"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก - บทที่ 8 พิษไข้เล่นงาน โดย กิงโก๊ะ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,nc,มาเฟีย,เมียเด็ก,ดราม่า,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

nc,มาเฟีย,เมียเด็ก,ดราม่า,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

"ที่พี่บอกว่าจ่ายหนัก หนักแค่ไหนคะ" "หึ...ก็อยู่ที่ว่าเธอทำให้ฉันพอใจแค่ไหน"

ผู้แต่ง

กิงโก๊ะ

เรื่องย่อ

สารบัญ

อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทนำ บทนำ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 1 เจ้าขา ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 2 สืบประวัติ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 3 ไม่มีทางเลือก,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 4 หาตัวไม่เจอ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 5 ข้อเสนอ,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 6 ลิ้มลองความบริสุทธิ์ NC,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 7 เนื้อสดใหม่ NC+,อุปถัมภ์รักเมียเด็ก-บทที่ 8 พิษไข้เล่นงาน

เนื้อหา

บทที่ 8 พิษไข้เล่นงาน

 บทที่ 8 พิษไข้เล่นงาน

 เจ้าขาที่นอนหลับใหลไปได้เพียงแค่ห้าชั่วโมงเท่านั้น เปลือกตากลมที่ปิดสนิทมานานนับหลายชั่วโมงค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นเมื่อเสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์แผดร้องดังลอยเข้ามากระทบที่หูของเธอ บ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าที่เธอได้ตั้งปลุกเอาไว้ 

 มือเล็กขวานหาโทรศัพท์ด้วยความเคยชินจนลืมไปว่าตอนนี้เธอนอนอยู่บ้านของคนอื่น เธอดีดตัวลุกขึ้นเมื่อตั้งสติได้มองหาต้นตอของเสียงนาฬิกาที่ยังคงร้องดังไม่หยุด โทรศัพท์ของเธออยู่ในกระเป๋าสะพายที่ตกอยู่ปลายเตียง เธอค่อย ๆ คลานจากบนเตียงก้มตัวเอื้อมไปหยิบมันมาปิด 

 ภายในห้องนอนมืดสนิทไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาแม้แต่น้อยทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงเช้าแล้ว เครื่องปรับอากาศก็ทำงานจนเย็นเจี๊ยบหนาวสะท้านไปทั้งตัว แตกต่างจากบ้านของเธอลิบลับ 

 เจ้าขาก้มลงมองสภาพร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง เขาทิ้งรอยรักฝังเขี้ยวคมไว้ทั้งร่างกายของเธอจนเป็นรอยจ่ำแดง ภาพเหตุการณ์ระหว่างเขาและเธอหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเธออีกครั้ง ภายใต้จิตใจลึก ๆ รู้สึกละอายแก่ใจตัวเองอยู่ไม่น้อยแต่เธอไม่มีทางเลือก

 ความเจ็บปวดระบมกำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเธอ หัวหนักอึ้งเหมือนคนที่กำลังจะป่วย “ทั้งปวด ทั้งเจ็บ” เธอคร่ำครวญออกมาสีหน้าซีดเผือด เมื่อคืนเขาไม่มีแม้แต่ความปรานี 


 ก่อนเธอจะสูดหายใจเข้าลึกตวัดขาลงจากเตียง ตุ้บ ! 


 “โอ้ยเจ็บ!” ทันทีที่ขาเรียวก้าวแตะถึงพื้นยังไม่ทันได้ก้าวเดินเธอก็ล้มลงพับกองลงไปกับพื้นพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ที่เธอพันไว้รอบตัว 

 ตุ้บ ! เจ้าขาน้ำตาซึมหงุดหงิดไม่น้อยทุบกำปั้นเล็ก ๆ ลงบนพื้นระบายความเจ็บปวดที่กำลังเล่นงานเธออยู่ แต่ถึงยังไงเธอก็ต้องลุกขึ้นให้ไหวเพราะวันนี้เธอมีเรียนตอนบ่ายโมงต้องรีบกลับไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาที่บ้าน 

 เธอพยายามตัั้งหลักตัวเองอีกครั้ง สองแขนเรียวยันกับพื้นเพื่อพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เจ้าขากัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวด พอยืนขึ้นได้ขาทั้งสองสั่นระริก เธอฝืนพาตัวเองเดินไปอย่างทุลักทุเลพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ที่เธอพันตัวเองเอาไว้ตรงไปยังห้องน้ำ 


 ทรมานเป็นบ้า….

