เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล - 4 การเป็นไอดอล4 โดย pajoyce/Jumper-J @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ,สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล

รายละเอียด

เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ผู้แต่ง

pajoyce/Jumper-J

เรื่องย่อ

เจเนซิส อัจฉริยะสาวผู้อยากทำตามความฝันในการอยากเป็นไอดอล


แม้ว่าจะมีตำแหน่งไม่ธรรมดาอย่างพันตรีหญิงหรืออีกตำแหน่งนั้นคือแพทย์หญิงแต่เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไรเมื่อถึงเวลาเธอจึงมาทำตามความฝันแม้จะต้องผ่านมรสุมดร่าม่าใด ๆ ก็ตามเธอก็จะฝ่าฝันไปให้ได้ งานนี้ต่อให้กระอักตายก็ยอม

สารบัญ

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-บทนำ เจเนซิส เวสเปอร์,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-1 การเป็นไอดอล1,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-2 การเป็นไอดอล2,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-3 การเป็นไอดอล3,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-4 การเป็นไอดอล4,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-5 การเป็นไอดอล5

เนื้อหา

4 การเป็นไอดอล4

การเป็นไอดอล4





การรวมตัวเพื่ออัดรายการกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ทุกคนได้เตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับการแสดงของตัวเองเรียบร้อย

จินเดินขึ้นไปนั่งที่เดิม เสื้อผ้าในการแสดงของเธอนั้นเป็นกางเกงทรงฮิปฮอปหลวมจั๊มตรงข้อเท้า ด้านข้างหน้าขามีกระเป๋าใหญ่ รองเท้าหนังสีดำสนิท เสื้อสายเดี่ยวสีดำทรงคร็อป

ตัดกับขิงที่แต่งตัวด้วยเสื้อที่เหมือนกันแต่ด้านล่างกลับเป็นกระโปรงเทนนิสเป็นสีขาวทั้งตัว เครื่องหน้าของจินถูกแต่ให้มีความคมดุแต่ของขิงนั้นแต่งสไตล์สวยหวาน

จินถือคอนซิลเลอร์ค้างไว้เพราะยังต้องลบรอยสักในตัวที่มีโอกาสหลุดออกกล้องไป ทางรายการได้ขอไว้สำหรับผู้มีรอยสักให้ปกปิดไว้เพราะรายการนี้มีเยาวชนรับชมเป็นจำนวนมาก

จินสักบริเวณสีข้างจากใต้ราวนมลงมาถึงกระดูกเชิงกรานเป็นรหัสมอร์ส ที่แปลถึงชื่อหน่วยปฏิบัติการของเธอ ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าชื่อนี้คืออะไรเพราะเป็นชื่อลับที่พูดกันในทีมปฏิบัติการเท่านั้น

ชื่อเรียกหน่วยจริง ๆ เรียกว่าหน่วยฟีนิกซ์ แต่คำเรียกขานสำหรับคนในหน่วยคือ ดาร์คฟีนิกซ์ เรียงจากบนลงล่าง ใต้ท้องแขนเป็นรูปนกฟินิกซ์สีเพลิงขนาดประมาณ5นิ้ว

และหลังบริเวณด้านบนขวามือตรงกระดูกปีกที่เป็นรูปเคียวยมทูตสีดำที่มีกิ่งและดอกซากุระพันเลื่อยตั้งแต่ด้านล่างจนถึงยอดเคียวยาวประมาณ1ฝ่ามือ ที่เหลือเป็นในร่มผ้าที่ไม่มีใครเห็น จินใช้เวลาเล็กน้อยในการปกปิดโดยมีขิงช่วยอยู่อีกที

จินเรียกรอยสักพวกนี้ว่าเป็นรอยสักขัดใจหญิงแม่เพราะตอนที่เห็นรอยสักที่เพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ลูกสาวไปปฏิบัติภารกิจนั้นทำเอาเธอหน้าเขียวไล่ทุบลูกสาวตัวดีทุกครั้ง

จินใช้รอยสักทุกรอยเป็นตัวระลึกถึงลูกทีมของตัวเองที่ดับสิ้นชีวิตในการปฏิบัติภารกิจแต่ละครั้ง ภายในตัวจึงมีรอยสักให้เห็นประปราย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรอยเล็ก ๆเท่านั้น ที่ใหญ่ก็เห็นจะมีแค่สามรอยที่โผล่ออกมา

เป็นเวลา10นาทีพอดีที่ปิดรอยสักเสร็จเช่นเดียวกับกรรมการที่ทยอยกันเดินเข้ามาพอดี กรรมการพร้อม ทุกคนพร้อม ผู้กำกับจึงได้เริ่มถ่ายอีกครั้ง

"ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่รายการ IS IDOL MY IDOL ปีที่4 อย่างเป็นทางการ เราจะมาฟังกติกาในรอบแบ่งคลาสกันก่อน"หลังพูดจบด้านหลังของเวทีที่มีจออยู่ปรากฏการเคลื่อนไว เป็นตัวการ์ตูนแมวสุดน่ารักที่มีเสียงพากย์เป็นเด็กน้อยน่ารักน่าเอ็นดู

