เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
“แล้วมันช่วยต่อชะตาให้ผมไปได้อีกนานแค่ไหน...” ธีร์ภพยังมองหาหนทางทำให้ชีวิตตัวเองดำรงอยู่ต่อไปด้วยการทำลายชีวิตของคนอื่น
“แล้วคิดว่าการเอาชีวิตของคนอื่นมาเป็นของตัวเองมันจะอยู่ในนานแค่ไหนล่ะ ไม่แน่... สิ่งนั้นอาจมีอายุยืนยาวไม่มากไปกว่าชีวิตของตัวเราเองก็ได้ ฉะนั้นอย่าเสี่ยงเลยพ่อหนุ่ม” ชายชราไขข้อสงสัยก่อนจะกล่าวเตือนในตอนท้าย เพราะดูออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดจะทำอะไร
เสียงเปิดประตูอัตโนมัติร้านสะดวกซื้อดังขึ้น ทำให้ธีร์ภพหันหน้าไปมองตามสัญชาตญาณ
ร่างของหญิงวัยกลางคนในชุดอุ้มท้องเด็กทารกในครรภ์เดินออกมาผ่านพ้นประตู ดูท่าคงท้องแก่ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว...
ธีร์ภพมองตามร่างของเธอที่เดินไปทางห้องน้ำด้านหลังปั๊มน้ำมัน ทั้งปั๊มตอนนี้มีแค่รถสองยนต์สองคันที่จอดเคียงกันอยู่บริเวณลาดจอด แน่นอนคันหนึ่งเป็นของเขา และอีกคันก็ต้องเป็นของเธอ ในร้านสะดวกซื้อไม่มีลูกค้าอยู่เลยนอกจากตัวเธอเองที่เพิ่งเดินออกมาเมื่อกี้ จะมีผู้ชายสักกี่คนกันที่ปล่อยให้ภรรยาใกล้คลอดออกมาเตร็ดเตร่เริงร่าภายนอกเพียงลำพัง เพราะถ้าเกิดลูกในท้องของเธอหลุดออกมาชมโลกตอนนี้ก็คงยุ่งอยู่ไม่น้อย
ทางสะดวกแล้วตอนนี้..!!! ทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกิน โชคเข้าข้างเขา...หรือถึงคราวเคราะห์ของเธอก็ไม่อาจรู้ได้ ธีร์ภพรีบผละจากหน้ากิจการดูดวงของชายชราที่คงจะทำมานานจนเป็นล่ำเป็นสัน ทำทีเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างใจคิด...
........................................................................
“เร็วๆ เข้า พ่อหนุ่ม บางทีอาจมีรถแล่นผ่านมาทางนี้สักคันก็ได้” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้ธีร์ภพตื่นจากภวังค์...
ชายหนุ่มชันกายที่พิงอยู่กับอะไรสักอย่างลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พลันนั้นก็รู้สึกหน้ามืดเหมือนจะเป็นลม เขายืนโงนเงนเหมือนกำลังประมวลผลข้อมูลในสมองอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหันหน้าไปมองทางต้นเสียงเมื่อสักครู่ เจ้าของเสียงหันมามองตอบ
“เดี๋ยวก็ชินไปเองแหละ เพิ่งมีคนเก็บศพพ่อหนุ่มไปเมื่อกี้นี้เอง กว่าจะมาได้ก็ปาไปถึงเช้าเลย นี่ก็คงเริ่มแข็งขึ้นอืดอยู่นิดนึง ถ้าปล่อยทิ้งไว้อีกหน่อย คงได้เห็นน้องหนอนตัวอ้วนไต่ยั้วเยี้ยน่าดูชม แล้วเดี๋ยวก็คงมีใครมายกซากรถนี่ไปแล้วล่ะ” เสียงนั้นยังคงบ่นเนื้อความอะไรบางอย่างออกมาไม่ยอมหยุด
“นี่ผมอยู่ที่ไหนครับ” ธีร์ภพยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ลุงแก่คนนั้นกำลังทำท่าชะเง้อมองไปบนท้องถนนเหมือนรออะไรสักอย่าง ครั้นพอได้ยินคำถามจากชายหนุ่ม แกก็ย่ำเท้าเข้ามาหาเขาโดยทันที
