เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
แทนที่จะเจอพื้นที่อุ่นๆ ราบเรียบแนบกับฝ่ามือใหญ่หนาให้กระชุ่มกระชวย แต่เทพวัชกลับได้เกาะกุมอยู่กับกลุ่มก้อนเนื้อแข็งแกร่งดุจกิ่งไม้ตัดท่อนในร่างกายของคนที่นอนข้างๆ เสียนี่...
ชายหนุ่มกระโจนเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงหนานุ่มอย่างไม่คิดชีวิต เนื้อสมองกำลังจัดการประมวลผลกับสิ่งที่ได้สัมผัสมาเต็มกำมือ ทำไมแฟนสาวของเขาถึงมีงูตัวเขื่องมาแอบซ่อนอยู่ตรงนั้น แทนที่จะเป็นความเรียบเนียนของกลีบกุหลาบยามเช้าที่แสนสดใส
ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบกระโดดขึ้นบนที่นอนกระชากผ้านวมผืนใหญ่เขวี้ยงไปกองที่พื้นปลายเตียง แบบไม่แยแสร่างที่นอนคลุมโปงอยู่กับฟูกอย่างมีความสุข ในตอนเช้าที่วุ่นวายของเมืองกรุงกับการจราจรที่หนาแน่น ใครๆ ก็ไม่อยากไปเจอกับมันเร็วนักหรอก
“นี่นายเป็นใคร มานอนอยู่บนเตียงของฉันได้ยังไงวะ แล้วแฟนฉันล่ะ แกเอาปริตาไปไว้ที่ไหน” เทพวัชเดือดดาลปนงงงวย เมื่อร่างอวบอัดเต่งตึงด้วยเนื้อสาวสะพรั่งที่นอนกกกอดกับแผงอกทั้งคืน ถูกแทนที่ด้วยไอ้ผู้ชายรูปร่างสมส่วนนอนใส่กางเกงในตัวเดียว มันนอนหงายอล่างฉ่างไม่เกรงใจสายตาชาวบ้านอย่างเขาเอาเสียเลย หรืออย่างน้อยก็น่าจะมียางอายบ้าง กับผีสางที่มันอาจจะอุตส่าห์สิงสถิตอยู่เป็นเพื่อนเฝ้าห้องนี้อยู่
ร่างนั้นงัวเงียตื่นขึ้น ขยี้ตาด้วยมือทั้งสองข้างอย่างคนขี้เซา ปากบ่นอุบอิบแทบไม่เป็นภาษาคน ราวกับว่าถูกขัดจังหวะการนอนบนเตียงอันแสนสุข ก่อนจะเด้งตัวกระโดดขึ้นจากเตียงเป็นเขียดตะปาดที่เจอศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า
“นาย...นายนั่นแหละ มาอยู่ที่ห้องฉันได้ยังไง แล้วนิดาแฟนฉันล่ะ นายเอาเธอไปไว้ที่ไหน” ผู้ชายคนนั้นพูดประโยคคล้ายๆ กับเทพวัช สงสัยขี้เกียจคิดคำพูดเองหรืออย่างไร หรือว่าเขาเจอเหตุการณ์ที่มันเกิดขึ้นเหมือนๆ กัน
“นี่มันห้องฉัน นายอย่ามามั่ว อย่าบอกนะว่าแกเป็นอะไรกับแฟนฉัน” คนที่อ้างเป็นเจ้าของห้องคนแรกยังคงยืนยันสิทธิ์อย่างเหนียวแน่น เมื่อคืนตัวเองก็ไม่ได้เมาถึงขนาดหิ้วหนุ่มหล่อขึ้นมาบนหอพักแทนแฟนสาวนี่นา เพราะเขาจำได้ว่ายังนอนจับหน้าอกตู้มๆ ของเธอไว้ทั้งคืน แล้วไอ้บ้านี่มันมีหน้าอกเสียที่ไหนกัน ผู้ชายทั้งแท่งซะขนาดนี้คงไม่รอดสายตาเขาเข้ามาในห้องนี้ได้หรอก
ไอ้บ้านั่นมันยังคงยืนนิ่งบนเตียงเหมือนเสาไม้ปักในสวนผัก จนเทพวัชต้องตวาดให้มันไปใส่กางเกงปกปิดความน่าอุจาดตาที่บังอาจทำให้เกิดขึ้นในเช้าอันแสนสงบสุขของเขา
