่อแทบไม่มีผู้ใดรู้ถึงตัวตนของเรย์ที่อยู่ในวังเลย เป็นไปได้ว่าจะต้องมีเส้นทางลับจากห้องบรรทมพระราชาที่ต่อตรงไปยังห้องขังของเรย์ และท่านดอมที่อยู่ในห้องดอกกุหลาบสามารถพาเรย์ออกมาได้ หมายความว่าห้องทุกห้องถูกเชื่อกันโดยทางลับ อย่างนั้นแสดงว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางยาพิษก็คือผู้ที่เข้าพักในห้องดอกกุหลาบหรือขอรับ"

ธีโอดอลอธิบายทุกอย่างที่วิเคราะห์อยู่ในหัวออกมาเป็นฉาก ๆ จนดอมถึงกับต้องเอยปากชม

"เก่งมาก สมแล้วกับที่เป็นเลขาสุดยอดอัฉริยะแห่งวังรัชทายาท เส้นทางลับเชื่อมต่อกันทั้งหมดจริง แต่วันที่เราเข้าไปเรามีแค่กุญแจดอกลิลลี่ที่ไขได้แต่ห้องขังของเรย์เท่านั้น การจะเข้าไปในห้องพระราชาได้จะต้องมีกุญแจอีกดอกเพื่อปลดล็อคมัน"

ดอมอธิบายต่อ แต่อยู่ ๆ ธีโอดอลที่กำลังสนุกกับความคิดก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาแบบไม่ให้ทันตั้งตัว

"แสดงว่าผู้ที่มีกุญแจดอกนั้นอยู่กับตัว ก็คือผู้ที่วางยาพิษพระราชาหรือขอรับ อย่างนั้นที่ราชินีไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อของนางสนมทั้งเจ็ดคน ก็เป็นเพราะว่านางเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ใช่ไหมขอรับ"

ธีโอดอลที่เลือดในกายสูบฉีดเพราะความตื่นเต้นกับปริศนาที่เขาไขได้ ถึงกับเอามือเท้าเก้าอี้ที่ดอมนั่งอยู่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อต้องการคำตอบ ดอมก็พอรู้นิสัยของธีโอดอลกับอารมย์ที่ต่างกันสุดขั่วเวลาปกติกับเวลาตื่นเต้น เขาดูมุทะลุขัดกับบุคลิกปกติที่เป็นคนเยือกเย็นอยู่พอสมควร

"อย่างได้เอ็ดไปเลขาของเรา งั้นจะบอกข้อมูลที่เรารู้ให้ก็แล้วกัน"

ดอมจับแขนข้างหนึ่งของธีโอดอล ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ใบหน้าเลขา เพื่อกระซิบบอกแผนการต่อไปที่เขาจะทำในคืนนี้ที่ข้างหู แม้ความจริงภายในห้องจะเก็บเสียงพอสมควรแต่เขาแค่อยากจะแกล้งคนหัวฟ้าเล่นที่ตื่นเต้นเกินไปเท่านั้นเอง

("กุญแจดอกกุหลาบที่ใช้เข้าห้องบรรทมพระราชา ซ่อนอยู่ในปราสาทขององค์ราชินี")

ลมจากเสียงกระซิบที่กระทบไปยังใบหู ถึงกับทำให้ธีโอดอลหน้าแดงกล่ำรีบถอยห่างมายืนตำแหน่งเดิมที่ข้างเก้าอี้ราวกับพึ่งรู้สึกตัว มือข้างหนึ่งเอามือบิดหูไว้ 

"งะ..งั้นให้ข้ายื่นเรื่องขอเข้าพบองค์ราชินีที่วังเลยหรือไม่ขอรับ"

ธีโอพูดตะกุกตะกักเพราะเขินอาย ดอมที่เห็นภาพเลขาทำตัวน่ารักก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนอธิบายต่อ

"ไม่ได้หรอก ขนาดแอรอนที่ใช้ชื่อเรา ขอเข้าไปตรวจสอบในปราสาทยังถูกราชินีปฎิเสธไม่ให้ความร่วมมือเลย เรามีแต่ต้องแอบเข้าไปเท่านั้น เจ้าที่ไม่ชอบเรื่องการแหกกฎไม่ต้องตามมาด้วยก็ได้นะ แค่เตรียมหาชุดกับอุปกรณ์ให้เราก็พอ"

ดอมเอามือเท้าโต๊ะมองเลขาของตน ธีโอเป็นคนรักในความยุธติธรรมและซื่อสัตย์ เรื่องทำผิดกฎหรือมีความเสี่ยงอาจจะยากเกินไปสำหรับเขา แต่ผิดคาดธีโอดอลรีบตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว

 "ข้าไม่เคยบอกว่าไม่ชอบเลยขอรับ ขอแค่ท่านดอมร้องขอมา ข้าก็ยินดีจะทำให้"

ธีโอดอลพูดในสีหน้าจริงจัง ดอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนตอบกลับไป

"งั้นอย่าเสียใจทีหลังล่ะ เตรียมตัวให้พร้อม คืนนี้เราจะไปเยี่ยมปราสาทของราชินีอย่างไม่เป็นทางการกัน"

ความจริงดอมก็รู้เรื่องที่ซ่อนของกุญแจแต่แรกอยู่แล้วจากในเกม แต่เขาแค่อยากให้แอรอนสอบสวนเหตุการณ์อย่างละเอียด เพื่อจะใช้เป็นข้ออ้างในการหาหลักฐานมาเอาผิดผู้กระทำ เวลาต้องขึ้นศาลเท่านั้น และการใช้แอรอนในการออกหน้าหาข้อมูลก็ช่วยเพิ่มความหน้าเชื่อถือให้หลักฐานที่กำลังจะหามาได้อีกด้วย

แต่หารู้ไม่ ยังมีใครบางคนยืนแอบฟังเรื่องราวทั้งหมดอยู่หน้าประตูห้องมาพักหนึ่งแล้ว



__________________________________________



"คืนนี้ข้ากับองค์รัชทายาทจะอยู่ในห้องหนังสือกันทั้งคืน ไม่ว่าอย่างไรพวกเจ้าก็ห้ามเข้ามารบกวน"

ธีโอดอลสั่งกับพ่อบ้านก่อนจะไปหาองค์รัชทายาทที่รออยู่ก่อนแล้วในห้องหนังสือ เขาเข้าไปในห้องก่อนจะลงกล ล็อคไม่ให้ใครเปิดเข้ามา ดอมที่กำลังถอดเสื้อเปลี่ยนชุดอยู่หันมาร้องทัก

"ไง ธีโอ เปลี่ยนชุดเป็นสีดำพลางตาไว้ดีกว่า ว่าแต่เอาของที่บอกมามั้ย" ดอมเอ่ยพร้อมยิ้มแห้ง ร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าของดอมสะท้อนกับแสงไฟในตะเกียงจนเห็นเป็นเงากล้ามเนื้อตามรูปร่าง แม้ร่างกายของโดมินิคที่พึ่งหยุดยาเสพติดและเหล้าจะฟื้นตัวได้ไม่เต็มร้อย แต่ดอมก็ออกกำลังกายฟิตหุ่นอยู่เป็นประจำ จึงทำให้ดูด้วยตาเปล่าก็พอมองออกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกระชับเข้าที่บ้างแล้ว ธีโอดอลที่แม้จะเห็นร่างเปลือยของรัชทายาทตอนเมาออกบ่อย แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกขัดเขินแปลก ๆ จนไม่กล้ามองหน้า ธีโอรีบก้มหน้า ใช้มือควานหาของที่ว่าในกระเป๋าสะพายหนังสีดำที่เขาคาดมาด้วยทันที

"อยู่นี่ขอรับ น้ำหอมกลิ่นเลือดที่ข้าได้มาจากโดมินิคตอนวันเกิด"

ธีโอดอลชูขวดแก้วทรงสวยขนาดพอดีมือที่บรรจุขอเหลวสีแดงไว้ในนั้นให้ดอม ดอมที่เปลี่ยนเป็นสวมเสื้อแขนยาวสีดำแล้ว เดินเข้าไปใกล้ธีโอก่อนจะรับขวดมาดู เขาจะลองดมกลิ่นของมัน ก่อนทำหน้าบอกบุญไม่รับ

"อี๋ กลิ่นเหมือนเลือดจริงสุด ๆ แต่คงไม่ใช่สินะ ไม่งั้นมันคงจะเน่าติดขวดไปแล้ว ไอเวรโดมินิค อยากเอาเท้าลูบหน้ามันจริง ๆ"

ดอมบ่นอุบเมื่อได้ดมกลิ่นน้ำหอมของธีโอ สาเหตุที่ต้องใช้น้ำหอมกลิ่นเลือดก็มาจากแผนที่พวกเขาได้วางกันเอาไว้

"อย่าบอกนะว่ามันเคยให้ธีโอฉีดไอนี่ แล้วไปเดินแถว ๆ ปราสาทราชินี"

