เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล - 2 การเป็นไอดอล2 โดย pajoyce/Jumper-J @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ,สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล

รายละเอียด

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล โดย pajoyce/Jumper-J @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ผู้แต่ง

pajoyce/Jumper-J

เรื่องย่อ

เจเนซิส อัจฉริยะสาวผู้อยากทำตามความฝันในการอยากเป็นไอดอล


แม้ว่าจะมีตำแหน่งไม่ธรรมดาอย่างพันตรีหญิงหรืออีกตำแหน่งนั้นคือแพทย์หญิงแต่เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไรเมื่อถึงเวลาเธอจึงมาทำตามความฝันแม้จะต้องผ่านมรสุมดร่าม่าใด ๆ ก็ตามเธอก็จะฝ่าฝันไปให้ได้ งานนี้ต่อให้กระอักตายก็ยอม

สารบัญ

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-บทนำ เจเนซิส เวสเปอร์,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-1 การเป็นไอดอล1,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-2 การเป็นไอดอล2,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-3 การเป็นไอดอล3,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-4 การเป็นไอดอล4,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-5 การเป็นไอดอล5

เนื้อหา

2 การเป็นไอดอล2

การเป็นไอดอล2







วันออดิชั่น



มาถึงกำหนดวันนี้ที่รอคอย ทางพี่ที่ติดต่อกันผ่านแอพแชทแอพหนึ่งทักมานัดเวลาสำหรับการออดิชั่นของจิน ซึ่งนัดเวลาบ่ายโมง และตอนนี้จินก็เดินทางมาถึงตึกZENเป็นที่เรียบร้อยยังดีที่เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้ จึงมาถึงก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง

ว่าแต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้น ๆค่ายนี้เพียงแต่มันติดอยู่ที่ปากนึกไม่ออกว่าใครเคยพูดถึงหรือเปล่า

สังเกตจากที่มีคนนั่งรอการออดิชั่นอยู่เยอะพอสมควร คงเป็นการแบ่งคนมาออดิชั่นเป็นรอบเช้า รอบบ่ายสินะ คนที่นั่งรอส่วนใหญ่ก็เป็นตัวเต็ง ๆ ทั้งนั้น

วันนี้จินมาในชุดที่เรียกได้ว่าออแบล็กทั้งตัว เสื้อแขนกุดสีดำ คร็อบจั๊มตรงช่วงเอว กางเกงฮาเร็มแฟชั่นสีดำแบรนด์ดัง ตามด้วยรองเท้าผ้าใบที่มีความเท่และคงทนแต่เบาสบาย

จินเดินไปหาพี่สตาฟที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องออดิชั่น

“สวัสดีค่ะพี่ หนูมารับป้ายหมายเลข”

“อ่อ น้องจินนี่เอง นี่ค่ะ รออีก5คิวน้า” พี่สตาฟผู้หญิงคนนั้นพูดยิ้ม ๆ แล้วยื่นป้ายหมายเลขให้เธอ หมายเลขที่ได้คือเลข11 ถือว่าเป็นเลขที่ดีสำหรับเธอละมั้ง

จินเดินไปนั่งแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่น ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่ซ้อม ก็ซ้อมมาแล้ว ผ่อนคลายตัวเองบ้าง เพื่อไม่ให้สภาพร่างกายและจิตใจเครียดเกินไป ฝืนไปเยอะ ๆ ก็เครียดทำพังซะเปล่าๆ

จินนั่งเล่นเกมสร้างบ้านสร้างสวน ที่มันต้องเลื่อนดอกไม้สีต่าง ๆ ให้เป็นรูปแบบเดียวกันแล้วจึงจะได้ระเบิด และเมื่อชนะจึงจะได้ดาวเพื่อมาทำภารกิจ

เกมนี้เป็นเกมผ่อนคลายได้ดีทีเดียว เล่นเพลินจนไม่รู้ว่ามีคนมานั่งฝั่งซ้ายของตัวเองอยู่นานแล้วเช่นกันมองดูคนที่ดูจะชิลเกินไปกำลังเล่นเกมอย่างเป็นมิตรและค่อนไปทางเอ็นดู

