"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก - บทที่ 4 หาตัวไม่เจอ โดย กิงโก๊ะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,nc,มาเฟีย,เมียเด็ก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

nc,มาเฟีย,เมียเด็ก,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก โดย กิงโก๊ะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"

ผู้แต่ง

กิงโก๊ะ

เรื่องย่อ

สารบัญ

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทนำ บทนำ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 1 เจ้าขา ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 2 สืบประวัติ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 3 ไม่มีทางเลือก,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 4 หาตัวไม่เจอ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 5 ข้อเสนอ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 6 ลิ้มลองความบริสุทธิ์ NC,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 7 เนื้อสดใหม่ NC+,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 8 พิษไข้เล่นงาน

เนื้อหา

บทที่ 4 หาตัวไม่เจอ

บทที่ 4 ไม่เจอตัว

 ณ บอสตันคลับ

 เจ้าขามาเข้าทำงานตามเวลาปกติในระหว่างทางที่เดินทางมาทำงานในหัวของเธอคิดเรื่องอยากเปลี่ยนตำแหน่งในร้านจากบริกรหรือเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มที่เขาเรียกกันว่าพีอาร์ เพราะผลตอบแทนค่อนข้างสูงแถมลูกค้าจ่ายทิปเยอะกว่า

 “เอ้า…เจ้าขาวันนี้มาทำงานเร็วนะเนี่ย” เสียงเจ้แนนผู้จัดการคลับเอ่ยทักทายเธอ

 “สวัสดีค่ะเจ้แนน พอดีวันนี้หยุดค่ะไม่มีคาบเรียน” เธอตอบกลับน้ำเสียงแผ่วเบา จะตัดสินใจขอเจ้แนนไปเป็นเด็กนั่งดื่มดีไหมเพราะในตอนแรกเธอมาสมัครเป็นแค่เด็กเสิร์ฟเท่านั้น 

 “เจ้แนนคะ…” เธอเรียกผู้จัดการอีกครั้ง 

 “ว่าไงเจ้าขา” 

 “หนูอยากเปลี่ยนจากเด็กเสิร์ฟไปเป็นเด็กนั่งดื่มได้ไหมคะ” คำถามของเจ้าขาสร้างความประหลาดใจให้กับแนนไม่น้อย ในวันแรกที่เจ้าขามาสมัครงานเธอทาบทามเจ้าขาให้ไปเป็นเด็กนั่งดื่มด้วยหน้าตาผิวพรรณแต่เจ้าขาปฏิเสธเสียงแข็งมาวันนี้กลับอยากเปลี่ยนใจ 

 “เจ้าขามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตามประสบการณ์สามสิบปีที่ผ่านมามองแวบเดียวก็รู้ว่าเจ้าขากำลังมีปัญหา 

 “คือ…พ่อหนูติดหนี้นอกระบบค่ะ หนูต้องหาใช้คืน” คำตอบของเธอตอกย้ำชัดว่าเธอกำลังเจอปัญหา

 “แล้วทำไมพ่อของเจ้าขาเป็นหนี้แล้วเขาไม่หาใช้คืนเองล่ะ เจ้าขามีหน้าที่เรียนหนังสือนะไม่ใช่มีหน้าที่ใช้หนี้แทนพ่อ ขอโทษนะที่เจ้ต้องพูดแบบนี้แค่รู้สึกไม่เห็นด้วยเฉย ๆ” 

 “พ่อกับแม่หนูเสียจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปตั้งแต่ปีที่แล้วค่ะ เหลือไว้แค่บ้านกับเงินเพียงเล็กน้อยให้หนูไม่พอยังมีหนี้ก้อนโตอีกต่างหาก ถ้าไม่มีไปคืนพวกนั้นจะยึดบ้านและมาจับตัวหนูไปไถ่หนี้ค่ะ” เจ้าขาตัดสินใจบอกปัญหาทั้งหมดให้เจ้แนนผู้จัดการคลับฟัง

