เพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้
ชาย-หญิง,รัก,จีน,ไทย,อื่นๆ,สโลว์ไลฟ์,นางเอกฉลาด,รายการค้นหาไอดอล,วงการบันเทิง,นางเอกเก่ง,นักร้อง,ไอดอล,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ความฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเป็นไอดอลเพราะทุกคนมีความฝัน จินเองก็เช่นกัน ไม่เสียดายเลยที่เลือกทิ้งการเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษหน่วยฟินิกซ์ แหมก็ความฝันสุดเด็ดของเธอคือการเป็นไอดอลนั่นเอง รอก่อนเถอะ ฉันจะทำมันให้ได้
เจเนซิส อัจฉริยะสาวผู้อยากทำตามความฝันในการอยากเป็นไอดอล
ตอนที่6
การเป็นไอดอล6
เช้าวันใหม่จินตื่นตั้งแต่ตี5 เพื่อวิ่งออกกำลังกายและฝึกปรือศิลปะการต่อสู้ไม่ให้ฝีมือฝืดลง เนื่องจากต่อให้ปลดประจำการแล้ว แต่ยังมีสัญญาว่าด้วยหากเกิดสถานการณ์ซึ่งเป็นภัยต่อมนุษยชาติรหัสแดง
ทหารทุกคนที่ปลดประจำการแต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้จะต้องกลับไปประจำการ (ชั่วคราว) เพื่อต่อสู้ในสนามรบอีกครั้ง จินจึงจำเป็นต้องฝึกทุกวัน ใช้เวลาในการฝึกประมาณ3ชั่วโมง จึงเดินกลับห้องพักเพื่ออาบน้ำ
ห้องพักในครั้งนี้แบ่งตามคลาสที่ได้รับ คลาสAได้อยู่ห้องใหญ่สามารถพักได้ห้องละ2คน เป็นห้องส่วนตัวกว้างใหญ่ สะดวกสบาย
ส่วนห้องของคลาสB จะให้อยู่ห้องละ 6 คน มีเตียง2ชั้น ส่วนคลาสCและF ห้องละ10 คน หากใครอยากนอนห้องที่เป็นส่วนตัวก็ต้องทำผลงานและเลื่อนคลาสตัวเองขึ้นมาให้ได้ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนได้สู้เพื่อจะได้นอนในที่สบาย ๆ
หลังอาบน้ำจึงไปที่ห้องอาหารโดยมีทางรายการจัดไว้ให้ซึ่งมีมากพอสำหรับเด็กฝึกทุกคนอาหารที่หลากหลายพอให้หลาย ๆ คนยิ้มออกมา
จินเจอขิงกำลังนั่งรับประทานอาหารกับเพื่อน ๆ คลาสAและBก็จัดการลากรูมเมทของเธอไปด้วย รูมเมทคนนี้ชื่อว่าเหวยซูจิน เป็นคนที่มีความสวยนำมาเป็นอันดับแรก
เพราะว่าก่อนเข้าวงการไอดอลเธอเป็นนักแสดงมาก่อน เรียกว่าประสบการณ์ล้นเหลือ ทุกคนที่โต๊ะต่างก็ทักทายกับจินและซูจินอย่างเป็นมิตรและมีคนนั่งกันบนโต๊ะ5คน
“จิน อันนี้อร่อย ลองชิมดู” ขิงป้อนอาหารจีนที่มีสีแดงฉูดฉาดให้เธอชิม รสชาติเผ็ดแต่ติดหวาน อร่อยดีในความคิดจินจึงพยักหน้าคืนให้ขิงเป็นการตอบ
“อือ อร่อยนะ เดี๋ยวมา ไปตักข้าวก่อน” ว่าแล้วก็เดินไปตักอาหาร ห้องอาหารที่นี่กว้างขวางจุคนได้ประมาณ300คน
