เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กระจกเงาห้องตรงข้าม (รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบ)เมื่อสิ่งที่ตามองเห็นไม่เป็นอย่างที่สมองคิด ความเป็นจริงจึงอยู่เหนือการคาดเดา
รวมเรื่องสั้นระทึกขวัญ...หักมุมตอนจบหลายรูปแบบ เช่น ฆาตกรรมซ่อนเงื่อน ผีและวิญญาณ โลกต่างมิติ เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด หลอกหลอน...ซ่อนผวาจนขนหัวลุก
นัทวิทย์มองดูกล่องถุงยางอนามัยที่วางหราต่อหน้าต่อตาเขาอย่างไม่เข้าใจ คงเป็นเจ้าเพื่อนบ้าที่เล่นพิเรนทร์แอบเอามันมาซุกใส่ในกระเป๋ากางเกงของเด็กหนุ่มตอนเขาเผลอ อาจจะเป็นตอนยืนฉี่ที่โถปัสสาวะด้วยกันก็ได้ใครจะรู้
“บอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าแกพกมันไว้ทำไม อยู่แค่ ม.6 ริจะคิดไปมั่วกับใครต่อใครซะแล้ว พอใช้งานได้หน่อยก็ย่ามใจเลยนะ” หญิงวัยกลางคนคว้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขามายกชูขึ้นให้เห็นกันจะๆ อีกครั้ง คงคิดว่ามันไม่ชัดเจนพอถ้าให้เจ้าตัวมองดูมันอยู่บนโต๊ะกินข้าวอย่างสำนึกผิด
“โธ่...แม่ อย่าไปว่าลูกมันเลย อย่างน้อยมันก็รู้จักป้องกัน ไม่ไปเอากับสาวที่ไหนไปทั่วโดยไม่ได้ใส่อะไรเลย” ชายวัยกลางคนเอื้อมมือไปจับแขนคนต่อว่าเด็กหนุ่ม และบีบเค้นเบาๆ เพื่อหมายจะผ่อนคลายอารมณ์โกรธลงได้บ้าง
“อ๋อ... เพราะมีคนให้ท้ายนี่เองมันถึงได้ใจ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะพ่อลูกคู่นี้” อารมณ์โกรธไม่ได้น้อยลงตามความคาดหมายของทุกคน ตรงกันข้าม... เป้าหมายของการเอาผิดตกไปอยู่ที่ผู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกคนไปโดยปริยาย
“ไม่ใช่ของผมนะแม่ ไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในกางเกงผมได้ยังไง” เด็กหนุ่มไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะเล่นกับเขาแรงถึงขนาดนี้ ก่อนถอดกางเกงให้แม่เอาไปซักก็ไม่ได้ล้วงดูอะไรเสียด้วยสิ
“ไม่รู้ล่ะ ฉันมอบเรื่องนี้ให้พ่อแกดูแลก็แล้วกัน ถ้าเกิดคราวหน้ามีแบบนี้อีก แม่จะเล่นงานทั้งพ่อทั้งลูกเลยคอยดูสิ” ว่าจบก็สะบัดสะโพกสลาตันถือกางเกงนักเรียนของนัทวิทย์หายออกไปทางหลังบ้าน
สองหนุ่มต่างวัยมองหน้ากันอย่างอิหลักอิเหลื่อ หนุ่มน้อยปรายตามองหน้าพ่ออย่างไม่เต็มสายตานัก ผู้เป็นพ่อก็มองหน้าลูกชายเป็นเชิงปลอบอยู่ในที หรือจะบอกเป็นนัยๆ ว่าลูกไม้ไม่เคยหล่นไปไกลต้นเท่าไหร่นักหรอก เพราะว่าตอนหนุ่มๆ ตัวเองก็ร้ายน้อยหน้าลูกชายเสียที่ไหน
“ผมไม่ได้ซื้อมันมานะพ่อ ใครจะไปซื้อของแบบนี้มาใช้กันล่ะ แค่คิดว่าคนขายมันยอมขายให้ก็ไม่ใช่ละ ใส่ชุดนักเรียนเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อไปเอาถุงยาง เจ้าของร้านที่ไหนจะยอมขายให้” นัทวิทย์กล่าวอย่างน้อยใจ แต่แม่ไม่ยอมฟังเขาเลย ได้แต่ด่าๆๆๆ แล้วก็ด่าอยู่นั่นแหละ