“สนุกเหรอ”

เสียงทักทำให้จินต้องผละสายตาออกมามองฝั่งซ้ายของตัวเองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ เป็นผู้หญิง ผมสั้นประบ่าสไลด์ปลายงุ้ม ไฮท์ไลท์ผมข้างในเป็นสีเทารับกับหน้ารูปไข่ ตาชั้นเดียว ดูเป็นเอกลักษณ์ การแต่งตัวที่ดูดี เป็นเซ็ทเบลเซอร์ตัวใหญ่ด้านในเสื้อยืดเอวลอย กางเกงเข้าเซ็ทขาสั้นเอวสูง สีส้มอิฐพาสเทล เสริมกับหมวกเบเรต์ทำให้ดูมีความแฟชั่น น่ารักมาก ๆ เลย

“มันเพลินอ่ะ เธอ ขิงปะ”

จินจำได้ว่าเคยเห็นและจำได้อยู่ในโปรไฟล์ เป็นนักร้องอิสระ ไม่มีสังกัด มีแฟนคลับเยอะเลยทีเดียว

“ใช่แล้ว ยินดีที่ได้รู้จักนะจิน” คนด้านข้างยิ้มตาหยีมาให้

ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างออกรสจนเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าก็ถึงคิวที่จินต้องไปออดิชั่นเสียทีจินถึงได้โบกมือลารับคำอวยพรของขิง แล้วเดินตามสตาฟเข้าไปด้านใน

ด้านในนั้นปรากฏเป็นทางเดินแทนที่จะเป็นห้องสตาฟเดินนำไปที่ประตูที่สามซึ่งอยู่ห่างไปพอประมาณ เข้าใจได้ว่าแต่ละห้องคงใหญ่มาก จินเดินเข้าไปในห้องที่เป็นห้องซ้อมเต้นขนาดใหญ่จุคนเต้นท่าผาดโผนได้นับ20คน

มีกรรมการนั่งเรียงกันอยู่ห้าคนซึ่งเป็น ครูฝึกเต้นของค่าย2 คน ฝึกร้อง 1 คน แล้วก็มีโปรดิวเซอร์มือทองของค่ายอีกคน อีกคนที่เป็นชายวัยกลางคนเป็นฝรั่งที่มีสไตล์การแต่งตัวค่อนข้างวัยรุ่นขัดกับวัยแต่ไม่ขัดตานั้นจินนึกไม่ออกว่าคือใครแต่หน้าคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหน

ยังมีตากล้องที่นั่งอยู่หลังกล้องด้านหลังกรรมการเพื่อถ่ายคลิปเก็บไว้อีกคน มีสตาฟเดินมารับเฟรชไดรฟ์เพลงจากเธอไปเพื่อเตรียมโชว์

“สวัสดีค่ะ ชื่อ จินจิน เจเนซิส วรัทธรินณ์(ชื่อนี้ใช้เมื่ออยู่ในประเทศตัวเอง เพราะเจ้าตัวอยากมีความเป็นบ้านเดิมอยู่ในชื่อ) เวสเปอร์ อายุ21 ปี ตอนนี้กำลังว่างงานค่ะ ความสามารถ ร้องเพลง เต้น ทำเพลงได้นิดหน่อยค่ะ” แนะนำตัวเสร็จศัพท์ชายวัยกลางคนตรงกลางขยับตัวยืดตัวตรงนิดหน่อยมองนามสกุลที่คุ้นเคยพลางคิดในใจ

‘นี่สินะที่บอกว่าให้ช่วย ‘ใส่ใจ’ การออดิชั่นหน่อย’ เพราะทุกครั้งที่คัดเลือกเด็กฝึกจะมีเลขาของเขาในการประสานงานจนเจ้าเพื่อนตัวดีพูดขึ้นเป็นพิเศษนั้นแหละเขาถึงได้มานั่งเป็นกรรมการแบบนี้ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยจะออกสื่อและออกไปไหนด้วยซ้ำ