ดอมขมวดคิ้วยุ่ง เขาหงุดหงิดในสันดารเสีย ๆ ของโดมินิคร่างที่เขามาสวมอยู่

"ขอรับ เขาเคยแกล้งฉีดน้ำหอมในขวดนี่ใส่ แต่ข้าพอรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัย เลยเลี่ยงไปที่ปราสาทของราชินี ข้าก็พึ่งมารู้จากท่านดอมนี่ล่ะ ว่าราชินีเลี้ยงสุนัขไว้ทำร้ายคน ยิ่งได้กลิ่นเลือดมันจะยิ่งคลั่ง"

ธีโอดอลตีหน้านิ่ง รับขวดน้ำหอมคืนมาเก็บใส่เสื้อกระเป๋าคลุมก่อนจะถอดประเป๋าหนังสะพายข้างส่งให้กับดอม 

ดอมเล่าให้ฟังว่า ราชินีเลี้ยงสุนัขฝูงใหญ่ไว้ทำร้ายคนใช้ หรือคนที่นางไม่พอใจ สุนัขพวกนี้ถูกฝึกให้คลุ่มคลั่งเวลาได้กลิ่นเลือด และเชื่อฟังเวลาได้ยินเสียงนกหวีด ด้วยงานอดิเรกสุดแปลกของราชินี ทำให้ในเกมมีศัตรูที่ชื่อว่า ฝูงสุนัขเลือดที่จะคอยออกล่าผู้เล่นที่เข้ามาในเขตของปราสาทราชินี ดอมรู้ว่าราชินีเลี้ยงสุนัขมาจากสาเหตุนี้นี่เอง

แผนการแอบเข้าไปในปราสาทของราชินีที่ดอมวางไว้ก็คือ เริ่มจากอันดับแรกจะต้องมีคน ไปบริเวณกรงเลี้ยงสุนัขในเขตปราสาทราชินี ระหว่างทางให้ฉีดพรมน้ำหอมเลือดไว้ทั่วพื้นที่ด้านนอก ทีแรกจุดนี้ดอมคิดว่าอาจจะใช้เลือดจริง แต่มันก็มีข้อเสียตรงที่อาจจะถูกตรวจสอบได้ในภายหลัง ธีโอดอลจึงเสนอเป็นน้ำหอมกลิ่นเลือดที่ได้มาจากการโดนกลั่นแกล้งของโดมินิคแทน

เมื่อแอบปล่อยให้สุนัขหลุดออกจากกรง มันจะวิ่งพล่านไปทั่วบริเวณจนจับตัวได้ยาก เพื่อล่อให้ราชินีออกไปด้านนอกปราสาทและจับสุนัขด้วยตัวเอง ซึ่งหน้าที่นี่ออกจะเสี่ยงอันตรายไปหน่อย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะให้ธีโอดอลเป็นคนทำ เนื่องจากอีกคนจะต้องลอบเข้าไปในปราสาทราชินีระหว่างนั้น เพื่อตามหาหลักฐานการวางพิษพระราชาที่ถูกซ่อนไว้ในปราสาท ซึ่งมีอยู่แค่ดอมที่รู้ว่าหลักฐานถูกเก็บไว้ที่ไหน เพราะเขาเคยเดินเล่นในปราสาทราชินีมาแล้วจากในเกมนั่นเอง

เมื่อธีโอและดอมเปลี่ยนชุดและผ้าคลุมหัวเป็นสีดำเพื่อพลางตัวเสร็จ เขาจึงจัดการมัดเชื่อไว้กับเสาในห้องและโยนเชือกออกไปนอกหน้าต่าง ที่ด้านนอกหน้าต่างมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งขึ้นขวางหน้าต่างเอาไว้ ซึ่งข้างต้นไม้ก็มีเรือนศาลาสีฟ้าที่อยู่ริมบ่อน้ำในสวนดอกไม้วังรัชทายาท เป็นจุดเดียวกับที่ดอมเคยสังเกตุเห็นเมื่อเช้าที่ได้รอบปราสาทเพื่อวิ่งออกกำลังกาย เขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้ใช้งานทางลัดออกนอกปราสาทโดยไม่ให้ใครจัดได้รวดเร็วขนาดนี้

ทั้งสองปีนออกไปนอกหน้าต่างโดยใช้เชือก ดอมรู้สึกว่าถึงมันจะออกไปได้โดยง่ายไม่ต้องใช้แรงมากก็จริง แต่ตอนที่เหยียบลงไปตรงหลังคาศาลาที่มีลักษณะเป็นโดมทรงกลม หากก้าวพลาดอาจจะลื่นตกลงไปในสระน้ำเลยก็เป็นได้ ดอมบอกตัวเองให้ระวัง