ร่างนั้นเก้ๆ กังๆ ลนลานเดินหากางเกงมาใส่ได้ตัวหนึ่ง แต่กว่าจะได้ห่อหุ้มท่อนล่างอันล่อนจ้อน พ่อก็เดินวนไปรอบห้องอยู่หลายรอบ แค่นี้เทพวัชก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ห้องของมัน ถึงหากางเกงประจำกายไม่เจอในเวลาอันรวดเร็ว
“ตอนนี้จะบอกมาได้หรือยังว่านายเป็นใคร อย่าบอกนะว่าเป็นน้องชายของปริตา...” เทพวัชยืนจ้องหน้าแขกแปลกหน้ายามเช้าอย่างพินิจพิเคราะห์ จะว่าไปไอ้หมอนี่ก็หน้าคล้ายๆ กับแฟนเขาอยู่ไม่ใช่น้อย ถ้าไม่เป็นพี่น้องที่คลานตามกันออกมาในเวลาติดๆ ก็อาจจะเป็นคนหน้าเหมือนสักคู่หนึ่งบนโลก ต่างกันแค่ว่ามันเป็นผู้ชาย แต่แฟนของเขาเป็นผู้หญิง
พอได้ยินคำพูดประโยคนั้นของเทพวัช ดูเหมือนชายหนุ่มผู้หลงเข้ามาในห้องของคนอื่น จะรีบคว้าเอาเนื้อหาในประโยคนั้นมาปรับแต่งเป็นเรื่องราวของตนเองเสียอย่างนั้น เทพวัชรู้สึกแบบนั้นจริงๆ เพราะพอเขาเปิดช่องให้นิดหน่อย ก็เอามาขยายความเสริมแต่งเสียเนียนเลยนะ แต่เขาขอรอดูต่อไปดีกว่าว่ามันจะมาไม้ไหนกันแน่
“ใช่ๆ ผมเป็นน้องชายของพี่ตา พอดีเจ๊แกต้องกลับไปหาพ่อที่บ้านนอกน่ะ เลยให้ผมมาบอกพี่” ชายหนุ่มที่อ้างว่าเป็นน้องเมีย ไม่ใช่สิ... ต้องเรียกว่าน้องแฟนของเทพวัชถึงจะเหมาะกว่า มันเอ่ยถึงเรื่องราวความเป็นมาที่มานอนอยู่บนเตียงในห้องนี้ พร้อมเปลี่ยนสรรพนามเรียกแทนตัวเองจาก…ฉัน…มาเป็น…ผม…เสียเสร็จสรรพ
“นี่นายต้องมาบอกถึงขนาดแก้ผ้านอนบนเตียงเดียวกับฉันเนี่ยนะ นี่ถ้าเมื่อคืนฉันเมาแรงกว่านี้อีกนิด คงคิดว่าตัวเองหิ้วนายขึ้นมาทำจ้ำจี้บนนี้แน่เลยว่ะ” พูดพลางลูบขนแขนที่ลุกชันให้สงบลงด้วยฝ่ามือ คราวหน้าเวลาสังสรรค์กับเพื่อนอีก เขาจะไม่กินเหล้าเมามายจนไม่ได้สติแบบเมื่อคืนอีกแล้ว เกิดได้เมียเป็นผู้ชายอีกคนมันก็จะเขินๆ อยู่นะ
“โหพี่ก็... พูดซะของผมหดเลย แบบนั้นมันจะดีเหรอ ไม่เอา...ไม่พูด...” มันลากเสียงยาวเป็นคำฮิตของชาวเน็ต ก่อนจะเดินหาเสื้อของเจ้าของห้องมาใส่อีกตัว
เทพวัชหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรเบอร์ของแฟนสาว อนิจจา...เสียงเรียกเข้าของมันดังขึ้นอยู่ที่ใต้หมอนที่ไอ้บ้านั่นหนุนหัวนอนทับเมื่อครู่นี้
“ทำไมโทรศัพท์มือถือของตาถึงยังอยู่ที่นี่ นายบอกฉันมาตรงๆ ดีกว่าว่านายเป็นใคร แล้วฉันจะไม่แจ้งตำรวจเรื่องบุกรุก” เทพวัชเดินเข้าไปหาเจ้าหนุ่มนั่น ที่กำลังหยิบเสื้อยืดของเจ้าของห้องบรรจงสวมลงที่ศีรษะ
“นี่พี่ซักเสื้อผ้าบ้างหรือเปล่าเนี่ย ทำไมกลิ่นตัวมันถึงได้แรงเบอร์นี้ เต่าก็เหม็นยังกับไม่ได้ทาโรลออนมาหลายวัน” พูดพลางยกแขนขวาขึ้นดมตรงรักแร้ของเสื้อที่สวมอยู่