 “โถ่…เจ้าขา” เจ้แนนแววตาอ่อนยวบดึงเจ้าขาเข้าไปกอด เธอเอ็นดูเจ้าขาเป็นอย่างมากถึงแม้จะมาทำงานวันนี้เป็นวันที่สามแต่เธอก็รู้สึกถูกชะตา พอยิ่งรู้เรื่องราวที่เจ้าขากำลังแบกรับไว้ตัวคนเดียวมันน่าสงสารจับใจ 


 “แต่ว่าตอนนี้ตำแหน่งเด็กนั่งดื่มมันเต็มนะเจ้าขา สนใจทำงานในบาร์ค็อกเทลไหมตอนนี้ขาดตำแหน่งบาร์แบ็ค” 

 “บาร์แบ็คคืออะไรคะ” เจ้าขาทำหน้าสงสัย

 “บาร์แบ็คก็คือผู้ช่วยบาร์เทนเดอร์คอยหยิบแก้ว หยิบจับของส่งให้บาร์เทนเดอร์ เงินเดือนสูงกว่าเด็กเสิร์ฟแต่น้อยกว่าเด็กนั่งดื่มอาศัยคุยกับลูกค้าหน้าบาร์แทนก็จะได้ทิปเยอะเหมือนกัน แต่เจ้าขาต้องมาทำงานทุกวันไหวหรือเปล่าเพราะว่าเจ้อยากได้พนักงานประจำไม่ใช่พาร์ทไทม์แต่ถ้าวันไหนติดเรียนหรือสอบจริง ๆ เจ้ให้ลาได้หักเงินตามรายวันที่หยุด” 

 “ไหวค่ะ หนูตกลงทำงานในบาร์ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้โอกาสหนู” เธอตอบกลับเสียงหนักแน่น ดวงหน้าจิ้มลิ้มยิ้มร่าดีใจ 

 “งั้นไปกัน วันนี้ไม่ต้องใส่ผ้ากันเปื้อนเด็กเสิร์ฟแล้วไปที่บาร์กันเจ้จะพาไปสอนงานเบื้องต้น” เจ้แนนเดินนำออกจากห้องพักพนักงานเจ้าขาก็เดินตามไปติด ๆ 


 “เซฟ เจมส์ ริน มาหาเจ้หน่อย” เจ้แนนเดินมาถึงหน้าบาร์ค็อกเทลก็ตะโกนเรียกพี่ ๆ ที่ทำงานอยู่ในบาร์ให้มารวมตัวกัน

 “เจ้หาบาร์แบ็คอีกคนให้ได้แล้ว น้องเจ้าขา” เจ้แนนผายมือมาที่เธอเมื่อบาร์เทนเดอร์ทั้งสามคนเดินมารวมตัวกัน 

 “สวัสดีค่ะ” เจ้าขาทักทายรุ่นพี่ทั้งสามคนที่อยู่ในบาร์ค็อกเทลจริง ๆ แล้วทุกคนพอจะเห็นหน้าเห็นตากันผ่าน ๆ มาแล้วด้วยความที่เจ้าขาเองเข้ามาทำได้สามวันแต่ก็ต้องทำความรู้จักกันใหม่อยู่ดี เพราะเจ้าขาทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟไม่ได้มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวตรงบาร์ค็อกเทลเท่าไหร่  

 “ครับพี่ชื่อเซฟนะ เป็นบาร์เทนเดอร์ส่วนนี่เจมส์บาร์เทนเดอร์อีกคน และก็รินเป็นบาร์แบ็คที่ต้องทำงานคู่กับน้องเจ้าขา” เซฟหันไปแนะนำพี่ ๆ อีกสองคนให้เธอรู้จักทั้งสามต่างก็ยิ้มแย้มตอบกลับเธออย่างเป็นมิตร

