เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล - 5 การเป็นไอดอล5 โดย pajoyce/Jumper-J @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ,สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล

รายละเอียด

เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้

ผู้แต่ง

pajoyce/Jumper-J

เรื่องย่อ

เจเนซิส อัจฉริยะสาวผู้อยากทำตามความฝันในการอยากเป็นไอดอล


แม้ว่าจะมีตำแหน่งไม่ธรรมดาอย่างพันตรีหญิงหรืออีกตำแหน่งนั้นคือแพทย์หญิงแต่เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไรเมื่อถึงเวลาเธอจึงมาทำตามความฝันแม้จะต้องผ่านมรสุมดร่าม่าใด ๆ ก็ตามเธอก็จะฝ่าฝันไปให้ได้ งานนี้ต่อให้กระอักตายก็ยอม

สารบัญ

ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-บทนำ เจเนซิส เวสเปอร์,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-1 การเป็นไอดอล1,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-2 การเป็นไอดอล2,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-3 การเป็นไอดอล3,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-4 การเป็นไอดอล4,ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอล-5 การเป็นไอดอล5

เนื้อหา

5 การเป็นไอดอล5

การเป็นไอดอล5





การ Battleได้เริ่มต้นขึ้นทันทีเมื่อสิ้นเสียงไห่ฮุ่ยเจียงประกาศ คนที่รอดูความสนุกต่างส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างสนุกสนานและรอคอยความตื่นเต้น

จินเอาลิ้นดุนแก้มข่มความตื่นเต้นเอาไว้ อะดรีนาลีนหลั่งออกมาเนื่องด้วยเธอชอบความท้าทายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

การ battle คือการดวลกันนั่นเองซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรายการ Is idol My idol โดยแต่ละซีซั่นที่ผ่านมานั้นสร้างความตราตรึงให้กับผู้ชมทางบ้านเสมอและนั่นจึงเป็นเสน่ห์ของรายการนั่นเอง

ครั้งนี้เองก็เช่นกันไห่ฮุ่ยเจียงนำกระดาษที่เขียนชื่อผู้ที่เธอทั้งคู่ต้องไปท้าทายไว้ เมื่อจินเปิดดูจึงทราบว่าเป็นบุคคลที่เธอเองประเมินไว้ว่าเก่งที่สุดในที่นี้นั่นเอง ดูเหมือนว่าคนที่เขียนชื่อนี้จะเป็นหวังคุนที่ต้องการดูศักยภาพของคนทั้งคู่

ส่วนขิงเมื่อเปิดกระดาษดูก็อึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเดินขึ้นไปยังแท่นที่นั่งโซนA ไปหาหญิงสาวที่มีชื่อในกระดาษ ของขิงเป็นคนที่เก่งด้านร้องเหมือนกันเมื่อเดินไปอยู่ตรงหน้าก็ประกาศศึกทันที

“เฮน่ารับคำท้าดวลหรือไม่” ผู้คนที่ได้ยินต่างสูดหายใจลึก เฮน่าเป็นหญิงสาวที่สวยและมีเสน่ห์สูงทีเดียวเธอรับไมค์มาและตอบกลับในทันทีอย่างมั่นใจ

“แน่นอนเราไปข้างล่างกัน” เฮ!! เสียงเชียร์จากทุกคนดังขึ้นอย่างสนุกสนานจนเมื่อมาถึงคิวของจินเธอเดินไปยังจุดที่มีหญิงสาวชื่อว่ามู่หลิน ที่กำลังมองเธออยู่เช่นกันจินเดินไปหาส่งกระดาษให้กับมู่หลินซึ่งมู่หลินก็รับมาอย่างมั่นใจ มู่หลินมีความมั่นใจสูงมาตั้งแต่เด็กและเนื่องด้วยไม่เคยมีใครกล้าขัดใจเธอจึงค่อนข้างเอาแต่ใจอยู่ไม่น้อย

“เราจะไปรอข้างล่างเลยละกัน” มู่หลินเดินผ่านจินและในจังหวะนั่นเองที่เจ้าตัวได้กระซิบให้ได้ยินแค่สองคน “อย่าได้สำคัญตัว คิดเกินเลยกับหวังเกอ”

อ่า สงสัยเธอคงจะสังเกตว่าจินชอบหวังคุนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ได้ข่าวเรื่องคุณหนูหยางมู่หลินคนนี้อยู่บ้างในวงการไอดอลของจีน ซึ่งตระกูลหวังและตระกูลหยางดูจะเป็นตระกูลใหญ่

ดูเหมือนทั้งสองคนจะถูกจับคู่กันมาตั้งแต่เด็ก จินคงจะเจอตอที่ค่อนข้างมีอิทธิพลอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว จินยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรมากในเมื่อเธอชอบหวังคุนแบบแฟนคลับชอบศิลปิน เธอไม่ได้ชอบแบบคนรักและไม่ได้อยากครอบครองในเชิงชู้สาวเสียหน่อย

