"กลับมารักกับคนเดิม อาจจะเหมือนอ่านหนังสือเล่มเดิมที่จบไปแล้ว แต่วาฬมั่นใจไหมว่าหนังสือของพวกเรามันจบแล้วไปจริงๆ"

ย้อนเวลาไขปริศนารัก - บทที่ 1 อารัมภบท โดย ซาลาเปาไส้ชาเขียว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,นิยายสั้น,นิยายสนุก,นิยายรัก ,นิยาย18+,ดราม่า,นิยายวาย,ทะลุมิติ,รักวัยรุ่น,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ย้อนเวลาไขปริศนารัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายสั้น,นิยายสนุก,นิยายรัก ,นิยาย18+,ดราม่า,นิยายวาย,ทะลุมิติ,รักวัยรุ่น,#BL

รายละเอียด

"กลับมารักกับคนเดิม อาจจะเหมือนอ่านหนังสือเล่มเดิมที่จบไปแล้ว แต่วาฬมั่นใจไหมว่าหนังสือของพวกเรามันจบแล้วไปจริงๆ"

ผู้แต่ง

ซาลาเปาไส้ชาเขียว

เรื่องย่อ

สารบัญ

ย้อนเวลาไขปริศนารัก-บทที่ 1 อารัมภบท,ย้อนเวลาไขปริศนารัก-บทที่ 2 สิบปีก่อน,ย้อนเวลาไขปริศนารัก-บทที่ 3 สองหัวใจที่ไม่เจอกันนาน,ย้อนเวลาไขปริศนารัก-บทที่ 4 กลับมาพร้อมกัน,ย้อนเวลาไขปริศนารัก-บทที่ 5 มีไรอยากบอกกันไหม

เนื้อหา

บทที่ 1 อารัมภบท

ติ๊งต๊อง ติ๊งต๊อง

เสียงกดออดหน้าห้องพักทำให้ปลาวาฬ หนุ่มนักศึกษาแพทย์ต้องค่อยๆ ลืมตาตื่นจากฝันหวาน หลังจากที่ไม่ได้นอนติดต่อกันมาหลายชั่วโมง อย่าให้รู้นะว่าใครที่มากดออดห้องเขาแต่เช้า ปลาวาฬได้แต่ก่นด่าในใจ เขาละอย่างจะตะโกนด่าคนที่มากดออดหน้าห้องเขาพอดี

"ส่งพัสดุครับ" เสียงพนักงานส่งของหน้าห้อง ทำให้ปลาวาฬต้องหยุดความคิดที่จะตะโกนด่าออกไปทันที

"ไม่ได้สั่งอะไรมานิ หรือว่าโลมาจะส่งของมา" ปลาวาฬอยู่ที่นี้เพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่ได้สั่งก็คงมีแค่พี่ชายของเขาเท่านั้นที่จะส่งของมาให้เขาได้ 

"คุณธรณ์ธันย์ จันทรวัชรโภคินใช่ไหมครับ"

"ใช่ครับ" ปลาวาฬเซ็นรับกล่องพัสดุมาจากพนักงานส่งของ ทำให้เขาเห็นว่าคนที่ส่งของมาเป็นคุณยายที่เสียไปแล้วถึงสามปี เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่มีของจากคนตายส่งมาหาตนเองในเวลานี้

ปลาวาฬนั่งลงบนโซฟาที่เขาทำความสะอาดเช้าเย็น แกะดูพัสดุที่ส่งมาจากบ้านของเขา สิ่งที่อยู่ในกล่องเป็นสร้อยนาฬิกาพกเก่าโบราณและจดหมายอีกหนึ่งฉบับ แค่ได้เห็นลายมือในจดหมาย ก็ทำให้ปลาวาฬถึงกับน้ำรื้นขึ้นมาทันที เขาจำได้ดีว่าลายมือในจดหมายเป็นลายมือของคุณยายของเขาอย่างแน่นอน 

ปลาวาฬเอย ยายรู้ว่าวันที่หลานจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้ยายก็คงไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ยายหวังเพียงแค่ว่าหลังจากยายจากเราไปแล้ว หลานจะไม่เศร้าเสียใจเกินไป ให้เวลากับตัวเองบ้างอย่าหักโหมเกินไป ยายรู้ว่าหลานมีความฝันที่อยากจะช่วยชีวิตผู้คนบนโลกใบนี้ให้ได้มากๆ อยากยื้อชีวิตของคนเฒ่าคนแก่ให้อยู่กับลูกหลานไปนานๆ แต่บนโลกใบนี้ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกคนล้วนต้องตาย เพียงแต่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ก็เท่านั้นเอง หลานทำได้แค่สุดความสามารถของหลาน อย่าฟืนและอย่าโทษตัวเองหากช่วยพวกเขาเอาไว้ไม่ได้ 