วันนี้แยกคนได้ง่ายเพราะทุกคนต่างสวมชุดประจำคลาสของตน คลาสA B C D F สีประจำได้แก่ม่วง ชมพู เขียว แดง เทาตามลำดับ และสีทุกสีจะเป็นสีอ่อนพาสเทลเพื่อไม่ให้แสบตาเกินไป เมื่อทุกคนรับประทานอาหารเสร็จจึงแยกย้ายกันไปฝึกซ้อมตามห้องของคลาสตัวเอง
จินเดินเข้ามาในห้องคลาสAมีเพื่อนหลายคนกำลังซ้อมอยู่แล้ว เมื่อเข้ามาทุกคนก็ทักทายกันอย่างเป็นมิตรแต่จินจะนั่งพักอีกหน่อยเพื่อใช้เวลาในการย่อยอาหารและใช้เวลาว่างตรงนี้เพื่อจดจำเนื้อเพลงประจำซีซั่นปัจจุบัน มีเนื้อหาเยอะ ทั้งท่อนแรป ท่อนร้อง แต่สำหรับจินเรื่องการจดจำไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว
เธอเป็นคนจำเก่งเนื้อเพลงพวกนี้เลยง่าย จำได้ภายใน30นาที และใช้เวลาที่เหลือเพื่อแกะท่าเต้น เป็นทักษะของเธอเองที่ต้องแกะท่าเต้นให้อยู่ในหัวแล้วถึงจะลองเต้นดู เมื่อศึกษาท่าเต้นจึงลองเต้นเธอใช้เวลาไปแค่4ชั่วโมงก็สามารถจำเนื้อร้องและท่าเต้นได้ทั้งหมด
“จินจิน สอนหน่อยน้า” คลาสA ทั้ง10คนอันได้แก่ จินจิน ซูจิน หวานเหมย เหออี้ฝาน จูชิงชิง เฮน่า เจนนี่ เย่ซิน มารุโกะ คิมจีอึน ทั้ง10คนนี้ต่างก็เป็นบุคคลที่กรรมการคิดว่าเก่งที่สุดในตอนนี้
ทั้ง10คนได้ทำความรู้จักกันไปตั้งแต่เมื่อวานตอนแยกห้องไปแล้ว และพอวันนี้ได้มาซ้อมกันทุกคนเห็นจินจำได้หมดจึงมาขอร้องให้ช่วยสอนในเรื่องท่าเต้น แต่บางคนเช่นคิมจีอึน หรือจูชิงชิง กลับจำได้บ้างแล้วเช่นกัน 2คนนี้เป็นเด็กฝึกจากค่ายใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องฝึกโหดอยู่แล้ว จึงช่วยกันฝึกคนอื่นในคลาสAใช้เวลาวันเดียวทุกคนก็จำได้กันทั้งหมด
“ขอบคุณจินจิน จีอึน ชิงชิงมาก ๆ เลย ตอนนี้แค่ฝึกให้แข็งแรงก็ได้แล้วถ้าไม่ได้ทั้งสามคนคงเสียเวลาอีกวันแน่ ๆ” หวานเหมยคนที่บอกให้จินช่วยสอนให้คนแรกเอ่ยขึ้นอย่างดีใจที่สามารถจำท่าได้ทั้งหมด
เธอและเพื่อนในคลาสบางคนไม่ได้เต้นเก่งมากนะถนัดด้านการร้องมากกว่าถ้าไม่ได้ให้ทั้งสามคนช่วยคิดว่าต้องใช้เวลาเต็มวันที่รายการให้มาแน่ ๆ
“เฮ้ยไม่เป็นไร มันไม่ได้ลำบาก ช่วยได้ก็จะช่วยทุกอย่างนั่นแหละ อย่าไปคิดมาก” ชิงชิงโบกไม้โบกมืออย่างไม่ซีเรียส เธอมีบุคลิกสบาย ๆ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกผ่อนคลาย
ส่วนจินที่กำลังยกขวดน้ำขึ้นดื่มก็ยักคิ้วอย่างเห็นด้วยกับชิงชิงเบา ๆ อย่างไม่ถือเช่นกันการสอนพวกนี้ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง ช่วยได้ก็ช่วย เธอไม่ได้เป็นคนงก ขี้เหนียวฝีมือเสียหน่อยการแข่งรายการแบบนี้ถ้าช่วยกันได้จะดีมาก