เธอแค่อยากสนับสนุนเขาเท่านั้น ไม่ได้อยากคบด้วย อีกอย่างพูดซะเหมือนหวังคุนเค้าจะชอบเธองั้นแหละ จินถอนหายใจและขำในลำคอเบา ๆ แล้วจึงเดินตามคุณหนูหยางลงไปด้านล่างเวที

“เอาละในเมื่อทั้ง2คู่พร้อมแล้ว ผมจะให้โจทย์คือ การแข่งร้องและเต้น ซึ่งจะให้ร้องคนละ1เพลงและสลับร้องเพลงของอีกคนอีกรอบ

ส่วนเรื่องการเต้นเราจะสุ่มเลือกเพลงและให้คนใช้การเต้นแบบฟรีสไตล์ได้เลย ผู้ชนะจะได้อยู่คลาสAและผู้แพ้ต้องตกอันดับไปอยู่คลาสB”

ฮุ่ยเจียงเมื่อเห็นทุกคนมาพร้อมจึงได้เกริ่นเรื่องกติกาขึ้นมาซึ่งทำให้ทุกคนฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะการร้องเพลงของอีกคนนั้นถือว่าท้าทายตัวเองอย่างหนึ่ง

ทีมงานเดินขึ้นมาสอบถามถึงเพลงที่จะใช้และให้ได้ฝึกกันโดยเพลงที่คุณหนูหยางเลือกค่อนข้างยากสำหรับจินมากทีเดียวเพราะเธอไม่เคยได้ดูซีรีส์ช่วง4-5ปีมานี้ จึงไม่คุ้นหูกับเพลงเลย

“ขอโทษนะคะ ขอฟังเพลงนี้กับขอเนื้อร้องก่อนได้ไหมคะ ไม่เคยฟังเลย” จินเดินไปหาทีมงานเพื่อบอกจุดประสงค์ของตัวเอง ทางทีมงานจึงรีบหาเนื้อและนำหูฟังเฮดโฟนมาให้

เมื่อเพลงเล่นจินถึงกับนิ่งไปเพราะมันเป็นเพลงที่เพราะมากจริง ๆ รวมถึงคนร้องสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมาก ๆ ความหมายของการอยู่อย่างทรมานรอคอยคนรักกลับมาหลังจากดวงจิตสลายไป

โอเคเพลงยากแล้วหนึ่ง

จินใช้เวลา30นาทีในการจดจำเนื้อร้องซึ่งช่วงนั้นนั่นเองที่ให้ทุกคนได้รับประทานของว่างและพักผ่อนเป็นเวลา1ชั่วโมง ซึ่งจินใช้เวลานี้ปลีกตัวเองออกมาเพราะต้องการสมาธิ ขิงรู้ข้อนี้ของจินดีจึงให้จินได้มีเวลาของตัวเอง

จินนั่งหลับตาทวนเนื้อเพลงในหัวและทำความเข้าใจของเนื้อหารวมถึงเรียบเรียงเพลงใหม่ในหัวตีความออกมาให้เป็นแบบที่เธอเข้าใจ

เธอคิดว่าการทรมานจากการรอคอยเป็นหนึ่งในความเจ็บปวดที่ถือว่าเป็นอันดับต้นๆ แล้วยิ่งเป็นการรอต่อสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ยิ่งเจ็บปวดเข้าไปใหญ่ แต่เพลงที่เธอจะสื่อออกมาต้องมีอีกอารมณ์ที่มันจำเป็นต้องมีแน่ ๆ ในเพลงนี้จากความคิดของเธอ

“เอาละเริ่มการแบทเทิลต่อได้ การถ่ายทำยังคงถ่ายต่อนะครับ” ผู้กำกับประกาศเสียงผ่านโทรโข่งอันน้อย ๆให้ทุกคนเตรียมตัว

พี่แกดันห้อยมันไว้กับตัวเลยทีเดียว

อันน้อยแต่เสียงไม่น้อยจริง ๆ

จินเดินถือทุกอย่างคืนทีมงานและกลับมายืนกลางเวทีอีกครั้งในชั่วโมงที่ผ่านมาทั้งสามคนก็แยกไปฝึกเพลงของอีกฝ่ายเช่นกัน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยผู้กำกับสั่งแอคชั่นอีกครั้งทุกคนจึงเริ่มทำหน้าที่ต่อทันที

“เป็นไงบ้างพร้อมกันมั้ยครับ เราจะให้คู่ของหนิงลู่ชิงและเฮน่าเริ่มก่อน เชิญเลยครับ” ประเดิมการแข่งขันโดยคู่แรกซึ่งมีความแข็งแรงในเรื่องการร้องและความไม่ถนัดในเรื่องการเต้นกันทั้งคู่ เฮน่ายืนกลางเวทีส่วนขิงยืนริมขอบ ขิงและคุณหนูหยางคนงามอยู่ห่างถัดไปจากขิงอีกที

เสียงดนตรีเริ่มขึ้นทำนองเพลงเป็นเพลงป๊อบธรรมดา ค่อนข้างหน้าแปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายเลือกเพลงนี้ แต่ทันทีที่เสียงร้องปรากฏความสงสัยก็หายไปเพราะเป็นเพลงที่ใช้เสียงได้อย่างน่าทึ่ง ใช้จังหวะจะโคนได้อย่างดี