"เสี่ยวเปาสวัสดีพี่ ๆ ทุกคน การคัดเลือกคลาสของเรานั้นแบ่งเป็น 5 คลาสด้วยกัน ได้แก่ A B C D F ผู้ที่ได้รับคลาส A จะมีจำกัดเพียงแค่10คนตามตำแหน่งเดบิวต์ ส่วนคลาสที่เหลือจะไม่จำกัด

สำหรับผู้ที่อยู่คลาสF พี่สาวมีเวลาในการขยับคลาสแค่ถึงการแสดงรอบแรกเท่านั้น ไม่ว่าคะแนนโหวตของพี่สาวจะสูงมากแค่ไหน แต่ถ้าหลังจากการแสดงรอบแรกแล้วยังไม่มีการเลื่อนชั้น ทุกคนจะถูกคัดออกทันที

ส่วนพี่สาวที่เหลือที่ถูกคัดเกรดก่อนหน้าก่อนแข่งรอบแรกถ้าหากว่าถูกลดคลาสไปอยู่คลาสF พี่สาวจะต้องถูกคัดออกเช่นกัน

ก่อนการแสดงรอบแรกจะมีการแบ่งคลาสอีกครั้ง นั้นคือ ช่วงเวลาสัปดาห์แรก พี่สาวจะมีเวลาพิสูจน์ความสามารถแค่ครั้งเดียวเท่านั้นหลังจากรอบนี้ แน่นอนว่าหลังจากจบการแสดงโชว์รอบแรกคลาสFจะถูกยุบทันที

เราจะมีการแสดงโชว์ทั้งหมด5 ครั้ง ครั้งที่1ผู้ที่อยู่ในคลาสFจะถูกคัดออก คลาสFจะถูกยุบ การคัดออกในครั้งถัดไปเราจะแจ้งให้ทราบอีกที "เสียงเจ้าเสี่ยวเปาที่ตอนแรกได้รับความเอ็นดูกลายเป็นฝันร้ายของทุกคนในทันที

กติกาปีนี้นับว่าโหดร้ายกว่าทุกปีที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการไอดอลอีกครั้ง

เสียงโอดครวญดังขึ้นทันทีที่เสียงของเสี่ยวเปาจบลง ทุกๆ คนมีสีหน้าซีดลงเล็กน้อย การประกาศเมื่อครู่สร้างความกดดันอันมหาศาลให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันทุกคน

"ขอบคุณเสี่ยวเปาที่อธิบายกติกาให้เราฟัง เอาล่ะทุกคน เราจะเริ่มต้นการแข่งขันในรอบแบ่งคลาส มาดูกันว่าระบบจะเลือกทีมไหนเพื่อมาทำการแสดงเปิดครั้งแรก เชิญเสี่ยวเปาเลือก"

เสี่ยวเปาน้อยปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับตัวหมุนสล็อตในหน้าจอช่องสล็อตทั้งสองปรากฏโลโก้ค่ายหลากหลายกำลังหมุนติ้วอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ หยุดลงในแต่ละช่องช่องแรกปรากฏค่ายดังยักษ์ใหญ่ให้ของทางประเทศจีน เล่นเอาทุกคนซู้ดปาก ช่องที่สองเป็นค่ายเล็กที่พึ่งมีชื่อเสียง

"เชิญค่ายเย่หลัน เอนเตอร์เทนเมนต์และค่ายsmil ออกมาครับ"ฮุ่ยเจียงเรียกสมาชิกจากค่ายทั้งสองซึ่งทั้งสองก็ทีมลุกขึ้นและเดินลงไปเตรียมตัวโชว์ ไม่นานนักก็ปรากฏสาว ๆ จากทีมแรกค่ายเย่หลัน ทั้งทีมมีสมาชิก7คนล้วนเป็นคนที่ดูสวยสะดุดตา ทั้ง7คนสวมชุดคุมทีมสีขาวแดง คุมทีมสไตล์นักแข่งรถ ต่างคนต่างสไตล์ แต่ไม่หลุดทีม

"สวัสดีค่ะ พวกเรา scarlet จากค่ายเย่หลัน เอนเตอร์เทนเมนต์ " ทั้ง7แนะนำตัวทีละคนน้ำเสียงฉะฉานหลังจากแนะนำตัวเสร็จก็เริ่มการแสดง

เสียงดนตรีดังกระหึ่มโทนเพลงแนวเซ็กซี่ ร้อนแรง ทั้งเจ็ดจัดระเบียบร่างกายได้ดีในเรื่องของการเต้น ส่วนการร้อง มีเพียงแค่3คนเท่านั้นที่โดดเด่นออกมา นับว่าเปิดตัวรายการได้ดี เมื่อการแสดงจบลงก็ได้รับเสียงปรบมือของทุกๆ คน