“อ้าว..นี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ลองนึกดูดีๆ อีกทีสิ เมื่อกี้เรายังคุยกันถูกคออยู่เลย แต่ก็เข้าใจแหละ วิญญาณออกจากร่างตัวเองใหม่ๆ มันก็จะอ่อนเพลียเป็นธรรมดา นี่แสดงว่าตอนเป็นคนนี่พ่อหนุ่มคงแอบหลับตอนทำงานบ่อยๆ ล่ะสิ พอมาเป็นผีแล้วดันเอานิสัยเดิมติดมาด้วย งีบไปนี่ฝันถึงเลขอะไรบ้างล่ะ บอกลุงได้นะ เผื่อจะมีคนมาขูดขอหวยที่ต้นไทร จะได้บอกพวกคอหวยมันไป ได้เครื่องเซ่นเป็นหัวหมูอวบๆ สักตัวคงดีไม่น้อย” คราวนี้แกพล่ามยาวยิ่งกว่าชื่อเต็มของกรุงเทพมหานครเสียอีก
ธีร์ภพเหลียวหลังไปมองซากรถที่เขานั่งพิงก่อนลุกขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ตามคำบอกเล่าของลุง มันถูกลากจากโคนต้นไทรเพื่อนำเอาร่างผู้บาดเจ็บออกมา รวมถึงซากศพอุจาดตาของคนขับดวงซวยที่นั่งยัดร่างแหลกเหลวอยู่หลังพวงมาลัยรถก่อนหน้านี้
“นึกออกหรือยังล่ะ ลุงเห็นเขาดึงเศษกระจกหน้ารถออกจากคอพ่อหนุ่มแล้วก็ขนลุกแทน เสียบเหมาะเจาะตรงคอหอยเหมือนตั้งใจเล็งไว้ตั้งแต่แรกยังงั้นแหละ อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าดวงถึงฆาตก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่ถึงที่ตายอย่างเพื่อนที่นั่งมาด้วยกลับไม่เป็นอะไรสักอย่าง”
คำกล่าวนั้นเหมือนฉุดให้ความจำที่ตกตะกอนอยู่ก้นบึ้งของความนึกคิด ให้ค่อยๆ พลุ่งพล่านขึ้นมาจนเต็มแผ่เนื้อสมอง ธีร์ภพนึกย้อนสู่การเดินทางเพื่อไปงานแต่งงานแฟนเก่าเมื่อวานนี้...
ชายหนุ่มเปิดประตูรถขึ้นไปจับพวงมาลัยตรงที่นั่งคนขับ ทั้งๆ ที่ในหัวยังมึนๆ กับฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่หาย เขาปฏิเสธคำขอมานั่งตรงนี้ของธันวาเพื่อนรักอย่างเด็ดเดี่ยว เพื่อจะพิสูจน์ให้มันเห็นว่าเขายังมีสติสัมปชัญญะอยู่เต็มเปี่ยม หรืออาจจะล้นทะลักออกมาเลยก็ว่าได้
ตอนที่ธีร์ภพเลี้ยวรถเข้าสู่ถนนทางลัดเพื่อจะออกไปยังถนนใหญ่อีกทางหนึ่ง เขายังจอดรับอาวุธ เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่เคยมาทำงานเป็นเด็กติดรถส่งของต่างจังหวัดที่เดียวกับบริษัทที่เขาและธันวาทำงานอยู่ ตอนนั้นอยู่ดีๆ มันก็หายตัวไปเมื่อ 3 เดือนก่อน และติดต่อไม่ได้อีกเลย แต่เมื่อคืนนี้กลับเจอมันมาโบกรถอยู่ข้างทาง เขาเลยจอดรับมันขึ้นมานั่งข้างหลัง อาวุธเล่าว่าต้องไปช่วยงานลุงกับป้ากะทันหัน เลยลาออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว
แล้วที่ต้องมายืนโบกคนอื่นให้จอดตอนกลางคืนแบบนี้ เพราะเด็กหนุ่มทะเลาะกับลุงและป้าบนรถขณะขับรถผ่านเส้นทางนี้ เขาเลยโมโหขอลงกลางทางเพื่อจะไปเที่ยวให้หายเครียด พอดีมาเจอรถของธีร์ภพกับธันวาที่จะเดินทางไปงานแต่งงานพอดี เลยได้เจอกันอีกครั้งด้วยความบังเอิญ
แต่ธีร์ภพคิดว่ามันเป็นความตั้งใจมากกว่า เพราะพอเขาขับรถไปใกล้จะถึงทางโค้งหักศอกตรงต้นไทรใหญ่ แล้วเหลือบมองหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งอยู่เบาะหลังรถทางกระจกมองหลัง กลับไม่เห็นร่างของอาวุธอยู่ตรงนั้น ธีร์ภพและธันวาหันหน้ามองกันด้วยความตื่นตระหนกตกใจจนขนหัวลุก...
ก่อนที่ธีร์ภพจะพารถกระบะคู่ใจวิ่งเข้าเสยโคนต้นไทรใหญ่เต็มแรงในเวลาเพียงเสี้ยววินาที...!!!
ถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็ยังอดขนลุกอยู่ไม่หาย ที่ตอนเป็นคนเขาจอดรถรับวิญญาณของอาวุธขึ้นมาบนรถ แล้วพารถพุ่งแหกโค้งตายคาที่ ถึงแม้สภาพของเขาตอนนี้จะเป็นวิญญาณไม่ต่างจากมันก็ตามเถอะ...
“ผมมีบางอย่างจะถามลุงหน่อย เมื่อ 3 เดือนก่อนที่ขับรถมาชนต้นไม้ตายตรงนี้ ลุงมากับป้าแค่สองคนเหรอ แล้วหลานลุงที่ชื่ออาวุธล่ะ อยู่บนรถด้วยหรือเปล่า” ธีร์ภพกำลังหาต้นตอการมาปรากฏตัวของอาวุธ
“พ่อหนุ่มรู้จักหลานชายลุงด้วยเหรอ ลุงรู้แค่ว่ามันไปหางานทำที่อำเภอใกล้บ้านนี่แหละ นานๆ จะโผล่หน้ามาทีหนึ่ง จำได้ว่าวันนั้นมันมาบอกลุงกับป้าว่าทำผู้หญิงท้อง พ่อกับแม่ของฝั่งโน้นเขาจะเอาเรื่อง ลุงก็เลยพาป้าไปเจรจากับเขาแค่สองคน มันพยายามจะติดรถไปด้วย แต่ลุงไม่ยอมให้มันไป เพราะกลัวว่าถ้าผู้ใหญ่ฝ่ายผู้หญิงเห็นหน้าและพาลไม่อยากคุยด้วย เรื่องมันจะไม่จบสักที ดีแล้วที่ไม่ยอมให้มันขึ้นรถตามมาด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงต้องมานั่งเป็นผีเฝ้าโค้งเหมือนลุงกับพ่อหนุ่มตอนนี้แหละ คิดแล้วก็สงสารมันอยู่เหมือนกัน ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” ลุงแกเล่าเรื่องหลานชายให้เขาฟังอย่างกับละครน้ำเน่าในทีวีไม่มีผิด
“งั้นลุงก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันแล้วล่ะ เพราะไอ้วุธมันบอกกับผมว่ามันแอบขึ้นรถลุงไปด้วย แล้วก็ตายคาซากรถพร้อมลุงกับป้าอยู่ที่เบาะหลังรถตอนนั้นแหละ ตอนคนมาเก็บศพลุงไม่เห็นเขาหามศพมันออกไปด้วยเหรอ นอกจากศพตัวเองกับเมียน่ะ” ธีร์ภพเล่าเรื่องราวตอนที่อาวุธปรากฏตัวเป็นผีมาหลอกเขาจนพามาแหกโค้งตายอยู่ตรงนี้
“พ่อหนุ่มพูดจริงเหรอ ตอนนั้นลุงกับป้าไม่กล้ามองศพอันน่าสมเพชตัวเองหรอกนะ พากันปิดตาหันหน้ามองไปทางอื่นจนรถเก็บศพแล่นออกไปนั่นแหละ ว่าแต่มันคงไปตามโบกรถคนให้มาแหกโค้งตรงนี้สินะ โถ...หลานลุง ขนาดตายไปแล้วยังอุตส่าห์ห่วงลุงกับป้ากลัวไม่ได้ไปผุดไปเกิด คงละอายใจเลยไม่กล้ามาเจอหน้า ลุงก็ขอให้แกได้ไปเกิดใหม่เร็วๆ นี้ก็แล้วกันนะหลาน”
ธีร์ภพพาร่างวิญญาณของตัวเองเดินไปที่ริมถนนตรงโค้งหักศอก รถยนต์คันหนึ่งแล่นฝ่าละอองความร้อนของพื้นถนนมาแต่ไกล มันระยิบระยิบจับตาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กลางวันแสกๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะคนในรถคงเหยียบคันเร่งยาวมาเต็มพิกัดแบบไม่สนฟ้าสนผี วิญญาณหนุ่มจะใช้พลังอำนาจที่สิงสถิตตรงโคนต้นไทรแห่งนี้ อำพรางทางโค้งแห่งนี้ให้กลายเป็นเส้นตรงยาวสุดลูกหูลูกตา...
รถยนต์คันนั้นห้อตะบึงมากระแทกเข้ากับโคนต้นไทรเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ธีร์ภพรีบวิ่งเข้าไปดูตรงที่นั่งคนขับ ขอให้มันตายคาที่สักศพสองศพก็แล้วกัน เขาจะได้ไปผุดไปเกิดให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเสียที...
(จบเรื่อง...ถนนซ่อนนรก)