ตอบได้ทันที่ว่าเป็นเพลงที่อีกฝ่ายถนัดแน่นอน เมื่อเพลงของเฮน่าถึงท่อนฮุคที่เป็นที่จดจำได้ของเพลงนี้เธอใช้เสียงสูงขึ้นสร้างความอึ้งจนทุกคนต้องปรบมือให้อย่างล้นหลาม

จนเพลงจบลงทุกคนต่างปรบมือให้อย่างท่วมท้นเพราะดูเหมือนศึกครั้งนี้เฮน่าจะทุ่มสุดกำลังเลยทีเดียว

ขิงสูดหายใจลึกหันมาของกำลังใจจากจินซึ่งจินก็ยิ้มให้กำลังใจพลางยกหมัดขึ้นมาท่าทางแข็งแรงแต่พอเห็นหน้าขิงอีกรอบจึงเปลี่ยนเป็นสองนิ้ว

ลืมไปว่าไม่ได้กำลังฝึกทหารอยู่ไม่จำเป็นต้องให้กำลังใจแบบผู้ชาย ขิงเดินไปทางเวทีแล้วจึงเริ่มเล่นกีต้าร์เริ่มสิ่งที่เธอถนัดเช่นกันเพลงของขิงนั้นเป็นเพลงสไตล์น่ารัก ซึ่งเน้นฟังสบาย

จินคิดอย่างเสียดาย เพลงที่ขิงใช้นั้นใช้วิธีเพลย์เซฟอยู่ไม่น้อยทำให้เสียคะแนนสำหรับส่วนนี้หายไป แต่ขิงทำมันได้ดีเพราะเป็นเพลงน่ารัก ๆ จึงเล่นกับบทเพลงได้

เธอใส่ความสนุกสนานแบบเจ้าหญิงกำลังเล่าเรื่องราวให้เหล่าปวงประชาฟัง เรียกเสียงปรบมือจากทุกคนได้เป็นอย่างดี มาถึงท่อนบริดจ์ ทุกคนก็ร้องขึ้นมาพร้อมกัน พร้อมเสียงปรบมือเข้าจังหวะจนเมื่อเพลงจบลงถึงได้รับเสียงตอบรับมากพอๆ กัน

การแข่งรอบต่อไปคือการสลับเพลงในการแข่ง เฮน่าเริ่มด้วยเพลงของขิงเธอร้องเป็นฉบับของตัวเองโชว์พลังเสียงของเธอเองจนเพลงน่ารักมีอารมณ์เพลงมากขึ้นไปอีก

โอเคตรงนี้จินถอนหายใจอย่างรู้ผลไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ใช้เสียงเก่งจริง ๆ นั่นแหละ ได้แต่คอยให้กำลังใจกับพี่ขิงของเธอเท่านั้น

เมื่อเพลงจบขิงจึงเริ่มร้องเพลงของอีกคน เพลงนี้ด้วยเสียงของของขิงนั้นเน้นไปทางเสียงสบาย ๆ มีการเล่นเสียงบ้างแต่เฮน่าใช้เสียงได้ดีกว่า คะแนนส่วนนี้ค่อนข้างน่าเสียดายอยู่บ้างแต่ก็เข้าใจได้ว่าช่องเสียงของทั้งคู่ต่างกัน

ของขิงช่องเสียงแคบกว่าการออกเสียงที่ต้องใช้เสียงสูง ๆ ค่อนข้างยาก การเปล่งเสียงจึงเน้นไปทางการฟังสบายไม่ระคายหูเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน ผ่อนคลาย

แต่ของเฮน่ากลับเป็นช่องเสียงที่กว้างสายดีว่าโชว์พลังเสียง ถือว่าวันนี้เฮน่าอ่อนให้ขิงอยู่บ้างเพราะใช้เพลงที่ขิงร้องได้ จินจึงถือว่าเฮน่าคนนี้เป็นมิตรและสามารถสร้างพันธมิตรได้ เมื่อจบรอบแรกจึงเป็นการให้คะแนนเองของจินนั่นคือเฮน่ามีคะแนนนำอยู่

รอบที่สองของการแข่งขันแน่นอนว่าเป็นเฮน่าที่เริ่มขึ้นการเต้นที่รอบนี้ทั้งคู่ต่างไม่ถนัดเฮน่าเต้นไปตามจังหวะเพลงแต่เป็นการเต้นที่ไม่แข็งแรงนัก ออกลวดลายตามจังหวะซึ่งเป็นการเต้นที่ทำให้จินเอ็นดูได้เพราะท่าทางที่เน้นไปทางน่ารักใช้ความน่ารักข่มท่าทางที่ไม่ถนัด