"แหมถือว่าเปิดตัวได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมนเทอร์ว่าอย่างไรกันบ้างครับ" ไห่ฮุ่ยเจียงนั่งอยู่บริเวณเดียวกันกับเก้าอี้เมนเทอร์ ก็กล่าวถามเมนเทอร์ทั้งสาม

"เอ่อ ผมคิดว่าการเต้นทำได้ค่อนข้างดี ดูเหมือนจะมีการซ้อมที่หนักพอสมควร แต่การเต้นให้ดี ไม่ใช่แค่เต้นให้ได้ตามท่าที่วางไว้แต่พวกอินเนอร์ก็ต้องมีด้วย

วันนี้พวกคุณเต้นได้ดี แต่มีแค่บางคนที่ปล่อยอารมณ์ออกมาให้ผมได้รู้สึกตามท่วงท่า ยังมีหลายคนประหม่าอยู่บ้าง แต่ถือว่าดีครับ "เมนเทอร์หวังคุนเริ่มเป็นคนแรก

เพราะตลอดการแสดงเขาขัดใจอยู่บ้างในหลายครั้งเพราะท่าเต้นนั้นเรียกว่าเป็นระเบียบแต่มันกลับขาดอารมณ์ทำให้นึกเสียดาย

"หนิงจิง จีน่า เรน ทั้งสามร้องเพลงและคุมน้ำเสียงได้ดี พวกคุณโดดเด่นออกมาจากทีมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันทำให้เราจำคุณได้ดีค่ะ"เดล่ากล่าวชมทั้งสามออกมา หลังจากนั้นเมนเทอร์และPDก็ระดมความคิดกันอย่างหนักจนได้ข้อสรุปในที่สุด

"ลาน่า ไป๋จู่ หนิงหรง จูชิง พวกคุณได้คลาสC ครับ ส่วนหนิงจิง จีน่า เรน พวกคุณได้คลาสB ยินดีด้วยครับ"

สิ้นเสียงไห่ฮุ่ยเจียงทั้ง7รีบขอบคุณและเดินออกจากสเตจ ทุกคนต่างก็สูดหายใจลึกเพราะแม้ทั้งสามคนทำได้ดีแต่มาตรฐานของเมนเทอร์ก็นับว่าสูง สร้างความกดดันให้ตัวเองเพิ่มอีก

ตลอดการแข่งขันมีผู้มีความสามารถให้เห็นเยอะแยะมากมายแต่ยังไม่มีผู้ที่เข้าคลาสเอได้เลยสักคน การแข่งขันดำเนินมาถึงครึ่งทางความกดดันที่มีตั้งแต่เริ่มนั้นเริ่มทำให้เด็กสาวที่ยังไม่โชว์กังวลจนสังเกตสีหน้าได้ง่ายๆ

ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ยิ่งสร้างความกดดันเท่านั้นเพราะมาตรฐานการคัดเลือกยังไม่มีใครสามารถกระเทาะไข่ของคลาสเอได้ ตอนนี้เป็นเวลาตี1กว่าๆ แล้ว

ความง่วงและความเมื่อยล้าสร้างความกดดันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ผู้กับกับเห็นแล้วว่าวันนี้รับน้องแต่เพียงเท่านี้ จึงสั่งคัทหยุดถ่ายและให้ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อนและถ่ายต่อในวันพรุ่งนี้ตั้งแต่9โมงเป็นต้นไป แต่จะยังมีการบันทึกวิดีโอเอาไว้ตลอดเพื่อเก็บฟุตเทจใช้ในการตัดต่อให้มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

ทุกคนที่ได้ยินจากที่เคยตัวเกร็งค้างไว้ถึงกับทิ้งตัวนั่งเหมือนเทียนโดนลน ความกดดันตีแผ่ออกมาเป็นวงกว้างยิ่งสร้างความหดหู่เพิ่มอีก

กรรมการทั้งสามและPD ผู้รับรู้ถึงบรรยกาศต่างมองหน้ากัน พวกเขาไม่ได้อยากสร้างความกดดันมากขนาดนี้แต่กฎกติกาและมาตรฐานที่จะสร้างวงgirl groupวงใหม่ให้มีความสามารถให้มากที่สุด

เนื่องจากทางค่ายได้เซ็นสัญญากับบริษัทจากต่างประเทศในการเปิดตัวและทัวร์คอนเสิร์ตที่จะเล่นในหลายประเทศยิ่งช่วงหลังมานี้ต่างชาติให้ความสนใจกับศิลปินในรูปแบบกลุ่มของโซนทวีปอเชียมากยิ่งขึ้นยิ่งต้องสร้างมาตรฐานมากยิ่งขึ้น

จินมองขิงที่นั่งก้มหน้าน้ำตาคลอเพราะกดดันตัวเองมากเกินไปแล้วถอนหายใจ จินตัดสินใจฟุบตัวนั่งคุกเข่ากับพื้น ดวงหน้าสวยคมเงยมองขิงที่ก้มอยู่ทั้งคู่สบตากันในทันที