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันรู้ว่าแฟนฉันไม่เคยลืมมือถือเวลาออกไปไหน ขนาดเข้าห้องน้ำแม่ยังนั่งไถหน้าจออยู่เป็นชั่วโมง แต่นี่ไปต่างจังหวัดตั้งหลายวันนะโว้ย แค่ก้าวออกจากประตูห้องก็รู้แล้วมั้งว่าลืมโทรศัพท์” เทพวัชยังคงเค้นถามผู้ชายแปลกหน้าในห้องของเขาอย่างไม่ยอมลดละ
“โธ่พี่... ทำยังกับตัวเองไม่เคยลืมของสำคัญเวลาเร่งรีบอย่างนั้นแหละ พี่ตาอาจจะรีบจนลืมก็ได้ พี่อาบน้ำแต่งตัวไปเรียนเถอะ ส่วนผมไม่มีเรียน จะได้อยู่เฝ้าห้องให้ แล้ววันนี้ก็เป็นวันจันทร์นะพี่ สาวที่มอ (มหาวิทยาลัย) คงจะมากันครึกครื้นน่าดูเลย ไม่รีบไปส่องสาวหน่อยเหรอ” แขกแปลกหน้าพูดยังกับว่าจะสิงอยู่ในห้องของเทพวัชต่อไปอีก
“อย่าบอกนะว่านายจะอยู่ห้องฉันต่อ ไม่กลับไปห้องตัวเองล่ะ อยู่หอในหรือหอนอก เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งก็ได้ อย่ามาทำเนียนอยู่ห้องคนอื่น” พูดจบก็จับยกคอเสื้ออีกฝ่ายยกขึ้นติดมือแน่นไม่ยอมปล่อย หมายจะลากให้ออกไปรอนอกห้อง แต่ก็ต้องรีบปล่อยมือออกทันที เมื่อนึกขึ้นได้ว่านั่นมันเสื้อตัวโปรดของเขาเองนี่นา จับแรงๆ เดี๋ยวเสื้อราคาแพงคอจะย้วยก่อนถึงเวลาอันควร
“พี่จะยอมขัดคำสั่งเมีย เอ๊ย...ไม่ใช่ พี่จะยอมขัดใจพี่ตาเหรอ แฟนพี่บอกให้ผมอยู่ที่นี่แทนระหว่างที่พี่แกไปต่างจังหวัด นี่แสดงว่าพี่ต้องเคยแอบไปทำอะไรไม่ดีไว้หรือเปล่า พี่ตาถึงต้องเอาผมมาเป็นองครักษ์ติดตามไม่ให้นอกลู่นอกทางแบบนี้” ได้ทีรีบจี้ใจดำอีกฝ่าย หมายจะหาโอกาสอยู่ต่อให้ได้
“ทำบ้าอะไรล่ะ อย่ามาพูดเหมือนรู้ดีไปหน่อยเลย เอาเป็นว่าจะอยู่ก็อยู่ไป แต่อย่ามาวอแวกับฉันเป็นอันขาดนะ ว่าแต่นายชื่ออะไรล่ะ ปริตาไม่ยักจะบอกฉันเลยว่ามีน้องชายกวนตีนแบบนี้ด้วย” พูดพลางถอดเสื้อโยนใส่หน้าน้องชายแฟน แล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเตรียมตัวไปอาบน้ำ มันรีบตะปบคว้าไว้แล้วจับโยนลงไปในตะกร้าผ้าตรงปลายเตียงอย่างรังเกียจ
“ไอ้พี่บ้านี่ เหม็นแค่ตัวเองยังไม่พอ โยนมาให้คนอื่นเหม็นด้วยทำไม จะอ้วกว่ะ ชิ...” เบ้ปากมองตามร่างที่เดินเข้าห้องน้ำไป เสียงหัวเราะชอบใจลอยออกมาจากข้างใน ก่อนที่เสียงน้ำจากฝักบัวจะดังตามมากราวใหญ่
“แล้วนายไม่บอกฉันล่ะว่าชื่ออะไร” เสียงตะโกนแทบฟังไม่ออก สงสัยแปรงฟันพร้อมกับอาบน้ำไปด้วย พวกผู้ชายชอบทำกันแบบนี้ และเทพวัชก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นผู้ชายจะสะอาดอะไรกันนักหนา มิน่า... ไอ้หมอนั่นถึงว่าตัวเขาเหม็นยังกับหมา
“ผมชื่อเมฆา เรียกผมเมฆก็ได้ แต่เพื่อนๆ เรียกชื่อจริงผมตลอดแหละ ไม่เคยเรียกแค่เมฆเฉยๆ” เขาตะโกนตอบคนที่อยู่ในห้องน้ำ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปยังโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่ติดริมหน้าต่าง
(จบตอนที่ 1)