ถือว่าใช้ท่าทางได้ดี เมื่อมาถึงรอบของขิงเพลงที่ดังขึ้นทำเอาขิงหันมองจินเพราะเป็นเพลงที่จินเคยฝึกสอนให้เธอลองเต้นดูเป็นเพลงดังที่หาฟังทุกช่องทางเพราะฮิตติดตลาดจินขำในลำคอเบาอย่างสบายอารมณ์

ถือว่ารอบนี้เทพแห่งโชคคงจะเข้าข้างขิงไม่น้อยทีเดียว ขิงใช้ท่าเต้นที่จินเคยสอนในการเต้น มีบางท่าที่หลุดไปบ้างเพราะค่อนข้างยากแต่เธอก็ทำได้ดี จินคิดว่าการเต้นเป็นสิ่งที่ขิงเคยทำไม่ได้เลยก็จริงแต่นั้นเป็นช่วงที่ทั้งคู่ยังไม่ได้เจอกัน

เพราะหลังจากเจอกันหลังซ้อมเพลงที่ใช้เต้นในการแสดงแล้วเธอยังจัดคอร์สสอนเต้นให้ขิงไปหลายคอร์สจนสามารถเต้นได้ดีขึ้นมาก

แน่นอนว่ายกนี้จินให้ขิงนั่นแหละเพราะต่อให้เคยซ้อมมาก็จริงแต่ขิงก็ใช้ท่าที่คิดว่าเหมาะกับเพลงออกมาบางท่าก็เป็นท่าที่จินไม่ได้สอน ดูท่าว่าลูกศิษย์ของเธอก็เก่งไม่น้อยเลยทีเดียว

จนเมื่อถึงเวลาที่คู่ของจินและหยางมู่หลินต้องแข่งกันเสียที จินมองไปที่คุณหนูหยางคนงามที่มองเธออยู่เช่นกันแน่นอนว่าเธอยักคิ้วให้และผายมือเป็นเชิงให้สาวน้อยได้เริ่มก่อน

หยางมู่หลินจึงเดินออกไปและร้องเพลงทันที จินถือว่าเสียงของมู่หลินมีเสียงที่ดีแต่ไม่แข็งแรงพอที่จะร้องเพลงที่ยากขนาดนี้ เนื้อเสียงที่ต้องใช้เสียงสูงสาวน้อยก็เร่งเกินไปจนมีความแปร่งออกมา

ดูเหมือนว่าที่เลือกเพลงนี้คือกะจะให้เธอเสียหน้าสินะ จินคิดพลางถอนหายใจออกมาอย่างปลง ๆ นึกสงสารมู่หลินอยู่ไม่น้อยเพราะเธอเลือกเพลงมาฆ่าตัวเองชัด ๆ ในเมื่อความสามารถไม่ถึงแล้วจะเลือกเพลงยากเกินไปทำไมกัน

ท่อนสุดท้ายที่เปล่งออกมาจบเรียกเสียงปรบมือได้ไม่น้อยเลยทีเดียวอาจจะเรียกว่าหากคนปกติได้ฟังจะรู้สึกว่าเพราะนั่นแหละ แต่ถ้าต้องเป็นกรรมการก็จะจับความผิดปกติได้อยู่

ถึงเวลาที่จินต้องออกมาร้องบ้าง จินเลือกเพลงที่ใช้เสียงไม่มากแต่ก็เป็นเสียงที่ค่อนข้างทรงพลัง ส่วนใหญ่จะมีท่อนแรปก็เป็นเพลงแรปนั่นแหละคือสิ่งที่จินถนัดรองลงมาจากการเต้น เสียงดนตรีหนัก ๆ ดังขึ้นทำอาทุกคนต้องโยกหัวตามจังหวะ

“Hey!!! Are you ready!!!” จินเริ่มประโยคแรกเป็นภาษาสากลเพราะเพลงเป็นเพลงสากลนั่นเอง จินทักทายทุกคนและเริ่มเดินไปทั่ว ๆ เวทีแน่นอนว่าเธอไม่คิดว่าเป็นการแข่งขัน

เพราะนี่เป็นโชว์ของเธอ “Let Go!!” ประโยคแรกเป็นการแรปแน่นอนว่าเสียงจินมักจะใช้เสียงแหบ ๆ ในการแรปเสมอซึ่งมันเป็นเสน่ห์ประจำเสียงแรปของเธอไปเสียแล้ว

เมื่อท่อนบริดจ์ซึ่งต้องเป็นเสียงร้องจินก็ใช้เทคนิคเปลี่ยนเสียงให้สูงและกว้างเพื่อโชว์พลังเสียง ทุกคนในห้องส่งต่างกรี๊ดออกมาอย่างสนุกสนาน ทุกคิดต่างคิดว่านี่เป็นคอนเสิร์ตแสดงเพลงที่สุดยอดมาก ๆ

จินเอนเตอร์เทนผู้คนเสมอเธอต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมและสนุกไปกับเพลง ท่อนแรปที่เธอร้องออกมาทั้งรัวและแข็งแรงจนมู่หลินที่เตรียมฝึกเพลงของอีกคนไว้อีกแบบถึงกับกลืนน้ำลายยกใหญ่