"ไหนเป็นอะไรพี่ขิง"ว่าพลางจับมือของขิงขึ้นมาเขย่าไปมา

"พี่กลัวจังเลยจิน"พอมีคนมาปลอบยิ่งทำให้น้ำตาที่คลออยู่ไหลลงมาในทันที ทำเอาจินเบิกตากว้างถลาเข้าไปกอดรุ่นพี่เอาไว้

"กลัวทำไม ทำตามที่ซ้อมเอาไว้ กลัวพลาดมองจิน ทำพลาดมองจิน จินทำต่อเอง ทำตอนนั้นให้เต็มที่ต่อให้พลาดยังไง เราก็ทำเต็มที่แล้ว ยังมีเวลาให้พัฒนาความสามารถอีกเยอะเลยนะ อย่ากลัวไปเลย ยิ่งกลัวยิ่งกดดัน ทำเหมือนที่เคยทำปล่อยอารมณ์ออกมาก็พอนะพี่ โอ๋นะโอ๋"จินโยกตัวปลอบคนขวัญเสียอย่างอ่อนโยนจนขิงดีขึ้นถึงได้ปล่อยตัวออกมานั่งรอสตาฟปล่อยตัว

"โอเค หลายคนอย่าพึ่งกดดันตัวเองเกินไปนะครับ ทำแบบที่ซ้อมมาเลย ยังมีเวลาให้เลื่อนขั้นเกรดอีก เกรดแรกที่ได้มันขยับตลอดเพราะงั้นไม่ต้องกลัวพยายามให้เต็มที่ก็พอครับ"PDฮุ่ยเจียงให้กำลังใจกับเด็ก ๆ รวมถึงกรรมการที่โบกไม้โบกมือให้กำลังใจและให้สตาฟปล่อยตัวเด็ก ๆ ให้ไปพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อที่จะได้ถ่ายต่อในวันพรุ่งนี้





วันต่อมา

7.15 น.

วันนี้จินตื่นเช้าเวลาปกติเวลาตี5 เพื่อมาออกกำลังกาย จินทำมันเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่ได้เป็นทหาร ตื่นเช้า วิ่ง ซิทอัพ และฝึกศิลปะการต่อสู้ท่าทางต่างๆ

เป็นการทบทวนและฝึกกระบวนท่าให้ร่างกายได้จดจำไว้จะได้ไม่มีอาการที่เรียกว่าสนิมเกาะหรือที่เรียกอาการที่ว่าว่าข้อต่อฝืดซึ่งมันจะลั่นก๊อกแก๊กตอนที่เราขยับตัว เป็นอาการที่เจคคนในหน่วยฟินิกซ์ชอบเป็นประจำเพราะชอบหลับตลอดเวลา

ใช้เวลา2ชั่วโมงจึงกลับมาอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดเดิมของเมื่อวาน แต่งหน้า รวมถึงปิดรอยสักอีกรอบ ดีที่เมื่อวานนั้นไม่มีเหงื่อให้รำคาญใจเสื้อผ้าวันนี้ยังคงสะอาดเอี่ยม

ขิงนั้นตื่นมาประมาณ 6.30น.จึงอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วมีหลายคนที่ทยอยกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามีไม่กี่คนที่อาบน้ำตอนเช้าเพราะเป็นการปฏิบัติตัวของชาวประเทศจีนที่จะไม่อาบน้ำในตอนเช้า

กลายเป็นห้องน้ำช่วงเช้าคนไม่ค่อยเยอะเท่าเมื่อคืนที่แย่งกัน เพราะยังไม่ได้แยกห้องอย่างเป็นทางการจึงได้อยู่ในห้องใหญ่ที่ต้องปูฝูกนอนเอาจุคนทั้ง100เอาไว้จึงวุ่นวายเป็นพิเศษ

จินและขิงเดินไปยังโรงอาหารเพื่อรับมื้อเช้า เห็นเหมยอิงและซีซวนโบกมือมาให้ก็เดินไปหาอาหารเช้าเป็นอาหารเบา ๆ แต่อยู่ท้องเพราะต้องใกล้เริ่มถ่ายต่อ จึงเป็นนม ซีเรียล และแอปเปิ้ล1ลูกเท่านั้น

ในส่วนของจินล่ะนะ เพราะคนอื่นก็กินกันจัดเต็มจนจินต้องหันไปปราม ๆ บ้างเพราะจะจุกกัน ซึ่งทั้งสามคนก็เชื่อฟังกันดี พอทั้งทุกคนทานเสร็จก็นั่งรอเวลาย่อยสักพักทีมงานก็มาเรียกตัวไปเตรียมถ่าย

ตอนมาถึงสตูดิโอนั้นเห็นกรรมการทั้งสามคนและPDฮุ่ยเจียงนั่งรออยู่ก่อนแล้วทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มต้อนรับสาว ๆ มานั่งที่เดิม จินเดินผ่านโต๊ะกรรมการเห็นหวังคุนเงยหน้าขึ้นสบตากันพอดี

รอบนี้ตั้งตัวทันยกยิ้มเป็นการทักทายไอดอลในดวงใจ ซึ่งหวังคุนก็ยิ้มกลับมาเช่นกันแม้จะเป็นเพียงการขยับปากไม่มากแต่ดูออกหรอกว่ายิ้ม

เมื่อทุกคนนั่งกันเรียบร้อยทางผู้กำกับก็เดินมาอธิบายรายละเอียดของวันนี้ให้ทุกคนได้ฟัง ต่อให้เริ่มการถ่าย9โมงก็จริงแต่มีการบันทึกภาพทุกอย่างเอาไว้ตลอด24ชม.ทุกวันยกเว้นห้องน้ำและห้องแต่งตัวรวมถึงที่ส่วนตัวต่าง ๆ เท่านั้นที่จะไม่มีการบันทึกภาพไว้

"เอาล่ะพร้อมกันมั้ยทุกคน"ผู้กำกับที่เดินออกไปหลังจากแจกแจงรายละเอียดไปแล้วก็กล่าวขึ้นมาก ทุกๆ คนจึงตะโกนกลับไปว่าพร้อม "โอเคเรากันเลย เสียง!!"

"สปีด!!"

"กล้อง!!"

"สปีด!"

"แอนด์ เอคชั่น!"

สิ้นเสียงต่าง ๆ การถ่ายทำในสตูก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งทันที เสี่ยวเปาระบบคอมพิวเตอร์ทำการเรนด้อมอีกครั้ง ครั้งนี้ระบบเลือกไว้ถึง5ทีมด้วยกัน 5ทีมนี้คือกลุ่มศิลปินอิสระ

ทีมแรกเป็นศิลปินเดี่ยวบุคลิกคล้ายขิงตอนจินเจอในครั้งแรกอยู่ไม่น้อย แต่งตัวขาสั้นเข้าชุดกับเสื้อแขนยาวถือกีต้าร์เข้ามาด้วย

"สวัสดีค่ะ เหออี้ฝ่าน เป็นศิลปินอิสระค่ะ" กรรมการซักถามรายละเอียดเล็กน้อยเรื่องอายุ และทางการลงผลงาน จนการแสดงเริ่มขึ้น

เสียงดนตรีจากกีต้าร์เริ่มบรรเลง เป็นเสียงเกาอย่างสบาย ๆ ทำนองชวนโยกตามให้ฟิลนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟ

เสียงร้องที่เปล่งออกมานั้นทำเอาทุกคนปรบมือให้ ทุกคนอินไปกับเพลงโยกตัวตามจังหวะ โบกมือไปมา เพราะเสียงของอี้ฝ่านคนนี้เพราะมากสะกดใจคนดูได้อยู่หมัด จนเมื่อเสียงดนตรีจบลงทุกคนจึงส่งเสียงร้องและปรบมือให้อย่างล้นหลาม

"ว้าว เสียงคนเป็นเอกลักษณ์ นุ่มชวนฟังมาก ไม่รู้ว่ามีใครสังเกตหรือเปล่าเสียงนี้เป็นเสียงที่มีเทคนิคการเปล่งออกมาได้ดีมาก ถือเป็นคนที่เสียงดีที่สุดที่ฟังมาตั้งแต่เมื่อวานเลยค่ะ"เดล่าตื่นเต้นมากจึงกล่าวออกมาอย่างดีใจที่ได้เจอคนที่ทำให้ตื่นเต้นสักที

"ว้าวใช้เครื่องดนตรีได้ชำนาญเหมือนอวัยวะหนึ่งของเรา เก่งมาก"หลิวต้าเฟิงเองก็กล่าวชมคนที่เล่นดนตรีได้ไพเราะ

"ในประวัติเขียนว่าคุณเคยเรียนเต้นอยู่2ปี"หวังคุนถามอี้ฝ่าน น้ำเสียงนุ่มชวนฟัง

"ค่ะ ใช่ค่ะ เคยเรียนเต้นตอนอายุ12 ไม่ได้เต้นมา7ปีแล้วค่ะ"

"งั้นคุณลองเต้นหน่อยได้ไหม"

"ค่ะ ได้ค่ะ"อี้ฝ่านตอบรับ แม้จะไม่ค่อยมั่นใจเพราะไม่ได้เต้นอย่างจริงจังมานาน มีแค่เต้นอยู่บ้างช่วงตอนร้องเพลงตามร้านต่าง ๆ เธอเดินไปคุยกับทีมงานเรื่องเพลงและกลับมาเตรียมตัว

เพลงเริ่มในจังหวังป๊อป การเต้นของอี้ฝ่านเป็นการเต้นแบบป๊อบปิ้ง การล็อคท่าที่ตรงตามจังหวะดนตรี และไม่หลุดจังหวะนั้นเรียกเสียงปรบมือของทุกคนได้อย่างล้นหลาม

เมื่อการแสดงจบลงอี้ฝ่านก็ได้รับเสียงชมจากเมนเทอร์ด้านการเต้น เพราะขนาดห่างหายจากการเต้นไปนานยังเต้นได้ขนาดนี้นับว่าเก่งมาก ๆเมนเทอร์หันไปปรึกษากัน ดูท่าทียิ้มแย้มแล้วเดาผลได้ไม่ยาก ไห่ฮุ่ยเจียง PDคนเก่งจับไมค์ขึ้นมาเพื่อประกาศผล