“พร้อมไหมครับ” เสียงโปรดิวเซอร์หนุ่มเอ่ยขึ้น

“พร้อมค่ะ”

จินหลับตาก้าวถอยหลังอย่างมั่นคงจนเมื่อเสียงบีทแรกดังขึ้นเท้าจึงเริ่มสไลด์และขยับอย่างแข็งแรง ท่าที่ล็อคมาดูมีความแข็งแกร่งแต่ก็พลิ้วไหว มือขวาที่จับไมค์ดูไม่ขัดตา

บีทเพลงค่อนข้างหนักและกระชากในบางจังหวะ เพลงนี้เป็นเพลงดังของศิลปินในค่ายนี่เองที่จินนำมารีมิกซ์เอง จากเพลงรักสไตล์หวานกลายเป็นเพลงรักที่ดุดันและรุนแรงความเร่าร้อนที่แฝงมาในท่าเต้นทำเอาครูฝึกเต้นสองคนตาวาว

เมื่อเสียงบีทแผ่วลงเสียงร้องก็เปล่งขึ้น จินใช้เทคนิคดัดเสียงของตนให้มีความแหบเซ็กซี่ การที่เต้นไปด้วยและร้องไปด้วยไม่ได้ทำให้เสียงเธอสั่นเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่ครูสอนร้องเพลงต้องแอบปาดเหงื่อเล็กน้อย

นี่มัน เพชรชัด ๆ ดูเทคนิคนั้นสิ แทบไม่ต้องสอนอะไรแล้ว การดึงเสน่ห์บนเวทีจินสามารถทำได้ดีมาก

“อย่ามาทำให้ตกหลุมรัก เพราะฉันจะปล่อยให้เธอไม่พัก

ฉันจะทำให้เธอเสียหลัก เดินเซกลับมาพักตรงข้างกาย”

ท่อนสุดท้ายที่ถูกเปล่งออกมาพร้อมกับกับท่าเต้นที่เปลี่ยนเป็นสมูทช้าลงและจบลงในที่สุด

พอเพลงจบร่างโปร่งหอบหายใจเล็กน้อยเพราะค่อนข้างคุ้นชินกับการออกกำลังกายหนักและซ้อมเต้น มองดูกรรมการที่นั่งมองตนอย่างเหม่อ ๆ

“เอ่อ” เสียงของจินทำให้ทุกคนได้สติและนั้นทำให้ทุกคนสูดหายใจลึก

“โอ้ นี่มันเยี่ยมมาก เป็นโชว์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เช้ามา” ครูฝึกร้องเพลงเป็นคนพูดขึ้นก่อนเป็นคนแรก คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย

การออดิชั่นในครั้งนี้เป็นการออดิชั่นเพื่อหาเด็กฝึกทั้งหมด5คน ให้อยู่ค่ายเพื่อฝึกต่อไป3คนและอีก2คนจะเป็นการส่งไปแข่งที่รายการเซอร์ไวเวอร์ของประเทศจีน

ซึ่งความจริงนั้นจะส่งเด็กในค่ายไปเลยก็ได้แต่เพราะค่ายนี้พึ่งเปิดตัวด้านการฝึกไอดอลได้ไม่กี่ปี

ส่วนใหญ่ที่เคยมีชื่อจะเป็นดารา นักแสดงเป็นส่วนมาก เด็กในค่ายเลยมีไม่เยอะ แต่ล้วนไปด้วยคุณภาพส่วนใหญ่เดบิวต์กลายเป็นศิลปินในสังกัดกันหมด เลยอยากหาเด็กมาเพิ่ม คนอื่นๆ ก็ยังไม่คิดว่าหากส่งไปจะเป็นเรื่องดีจะได้มองหาเด็กฝึกในค่ายใหม่ เป็นการโปรโมทให้ค่ายอีกที

สำหรับคนคนนี้ แน่นอนว่าจะเป็นคนที่ได้ไปประเทศจีนอย่างแน่นอน

“ทำไมถึงอยากเป็นไอดอลล่ะ” ชายตรงกลางถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี ผลออดิชั่นสำหรับคนนี้ ไม่ต้องมาดูเองก็รู้ว่าผ่านแน่ๆ แบบไม่จำเป็นต้องมีเส้นสายเลยด้วย