จนเมื่อจบเพลงแล้วทั้งห้องส่งต่างส่งเสียงปรบมือและกรี๊ดกันดังสนั่นห้องส่งจนจินต้องก้มหัวขอบคุณ จินเดินกลับไปสลับที่กับหยางมู่หลิน

หยางมู่หลินเดินออกมาร้องเพลงของจินต่อ ซึ่งทำได้ดี แต่พลาดตอนแรปเยอะไปหน่อย อันที่จริงมันคือการแข่งขันไม่เราก็เขาแพ้เพราะงั้นก็จินถึงเลือกเพลงนี้ออกมาเพราะสามารถใช้เป็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายนั่นเอง

เห็นแล้วแอบสงสารอยู่หน่อย ๆ แต่เพราะอีกฝ่ายตั้งท่าจะเป็นอริกับเธออยู่แล้ว คิดว่าการแข่งขันในสามเดือนนี้คงมีเรื่องสนุก ๆ ให้ได้เห็นบ้างแน่นอน

หลังจากหยางมู่หลินร้องเพลงจบจินก็เดินเข้าไปอีกครั้ง และเริ่มร้องเพลงของอีกฝ่ายเริ่มร้องโดยใช้เสียงที่เป็นลมออกมาก่อน เน้นเสียงเอื่อยยาวให้อารมณ์จะขาดใจ

เริ่มท่อนแรกของเพลงทำเอาทุกคนขนลุก จินใส่อารมณ์การรอคอยด้วยความหวังที่ริบหรี่เต็มทนแต่ก็ยังคงรอคอย เสียงสูงลากยาวในท่อนบริดจ์ เมนเทอร์เดล่าถึงกับลุกขึ้นปรบมือ

การร้องเพลงดำเนินมาถึงจุดจบจินเน้นไปทางสายตาที่ส่งอารมณ์สุดท้ายของเพลง การรอคอยสิ้นสุดลง คือการที่เขาได้ตายจากไปเพื่อได้พบกับคนรักในโลกหน้า เมื่อเพลงจบทุกคนปรบมือกึกก้อง ไม่คิดว่าจินทำมันได้ดีขนานนี้

“นี่มันเกินไป เกินไปแล้ว”

“เธอเป็นพระเจ้าหรือ”

“เก่งไม่ไหว”

“ใจเย็น ๆ ก่อนนะสาว ๆ การแข่งขันยังไม่จบ เรามาเริ่มการแข่งรอบเต้นกันดีกว่าครับ”

เสียงพูดคุยยังคงดังอย่างต่อเนื่องจนทำให้ฮุ่ยเจียงต้องรีบคุมสถานการณ์ให้สงบลง เมื่อสงบลงมู่หลินเดินเข้ามาอีกครั้งโดยที่จินเดินไปยังด้านหลังเล็กน้อยเพื่อปล่อยพื้นที่ให้มู่หลินได้ออกลวดลายการเต้นอย่างเต็มที่

เมื่อเพลงเปิดมาดนตรีเริ่มขึ้นมู่หลินเริ่มเต้นด้วยท่าทางและสายตาที่เซ็กซี่มาก จินถึงกับสูดปากไปพลางโยกหัวไปพลาง การเต้นรอบนี้ของมู่หลินเรียกเสียงโห่ร้องอย่างกึกก้อง

ทุกคนลุกขึ้นมาขยับเต้นตามจังหวะอย่างสนุกสนานสังเกตจากสายตามู่หลินคนงามมักจะส่งไปให้หวังคุนตลอดทำให้จินขำเบาๆ ไม่ได้

จนเมื่อเพลงจบลงจินก็ปรบมือให้กับมู่หลินอย่างชื่นชม เป็นการเต้นที่แข็งแรงและเซ็กซี่มากจริงๆ นั่นแหละ

จินเดินสวนกับมู่หลินซึ่งจังหวะนั่นเองที่เพลงดันเปิดขึ้นพอดี เพลงเป็นจังหวะแข็งแรงและมีความกระตุกน่าเต้นทีเดียว

จินเริ่มด้วยท่าที่เซ็กซี่ ซึ่งลอกมาจากมู่หลินประมาณสองท่า แล้วจึงหันไปค่อมกายให้มู่หลินเล็กน้อยเพื่อให้เกียรติและเป็นเชิงว่าเล่นด้วย

พอดีกับจังหวะที่เพลงเปลี่ยนจังหวะเป็นป๊อบปิ้ง จินจึงล็อคท่าและออกสเต็ปตามจังหวะออกท่าเบา ๆ แต่เป็นการล็อคท่าที่แข็งแรงและโหดมาก

จินใช้เทคนิคการเต้นแบบไลน์ผู้ชายทำให้ท่าทางทุกท่าล้วนแข็งแรงและมีเสน่ห์ เล่นเอาสาว ๆ ที่นั่งอยู่ล้วนอ้าปากค้างและเขินอยู่ไม่น้อยเพราะมันดูเท่และชวนใจสั่นมากเลย

นอกจากท่าเต้นแล้ว จินยังแสดงหน้าตา เล่นหูเล่นตาส่งเสริมความแพรวราวให้เพิ่มอีกเท่าตัว