"เอาละครับ! ดูเหมือนว่าสิ่งที่รอคอยได้ปรากฏขึ้นแล้ว! ยินดีกับเหออี้ฝ่าน คุณได้คลาสAเป็นคนแรก ยินดีด้วยครับ" สิ้นเสียงทุกคนก็ปรบมือแสดงความยินดีให้กับผู้ฝ่าด่านของกรรมการขึ้นสู่คลาสเอเป็นคนแรกได้สำเร็จ

หลังจากนั้นก็เป็นวงต่อมาที่สร้างสรรค์การแสดงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ต้องบอกว่ากลุ่มศิลปินอิสระมีคนมีฝีมือเอาเรื่อง

เพราะทุกทีมนั้นต่างได้อย่างต่ำคลาสC ทั้งนั้นไม่มีใครตกถึงคลาสF และมีคลาสAเพิ่มอีกคนจากกลุ่มที่รวมศิลปินอิสระ4คนที่เป็นทีมเฉพาะกิจ

การแสดงผ่านไปเรื่อย ๆ จนเวลาล่วงเลยมาถึง5โมงเย็น แน่นอนว่าช่วงเที่ยงทุกคนได้รับประทานอาหารไปแล้วมีทีมงานนำอาหารเป็นกล่องมาแจง

ส่วนกรรมการไปนั่งหลบอยู่อีกห้อง อาหารเที่ยงเป็นข้าวกับไก่ผัดพริกที่ดูเหมือนจะเผ็ดแต่พอกินแล้วกลับหวานไม่ได้เผ็ดมากอย่างที่คิด

การแสดงรอบวันนี้มีความสนุกกว่าเมื่อวานเพราะคนที่มีความสามารถที่ถูกจัดให้อยู่ในคลาสAนั้นเพิ่มขึ้นมาอีก6คน รวมก่อนหน้า2 คนเป็น8คนเท่ากับว่าเหลือที่สำหรับคลาสAอีกเพียงแค่สองที่เท่านั้น

ดูเหมือนทีมจากต่างประเทศต้องตบท้ายการแสดงในวันนี้ การเรนด้อมเกิดขึ้นในตอนนี้อีกครั้งแต่หน้าจอไม่ได้ปรากฏชื่อค่ายขึ้นมาแต่ปรากฏเป็นตัวหนังสือว่า ค่ายจากต่างประเทศเริ่มที่สองทีมแรกเป็นทีมจากประเทศญี่ปุ่นและอีกทีมจากประเทศเกาหลีใต้ทีมที่สามเป็นของประเทศไทยนั่นเองทุกคนรีบลุกขึ้นแล้วลงไปเตรียมตัวที่ด้านหลังเวที

ด้านหลังนี้เป็นห้องที่มีที่นั่งรอหลายตัว ทุกคนที่มาเตรียมต่างแยกทีมใครทีมมันเพื่อฝึกซ้อม จนทีมงานสตาฟมาเรียกทีมแรกจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีทั้งหมด4คน เป็นคนที่จินเคยเห็นเพราะโด่งดังจากในประเทศเจ้าตัวไม่น้อยเป็น gIrl groupที่มีสมาชิกนับร้อยในทั่วประเทศ

อยู่ข้างหลังนี้จะได้ยินแค่เสียงของการแสดงเท่านั้นเพื่อไม่เป็นการสร้างแรงกดดันให้ผู้ที่ต้องแข่งร่วมกันจึงไม่ให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังได้ชมการแสดง

เวลาผ่านไปผู้ที่มาจากประเทศญี่ปุ่นทีมแรกได้คลาสBทั้ง4คน และอีกทีมของประเทศญี่ปุ่นนั้นที่มี3คนได้คลาสB 1คนและได้C 2คน

ทีมจากประเทศเกาหลีใต้มี5คนมี2คนได้ได้B 1คนได้คลาสCและ2คนได้คลาสAเท่ากับว่าคลาสAนั้นมีคนเต็มแล้ว ทำเอาจินและขิงนั้นมองหน้ากันเล็กน้อย

ก่อนหน้านี้ขิงเครียดไปจนซ้อมพลาด จินต้องพูดคุยปรับทัศนคติเล็กน้อยจึงเรียกความมั่นใจของขิงออกมาได้อีกครั้ง

ทีมงานเดินมาเรียกทั้งคู่เมื่อถึงเวลาเริ่มการแสดงทั้งคู่เดินผ่านทีมของประเทศเกาหลีใต้ซึ้งทุกคนก็หันมาให้กำลังใจอย่างน่ารัก