เรียกว่าไอ้เจนาส มันดูถูกลูกสาวหรือห่วงลูกสาวเกินไปดี ฝีมือขนาดนี้ไม่ต้องลงมาดูเองก็ผ่านแบบไม่มีอะไรมากั้น

ว่าแต่ยัยหนูนี่ยิ่งโตยิ่งสวยแฮะ ตามลูกชายกลับมาบ้านดีไหมนะ ว่าที่ลูกสะใภ้สวยบาดตาบาดใจซะจริงๆ (ฮัดชิ้ว=แดดดี้เจนาส รู้สึกคันหนวดแปลก ๆ)

“จริง ๆ อยากมองผู้คนจากเวทีลงมา อยากเห็นปฏิกิริยาของคนที่ได้ดูโชว์ฝีมือเราค่ะ มันคงจะเป็นภาพที่มีความสุขไม่น้อยเลย”







วันประกาศผลออดิชั่นอย่างเป็นทางการ โดยการโทรบอกผลให้ผู้ที่ผ่านการออดิชั่นได้รับรู้และประกาศผลแนบโปรไฟล์ไว้หน้าเพจofficial เวลา15.00น.

จินนั่งรอสายอยู่ทั้งวัน ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกนี่คงเป็นการรอคอยอย่างมีรสชาติที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตแล้วละมั้ง ทั้งแดดดี้และหม่ามี้ที่ต้องออกไปบริษัทยังต้องส่งของความมาเป็นระยะเพราะรู้ว่าลูกสาวตื่นเต้นแค่ไหน

บ้านของจินทำธุรกิจจิวเวอร์รี่รายใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แม้จะเป็นธุรกิจระดับกลางของครอบครัวคุณหญิงอรดีมาก่อนแต่พอได้แต่งงานกับมิสเตอร์เวสเปอร์ผู้เป็นนักลงทุนและหัวการค้าอยู่แล้วกลับทำให้ธุรกิจขนาดกลางสามารถก้าวเข้าสู่การเป็นแนวหน้าของประเทศและยังเป็นแบรนด์ที่เมื่อเปิดโชว์ตัวคอลเล็คชั่นใหม่ก็มักจะปิดยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของภูมิภาคได้ทันที

มิสเตอร์เวสเปอร์และคุณหญิงอรดีขึ้นแท่นนักธุรกิจน่าจับตาของประเทศเลยทีเดียว แต่ถึงแม้จะร่ำรวยแค่ไหนก็ไม่เคยเข้าไปกะเกณฑ์ชีวิตลูกสาวและสอนให้ใช้ชีวิตอย่างปกติธรรมดาอยู่เสมอ ไม่ดูถูกคน แต่ไม่จำเป็นต้องยอมใคร

เมื่อถึงเวลาประกาศผลสายกลับเงียบทำเอาสาวน้อยใจแกว่งค่อยดูเพจและรอสายอยู่ตลอด จินวางโทรศัพท์และนอนหงายตรงโซฟาที่ห้องนั่งเล่นของบ้านพลางอมลมอย่างขัดใจ แม่บ้านที่เดินเอาขนมและนมมาเพิ่มให้ได้แต่อมยิ้มอย่างเอ็นดู

Rrrrrrrrr

เสียงเดียวที่ทำให้ร่างบางตรงโซฟาลุกขึ้นมานั่งตัวตรงแล้วรับสายอย่างไว

“สวัสดีค่ะ จินพูดสายค่ะ”

‘สวัสดีค่ะน้องจิน พี่เป็นสตาฟจากZEN entertainment นะคะ พี่ขอแจ้งให้ทราบว่าน้องจินผ่านการออดิชั่น เป็นตัวแทนจากค่ายไปแข่งขันรายการ Is Idol My Idol ที่ประเทศจีน วันเสาร์นี้น้องจินมาเซ็นสัญญาและเข้ารับการฝึกร่วมกับผู้ผ่านเข้ารอบอีกคนได้ไหมคะ ’