 “ยังไงเจ้ฝากสอนงานน้องหน่อยนะ” เจ้แนนเอื้อมแขนมาโอบบ่าของเจ้าขาบีบเบา ๆ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้และเดินออกไปทำงานต่อ

 “เข้าในบาร์สิเดี๋ยวพวกพี่สอนงานให้” เจมส์เอ่ยเรียกเจ้าขา

 “ค่ะ” เธอขานตอบน้ำเสียงหนักแน่น เจ้าขาเดินอ้อมไปเข้าบาร์ค็อกเทลอย่างไม่อิดออด 

 “เจ้าขาอายุเท่าไหร่” รินเอ่ยถาม

 “สิบเก้าค่ะ” 

 “เราพึ่งจะสิบเก้าเมื่อวันก่อนเอง ก็เท่ากับเราเป็นเพื่อนกัน” รินยิ้มแฉ่งเมื่อรู้ว่าเจ้าขาอายุเท่ากันกับเธอ

 “ว่าแต่รินเรียนที่ไหนหรอ” 

 “เรียนมหาวิทยาลัย B ปีหนึ่งคณะนิเทศน์น่ะ แล้วเจ้าขาล่ะ?” 

 “เราเรียนที่เดียวกับรินเลยแต่อยู่คณะวิศวะ” 

 “โห้…เท่อ่ะเด็กวิศวะ” 

 “ไม่ขนาดนั้นหรอก” เจ้าขาถ่อมตัว 

 “ไปเดี๋ยวเราสอนงาน” รินเดินไปอีกทางพาไปดูตั้งแต่ที่เก็บแก้ว อุปกรณ์ที่ต้องหยิบให้บาร์เทนเดอร์สอนงานตั้งแต่ต้นอย่างละเอียด โชคดีของเจ้าขาที่ได้เจอรินอายุเท่ากันแถมยังมีนิสัยที่ใกล้เคียงกันมาก 

 จวบจนเวลาคลับเปิดลูกค้าก็เริ่มทยอยกันเข้ามาในคลับกันไม่ขาดสายเริ่มมีเมนูค็อกเทลเข้ามาเรื่อย ๆ เจ้าขาก็เข้าใจงานของตัวเองเป็นอย่างดีแต่ยังช้าอยู่มากเพราะยังไม่คล่องเธอได้จับคู่เป็นผู้ช่วยให้กับเซฟ ส่วนรินเป็นผู้ช่วยให้กับเจมส์ เจ้าขาพึ่งรู้จากรินว่าพี่เซฟและพี่เจมส์เป็นแฟนกัน 

 “น้องเจ้าขาเก่งมากเลยเรียนรู้งานไว แต่อาจจะติดช้าเดี๋ยวก็คล่อง” เซฟหันมาเอ่ยชม

 “ขอบคุณค่ะพี่เซฟ ถ้าหนูทำผิดพลาดตรงไหนขอโทษด้วยนะคะ” 

 “ไม่ต้องขอโทษหรอก ครั้งแรกผิดพลาดกันได้” เซฟส่งยิ้มเอ็นดูให้กับความอ่อนน้อมถ่อมตนของเจ้าขา ก่อนจะหันไปชงค็อกเทลแก้วถัดไปที่พึ่งมีลูกค้าสั่งเข้ามา 

 เวลาผ่านไปเกือบจะตีหนึ่งเพียงอีกหนึ่งชั่วโมงคลับก็จะปิดแล้ว เจ้าขาที่เฝ้ารอใครบางคนวันนี้กลับไม่เจอตัวเขาซะงั้น สีหน้าผิดหวังฉายขึ้นบนดวงหน้าจิ้มลิ้มอย่างเห็นได้ชัดหรือเขาจะเลิกสนใจเธอไปแล้วนะ 

 “ริน เจ้าขาไปห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา” เธอหันไปบอกรินที่ยืนล้างแก้วอยู่ 

 “จ้ะ”รินขานตอบใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม