"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,nc,มาเฟีย,เมียเด็ก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
อุปถัมภ์รักเมียเด็ก"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"
บทที่ 3 ไม่มีทางเลือก
จวบจนเวลาเลิกงานเจ้าขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษาที่เธอใส่มาในตอนแรก วันนี้เธอเลิกเรียนเย็นมากทำให้ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านจึงมาทำงานในชุดนักศึกษาโชคดีที่แนนผู้จัดการคลับมีชุดให้เธอยืมเปลี่ยน
หลังจากที่เธอเดินออกมาจากโต๊ะของสายฟ้าได้ไม่นาน เขาก็หายออกไปจากโต๊ะแถมไม่ได้สั่งเครื่องดื่ม แต่ก็ดีแล้วเพราะเธอไม่อยากให้เขาอยู่กวนใจเธอไปทั้งคืนหรอก
“จะกลับแล้วหรอ อันนี้ค่าจ้างจ้ะ” แนนเดินเข้ามาจ่ายค่าจ้างรายวันให้กับเจ้าขา
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับเงินมาจากมือเจ้แนนพลางส่งยิ้มหวาน
“กลับยังไงล่ะ เจ้ไปส่งไหม?” แนนเอ่ยถามเพราะเด็กเสิร์ฟคนอื่น ๆ ทยอยกลับกันหมดแล้ว มีก็แต่เจ้าขาที่เข้ามาเปลี่ยนชุดทำให้ได้กลับบ้านช้ากว่าคนอื่น ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเกรงใจ” เจ้าขาเอ่ยปฏิเสธด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“เกรงใจอะไรกัน สบายมากกลับด้วยกันนี่แหละเจ้เหงาขับรถกลับคนเดียวนะ ๆ ”
“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ป่ะ กลับบ้านกัน” เจ้แนนเดินจูงมือของเธอออกทางหลังประตูคลับตรงไปที่ลานจอดรถ
ใช้เวลาไม่นานรถยนต์สีดำสนิทของเจ้แนนก็ขับมาจอดที่หน้าปากซอยของหมู่บ้านที่เจ้าขาพักอาศัยอยู่ หมู่บ้านที่อยู่ใจกลางเมืองแต่เป็นหมู่บ้านที่ไม่ได้หรูหรา “ไม่ให้เจ้ไปส่งในหมู่บ้านหรอ”
“พอดีหนูจะแวะซื้อของร้านสะดวกซื้อก่อนเข้าบ้านค่ะ เจ้แนนส่งแค่นี้ก็พอ” เธอบอกเหตุผลที่ให้ผู้จัดการส่งเธอแค่หน้าปากซอยหมู่บ้าน
“อ๋อ…ก็น่าจะให้เจ้พาแวะมันดึกแล้วอันตราย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะแค่นี้ก็เกรงใจมากแล้ว”
“ไม่ต้องเกรงใจ คอนโดเจ้ก็อยู่แถวนี้พอดี” เธอตอบกลับด้วยร้อยยิ้มเอ็นดู
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” เธอเปิดประตูลงจากรถหลังจากร่ำลากับผู้จัดการร้านเสร็จ
เจ้าขาเดินมุ่งตรงไปที่ร้านสะดวกซื้อชื่อดังที่ตั้งห่างจากปากซอยหมู่บ้านเพียงแค่สามร้อยเมตร
“กินอะไรดีน้า” เธอพึมพำกับตัวเองสีหน้าครุ่นคิด วันนี้เธอไม่รีบเข้าบ้านเหมือนทุกครั้งที่เลิกงานเพราะพรุ่งนี้เธอไม่มีคลาสเรียนจะนอนตื่นสายกี่โมงก็ได้
เจ้าของส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดยืนเท้าเอวอยู่หน้าตู้อาหารแช่เย็น ใบหน้าครุ่นคิดหนัก “ข้าวผัดไก่แล้วกัน” เมื่อตัดสินใจมือเล็กเอื้อมไปหยิบกล่องข้าวผัดไก่มาถือไว้ หมุนตัวเดินไปยังตู้แช่นมหยิบนมชมพูรสโปรดอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่ออุ่นอาหารและจ่ายเงิน
เจ้าขาเดินกลับออกจากร้านสะดวกซื้อในมือถือถุงข้าวกล่องอีกมือถือกล่องนมเจาะดื่มระหว่างทางเดินกลับบ้าน เดินไม่ถึงห้านาทีเจ้าขาก็มาถึงหน้าบ้านของตัวเอง คนตัวเล็กมองสำรวจซ้ายขวาอย่างระแวดระวังตัวก่อนจะเปิดประตูรั้วและรีบลงกลอนล็อคอย่างแน่นหนาทันที ไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของใครบางคนที่แอบตามสะกดรอยตามเธอมา เขาคือสายฟ้านั่นเอง
เช้าวันต่อมา…..