ไม่นานทั้งสองก็ออกมานอกปราสาทโดยไม่มีทหารยามคนไหนจับได้สำเร็จ ดอมกับธีโอดอลแยกกันทันที เนื่องจากธีโอดอลต้องฉีดพรมน้ำหอมไว้ตามจุดไม่ให้ทับเส้นทางขากลับ ดอมจึงต้องตรงไปที่ปราสาทราชินีก่อนเพื่อรอเสียงสัญญาณว่าเปิดกรงสุนัขแล้วจากธีโอ

เส้นทางที่ดอมเลือกเป็นด้านข้างกำแพงปราสาทที่ใกล้กับเตาเผาขยะที่สุด เพราะถ้าปีนเข้าไปได้ก็จะได้เข้าไปด้านในปราสาทได้ทันที แต่ที่ดอมลืมคาดการณ์ไว้นั่นก็คือความสูงของกำแพงรั้วปราสาทราชินี มันสูงกว่ากำแพงรั้วของปราสาทองค์รัชทายาทเสียอีก เพราะถ้าเท่ากันดอมก็พอมั่นใจว่าจะปีนข้ามไปได้ แต่ถ้าสูงกว่าแบบนี้คงได้ลำบากแน่ ดอมไม่ใช่คนปีนป่ายอะไรเก่งขนาดนั้น แต่คงไม่ต้องเป็นห่วงธีโอดอลสินะ รายนั้นก็แข็งแกร่งพอสมควรอยู่แล้ว

ทันใดนั้นเอง ทหารยามที่เดินตรวจตรารอบปราสาทราชินีสองคน เดินถือตะเกียงไฟพูดคุยเสียงดังมาแต่ไกล ดอมสะดุ้งสุดตัวรีบมองรอบ ๆ เพื่อหาที่ซ่อน เขาคงต้องวิ่งกลับไปจุดที่มีต้นไม้เยอะ ๆ เพื่อซ่อนตัว แต่ไม่ทันจะได้ก้าวขาออกไป ดอมก็รู้สึกถึงใครบางคนมาโอบเอวเขาไว้จากทางด้านหลัง

ในความมืดที่มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาจากท้องฟ้า ดอมถูกยกตัวขึ้นพาดบ่าโดยใครอีกคนที่ตัวใหญ่กว่า เขาคนนั้นกระโดดเกาะไปตามกำแพงโดยใช้มือข้างเดียวราวกับดอมที่อยู่บนบ่าตัวเบาเหมือนหมอนข้าง ร่างหนาแกร่งพาดอมอุ้มปีนจนข้ามกำแพงปราสาทได้สำเร็จ ดอมเกร็งจนตัวสั่นด้วยความตกใจ แต่ก็ไม่ได้มีเสียงเล็ดรอดโวยวายออกไป เพราะกลัวทหารของราชินีจะจับได้

ดอมถูกจับให้ยืนลงบนพื้นดินอย่างปลอดภัย แม้ใจเขาอยากจะรีบถอยห่างคนตรงหน้าทันทีเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่รัชทายาทหนุ่มก็ถูกรั้งตัวกอดไว้ในอ้อมแขนโดยให้หันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย ดอมผวาจนทำตัวไม่ถูกรู้แค่ว่าคน ๆ นี้ตัวสูงใหญ่และแข็งแรงกว่าตนมาก ดอมพยายามดิ้นหนีสุดชีวิตจนเกือบจะเผลอส่งเสียงออกไป แต่อีกฝ่ายดันบีบคอเขาเอาไว้ก่อนเอ่ยเสียงทุ่มต่ำที่ข้างหูว่า

("อย่าส่งเสียงดัง กระหม่อมแอรอนเองพ่ะย่ะค่ะ")

ดอมเบิกตาโตทันทีที่ได้ยินชื่อ หัวใจเต้นระรัวจนอีกฝ่ายรู้สึกได้ แอรอนคนนั้นมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง และทำไมเขาถึงมาช่วยเราไว้ ดอมคิด ในใจสับสนวุ่นวายไปหมด



⚜️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️〰️⚜️



ดอมจะคู่กับใครยังไม่ได้เคาะนะคะ ใครเห็นว่าคนไหนเหมาะคู่กับพรี่ดอมของเรา เม้ามอยกันไว้ได้ค่ะ ขอบคุณคับ