ยายไม่มีอะไรจะให้หลานรัก มีเพียงนาฬิกาเก่าที่ตาให้ยายไว้เป็นของขวัญ ในวันที่ตาจากยายไป ยายอยากให้หลานระลึกเอาไว้เสมอว่าชีวิตคนเราก็เหมือนกับนาฬิกา เมื่อถึงเวลาก็ต้องหยุดเดิน หากวันใดหลานทำให้นาฬิกาแห่งชีวิตเรือนนี้กลับมาเดินได้อีกครั้ง หลานอาจได้เจอกับสิ่งที่จะทำให้หลานมีความสุขอย่างแท้จริง

ด้วยรักและคิดถึง

ยาย

ปลาวาฬเช็ดน้ำตาที่ไหลไปทั่วทั้งใบหน้า ก่อนจะพลิกกระดาษไปมาได้แต่แปลกใจที่จดหมายมาส่งให้เขาในตอนนี้ หรือว่ายายจะขอให้ส่งหลังจากที่ยายเสีย แต่ที่นี่เมืองไทยไม่น่าจะมีบริการอะไรแบบนี้ ปลาวาฬอดไม่ได้ที่จะคิดว่าคนที่ส่งจดหมายมาให้เขาน่าจะเป็นพี่ชายที่ยังอยุ่บ้านเก่าที่ต่างจังหวัดอย่างโลมา เมื่อนึกได้ดังนั้นเขาก็ยกโทรศัพท์โทรหาพี่ชายทันที 

"ว่าไง ยังจำได้เหรอว่ามีกูเป็นพี่" น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ แต่มันก็ทำให้ปลาวาฬคิดได้ว่าพี่ชายจะยังสบายดีมากกว่าเจ็บไข้ได้ป่วย 

"อย่าเวอร์โลมา" ปลาวาฬตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ล้อเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้ จะเครียดไปไหนนักหนาครับคุณหมอ"

"แล้วต้องอารมณ์ดีขนาดไหนเหรอครับคุณโลมา" ปลาวาฬอยากจะบ้าตายกับพี่ชายคนนี้จริงๆ แก่กว่ากันถึงสามปีแต่กับทำตัวเหมือนเด็กสามขวบ คิดแล้วก็ปวดหัวแทนคนที่จะต้องมาดูแรรใคร รคนึคุณทรรลมันในอนาคตจริงๆ

"เชอะ!!! เล่นด้วยก็ไม่ได้ คนเขาคิดถึงจะแย่ โทรหาก็ติดเรียน ติดคนไข้ ติดงาน ไม่รู้ว่ายังจำได้รึเปล่าว่ายังมีพี่ชายรอให้กลับมากินข้าวด้วยกัน"

"น้อยใจเป็นสาวน้อย ไปได้โลมา"

"จะไม่ให้กูน้อยใจได้ไง ก็ม ีึเที่สรรหาึสีึหลือกันอยู่แค่นี้ แต่โทรหาก็ไม่ว่าง ไปหาก็ติดเคส" ปลาวาฬชะงักไปทันทีกับคำพูดพี่ชาย โลมาไม่ได้พูดอะไรผิด พวกเขาสองคนพี่น้องเขาเหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้องจริงๆ 

แต่เรื่องที่โลมาบอกว่าเขายุ่ง มันเป็นเรื่องจริงโลมาโทรมาหาเขาทีไร เขาก็มักจะติดงาน พี่ชายมาหาถึงที่ห้องพักเขาก็ติดเคสผ่าตัดปล่อยให้อีกดคนนอนพักที่นี่ จนกลับบ้านแล้วก็ยังไม่เจอหน้ากัน 

"กูมีเรื่องจะถาม"

"กูว่าแหละ" ไม่เห็นหน้าโลมา ปลาวาฬก็รู้ว่าน้ำเสียงที่รู้ทันกันแบบนี้อีกคนจะต้องทำหน้าแบบไหน

"มีไรว่ามา แล้วคุณมึงจะไปนอนต่อก็เชิญ" โลมาเซ็งจนไม่อยากต่อบทสนทนากับน้องชายคนเก่งของเขาอีก

"มีของจากยายมาส่งให้กู"

"อ้อออออ กล่องไม้กูเป็นคนส่งไปให้มึงเองแหละ" โลมา เก็บกวาดบ้านแล้วเจอกล่องไม้กับจดหมายของยายเขาเลยรู้ว่า ยายอยากให้ของในกล่องกับหลายชายสุดที่รัก

"งี้เอง กูก็ว่าทำไมของถึงเพิ่งส่งมาให้กู"

"จ๊าาาาาาาาา... ไม่มีเรื่องก็ไม่คิดถึงกูหรอก" ประโยคทิ้งท้ายก่อนที่โลมาจะตัดสายทิ้ง น้ำเสียงประชดประชันระดับร้อยแบบนี้ วันหยุดครั้งหน้าปลาวาฬคงต้องหาเวลากลับบ้านแล้ว

ปลาวาฬหยิบนาฬิกาสีน้ำตาลเรือนเก่าที่ไม่ว่ามองยังไง ก็ไม่น่าที่จะกลับมาใช้งานได้ เก่าชนิดที่ไม่รู้ว่าในปัจจุบันจะยังมีคนซ่อมนาฬิกาแบบนี้ได้อยู่รึเปล่า แต่เขาก็อยากลองซ่อมดูสักครั้ง เพราะยายบอกว่าถ้าทำได้ เขาจะได้เจอกับความสุขที่แท้จริง สำหรับชายหนุ่มแล้วชีวิตในตอนนี้ก็มีความสุขดี ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไร แต่จะให้เขาทิ้งไปเลยปลาวาฬก็กลัวว่ายายจะเสียใจ

คิดแล้วคิดอีกเขาก็นึกไม่ออกว่า จะทำยังไงให้นาฬิกาโบราณเรือนนี้ กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เมื่อนึกแล้วแต่นึกไม่ออกเขาจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำ เพื่อจะแวะไปหาคนซ่อมนาฬิกาที่ตลาดของเก่าสักหน่อย

เฮ้อออออออ

ยายนะยาย ทำไมชอบทิ้งปริศนาเอาไว้ให้เขาได้ตลอดเลยนะ

แม้ในใจจะอยากบ่นยายมากแค่ไหน แต่ปลาวาฬก็เถียงไม่ได้ว่าเขาคิดถึงยายไม่น้อย ยิ่งได้มาเห็นลายมือของยายแบบนี้ก็ยิ่งคิดถึง ปลาวาฬมีตากับยายคอยเลี้ยงดูมาตั้งแต่โลมาได้สามขวบ ส่วนเขาก็เพิ่งเกิดได้แค่สามเดือน แม่ก็ทิ้งพวกเขาสองคนพี่น้องไปแต่งงานใหม่ 

ดังนั้นตายาย และโลมาจึงเป็นครอบครัวที่เขามี แต่พอเขาอายุ 15 ตาก็ป่วยหนัก รักษาไม่ได้ทำให้ปลาวาฬมีความฝันที่อยากจะเป็นหมอ เพื่อรักษาตากับยายในยามที่พวกท่านป่วย แต่ไม่ว่าตาหรือยายก็ไม่รอให้เขารักษาเลยสักคน ญาติเพียงคนเดียวที่เขาเหลือก็คือโลมา พอได้มาอ่านจดหมายยายแบบนี้ มันก็ทำให้ชายหนุ่มคิดว่าตนเองต้องใส่ใจพี่ชายมากกว่านี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

สงสัยวันหยุดยาวเขาจะต้องหาเวลากลับไปหาพี่ชายที่อยู่ต่างจังหวัดซะแล้ว ปลาวาฬกำลังนั่งหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตว่าพอจะมีร้านไหนบ้างที่ซ่อมนาฬิกาเรือนนี้ได้ ปลาวาฬเดินทางไปทุกร้านที่มีคนบอกว่าทำได้ แต่พอเจ้าของร้านเห็นนาฬิกาก็บอกกับเขาว่าหมดโอกาส นาฬิกาเรือนนี้เก่าเกินกว่าจะซ่อมได้แล้ว

ไม่เพียงแค่ตามหาร้าน เขายังนัดเจอกับคนทางอินเทอร์เน็ตที่บอกว่าซ่อมได้ แต่ก็ไม่ต่างกันพอทุกคนได้เห็นตัวเรือนของนาฬิกาก็ได้แต่บอกว่า นาฬิกาเรือนนี้เก่าเกินกว่าจะซ่อมได้แล้ว ให้ปลาวาฬซื้อใหม่น่าจะง่ายกว่า บางคนถึงขั้นเอานาฬิกาแบบเดียวกันมาขายให้เขาเลยด้วยซ้ำ ปลาวาฬที่เห็นว่าวันนี้เขาคงหมดโอกาสแล้ว เลยตัดสินใจกลับห้องพักก่อน วันหยุดหน้าค่อยหาใหม่แล้วกัน

แต่เรื่องที่จะให้เขาถอดใจคงเป็นไปได้ยาก เพราะปลาวาฬเป็นคนที่มุมานะเกินกว่าจะถอดใจแค่กับการเดินตามหาแค่วันเดียว ปลาวาฬใช้เวลาทั้งวันในการหาร้านนาฬิกา พอถึงห้องเขาก็รู้สึกหมดแรง ปลาวาฬอาศัยอยู่คนเดียวในห้องพักแพทย์ฝึกหัด ในช่วงเวลาที่เขากำลังคิดไม่ตกจึงเดินออกมาที่ระเบียงห้องพัก ก่อนจะเงยหน้ามองฟ้าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ดาวกำลังตกพอดี ปลาวาฬยกนาฬิกาเหล็กสีน้ำตาลขึ้นอธิษฐานกับดวงดาว

หากดวงวิญญาณของยายมีจริง ก็ช่วยให้นาฬิกาเรือนนี้กลับมาเดินด้วยเถอะครับ

หัวของปลาวาฬก้มลงจรดปลายนิ้วที่พนมไหว้ขอพร ทันทีที่หัวและปลายนิ้วสัมผัสกันแสงสีขาวส่องประกายวาววับไปทั่วทั้งระเบียง ชั่วพริบตาระเบียงห้องก็เหลือเพียงความว่างเปล่า