ปัง ! ปัง !
พรึ่บ ! เจ้าขาที่นอนหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่เตียงนอนใหญ่อันแสนสบายถึงกับสะดุ้งโหยงร่างกายตอบสนองเสียงที่ดังเข้ามากระแทกหูได้อย่างไว “เสียงอะไรนะ” เธอรีบตวัดขาลงจากเตียงวิ่งไปดูที่ระเบียง
“ฉิบหายแล้ว” เธออุทานพึมพำ ดวงตากลมเบิกโพลงโตด้วยความตกใจหัวใจเต้นแรงแทบบ้าคลั่ง
เมื่อมองผ่านหน้าต่างระเบียงลงไปหน้าบ้านของเธอมีชายฉกรรจ์สองคนร่างบึกบึนยืนถือปืนรัวยิงเข้ามาในบ้านของเธอการกระทำโจ่งครึ่ม ทำให้ชาวบ้านต่างพากันออกมามุ่งดู ทว่าบางคนก็รีบปิดบ้านหนี เพราะชาวบ้านต่างรู้จักผู้ชายสองคนร่างบึกบึนที่ยืนอยู่หน้าบ้านของเธอเป็นอย่างดี พวกเขาคือลูกน้องของเสี่ยทรงพลเจ้าหนี้นอกระบบของพ่อเธอ
“ออกมา! ถ้าไม่ออกกูจะพังบ้านเข้าไปหามึงเอง!” เสียงชายฉกรรจ์ตะคอกดังสนั่น ขู่เรียกเธออย่างโหดเหี้ยม
“ฮือ…เอาไงดี” เจ้าขาสั่นกลัว เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึงวันที่เจ้าหนี้จะมาทวงหนี้เธอถึงบ้าน ที่ผ่านมาเธอผ่อนจ่ายดอกเบี้ยไปวัน ๆ เงินต้นไม่ลดลงเลยสักนิด
“ลงมา!” ชายฉกรรจ์ตะโกนเรียกเธออีกครั้ง เจ้าขายืนสั่นเกร็งฝ่ามือเล็กกำเข้าที่ชุดนอนแน่น
“เอาว่ะ” เธอตัดสินใจเดินลงไปยังชั้นล่างของบ้านทันที เกรงใจชาวบ้านแถวนี้อีกอย่างถ้าไม่ลงไปวันนี้วันอื่นเขาก็ต้องมาทวงหนี้เธออีก
เธอสูดหายใจเข้าลึกตัดสินใจเปิดประตูเดินตรงออกไป “อย่ายิงนะจ๊ะ ฉันกลัว” เธอยกมือขึ้นไหว้เพื่อขอความประนีประนอมชายฉกรรจ์ให้ใจเย็นลงซึ่งก็ได้ผลชายฉกรรจ์ร่างบึกเก็บปืนเหน็บหลังกางเกงไปเป็นที่เรียบร้อย
“กูเรียกมึงตั้งนานนะอีเจ้าขา กว่าจะลงมา” ชายฉกรรจ์เอ่ยพูดกับเธอน้ำเสียงแฝงโทสะ
“ขอโทษจ้ะ พอดีฉันพึ่งตื่น พวกพี่ ๆ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ?” เธอรวบรวมความกล้าตัดสินใจเอ่ยถามออกไป
“มึงส่งดอกเสี่ยมาเป็นปี ๆ มึงไม่รู้หรอว่าวันนี้ต้องคืนเงินต้นทั้งหมด”
“ว่าไงนะคะ?” เธอเอ่ยถามเสียงหลง ดวงหน้าจิ้มลิ้มซีดเผือด เหงื่อแตกพลั่ก
“ก่อนพ่อมึงตายมันไม่ได้บอกหรอว่าต้องคืนเงินต้นทั้งหมดเต็มจำนวนวันไหน”