“เอ่อ ได้ค่ะ กี่โมงคะพี่”

‘เวลา10โมงเช้าค่ะ มาถึงแล้วโทรมาหาพี่ได้เลยนะคะ’

“โอเคค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ”

สายถูกวางลงพร้อมกับร่างบางที่วิ่งเข้าไปกอดแม่บ้านอย่างดีใจ ทุกคนที่รู้ข่าวก็รีบเข้ามาแสดงความยินดี

วันนั้นกลายเป็นว่าทุกคนจัดงานฉลองกับความสำเร็จก้าวแรกในการเป็นศิลปินให้กับคุณหนูของบ้าน มิสเตอร์เวสเปอร์และคุณหญิงอรดียิ้มไม่หุบเมื่อเห็นลูกสาวดีใจ ไม่ว่ายัยหนูของพวกเขาจะโตขึ้นมากแค่ไหนแต่เมื่ออยู่กับพวกเขานี้ก็คือยัยหนู3ขวบของพวกเขานั่นแหละนะ



ติ่งไงจะใครละ @CCrocket

มึงเซนประกาศผลแล้ว คนที่ผ่านทั้งหมดมี6 คน ได้แก่ น้องราจา น้องภัค น้องซีน น้องจิน น้องเกล้า แล้วก็น้องขิง คนที่ได้ไประเทศจีนมี2คนคือน้องจินแล้วก็น้องขิง ซึ่งนี่ดีใจมากกก

น้องจินได้ไป มีใครเป็นเมนน้องจินบอกหน่อยว่าน้องมีด้อม มีบ้านไซต์หรือยัง ถ้ายังคือเราจะเป็นตัวแทนด้อมน้องจินประเทศไทย เอง ใดๆ คืออยากเห็นคลิปน้องออมากกก

-เราเป็นแฟนคลับน้องมาร่วม2ปีน้องยังไม่มีบ้านไซต์ค่ะ ปลื้มปริ่มมากที่น้องได้

-น้องขิงของฉันได้ไปด้วยย ดูแลกันดี ๆ นะเจ้าพวกต้าวน้อยทั้ง2คน คนนึงมุบมิ้ม คนนึงม๊อบแม๊บ

-เธอคะ5555 หมายถึงงน่ารักจนไม่เป็นภาษาใช่ไหม

-2คนนี้ดีกรีไม่ธรรมดาทั้งนั้นน้องขิงเป็นนักร้องที่เก่งมากๆ แค่ต้องฝึกเต้นอีกนิดหน่อย น้องจินเรื่องเต้นนี่ที่1เลย เรื่องร้องก็ไม่แผ่วเก่งทั้งคู่จริง ๆ นี่คิดว่าค่ายตาถึงมาก

-นี่ก็คิดว่าส่งทั้ง2คนนี่ถือว่าโอเคละนะ แต่คนอื่นก็มีความสามารถเหมือนกันจะส่งใครไปก็ได้

-เม้นบน++ เราคิดว่าจินก็ไม่ได้ขนาดนั้นอ่ะ คนอื่นก็ดูอวยเกินไป แค่เราก็พูดมากไม่ได้อีกเดี๋ยวทัวร์ลง

-ใช้เราคิดว่าบางคนก็อวยเกิน น้องเค้าดูไม่ได้เก่งขนาดนั้นอ่ะ คนอื่น ๆ ก็ดีนะ

-เราจะอวยแล้วมันจะทำไม





การเซ็นสัญญาผ่านไปได้ด้วยดี เป็นการเซ็นสัญญาแบบทำสัญญา3ปี ซึ่งนับรวมกับที่ไปแข่งและเผื่อจะได้ทำงานที่ต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการทำสัญญาระยะสั้นเป็นการให้โอกาสว่าจะต่อสัญญาหรือไม่อีกที

ดูเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับทั้งจินและขิงแบบแปลก ๆ แต่เมื่อทั้งคู่ได้อ่านเงื่อนไขดูแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติจึงลงมือเซ็นสัญญาทันที

หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่จินและขิงจะต้องพูดคุยและสร้างความสนิทสนมกันโดยที่ทางค่ายให้ทั้ง2คนมาอยู่ด้วยกันที่ห้องพักของทางค่ายเพื่อที่จะคิดโชว์และฝึกฝนการพูดภาษา

แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนักเพราะประเทศจีน ถือเป็นประเทศมหาอำนาจอยู่แล้วทั้งสองจึงพูดภาษาของประเทศจีนได้อยู่แล้วนั่นเอง

“จิน ท่อนนี้ต้องเกร็งส่วนไหนอะ ทำไมพอพี่ทำแล้วมันดูแปลก ๆ ”

ขิงกำลังฝึกเต้นอยู่กับจินนั่นเองเธอแก่กว่าจิน2ปี ตอนแรกก็จะมีครูสอนเต้นมาช่วยนั่นแหละแต่เพราะเธอตามไม่ค่อยทันเลยต้องให้จินมาช่วยสอนให้ตอนพักใกล้เลิกคลาสแบบนี้

“เอางี้พี่ขิง ต่อไปที่ลองใช้วิธีนี้นะ เวลาหันซ้ายขวา หรือเดินลองเกร็งช่วงท้องไว้แล้วลองมูฟดู นั่นแหละ ต่อไปนี้ลองทำให้มันชินนะ อันนี้เป็นวิธีที่หนูฝึกเหมือนกัน”

ระหว่างการฝึกซ้อมในด้านต่าง ๆ ทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกัน ทางค่ายไม่ได้ห้ามเรื่องการถ่ายรูปลงไบโอหรืออะไรเพียงแต่ค่ายจะเป็นคนถือบัญชี official ที่ทางค่ายสมัครไว้สำหรับชี้แจงและลงข่าวของพวกเธอเอาไว้

แต่ไบโอส่วนตัวถ้าอยากโพสต์อะไรก็ต้องลองส่งพี่นัทซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้จัดการให้เธอทั้งสองคนได้สแกนก่อนว่าเป็นเนื้อหาที่โพสต์ได้หรือไม่

จินเลยโพสต์รูปของเธอและขิงที่ถ่ายด้วยกันในห้องซ้อม สภาพคือเหงื่อซ่กทั้ง2คนแต่ก็มีท่าทีที่สดใส รอยยิ้มเต็มใบหน้าชู2นิ้ว ลงพร้อม อิโมจิ2นิ้ว และแน่นอนว่าสแกนเนื้อหาและรูปแล้วนะ

หลังจากฝึกซ้อมในส่วนที่ยากเสร็จทั้งคู่จะออกจากห้อง เพื่อที่จะกลับห้องไปอาบน้ำพักผ่อนเพราะตลอดระยะเวลา1อาทิตย์นั้นถือว่าฝึกหนักพอสมควร

ทั้งการแสดง การควบคุมหรือปล่อยอินเนอร์ การเต้นให้เข้าคู่ การเข้าสังคม การแสดงแบบร่วมกัน การร้อง ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นศิลปินที่ฉายเดี่ยวมาตลอดของทั้งคู่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ซึ่งอาทิตย์หน้าก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ต้องเดินทางไปประเทศจีนเพื่อไปถ่ายรายการแล้วด้วย



ฉันเป็นใครไม่ต้องรู้ @dejanuu

จ้า ไปให้สุด ลูกสาวลงEG ล่าสุด ทั้งคู่เหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด แต่มันดูดีเลยดูเหงื่อนั้นสิ โอ้ย ใจมันเจ็บขนาดนี้ได้ยังไง วงในบอกมาว่าอาทิตย์หน้าเด็ก ๆ จะเดินทางแล้วนะค่าาา เดี๋ยวแม่ ๆ จะส่งใจตามไปส่งนะลูก

#jingotooCland

#khinggotooCland



-วงใน เชื่อได้ใช่ไหมคะ เดะจะไปแน่ๆ

-ดูรูปเมื่อกี้นั่งเอ็นดูเหงื่ออะไรขนาดนั้นลูก สังเกตเลยคือขิงผอมลงเลยอ่ะ แก้มน้องหายย