 “ไม่คิดว่าตื่นมาเจ็บขนาดนี้” เธอมองตัวเองพูดผ่านกระจก ก่อนจะผละตัวไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย 


 มาเฟียหนุ่มหล่อเจ้าของคฤหาสน์หรูนั่งทานอาหารเช้าอยู่บนโต๊ะอาหาร เขาอยู่ในชุดสูทราคาแพงเตรียมออกไปทำงานที่บริษัทเขาก้มมองนาฬิกาบนข้อมือ ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงแล้วไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าขาจะตื่นหรือยัง 

 “คุณหนูรับกาแฟไหมคะ?” เสียงป้าไก่แม่บ้านเอ่ยถามในขณะที่เก็บจานข้าวที่สายฟ้าพึ่งทานหมดไป 

 “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะออกไปทำงานแล้ว ฝากป้าดูแลเรื่องอาหารให้เด็กผู้หญิงที่มานอนเมื่อคืนด้วยนะครับ” 

 “เอ่อ..ป้าเห็นแม่หนูคนนั้นออกไปจากบ้านตั้งแต่สิบโมงครึ่งแล้วนะคะ ท่าทางดูรีบร้อน” คำตอบของป้าแม่บ้านทำเอาสายฟ้าแปลกใจไม่น้อย

 “ครับ ป้าไก่มีอะไรก็ไปทำเถอะครับ” 


 เขาแปลกใจตรงที่ว่าเธอสามารถลุกจากเตียงได้ยังไงกัน เมื่อคืนเขารุนแรงอยู่พอสมควรต่อให้เป็นผู้หญิงที่เคยผ่านมือชายมาแล้วก็ยังต้องมีปวดระบมกันบ้าง ทว่าใบหน้าหล่อจะฉายยิ้มมุมปากนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเป็นที่พอใจไม่น้อย เขาชักเริ่มจะติดใจเนื้อชิ้นนี้ซะแล้ว มีให้ได้ลิ้มลองหนึ่งปีเต็มแลกกับเงินสามล้านห้าก็ถือว่าคุ้ม 

  

 ณ มหาวิทยาลัย B

 13.00 น.

 “เจ้าขา…ทำไมหน้าซีดขนาดนี้มึงป่วยหรือเปล่า” โดนัทกระซิบถาม ในขณะที่เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เจ้าขาที่มาถึงห้องเรียนก่อนแล้ว 

 “ปวดหัวนิดหน่อย” เจ้าขาตอบกลับพลางส่งยิ้มมุมปากให้โดนัท

  หลังจากที่เธออาบน้ำเสร็จก็รีบเก็บของออกจากคฤหาสน์เรียกรถโดยสารมารับกลับไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาที่บ้านและออกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยทันที พิษไข้กำลังเข้าเล่นงานเธอในตอนแรกแค่รู้สึกปวดระบมแต่พอมาถึงมหาวิทยาลัยเธอรู้สึกหนักอึ้งที่หัววิงเวียนและเหมือนจะมีไข้ 

 “ทำไมไม่พักอยู่บ้าน” 

 “ไม่อยากขาดเรียน” เจ้าขาตอบเสียงแผ่วเบา เธอเป็นเด็กนักเรียนทุนที่สอบชิงทุนเข้ามาเรียนที่นี่ แย่งชิงกับผู้คนอีกมากมายที่อยากได้ทุนนี้แต่เธอทำมันสำเร็จ เธอจึงต้องตั้งใจมุ่งมั่นมากกว่าสิ่งอื่นใดให้คุ้มค่ากับทุนที่ได้มา 

 “กูรู้ว่ามึงห่วงเรื่องเกรด แต่มึงพักวันเดียวอ่ะเกรดก็ไม่ตกหรอกค่ะเจ้าขา”

 “กูยังไหว…” เธอพูดพลางยกฝ่ามือขึ้นมานวดคลึงขมับ 

 “ไหวก็ไหว เดี๋ยวกูโทรบอกไอ้ไฟให้ซื้อยาข้างล่างมาให้นะ” 

 โดนัทกดต่อสายโทรหาไฟให้ซื้อพารามาให้เจ้าขาทันที รอไม่นานไฟกับเป้ก็มาเข้าคลาสเรียนพร้อมกับขวดน้ำเปล่าและถุงยา ก่อนเข้าเรียนโดนัทเดินไปแจ้งอาจารย์ผู้สอนส่วนตัวให้ว่าเจ้าขาเพื่อนของเธอป่วยแต่ดื้อดึงอยากจะมาเรียนอาจารย์ก็เข้าใจและอนุญาตให้เจ้าขานอนพักได้ถ้าไม่ไหวในระหว่างการเรียนการสอน 