“ไม่ได้บอกจ้ะ….” เธอตอบเสียงแผ่วเบา
“หึ…แต่ถ้าไม่มีเงินไปคืนก็เอาตัวมึงไปแลก เด็ก ๆ แบบมึงเสี่ยคงชอบพอที่จะยกหนี้ให้ได้อยู่นะ”
เจ้าขายื่นตัวแข็งทื่อ มือจิกเกร็งจนชุดนอนแทบขาด คิดหาทางออกให้ไวที่สุด “เงินทั้งหมดเท่าไหร่ที่ฉันต้องคืน”
“สามล้านสองรวมดอกเบี้ยที่ค้างไว้ก็สามล้านห้า”
“วันนี้ฉันไม่มีคืน ถามเสี่ยให้หน่อยว่าให้เวลาฉันกี่เดือนจะหาไปคืน ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าต้องคืนเต็มจำนวนให้โอกาสฉันได้ไหมจ๊ะ”
“ไม่ต้องถึงเสี่ยหรอก กูให้มึงแค่เดือนเดียวหามาคืนให้ได้ถ้าไม่ได้กูจะมายึดบ้านหลังนี้รวมถึงตังมึงด้วยเตรียมตัวไว้ให้ดี” ชายฉกรรจ์ชี้หน้าปรายตามองเธอด้วยสายโหดเหี้ยม
“จ้ะ ฉันจะหามาคืนขอบคุณนะจ๊ะ” เธอตบปากรับคำไปก่อนเพื่อให้ปัญหาวันนี้มันจบลงได้ด้วยดี ส่วนเรื่องเงินค่อยคิดอีกทีว่าจะหายังไง
ชายฉกรรจ์อีกคนที่ยืนเงียบอยู่นานก้าวขาเข้ามาประชิดตัวเธอมือสากลูบไล้ดวงหน้าจิ้มลิ้มจนมาถึงต้นคอ เจ้าขาสั่นเกร็งรู้สึกขยะแขยงในเวลาเดียวกัน “ถือว่ารอดตัวไปนะวันนี้ เดือนหน้ากูจะมาเอาเงินสามล้านห้า” ว่าจบชายฉกรรจ์ก็เดินขึ้นรถและขับออกไป
“เห้อ….” เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนัก เดินหันกลับเข้าบ้านท่ามกลางสายตาของชาวบ้านในหมู่บ้านที่แอบมองเธอผ่านประตูรั้ว
ร่างบางเดินเข้ามาทิ้งตัวลงบนโซฟาหมดเรี่ยวแรง ฝ่ามือยกขึ้นคลึงขมับสีหน้าเคร่งเครียด เงินสามล้านห้าจะหาภายในหนึ่งเดือนได้ยังไงกัน ลำพังทำงานที่คลับก็ได้เงินเยอะอยู่หรอกแต่มันคงไม่พอ
“อย่าเล่นตัวไปเลย ฉันจ่ายหนักนะ ถ้าเธอทำให้ฉันถูกใจฉันอาจจะเลี้ยงดูเธอก็ได้” จู่ ๆ คำพูดของสายฟ้าก็ลอยเข้ามาในหัว ทางเลือกของเธอตอนนี้มันมีไม่มากนักระหว่างยอมนอนกับคนที่เธอเต็มใจนอนเพื่อแลกเงินหรือจะยอมตกเป็นของไอ้เสี่ยทรงพลแล้วไม่ได้อะไรเลยเสียทั้งบ้านเสียทั้งตัว
ถึงมันจะเป็นทางเลือกที่ไม่ดีสักเท่าไหร่แต่คนที่จนตรอกแบบเธอคงเลือกทางนี้ดีที่สุดแล้ว หวังว่าสายฟ้าจะยังสนใจเธออยู่….