-จริง ๆ ขิงคือแก้มหาย แต่ใด ๆ คือน้องจินลูก หนูไม่ผอมลงเลยใช่ไหมคะ หรือเพราะหนูฝึกทหารมานานการฝึกเลยไม่ทำร้ายหนู

-เราเข้าไปดูช่องน้อง (อีกรอบ) เห็นคลิปนี้(แนบลิงค์) แฮ่มม น้องจินบอกพี่ได้ไหมคะว่าหนุ่ม ๆ ในคลิปเป็นใครแล้วชื่ออะไรคือเห็นก็แล้ววนหลายรอบมาก มองผ่านไม่ได้สักที แฮร่

-เราเคยดูไลฟ์ช่วงนั้นเป็นเพื่อนๆ ทหารในรุ่นแต่อายุน่าจะมากกว่าน้องเยอะอยู่นะคะใด ๆ คือสังเกตุเหมือนกันค่ะ แซ่บมากก กล้ามแน่น กระแทกตามาก

-ใจเย็นค่ะสาว ๆ

-ผู้หญิงบางคนชอบว่าผู้ชายคุกคาม แต่ไม่ดูเลยว่าผู้ชายบางคนก็โดนผู้หญิงคุกคามเหมือนกัน

1000+

-ใช่ค่ะ

-ใช่ครับ







การฝึกเป็นไปได้ด้วยดีในระยะเวลา2อาทิตย์ซึ่งคิดว่าละลายพฤติกรรมได้ส่วนหนึ่งเลยแหละ จินในตอนนี้กำลังเดินทางเพื่อไปยังสนามบินนานาชาติโดยมีแดดดี้นั่งรถไปด้วยมิสเตอร์เวสเปอร์กอดลูกสาวไม่ปล่อยเพราะพึ่งจะได้เจอลูกสาวกอดยังไม่ทันหนำใจจำต้องแยกกันอีกแล้ว แต่เดี๋ยวจะบินตามไปแน่ๆ เชื่อได้เลย

“ฮื้อ แดดดี้หนูหายใจไม่ออกแล้วอ่า” คลายอ้อมกอดให้แต่ยังคงกอดอยู่แถมการหอมหัวหลายรอบด้วย

แดดดี้จะกอดจินมากทำไมไม่รู้เดี๋ยวก็เจอกันรอบนี้ใช่ว่าเธอจะไปนานขนาดนั้นซะหน่อยไม่รู้จะได้เดบิวต์รึเปล่าเผลอแป๊บ ๆ ก็ได้กลับแล้วมั้งเนี่ย 

เป็นเพราะเธอก็ไม่มั่นใจว่ามีแฟนคลับในประเทศจีนเยอะขนาดไหน ในประเทศนั้นต่อให้เก่งแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีแฟนคลับก็ถือว่าเกิดยากพอสมควร

ภายในสนามบินหนุ่มสาววัยรุ่นเดินถือป้ายไฟบางส่วนและมีเยอะพอสมควรเพราะมีแฟนคลับของทั้ง2คนกำลังยืนรอสาวน้อยทั้งสองมาขึ้นเครื่องที่สนามบิน

พนักงานรักษาความปลอดภัยบางคนงุนงงเพราะจำได้ว่าไม่มีแจ้งข่าวว่ามีใครมาเยือนที่ประเทศไทยซะหน่อยแต่เพราะความเป็นมืออาชีพจึงยืนคุมเชิงเพื่อรักษาความสงบให้กับพื้นที่บางส่วน

“วันนี้แน่ ๆ ใช่ไหมเนี่ย”

“แน่สิแก เชื่อฉันได้ ฉันติดต่อแม่ประเทศจีนไว้แล้วด้วย ทางนั้นก็เตรียมคนมาต้อนรับเหมือนกัน”

“นั่น ๆ น้องขิง น้องขิง!!! น้องขิง สู้ ๆ นะลูก” เมื่อเห็นขิงเดินเข้ามาในสนามบินพร้อมครอบครัวแฟนคลับของขิงก็ส่งเสียงให้เมนตัวเองได้ยินขิงได้ยินจึงโบกมือทักทายเล็กน้อยแล้วก็ยืนเหมือนรอใครอยู่

จนเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดจากด้านหน้าสนามบินทุกคนจึงเริ่มชะงักและหันมองไปยังทางเข้า

“กรี๊ดดดดดดด น้องจินนน”

“จิน!!!!”