เพราะแฟนคลับชื่นชอบในมิตรภาพมากว่าการแก่งแย่งชิงดีกัน จะให้ปั้นหน้าเข้ม ตีหน้าตึงไม่สนคนอื่นก็ไม่ใช่แนวเท่าไหร่
“จินของพี่” เสียงเรียกจินเป็นภาษาไทยแว่ว ๆ อยู่หน้าประตูห้องซ้อมเรียกเสียงหัวเราะเบา ๆ ของจินออกมาอย่างห้ามไม่ได้
พร้อมกันนั่นเองที่หัวทุย ๆ ของขิงโผล่ออกมาแบบแอบ ๆ เพราะกลัวจะขัดจังหวะการซ้อมอยู่นั่นเอง พอเห็นว่าทุกคนอยู่ในช่วงพักจึงได้โผล่ออกมาทั้งตัว
“ช่วยฝึกให้พวกพี่หน่อยสิจินเหล่าซือ” ขิงเปลี่ยนมาพูดภาษาจีนเพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจด้วยแน่นอนว่าเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
“อือ ไปสิ” จินตอบกลับเสียงเอื่อย ๆ นิ่ง ๆ แต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกลบต่อคนที่ได้ฟังแต่อย่างใด เป็นอันบอกกับขิงว่าได้เลยแบบอารมณ์ของคนกำลังขี้เกียจพูดนั่นเอง
จินเองเป็นแบบนี้บ่อย ๆ นอกจากต้องตีหน้าเข้มฝึกคนในหน่วย ที่มักจะหลุดความน่าเอ็นดูให้คนในหน่วยเอ็นดูแล้วจะมีความเอื่อย ๆ ของความขี้เกียจพูดออกมาบ้าง
จินเดินตามขิงออกมาจากห้องคลาสA มาถึงห้องคลาสBที่มีคนฝึกอยู่ตามมุมต่าง ๆ ห้องนี้กว้างกว่าห้องซ้อมคลาสAเล็กน้อย แต่คนในห้องอัดแน่นเกือบเต็มพื้นที่แน่นอนเพราะสมาชิดเยอะกว่าคลาสAหลายคนทีเดียว
ขิงพาจินเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ กลุ่มเดิมที่เคยเจอกันตอนกำลังรับประทานอาหาร ชื่อ ว่านิโอกะที่เป็นชาวประเทศญี่ปุ่น และสาว ๆ กลุ่มแรก เซี่ยเหมยอิง และฟู่ซีซวน ที่จินเจอในตอนที่อยู่บนเรือนั่นเอง
“จินเจียเจี่ย พี่มาแล้ว มาช่วยชีวิตของฉันแท้ ๆ เลย” เหมยอิงเดินมาเขย่ามือจินเบา ๆ พลางทำหน้าอ้อนที่บอกเป็นนัยว่าพี่ต้องช่วยพวกหนูนะ หนูจะตายแล้ว จินยิ้มมุมปากเล็กน้อย พลางเดินไปนั่งตรงกลุ่มของสาว ๆ
“จำเนื้อได้หมดกันยัง” เป็นการถามที่มีคำตอบเดียวกันหมดคือกันพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง จินมองทั้งสี่คนที่พยักหน้าพร้อมกันอย่างกับลูกเจี๊ยบจิกอาหารแล้วกลั้นขำ โอเคอาจเป็นเธอคนเดียวที่ชอบติดฟิลเตอร์น่ารัก ๆ ให้คนอื่นอยู่บ่อย ๆ แต่มันหมือนจริง ๆ นะ
“โอเคงั้นแค่เต้นนะ” จบปุ๊บก็ให้ทุกคนลุกขึ้นเต้นให้เธอดูก่อนหนึ่งเที่ยว จินเป็นคนคอยคุมรีโหมตควบคุมลำโพงขนาดเล็กไว้
สิ่งนี้มีให้สำหรับคนที่ต้องการแยกซ้อมที่ทางรายการเตรียมไว้ให้นั่นเอง จินอธิบายลักษณะของรูปแบบการออกท่าทางให้สาว ๆ ฟังพลางทำให้ดูและสอนให้ บางท่าก็มีคนทำได้แล้วบางท่าก็ยัง