“พ่อก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ลูก วัยรุ่นสมัยนี้พกไว้ก็ดีแล้ว เวลาฉุกเฉินอะไรขึ้นมาจะได้ตั้งตัวได้ทัน แล้วนี่ไปเหมาสาวมากี่คนแล้วล่ะ คิก...คิก...” ตอนต้นประโยคก็เริ่มพอใช้ได้อยู่หรอก แต่ตอนท้ายนี่สิ... เริ่มจะรับไม่ไหว แถมมีเสียงหัวเราะชอบใจเบาๆ นี่จะยิ่งตอกย้ำว่าเขาเหมือนเป็นผู้ร้ายปากแข็งไปถึงไหนกัน
“พ่อ...!” เด็กหนุ่มตะโกนใส่หน้าพ่ออย่างสติหลุด ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวหายเข้าห้องนอนตัวเองไป ผู้เป็นพ่อรีบรั้งไว้แต่ก็ไม่ทัน กะจะให้เป็นเรื่องขำๆ ผ่อนคลายแล้วค่อยเข้าเรื่องต่อ แต่เจ้าลูกชายตัวดีก็ดันงอนตุ๊บป่องสะบัดตูดจ้ำอ้าวจากไปเสียก่อน
พิพัฒน์ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตัวเอง แต่ในนั้นไม่มีอะไรอยู่แม้แต่เศษผมเพียงเส้นเดียว เขาทำมันตกจากกระเป๋าเสื้อไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่จริงแล้วก็ตั้งใจจะชื้อถุงยางอนามัยมาให้เจ้าลูกชายพกติดตัวไว้นั่นแหละ เพราะเห็นมันเป็นหนุ่มแล้ว กลัวไปพลาดท่าเสียทีกับสาวที่ไหนล่ะยุ่งแน่
แต่ยังไม่ทันที่พิพัฒน์จะทำอะไรมากไปกว่าจับมันยัดลงกระเป๋าเสื้อ หลังจากเดินออกจากร้านสะดวกซื้อเมื่อบ่ายนี้ แต่ไหงถุงยางอนามัยกล่องนั้นถึงไปอยู่ในกระเป๋ากางเกงของลูกชายเสียได้
ทางเดียวที่พอจะคิดและเป็นไปได้ ก็คือเจ้าลูกชายตัวแสบนั่นแหละ อาจจะไปเจอมันตกอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านแล้วคิดแอบเอาไปใช้ แต่ไหวตัวไม่ทันแม่ของเขาที่ค้นเจอเสียก่อน คราวนี้ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมาอย่างไม่ทันคาดคิด ยกโทษให้พ่อด้วยนะลูก พ่อผิดไปแล้ว... ของแบบนี้ไม่ควรจะให้มันตกหล่นไปจากตัวได้เลยจริงๆ ให้ตายสิ...
“แกใช่มั้ยไอ้เฟยที่เอาถุงยางมาใส่กางเกงข้า รู้มั้ยว่าข้าโดนแม่ด่าชุดใหญ่ไฟกระพริบเลยนะโว้ย วันนี้ทั้งวันก็มีแต่แกนี่แหละที่ตามข้าต้อยๆ ยังกะเมียติดผัว ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใครวะ” นัทวิทย์ตะเบ็งเสียงใส่โทรศัพท์หลังจากกดเบอร์ไปหาเพื่อนสนิทแล้วมันรับสาย
“แหมๆๆๆ กล้าพูดนะพ่อหนุ่มน้อย ใครเมียแกวะ แกต่างหากที่ตามตูดข้ายังกับผีจูออน มั่นหน้าเกินไปแล้วพ่อรูปหล่อ ไอ้เนมน้องแกหรือเปล่าวะ วันนี้ตอนเที่ยงมันมาหาแกที่ห้องชมรมดนตรีนี่ ข้าเห็นมันเดินมาด้อมๆ มองๆ แถวหน้าห้องน่ะ ตอนที่ข้าเดินกลับจากเข้าห้องน้ำมา จะเรียกมันก็เดินบิดตูดหายไปยังกับหนุ่มน้อยนักรักมีนัดกินข้าวกับสาว แกไปถามมันดิวะเพื่อน” ปลายสายส่งเสียงหยอกตอนต้น ตามติดด้วยคำตอบที่ต้นสายต้องการตอนท้าย