จินและขิงรับไมค์ที่ทีมงานส่งให้ก่อนขึ้นเวที เมื่อมาถึงกลางเวทีความรู้สึกที่แตกต่างทำเอาจินขนลุกนิดๆ เพราะชีวิตที่ผ่านมานั้นต้องคอยปิดบัง พลางตัว แฝงตัวตลอด พอวันนี้มีไฟส่องมาที่ตัวเองแล้วกลับไม่ค่อยชิน

“สวัสดีค่ะ พวกเรามาจากค่าย ZEN entertainment" ทั้งคู่พูดพร้อมกันพลางก้มหัวทำความเคารพแล้วก็เป็นขิงที่เริ่มแนะนำตัวก่อน

"สวัสดีค่ะชื่อ ขวัญวรา เดชะสร ชื่นเล่นชื่อขิง ส่วนที่นี่ใช้ชื่อว่า หนิงลู่ชิง (หยกแห่งดวงดาวอันสงบ) อายุ22ปี"

"สวัสดีค่ะ ชื่อ เจเนซิส เวสเปอร์ ชื่อเล่นชื่อจินจินใช้ชื่อที่นี่ว่ากวางไป่จิน (แสงสว่างของทองคำขาว) อายุ21ปี"

"ว้าวพวกคุณพูดภาษาจีนได้เก่งมากเลย"PDฮุ่ยเจียงพูดขึ้นมาเพราะสำเนียงของทั้งคู่นั้นชัดเจนมากเหมือนเป็นเจ้าของภาษา

"พวกเราเรียนภาษานี้กันอยู่แล้วใช้ช่วงมัธยมค่ะ"ขิงตอบกลับในทันที ที่จริงจินพูด อ่าน เขียน ได้หลายภาษาเพราะต้องทำงานแฝงตัวบ่อยๆ แต่ก็ให้ขิงบอกไปว่าเรียนมานั่นแหละดีแล้ว

เมื่อแนะนำตัวเสร็จก็ถึงเวลาสำหรับการแสดงของทั้งคู่ พวกเธอแสดงการร้องเต้นกึ่ง ๆ มิวสิคัล คือมีการแสดงอยู่ในเพลงด้วย

เนื้อเรื่องจากเพลงและการเต้นที่พึ่งพากันไป เป็นเรื่องของเด็กสาวที่งดงามบริสุทธิ์ตัวแทนเป็นชุดขาว ที่ได้ออกมาเผชิญกับโลกกว้างและได้เจอสิ่งที่เป็นไปกับโลกนี้ซึ่งทำให้เธอต้องสร้างอีกตัวตนของเธออกมา สังคมปัจจุบันที่ทำให้เธอต้องทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่รอด

จินยืนประจันหน้ากับขิงเหมือนเป็นกระจกแสงไฟฝั่งจินดับลงของขิงสว่างขึ้น เสียงเพลงจังหวะช้าเริ่มขึ้นพร้อมกับเนื้อรองเสียงของขิงสร้างความตะลึงให้กับทุกคนจนต้องสูดหายใจเขาลึก ๆ

ขิงเต้นจังหวะช้าผสานกับบัลเล่ต์ที่ตัวเองเต้นได้กลายเป็นการแสดงที่เข้ากันอย่างน่าขนลุก การเต้นและร้องไปด้วยเป็นเรื่องที่ยากแต่ขิงทำได้ดีเพราะได้จินช่วยฝึกให้

การขยับกายเป็นไปอย่างพริ้วไหวของขิงส่งความหมายให้ทุกคนเห็นว่าเธอกำลังเจอกับอะไรผ่านการเต้นและร้องรวมถึงอารมณ์ที่แผ่ออกมา

มาถึงจังหวะที่ขิงเดินมาหยุดที่หน้ากระจกไฟของเธอก็ดับลงไฟฝั่งจินสว่างขึ้นจินเริ่มร้องเพลงและเต้นการเต้นของจินใช้เทคนิคของโรบอทแดนซ์เข้าผสานช่วงจังหวะของช่วงEDM

ท่าเต้นของจินเน้นความแข็งแรงและดุดัน เสียงร้องของจินใช้เทคนิคบิดเสียงให้แหบลง ทุกคนในสตูแทบหยุดหายใจ

โชว์แบบมืออาชีพนี่มันคืออะไรกัน!

จินสไลด์ตัวกลับมายืนตำแหน่งเดิมไฟทั้ง2ฝั่งสว่างขึ้นพร้อมกันจินและขิงเริ่มทำท่าที่เหมือนกันขิงมีน้ำตานองให้อารมณ์เศร้าและผิดหวังจนแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธมือล้วงเข้าไปในกระจกจับมือของจินเอาไว้แล้วกระชากออกมา

กระจกถูกทำลายลงจินมายืนด้านหลังของขิงและโอบกอดไว้ทั้งคู่เต้นด้วยท่าเดียวกันจินร้องเพลงคลอกับขิงในช่องเสียงที่ต่างออกไปทำให้เพลงดูมีหลายมิติ

