เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
“หมายความว่าไอ้หมอนั่น พยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับนายเกี่ยวกับตัวมันเองอย่างนั้นเหรอ" นเรศยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนชามมาม่าในมือผมแทบจะหล่นโครมลงตรงหว่างขา ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ไอ้นั่นคงสุกไปพร้อมกับเส้นบะหมี่ด้วยแน่ๆ
"เฮ้ย! ไอ้บ้า ตกใจหมดเลย อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมา เรื่องนั้นฉันบอกให้นายฟังเมื่อห้านาทีก่อนแล้วนะโว้ย ความรู้สึกช้าหรือไงวะ" ว่าพลางวางชามมาม่าลงบนโต๊ะ แล้วยกมือตบกะโหลกมันเสียฉาดใหญ่ มันยกมือขึ้นลูบศีรษะทำหน้าหงอยๆ
"ก็มันยังคาใจอยู่นี่หว่า ธรรมดาไอ้วีระนั่นมันก็ไม่ค่อยพูดกับเราสองคนอยู่แล้ว เหมือนจะเหม็นขี้หน้าด้วยซ้ำไป แล้วทำไมมันจะต้องมาบอกอะไรกับนายด้วยวะ แกเบลอหรือเปล่าไอ้พี ฉันว่ามันพยายามจะด่านายมากกว่า ทำนองว่ามองหน้าหาเรื่องเหรอวะ ตัวต่อตัวกันไหม...อย่างนี้มากกว่ามั้งเพื่อน" พูดจบก็ยกชามมาม่าของตัวเองขึ้นซดน้ำเสียงดังสนั่น
"ไม่ใช่นะโว้ย ดูจากสีหน้าของมันแล้ว ไม่ได้ต้องการหาเรื่องฉันอย่างแน่นอน มันชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงอ้อนวอน เหมือนต้องการความช่วยเหลืออย่างนั้นแหละ" พูดพลางใช้ตะเกียบคีบเส้นบะหมี่จากชามเข้าปาก
เสียงนเรศสำลักน้ำมาม่าก่อนจะสบถด่าผม
"ไอ้บ้า! เวลาคนเขาจะมีอะไรกัน มันจะเรียกนายเข้าไปหาทำไมวะ สวิงกิ้งเหรอ" พูดจบก็หัวเราะชอบใจยกใหญ่ ทำเอาผมเป็นฝ่ายสำลักบ้าง
"นี่ไอ้เรศ...ฉันกำลังเครียดอยู่นะโว้ย อย่าทำเป็นเรื่องล้อเล่นได้ไหม" ผมขอร้องแกมบังคับ เพราะขืนยังปากดีต่อไป พ่อจะฟาดหน้าด้วยหลังมือให้เลือดกบปากผสมน้ำมาม่าอร่อยไปเลย
มันยังคงปิดปากหัวเราะคิกคัก เหมือนจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ สุดท้ายก็พูดออกมา
"ถ้าอย่างนั้นมันก็คงมีอะไรจะบอกนายจริงๆ แหละ"
"แล้วนายคิดว่ามันจะบอกอะไรฉันเหรอ" พูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้เหมือนอยากได้คำตอบที่มันเข้าท่าสักหน่อย
"มันก็คงจะบอกนายว่าได้นอนกับผู้หญิงมาแล้วนับไม่ถ้วน ต่างกับนายที่ไม่ได้แอ้มสาวคนไหนเลยแม้แต่คนเดียว ฮ่า...ฮ่า...ผู้ชายอะไรวะ ไม่เคยนอนกับผู้หญิงมาก่อน โตจนเลียก้นหมา เอ๊ย...โตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วนะโว้ย...ฮ่า...ฮ่า"
คราวนี้ผมเหลืออดจริงๆ จึงลุกขึ้นคว้าตะเกียบจากชามเขวี้ยงใส่หน้านเรศ จนมันร้องเอะอะโวยวายลั่นห้อง
"นี่มันจะมากไปแล้วนะไอ้พีระ ฉันล้อเล่นแค่นี้ แกถึงกับต้องปาตะเกียบใส่หน้าเลยเหรอวะ" นเรศเลือดขึ้นหน้า ลนลานจะยกชามมาม่าขึ้นขว้างใส่ผมบ้าง แต่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อน
"เบาๆ หน่อยสิคุณสองคน นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วนะครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียนแต่เช้าด้วย" เสียงไอ้เฟิร์สหน้าหล่อห้องตรงข้ามเอ่ยขึ้น ผมรีบตะโกนตอบออกไป
"เออๆ ข้าสองคนจะนอนหลับแล้วโว้ย แกก็ไปนอนได้แล้ว"
"ขอบคุณครับ" เสียงตอบรับกลับมาตามด้วยเสียงเปิดประตูเข้าห้องตัวเองไป
"ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พี คืนนี้ดึกแล้วแกรอดตัวไป" นเรศชี้นิ้วใส่หน้าผม ก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วกระโดดขึ้นเตียงไป
ผมเดินไปปิดสวิตช์ไฟที่ผนังห้อง แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างนเรศ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับไหล่มัน
"เฮ้ย! ไอ้พี...แกจะทำอะไรฉันวะ" พูดพลางกระเถิบร่างถอยหนี
"ไอ้เพื่อนบ้า! ฉันไม่ข่มขืนแกหรอกน่า คือฉัน... ฉันอยากจะขอโทษนายน่ะ พอดีเมื่อกี้คิดมากไปหน่อยเลยอารมณ์เสียใส่แก" ผมกล่าวกับมันเสียงอ่อย
"เออ...ไม่เป็นไร นอนหลับเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเอาคืน ฮ่า...ฮ่า..." ไม่วายกวนบาทาก่อนนอน พูดได้แค่นั้นมันก็เงียบเสียงไป ผมเองก็หลับตาลงบ้าง
พลันนเรศก็พลิกตัวหันมา จนผมสะดุ้งโหยงเกือบจะถีบมันตกเตียงเสียให้ได้
"แล้วนายออกไปทำอะไรกลางดึกตอนตีหนึ่งวะ ถึงได้จ๊ะเอ๋ไอ้วีระกับสาวของมัน นี่ถ้าเรื่องเข้าถึงหู ผอ. (ผู้อำนวยการ) แล้วล่ะก็...เป็นเรื่องแน่ มีอย่างที่ไหน...พาผู้หญิงเข้ามาในหอพักชายหน้าตาเฉย แถมยังเป็นเวลากลางคืนเสียด้วย" นเรศเอ่ยถามในความมืด
(จบตอนที่ 1)