“โอ้ย คนสวยขาของกู กูจะเป็นลม ”

เสียงกรี๊ดและเรียกชื่อของจินดังลั่นสนามบินทำเอาคนที่พึ่งลงจากรถสะดุ้งตกใจแล้วหันไปมอง เห็นผู้คนมากมายถือป้ายและเรียกชื่อเธอดังลั่นยืนแน่นในพื้นที่ที่ถูกกั้นเอาไว้

เสียงดังก้องไปทั้งอาคารทำให้ยัยหนูของมิสเตอร์เวสเปอร์จมูกแดงอย่างตื้นตัน จินมองทุกคนแล้วยิ้มให้ โค้งตัว และยกมือไหว้อย่างมีมารยาท โบกไม้โบกมือ แล้วลากกระเป๋าเดินเข้าไปหาอย่างร่าเริง

จนคนเป็นพ่อต้องรีบใช้ตัวเองเป็นการ์ดจำเป็นให้ลูกสาวและคนของมิสเตอร์เวสปอร์ที่ตามมาสมทบ แต่ดูท่ายัยหนูคงมีความสุขกว่าที่คิดจึงให้คนดูแลความปลอดภัยไม่ต้องกั้นให้เสียความเป็นส่วนตัวของลูก

“สวัสดีค่ะ มาหาหนูเหรออ”

เสียงใสพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีจนแฟน ๆ ส่งเสียงอ๋อยกันเป็นแถว

“สู้ ๆ นะคะลูก พวกพี่ ๆ จะช่วยซัพพอร์ตหนูอยู่ที่นี่นะคะ”

“งื้อ ขอบคุณนะคะ งั้นหนูไปก่อนน้า ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลย อย่าลืมหาอะไรทานกันด้วยนะคะ อ้อ เดินทางปลอดภัยกันด้วยนะคะ”

จินโบกมือลาทุกคนแล้วเดินเข้าไปหาขิงที่ยืนรออยู่บ้างก็โบกมือให้แฟนคลับบ้าง ทั้งครอบครัวของเธอและขิงเดินเข้าไปส่วนในของสนามบิน อ้อ วันนี้คุณหญิงอรดีมาด้วยไม่ได้เพราะต้องเดินทางไปหาคุณตาที่ต่างจังหวัด แต่ก็ใช้เวลาอยู่กับจินก่อนเดินทางมาแล้วอย่างเต็มที่

“แดดดี้หนูไปก่อนน้า ถึงแล้วหนูจะโทรหา”

จินเดินเข้าไปกอดพ่อย่างออดอ้อนทำเอามิสเตอร์เวสเปอร์ใจเหลวอีกรอบ

“ดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก อย่าให้มีแมลงมาตอมละยัยหนูของพ่อ หนูต้องโทรหาพ่อทันทีนะ” มิสเตอร์เวสเปอร์กอดลูกสาวจมอก หอมซ้าย หอมขวา หอมหัว แล้วจึงผละออกเมื่อได้ยินเสียงประกาศเรียกจากเที่ยวบินของลูกสาว

จินน้ำตาคลอเล็กน้อยก่อนหักใจโบกมือลาพ่อแล้วจึงเดินไปหาขิงกล่าวทักทายและกล่าวลากับครอบครัวของเพื่อนจึงพากันเดินเข้าไปในเกทเนื่องจากเช็คอินออนไลน์มาแล้วเลยไม่ยุ่งยากในการเช็คอินอีก

เอาละการเดินทางของเธอได้เริ่มขึ้นอีกครั้งแล้ว รอเจอกันนะประเทศจีน รายกาย Is Idol My Idol จินกำลังไปหาแล้วน้าา