จินเต้นท่าทางที่เหมือนขิงทุกประการเหมือนเป็นเงาที่ออกมาจากกระจกแต่ทุกการเคลื่อนไหวเมื่อจินได้จับตัวขิงกลับมีสีดำแต่งแต้มเสื้อผ้าของขิงเอาไว้เสมอจนเมื่อเพลงใกล้จบขิงถูกดันให้หายไปจากแสงไฟและมีจินขึ้นมายืนแทนดวงตาของจินมีน้ำตาแววตาแข็งกร้าวไม่ยอมใครอีกต่อไป

แล้วเพลงก็จบลง

ขิงเดินมายืนข้างจินทุกอย่างรอบกายเงียบสนิท ทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของตัวเองบางคนน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

เมนเทอร์เดล่าที่น้ำตาไหลออกมาตอนไหนไม่รู้เธอตกใจที่เด็กทั้งสองคนทำได้ขนาดนี้เป็นอย่างมาก สักพักมีคนปรบมือดึงสติทุกคนให้กลับคืนแล้วทั้งห้องส่งสตูดิโอก็พร้อมใจกันปรบมือจนเสียงดังสนั่น จินและขิงสูดหายใจลึกหันมากอดกันเพื่อสลัดอารมณ์ที่ยังมีอยู่ให้ออกไป

"นี่มัน สุดยอดเลย ว้าว ฉันร้องไห้ตอนไหนเนี่ย เป็นการร้องที่ใช้เทคนิคที่ยากด้วยกันทั้งคู่ เก่งจังเลย การใช้ช่องเสียงทั้งคู่ต่างกันมากแต่ท่อนที่มีการร้องผสานไป่จินมีการเปลี่ยนช่องเสียงเพื่อให้เสียงของลู่ชิงโดดออกมากแต่ทำให้ทั้งสองเสียงผสานกันได้อย่างดีและออกมาเพราะมากด้วย"เดล่าดูตื่นเต้นและพูดออกมาอย่างดีใจที่ได้เห็นเทคนิคการร้องเพลงที่เข้ากันได้ดีของทั้งคู่

"เพลงนี้ต่างจากต้นฉบับมากเลยทีเดียว ใครเป็นคนทำเพลงให้ครับเนี่ย"หลิวต้าเฟิงรู้สึกชอบการมิกซ์เพลงที่นำมาแสดงมาก

"จินเป็นคนทำเพลงค่ะ"

สิ้นเสียงของขิงทุกคนก็ฮือฮาอีกครั้งคนที่ทำเพลงได้ต้องเก่งมากๆ เพราะต้องทำความเข้าใจในดนตรีและเมโลดี้ต่าง ๆ หลิวต้าเฟิงกล่าวชมอีกเล็กน้อยก็ส่งให้กับหวังคุนในหารสอบถาม

"ท่าเต้นคิดกันเองไหมครับหรือมีครูฝึกช่วยฝึกให้"

"อ่ะ เอ่อ คิดกันเองค่ะ"จินอดจะเขินไม่ได้ที่ได้คุยกับเมนที่ชื่นชอบจนขิงที่ยืนมองปลงและตอบคำทำให้ชัดเจน

"จินเป็นคนคิด ออกแบบเวที ออกแบบท่าเต้นและทำเพลงเลยค่ะ"เท่านั้นแหละก็มีเสียงปรบมือเกิดขึ้นอีกครั้ง

"เก่งมากเลยครับ การแสดงของพวกคุณส่งอารมณ์และสื่อสารออกมาได้โดยผู้ชมรับรู้ความหมายในทางเดียวกัน ถือว่าเก่งมาก ๆ เลย" โอ๊ยจับจินหน่อยจะวูบเสียงในใจของจินที่ดังขึ้นเพราะได้รับคำชมจากคนในดวงใจ

"กวางไป่จินในประวัติคุณน่าสนใจมากเลย จบแพทย์ตอน17 หลังจากนั้นก็เป็นทหาร"PDไห่ฮุ่ยเจียงพูดขึ้นมาเพราะสังเกตเห็นประวัติค้นพบว่าอัจฉริยะเข้าให้แล้ว

"ใช่ค่ะ พอจบแพทย์ก็ไปเป็นทหารกับกองทัพสหรัฐค่ะ" ทุกคนตื่นตะลึงกันอีกรอบ เธอยังไม่บอกหรอกว่าระหว่างฝึกจนขึ้นเป็นหัวหน้าหน่อยฟินิกซ์ก็ทำวิจัยไปด้วยจนบรรลุเป็นแพทย์หญิงเต็มตัวเดี๋ยวจะตกใจกันยกใหญ่ กรรมการสุมหัวกันประชุมอีกครั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

"เอาล่ะถึงเวลาแล้วครับทุกคน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เรารอคอย ครั้งนี้เราจะได้พบการbattle!ซึ่งมีไว้สำหรับชิงเก้าอี้คลาสAนั่นเอง"สิ้นเสียงPDทุกคนก็มีการปรบมือโห่ร้องออกมาอย่างสนุกสนาน

"ขอแสดงความยินดีกับทั้ง2คนครับ พวกคุณได้คลาสA และแน่นอนเราจะเปิดเวที battle กัน ณ บัดนี้!!!"