จึงใช้เวลาในการช่วยควบคุมและล็อคท่าทางให้แต่ละคนอยู่ไม่น้อย ไป ๆ มา ๆ คนในห้องเริ่มมาขอคำแนะนำเรื่อย ๆ จนกว่าครึ่งในห้องเต้นไปพร้อมกันได้โดยมีจินนั่งมองอยู่ตรงกระจกด้านหน้าเพื่อมองภาพรวมของทุกคน
เมื่อเห็นใครผิดพลาดก็เดินไปหา คอยปรับโน้นนี่จนเกือบทั้งห้องเต้นได้อย่างพร้อมเพรียงมีคนจากคลาสCที่เข้ามาฝึกแบบเนียน ๆ จินปล่อยเบลอสอนให้อย่างไม่คิดอะไร
ซึ่งมีอีกกลุ่มที่อยู่มุมห้องที่ซ้อมอยู่ทุกคนต่างก็เต้นกันได้แล้วแต่ก็ยืนยันที่จะซ้อมกันเองซึ่งก็คือกลุ่มของคุณหนูคนงามนั่นแหละ
จินคิดว่าไม่ใช่เรื่องของเธอที่จะต้องเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเขา ช่วยสอนให้คนที่อยากเรียนรู้กับเธอเองดีกว่า
กลายเป็นวันนั้นทั้งวันเธอรับหน้าที่เป็นครูฝึกให้เพื่อน ๆ คลาสอื่น ๆ ที่ทยอยกันเข้ามาให้ช่วยสอน และมีเพื่อนจากคลาสAที่จำได้แล้วก็มาช่วยด้วยเหมือน
โดยที่ทีมงานก็เก็บภาพพวกนั้นไว้ทั้งหมด ช่วงที่ซ้อมให้คนอื่นทุกคนจะเห็นท่าทางของจินที่เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม ดูแฝงท่าทีที่ดูกดดัน ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยมาก
โดยสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ครูฝึกที่เมืองไทยเคยท้วงอยู่หลายครั้งว่าเป็นจุดอ่อนในการวางท่าทางที่สร้างความเป็นมิตรกับคนอื่น แน่นอนว่ามันติดเป็นนิสัยของเธอเมื่อเข้าสู้โหมดการทำงาน
แต่ในตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเพราะขิงได้บอกกับทุกคนแล้วว่าเป็นโหมดที่ตั้งใจทำงานของจินไม่ต้องเครียดไป
และเมื่อซ้อมเสร็จจินก็มีท่าทีที่ผ่อนคลายลงคุยเล่นกับคนอื่นได้ปกติ คนอื่นจึงค่อย ๆ ชินไปเอง บรรยากาศที่ค่อย ๆ คึกคักกลับมาช่วงเย็นที่ทุกคนแยกย้ายจิน ขิง และคนอื่นอีก2-3คนถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์เดี่ยว
ก่อนหน้านี้ช่วงแข่งคัดเกรดมีหลายคนที่ถูกเรียกไปสัมภาษณ์แล้ว ขิงเป็นหนึ่งในนั้น ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของจินเอง
จินเดินเข้ามาในห้องที่ใช้เป็นห้องสัมภาษณ์ ซึ่งมีฉากด้านหลังเป็นชื่อรายการและสแตนดี้ขวดเครื่องดื่มเสี่ยวเปาผู้เป็นสปอนเซอร์หลักของรายการ ซึ่งธีมสีรายการของปีนี้เป็นสีม่วงแต่ชุดรายการเป็นสีดำ
จินเดินไปนั่งที่โต๊ะเผชิญหน้ากับกล้องโดยมีพี่ทีมงานนำไมค์มาติดที่อกเสื้อ และมีพี่ตากล้องรวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่ถามคำถามอยู่หลังกล้องอีกคน
“เอาละเรามาเริ่มกันเลยนะ 3 2 1 แอคชั่น”