เมื่อเพลงจบทั้ง4คนจึงมายืนอยู่ตรงกลางเวทีเพื่อรอการตัดสินของเมนเทอร์และPD เมนเทอร์ทั้ง4 พูดคุยกันเสียงเบาแบบที่ไม่มีใครสามารถได้ยินเอาจริงๆ จินอ่านปากได้แหละแต่ทำเมินไปมองทางอื่นเพราะอยากรู้พร้อมเพื่อน ๆ เท่านั้น เมื่อเหล่าเมนเทอร์ตกลงกันเรียบร้อยจึงได้หันกลับมาอีกครั้ง

“โอเค เอาละ พวกเราได้คุยกันและได้ข้อสรุปเรียบร้อย ผมจะให้เมนเทอร์ได้คอมเมนต์กับการแสดงของพวกคุณก่อนแล้วกัน” ฮุ่ยเจียงพูดจบเดล่าจึงหยิบไมค์ขึ้นมา

“อืม เทคนิคการร้องของทุกคู่แตกต่างกันมากเลยนะคะแต่คุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพียงแค่เป็นเพลงคนละแนวกันจึงตัดสินไม่ยาก หนิงลู่ชิงการแข่งขันรอบนี้คุณต้องเอาทุกอย่างที่มีมาเพื่อสู้นะ

ไม่ใช่ระมัดระวังเกินไปแบบนี้น้ำเสียงมีความประหม่าอยู่เล็กน้อยแต่เพราะเลือกเพลงที่สบาย ๆ เกินไปทำให้ไม่สามารถโชว์เสียงที่แท้จริงได้

ดีที่มีอีกเพลงของอีกฝ่ายมาทำให้รู้ว่าเสียงร้องของคุณเป็นแบบไหนซึ่งเพลงที่คุณร้องของเฮน่าคุณกลับทำได้ดีกว่าที่เลือกมาเสียอีก” เมนเทอร์เดล่าเลือกที่จะคอมเมนต์ก่อนตัดสินซึ่งขิงก็ยอมรับข้อเสียของตัวเอง

“ส่วนเฮน่า คุณทำได้ดีทั้งสองเพลงอยู่แล้ว การใช้เสียงจังหวะออกเสียงทำได้ดี แต่ก็มีความประหม่าทีแสดงออกทางสีหน้าออกมามากเหมือนกัน

ต่อมาในส่วนของมู่หลินวันนี้เลือกเพลงที่ยากเกินไปสำหรับเราหรือเปล่าเข้าใจว่าอยากโชว์พลังเสียงแต่เราไม่ไหวเราก็ไม่ควรฝืนนะ

ท่อนเสียงช่วงปกติเพราะมากใช้เสียงได้ดีมาก แต่ช่วงเสียงสูงเสียงคุณไปไม่ถึงคุณน่าจะใช้เทคนิคบิดเสียงและร้องในคีย์ที่ต่ำลงมาได้นะ” เดล่าแนะนำการร้องให้มู่หลินลองทำดูซึ่งพอมู่หลินลองทำตามปรากฏว่าเพลงเสียงสูงที่เคยร้องไม่ถึงกลับเพราะขึ้นมาอีกระดับ จินนับถือเมนเทอร์เดล่าขึ้นมาทันทีคิดในใจคนมีฝีมือและเป็นครูได้แบบนี้หายากแล้วในปัจจุบัน

“อีกเพลงซึ่งเป็นของไป่จิน มู่หลินอาจจะไม่ถนัดแรปอยู่แล้วจึงออกมาไม่ดีเท่าไหร่แม้ว่าจะร้องเหมือนต้นฉบับก็ตาม

กวางไป่จิน อันนี้ไม่รู้ว่าต้องแนะนำตรงไหน เพราะเราคุมเวทีได้ดีมากอารมณ์ การแสดงสีหน้า การเอนเตอร์เทน คุณเอาเวทีอยู่ ทำให้ผู้ชมสนุกไปกับคุณได้ถือว่าเก่งมาก อีกเพลงคุณใช้เทคนิคเสียง การร้องได้ดีขนาดนี้ทำไมถึงมาแข่งขันในรายการนี้ละ” เดล่าถามจินเพราะสงสัยที่ฝีมือขนาดนี้แล้วยังมาแข่งในรายการที่หาเด็กใหม่ ๆ มาขัดเกลาอีก

“เพราะจริง ๆ ไม่มีประสบการณ์ใด ๆ บนเวทีเลยค่ะ อาศัยว่าชื่นชอบศิลปินดูวิธีการที่เค้าใช้และลองฝึกดูเท่านั้น นี่ถือเป็นเวทีที่มีผู้ชมครั้งแรกสำหรับฉันค่ะ” จินบอกกับเดล่าซึ่งถือว่าเธอยังเป็นมือใหม่ในสายงานนี้อยู่มากจึงเลือกที่จะมาแข่งในรายการ

เดล่าพยักหน้าให้และส่งไม้ต่อให้หลิวต้าเฟิงได้สอบถามจินอีกเล็กน้อยถึงเรื่องของการแรป

“หยางมู่หลิน ไม่ถนัดแรปแต่ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวมีหลุดเป็นบางช่วงเพลงนี้ต้นฉบับไม่ได้แรปเยอะอยู่แล้ว แต่กวางไป่จินแรปออกมาเกือบทั้งเพลงส่วนใหญ่แต่งแรปเอง ฝึกแรปมากี่ปีแล้วครับ”

“2ปีเกือบๆ 3ปีแล้วค่ะ”

“เก่งมากๆ เลย ผมรู้สึกว่ามันมีกลิ่นอายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของคนผิวดำ คุณฝึกกับใครไหมครับ” เอกลักษณ์ของคนผิวดำ ในทางการแรปจะเป็นการแรปดุและใช้ถ่อยคำที่รุนแรงอยู่บ้างซึ่งวันนี้จินแรปดุเกือบทั้งเพลงอีกทั้งมันยังมีเอกลักษณ์ที่ฉายออกมาอีกด้วย

“อ๋อ พี่ที่หน่วยช่วยสวนให้ค่ะแล้วก็พาไปตระเวนแข่งเวทีต่าง ๆ เฉพาะช่วงนั้นกะว่าจะแรปเอาสนุกคลายเครียดแต่พอทำไปเรื่อย ๆกลับชอบจริง ๆ เลยฝึกจริงจังค่ะ”

“เยี่ยมมากไว้มีโอกาสเรามาทำเพลงกัน” สิ้นเสียงทำเอาคนอื่น ๆ ร้องหูยอย่างอิจฉากันเกือบทุกคน หลิวต้าเฟิงพยักหน้าให้กับหวังคุนเพื่อคอมเมนต์ต่อ

หวังคุนหมองหน้าทั้ง4คนอย่างเงียบๆ หวังคุนในสายตาแฟนคลับคือชายหนุ่มที่ค่อนข้างเงียบขรึมแต่เวลาขึ้นคอนเสิร์ตความขรึมกลับไม่ได้ลดความสนุกเลยมันเป็นนิสัยที่แฟนคลับตั้งฉายาว่าคุณชายน้ำแข็ง แต่นิสัยจริงๆ ก็ไม่ได้ขรึมขนาดนั้นเพราะมีหลายช่วงที่เจ้าตัวยิ้มแย้ม สนุกสนาน

“หนิงลู่ชิงกับเฮน่าต้องบอกตามตรงว่าท่าทางของหนิงลู่ชิงแข็งแรงกว่ามากเลยทีเดียว ฝึกนานไหมครับ” เสียงทุ่มน่าฟังทำจินเคลิ้มไปเล็กน้อยแต่ได้การสูดหายใจเรียกสติกลับมา

“เดือนนิด ๆ ค่ะ ได้จินช่วยฝึกให้โดยตรง” โอเค ไอ้สติเมื่อกี้เกือบหายอีกครั้งเพราะพ่อท่านเล่นเหลือบสายตามามองสบกันจัง ๆ ทำเอาเกือบขาอ่อนไปเลย

“อืม เฮน่า ยังต้องปรับอีกเยอะมากเลยแต่ถือว่าแก้ไขสถานการณ์ได้ดีที่เรียกเอาความน่ารักมาใช้ หยางมู่หลินเรื่องเต้นคุณทำได้ดีมากแต่ใช้ความเซ็กซี่มากเกินไปผมคิดว่ามากไปมันค่อนข้างเบื่อไปหน่อย” แม่เจ้าพ่อท่านเป็นคนตรง ๆ แหละ

ตรงอีกนิดถือถ้ามีดแทงอยู่คือพรุนแล้วนะ

จินเสียวหลังวาบขึ้นมาอย่างอย่างห้ามไม่อยู่ พร้อมรับแรงกระแทก? บุคคลที่เรียกได้ว่าเป็นไอดอลของตัวเอง “กวางไป่จิน การเต้นแข็งแรงมากทักษะการเต้นสูงมากทีเดียว แม้หลายคนอาจจะเห็นว่าวันนี้เป็นการเต้นที่ดูเบา ๆ ผมไม่รู้ว่าใครสังเกตได้บ้างไหมคือแต่ละท่าเค้าล็อคข้อต่อได้ดีมากฝีมือแบบนี้หายากมากเลยเลย เก่งครับ” สิ้นเสียงจินถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เสียงดังช่วงที่ทุกคนเงียบเพื่อตั้งใจฟังเมนเทอร์หวังคุนอยู่พอได้ยินเสียงตัวเองถอนหายใจออกมาเสียงจึงยิ้มแฮร่อย่างเขินๆ

“เซี่ย ๆ เมนเทอร์” ทั้ง4ก้มตัวขอบคุณเมนเทอร์ทั้ง3ที่ให้คำแนะนำ จนถึงเวลาในการประกาศผลนั่นเองที่เรียกความตื่นเต้นออกมาอีกครั้งเดล่าจึงรับหน้าที่เป็นผู้ประกาศผลการแบทเทิลในครั้งนี้

“เอาละสำหรับหนิงลู่ชิงและเฮน่า ขอแสดงความยินดีกับ……..เฮน่า!!! ยินดีด้วยคุณสามารถรักษาเก้าอี้คลาสAไว้ได้ ส่วนหนิงลู่ชิงคุณได้อยู่ในคลาสB ไม่ต้องเสียใจไปคุณยังมีเวลาสำหรับการทำคะแนนต่อไปค่ะ” ขิงได้ยินเสียงประกาศก็ไม่ได้เสียใจเพราะตนพอจะรู้ผลของตัวเองอยู่แล้วจึงหันไปกอดจินซึ่งจินก็กอดตอบและลูบหัวเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ

ขิงจึงผละตัวเดินไปจับมือกับเฮน่าและเดินไปนั่งที่ตามคลาสด้วยกัน เป็นสถานการณ์ที่ดีพอสมควรตัดมาที่คุณหนูคนงามที่ตอนนี้แทบจะหยุมหัวจินอยู่แล้วตั้งแต่ที่ได้รับคำชมจากเมนเทอร์และได้สบตากับเมนเทอร์หวังคุน เอาเป็นว่ายืนห่างๆ หน่อยดีกว่า

“และสำหรับคู่นี้ หยางมู่หลิน……เสียใจด้วยที่ต้องบอกคุณว่าคุณต้องตกอันดับเข้าสู่คลาสB และแสดงความยินดีกวางไป่จินที่เอาชนะหยางมู่หลินเข้าสู่คลาสAได้สำเร็จเชิญเข้าสู่ที่นั่งได้” สิ้นเสียงคุณหนูคนงามชักสีหน้าเล็กน้อยแต่หากไม่สังเกตดี ๆ ก็คงดูไม่ออก

จากนั้นยื่นมาจับกับจินเป็นการแสดงความยินดีซึ่งจินก็ยื่นมือจับแต่โดยดี

โอเคแม่สาวน้อยจังหวะจับนี่เล็บยาว ๆ ของเธอจิกลงมาเต็มแรงเล่นเอาจินสะดุ้งนิด ๆ อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ก็เก็บอาการไว้ได้เป็นอย่างดี เป็นการเอาคืนแบบเด็ก ๆ ที่พอจะยอมได้อยู่ จินหันไปขอบคุณเมนเทอร์และเดินไปนั่งที่นั่งสำหรับคลาสA

“ยินดีกับทุกคน วันนี้ก็ได้สิ้นสุดการแข่งขันเพื่อแยกคลาสเป็นที่เรียบร้อย ลำดับต่อไปเรากำลังจะได้เจอกับอะไรทุกคนรู้มั้ยครับ” PDฮุ่ยเจียงที่เดินไปอยู่กลางเวทีพูดขึ้นซึ่งจริงๆ มันเดาได้อยู่แล้วเพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทุกปี

“เพลงธีม!!!!!”

“ใช่แล้วล่ะ เพลงธีมนั่นเอง เพลงธีมรายการในปีนี้ได้พี่ ๆ จากซีซั่นที่1ซึ่งได้ร่วมงานกันอย่างเฉพาะกิจสละเวลามาแต่งเพลงให้พวกเรา เชิญไปฟังกันได้เลย” หลังเสียงของPDฮุ่ยเจียงก็ปรากฏ VTR ขึ้นเป็นคลิปพี่ๆ จากซีซั่นที่1ซึ่งเป็นบอยแบรนด์วงแรกจากรายการ IS IDOL MY IDOL ชื่อวงว่า blacklist ซึ่งเป็นวงที่หมดสัญญาไปแล้วแต่ยังคงกลับมารวมตัวเพื่อแต่งเพลงให้กับสาว ๆ รุ่นที่4 อีกครั้ง

ใน VTR เป็นพี่กำลังล้อมวงหน้าเคร่งเครียดขีดเขียนบางอย่างในกระดาษจากนั้นก็เป็นการนำเครื่องดนตรีมาใช้ ไปจนถึงการใส่ดนตรี

เด็ก ๆ เห็นการฝึกเต้นของรุ่นพี่ เมื่อทุกอย่างจบลงก็เป็นเสียงดนตรีดังขึ้นพร้อมกับท่าเต้นที่มีจังหวะรุนแรงแต่มีความพริ้วไหว นุ่มนวล

เป็นท่าที่เต้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงส่วนเพลงก็ติดหูท่วงทำนองเข้มแข็งแปลกไปจากซีซั่น2ที่เป็นความอ่อนหวานน่ารัก ปีนี้เห็นได้ชัดแล้วว่าเน้นความแข็งแกร่งทะมัดทะแมงแต่มีความพริ้วไหว

ทุกคนอ้าปากค้างกับความยากของเพลง เมื่อจบเพลงPDฮุ่ยเจียงจึงกล่าวต่อ “และพวกคุณมีเวลาเพียง3วันในการฝึกเพลงธีมเท่านั้น ขอให้ทุกคนโชคดี”



คัท!!!!!