 “ที่มาของคำว่า ไม่ไหวอย่าฝืน” เป้พยักเพยิดหน้าให้ไฟและโดนัทดูเจ้าขาที่นอนฟุ่บหลับไปกับโต๊ะเรียน ทั้งไฟและโดนัทต่างก็พากันส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของเจ้าขา 

 “ปล่อยมันนอนไป เลิกเรียนค่อยปลุก” ไฟเอ่ยพูดก่อนจะหันไปฟังอาจารย์สอนอย่างตั้งใจ โชคดีที่วันนี้เจ้าขามีเรียนแค่คลาสเดียว


 เวลาเลิกเรียน

 “ไอ้เจ้าขาตื่น!” เป้หันไปเขย่าตัวของเจ้าขาเพื่อปลุกให้คนที่นอนหลับใหลไปนานนับสองชั่วโมงครึ่งให้ตื่นขึ้น 

 “อื้อ…” เธอส่งเสียงครางในลำคอ รู้ร้อน ๆ หนาว ๆ เปลือกตากลมค่อย ๆ เปิดทีละนิดก่อนจะเงยนหน้าขึ้นจากโต๊ะมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อนในคลาสเรียนกำลังเก็บของลงกระเป๋า อาจารย์กำลังเดินตรงมาหาเธอ 

 “เจ้าขา วันหลังไม่ต้องฝืนมาเรียนแบบนี้นะ อาจารย์ว่านอนพักอยู่บ้านดีกว่าจะได้หายไว ๆ ฝืนมาเรียนจะยิ่งหนักตากแดดตากลม อย่าลืมไปหาหมอล่ะหน้าตาเธอดูซีดเซียว” อาจารย์รันกายเป็นชายใจเป็นหญิงพูดน้ำเสียงอย่างมีจริตแววตาเปี่ยมไปด้วยความเอ็นดูแลห่วงใยต่อลูกศิษย์ที่พยายามจะมาเรียนในวันที่ป่วย อาจารย์รันเป็นอาจารย์สอนแคลคูลัสที่เก่งมากแถมยังใจดีเข้าใจนักเรียนสอนอย่างใจเย็นจนกว่าทุกคนจะเข้าใจ 

 “ค่ะอาจารย์” เจ้าขานตอบเสียงแผ่วเบา 

 “พวกเธอก็ดูแลเพื่อนดี ๆ ล่ะ อาจารย์ขอตัวก่อนนะ” 

 “ค่ะ/ครับ” พวกเขาขานตอบพร้อมกัน ก่อนอาจารย์รันจะเดินหมุนตัวออกจากห้องไป 

 “กลับยังไงเจ้าขา กูไปส่งไหม?” เป้หันมาเอ่ยถาม 

 “ไปส่งกูที่บ้านหน่อย” เจ้าขาตอบกลับอย่างง่ายดายเพราะร่างกายของเธอไม่ไหวจริง ๆ นั่งรถโดยสารกลับคงลำบาก 

 “เออให้ไอ้เป้ไปส่งจะได้ไม่ลำบาก” ไฟพูดเสริม โดนัทก็พยักหน้าเห็นด้วย เพราะเป้มักจะชอบขับรถยนต์มาเรียนเป็นประจำ ไฟชอบขี่บิ๊กไบค์ ส่วนโดนัทแฟนก็มารับ

 “อืม งั้นกลับกัน แต่เดี๋ยวกูแวะรับสาวกูไปด้วยนะ” 

 “อืม” เจ้าขาขานตอบ


 ณ บ้านเจ้าขา

 “ไอ้เจ้าถึงบ้านแล้ว” เป้หันมาเอี่ยวตัวเรียกเจ้าขาที่นอนหลับตาพริ้มอยู่เบาะหลัง

 “อืม…” เจ้าขาขานตอบกลับในลำคอ เปลือกตาเปิดออกกว้างหันไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเอง

 “กินยาด้วยนะมึง” เป้พูดน้ำเสียงห้วน ๆ แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง 

 “ขอบใจ” เจ้าขาเปิดประตูลงจากรถโบกมือลาเพื่อนและสาวของเป้ที่นั่งมาด้วยกันข้าง ๆ 

 ก่อนจะหมุนเดินเปิดประตูรั้วและล็อคลงกลอนแน่นหนาเดินเข้าไปในบ้าน ทันทีที่ถึงเตียงเจ้าขากดเปิดเครื่องปรับอากาศและทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความอ่อนเพลียจากพิษไข้