“เมื่อวานรู้สึกยังไงบ้างที่เราได้คลาสA แล้วตอนแข่งแบทเทิลทำไมถึงเลือกเพลงนี้มาร้อง”
“ดีใจมากค่ะ จริง ๆ ไม่ประหลาดใจนะ ฮ่า ๆ เพราะก็หวังคลาสAอยู่แล้ว รวมถึงมั่นใจพอสมควรว่าจะทำได้อีกอย่างเพราะมันเป็นผลงานจากการที่ตั้งหน้าตั้งตาฝึกมานานพอสมควร
ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพัฒนาฝีมือให้คงอยู่ในคลาสAต่อไป ส่วนตอนแข่งแบตเทิล อื้มม การแรปเป็นสิ่งที่ถนัดรองลงมาจากการเต้นค่ะ เลยเลือกเพลงนี้มา จริง ๆ เพลงนี้ต้นฉบับร้องง่ายแรปไม่ถือว่าเยอะ ได้ร้องที่ตนเองถนัดก็จะโฟลว์ไปเอง มันจะทำให้ที่ได้รับชมรู้สึกชอบไปกับเราค่ะ ปล่อยจอย เลยเลือกเพลงนี้มา”
“สังเกตวันนี้เราเงียบ ๆ ดูขรึมไปเลย เป็นอะไรหรือเปล่า”
“โอ๊ย อันนี้ปกติมาก เป็นปกติเวลาใช้สมาธิค่ะ เป็นโหมดทำงานมันแก้ยากมากเพราะเป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ประมาณ5ขวบมั้งคะ กำลังต่อเลโก้แล้วเงียบเกินไป อยู่ได้ประมาณ2ชั่วโมงแด๊ดเดินมาเรียกยังไม่คุยด้วยเลย ฮ่า ๆ แด๊ดตกใจมากแต่พอสังเกตไปเรื่อย ๆ จะเห็นว่าเป็นแค่ช่วงที่ต้องใช้สมาธิเท่านั้น แม่กับแด๊ดเคยพาไปปรึกษาหมอแต่หมอบอกว่าแค่สมาธิสูงแค่นั้นค่ะ เลยวางใจ”
“แล้ววันนี้เห็นว่าช่วยฝึกให้เพื่อน ๆ เยอะเลย เป็นยังไงบ้าง”
“สนุกดีค่ะ เพื่อน ๆ ไม่ได้ฝึกยากอะไร พวกเขาเก่งกันอยู่แล้ว เราแค่ไปช่วยย้ำเฉย ๆ พวกเขาแค่ต้องการเพิ่มความมั่นใจค่ะ อีกอย่างมันช่วยให้เราได้ทบทวนไปด้วย ได้ฝึกไปด้วยก็โอเคดีเลยค่ะ”
“มีทีมงานกระซิบบอกมาว่าเราตื่นเช้ามาออกกำลังกายทุกวันเลย”
“โอ๊ะ อันนี้มันเป็นกิจวัตรประจำวันค่ะ ฮ่าฮ่า ติดมาจากค่ายต้องฝึกฝนร่างกายทุกวัน ซึ่งตอนนี้ทำไปก็ดีนะคะ ถือได้ว่าวอร์มร่างกายก่อนซ้อม
ทำให้กล้ามเนื้อไม่บาดเจ็บ รับประกันได้เลยว่าพรุ่งนี้มีคนปวดเนื้อปวดตัวเยอะแน่ ๆ เพราะอย่างนั้นออกกำลังเช้า ๆ เป็นเรื่องที่ควรทำนะทุกคน” จินนำนิ้วชี้ขึ้นมากลางอากาศเม้มปาก ขยิบตาเป็นเชิงเตือนทุกคนให้ลองทำตามดู เป็นท่าทางน่ารัก ๆ ที่สามารถทำให้ทีมงานยิ้มตามได้
“อะ ให้เราพูดคุยกับแฟน ๆ หน่อย อยากบอกอะไรไหม”
“ก็ขอฝากตัวจินให้ทุกคนได้ติดตาม และช่วยเชียร์ ส่งกำลังใจให้พวกเราเยอะ ๆ น้า” หลังจบสัมภาษณ์จินก็ได้เดินออกมาลาขิงเพื่อไปพักผ่อนนัดเจอกันวันต่อไปเพื่อฝึกฝน
วันต่อมา
วันนี้เป็นเพื่อนจากคลาสFเข้ามาหาถึงห้องให้ช่วยซ้อมให้หน่อย จิน และจีอึน เดินมาที่ห้องฝึกของคลาสF ชิงชิงบอกว่าจะอยู่ที่ห้องซ้อมของคลาสAเผื่อมีคนอื่นมาให้ช่วย
บรรยากาศห้องนี้เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เป็นบรรยากาศที่รู้สึกได้ทันทีที่เข้ามาด้านใน เพื่อน ๆ คลาสFมีคนประมาณ10คน
ทุกคนมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ตลอดเวลา เพราะผ่านไปหนึ่งวันแล้วแต่พวกเธอยังเต้นไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“ร้องได้กันหรือยังอ่ะ” จินเดินไปหาทุกคนที่บางคนก็ยืนบางคนก็นั่งกันอยู่กลางห้องมีบางคนส่ายหน้าบ้าง พยักหน้าบ้างจินจึงขอให้เพื่อนไปตามเฮน่ามาช่วยฝึกร้องในช่วงเช้าแทน
ระหว่างรอเฮน่าจินได้จับทุกคนจัดแถว ยืนเรียงกันแถวละ5คน ให้ทุกคนนั่งรอเฮน่า เธอจะสอนเต้นให้ช่วยบ่ายเพราะต้องการให้ทุกคนจำเนื้อเพลงให้ได้ก่อน
เมื่อเฮน่ามาถึงก็ได้ทำการสอนให้กับเพื่อนทันทีส่วนจินก็คอยเสริมช่วยดูแลบางคนที่จำได้ยาก เฮน่าสอนง่ายเพียงไม่เกิน4ชั่วโมงทุกคนก็จดจำเนื้อได้หมด
อีกทั้งเฮน่ายังสอนการใช้เทคนิคในการร้องเพลง การใช้เสียง เล่นจังหวะให้ได้ด้วย
โอเคจังหวะนี้ขอมอบตำแหน่งนางฟ้าแห่งบ้านคลาสAให้ ซึ่งคนอื่น ๆ ก็เรียกตามจินจนกลายเป็นฉายาของเฮน่าไปเลย ส่วนของจินที่ทุกคนเรียกในตอนนี้คือจินเหล่าซือนั่นเอง
เมื่อถึงช่วงที่ต้องสอนเต้นจินสอนทุกคนให้เต้นตามเธอไปหลายรอบจนหลายคนเริ่มจำได้แล้วจึงปล่อยให้เต้นเอง ส่วนเธอจะคอยเดินไปปรับวิธีให้อีกรอบจนคลาสFก็สามารถร้องและเต้นได้ภายในวันเดียวแม้บางคนยังไม่แข็งแรงนักแต่ก็สามารถเต้นได้อย่างไม่อายและลืมท่าเต้นระหว่างทางแน่นอน
อีกด้านหนึ่ง
ภายในห้องสตูดิโอขนาดกลางมีร่างสูงใหญ่ที่กำลังขยับหัวเป็นจังหวะตามดนตรีที่ดังก้องอยู่ในหู มือแกร่งที่มีเส้นเลือดขึ้นพานให้คนมองใจสั่นกำลังหมุนปุ่มและกดปุ่มนู้นปุ่มนี้ไปมา
เขาคนนี้เป็นศิลปินที่โด่งดังจากการเป็นบอยแบรนด์ของประเทศเกาหลี ซึ่งตอนนี้หมดสัญญาไปแล้วตัวเขาได้เซ็นสัญญาใหม่เป็นศิลปินเดี่ยวในบริษัทที่เปิดตัวใหม่ได้เพียง5ปีแต่ขยับขึ้นมาเป็นบริษัทที่การันตีเรื่องการมีศิลปินที่มีฝีมือในประเทศเกาหลี
โดยรับงานทั่วโลกไม่จำกัดแค่ภายในประเทศ เครื่องหน้าที่หล่อเหลา ส่วนสูงถึง185เซนติเมตร แม้จะเป็นศิลปินต่างชาติมาดังในประเทศแต่กลับได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากภายในประเทศและทั่วโลก
เรียกได้ว่าวงเก่าทั้งวงได้รับการยอมรับมากกว่า เขาเป็นคนประเทศไทย ซึ่งมาฝึกที่นี่ตั้งแต่อายุ14ปี จนตอนนี้อายุ25ปีแล้ว ก็ยังคงได้รับความนิยมจากแฟนคลับเพราะตัวเขากลายเป็นโปรดิวเซอร์เพลงชื่อดังระดับโลก เขาเคยเป็นสมาชิกวงเดียวกับเคเลนหวังหรือหวังคุนนั่นเอง ชื่อของเขาคือลูคัส
Rrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดกับเสียงเพลงที่ดังขึ้นในหูฟังในนาทีแรกลูคัสไม่ได้ยินหรอก แต่เพราะเห็นแสงไฟจากโทรศัพท์กระทบเข้าตาจึงได้รู้ว่ามีสายเข้า
มือแกร่งกดปุ่มหยุดเพลงและบันทึกงานไว้ จากนั้นจึงเอื้อมมือไปจับโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นสายเรียกจากคนเป็นพ่อจึงรีบรับสาย
“ว่าไงแด๊ด”
เสียงที่เปล่งออกมาเป็นเสียงทุ้มแทรกเสียงแหบเล็กน้อยจนรู้สึกเซ็กซี่ คนที่โทรมาคือพ่อของเขาเอาชื่อว่าลุค แมกซ์เวลล์ เจ้าของค่าย Zen entertainment ในประเทศจีนและเครืออื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีกมากมาย
“ว่างมั้ยเอ็งน่ะ วันนี้น้องฝึกวันแรก แกอย่าลืมถามข่าวจากเพื่อนแกที่ไปเป็นเมนเทอร์มาบ้างนะ ฉันละอยากให้แกไปเจอน้องจริง ๆ นึกถึงตอนเด็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู โตแล้วสวยมากฉันยังจำไม่ได้เลย น้องต้องแนะนำตัวฉันถึงจำได้ แกละยังจำน้องได้ใช่มั้ย” ลุค แมคซ์เวลล์เป็นเพื่อนกับเจนาส เวสเปอร์มานานหลายปีตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน
จนตัดสินใจเป็นเขยประเทศไทย ตามกันมาติด ๆ ทั้งคู่ไปมาหาสู่กันตลอดเป็นลุคที่แต่งงานก่อนและมีลูคัส และจึงเป็นเจนาสที่ได้ยัยหนูจินจิน อายุห่างจากลูคัส4ปี
ตอนเด็ก ๆ สองครอบครัวเจอกันบ่อยเป็นเหตุให้ลูคัสได้เจอจินจินตัวน้อยตลอดจนเขาอายุ14และน้อง10ปีถึงได้ตัดสินใจเดินทางทำตามความฝัน ยังจำได้ว่าตอนนั้นน้องร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหลเกาะเขาไม่ยอมปล่อยจนเขาต้องให้สัญญาว่าจะกลับไปหาแน่ ๆ ถึงได้ยอมปล่อย
มองตามเขาตาละห้อยในสนามบิน ตอนแรกคิดว่าจะได้กลับบ้านบ้างแต่เพราะฝึกหนักเกินไป ก็ยังไม่มีวี่แววจะได้กลับลำพังเวลาจับโทรศัพท์ติดต่อมาที่บ้านยังแทบไม่มี
พออายุ19ปีได้เดบิวต์ก็ยังไม่สามารถปลีกตัวไปหาได้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้เจอน้องสักที ได้แต่กดติดตามช่องของน้องได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คลายความคิดถึงลงได้บ้าง
“จำได้สิ ก็ติดตามน้องอยู่ตลอด แล้วนี่ก็รับเป็นโปรดิวซ์เซอร์ให้รายการด้วยรวมถึงทำเพลงให้ค่ายที่จะเดบิวต์น้องแล้ว ผมมั่นใจว่าน้องต้องได้เดบิวต์แน่ ๆ กำลังเร่งงานไปจีนอยู่ไว้ค่อยโทรหานะ”
“เออ ๆ ฝากน้องด้วยนะลูคัส”
“รับทราบ”
มือหนาที่กดวางสายลูบโทรศัพท์ไปมาอย่างใจลอย น้องจะยังจำเขาได้หรือเปล่านะ ส่วนเขาคิดถึงน้องจะตายแล้ว