“อ้าว...จริงเหรอวะ ข้าไม่ได้เจอหน้ามันนะเว้ยตอนนั้น แกตาฝาดหรือเปล่าไอ้เฟย หรือไม่งั้นก็กลบเกลื่อนโบ้ยความผิดให้คนอื่นเป็นแพะ แกนี่มันเพื่อนชั่วจริงๆ พับผ่าสิ” นัทวิทย์ไม่ยอมเชื่อเพื่อน ซ้ำยังยืนยันจะให้มันยอมรับการกระทำของตัวเองให้ได้
“ตาฝาดบ้านแกสิไอ้บ้า แกไปถามน้องมันก่อน ไอ้นี่ก็มีพิรุธอยู่นะ ไม่งั้นมันคงเข้าไปเจอหน้าแกในห้องแล้วล่ะ ไม่มาแอบอยู่หน้าห้องทำท่าเหมือนแมวแอบทำแจกันตกแตกหรอก” ฝ่ายปลายสายก็ไม่ยอมรับกับคำกล่าวหาที่จะมายัดเยียดให้เป็นผู้ร้ายใจหมา
“งั้นไอ้เนมมันคงพรางตัวเป็นฮอลโลวแมน (Hollow Man) เข้ามามั้ง ไอ้โง่... ตอนนั้นก็มีแค่แกกับข้าที่ใช้ห้องนั้นนะ แล้วข้าก็นั่งตีกลองหันหน้าไปทางประตูตลอด ใครเข้ามาตอนไหนข้าเห็นหมด และก็เห็นแกคนเดียวที่เดินเข้าห้องมา ไปไหนมาไหนกับแกที่โรงเรียนทั้งวัน ถ้าเป็นตอนอยู่ในคาบเรียนก็ยิ่งไม่มีใครกล้ากับข้าหรอก” นัทวิทย์ยืนยันเสียงแข็ง เขาไม่ใช่คนตาบอดที่จะไม่เห็นคนตัวเป็นๆ เดินเข้ามาหาต่อหน้าต่อตา
ปลายสายถอนหายใจคล้ายเหนื่อยหน่ายต่อคำกล่าวอ้างของคู่สนทนาเต็มที ไอ้เพื่อนบ้านี่มันจะให้เขายอมรับในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำให้ได้ ใครกันแน่ที่เป็นเพื่อนชั่ว เดี๋ยวเจอกันที่โรงเรียนพรุ่งนี้นะจะแอบแกล้งให้สมกับที่มันมอบฉายาผู้ร้ายปากแข็งให้ คอยดูสิ...
“เอาเป็นว่าแกไปเค้นถามไอ้เนมมันตอนนี้เลยละกัน ได้เรื่องยังไงเดี๋ยวมาคุยกันพรุ่งนี้ แค่นี้นะไอ้ไก่อ่อน ฮ่า...ฮ่า...” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยในสาย ตามติดด้วยการกดวางไปเสียดื้อๆ หน็อย...ไอ้นี่ มาด่าว่าเขาเป็นพวกไก่อ่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตามไปคิดบัญชีมันถึงที่เลย
เสียงเคาะประตูห้องนอนนัทวิทย์ดังขึ้น เด็กหนุ่มรีบลุกเดินไปเปิด พอเห็นหน้าคนมาหาก็รีบดึงตัวเข้ามาแล้วจับโยนไปที่เตียงยกใหญ่ ทำให้ร่างนั้นเด้งดึ๋งขึ้นจากเตียงเหมือนเล่นกระโดดจนเซถลาเกือบตกลงบนพื้น
มาถึงที่นี่ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องไปตามล่าตัวถึงห้องนอนมันให้ลำบากเท้า นึกถึงพื้นห้องที่เหมือนกับไม่ได้ทำความสะอาดมาเป็นปี เขาก็ยิ่งสงสารฝ่าเท้าน้อยๆ ของตัวเองอยู่ไม่น้อย มีแต่พี่ชายอย่างเขาที่รู้ว่ารังหนู เอ๊ย...ห้องนอนของมันโสโครกรกเรื้อขนาดไหน เพราะน้องชายไม่ยอมให้พ่อกับแม่เข้าไป มีเพียงตัวเขาและเจ้าแมวเหมียวตัวเขื่องของมันที่เข้านอกออกในห้องนั้นได้ ฟังดูแล้วยังกับเป็นห้องลับของพวกพ่อมดหมอผีที่เอาไว้บูชาหุ่นจำลองภูตผีอะไรทำนองนั้น
“ไอ้เนม แกบอกมาเดี๋ยวนี้นะว่าไปหาฉันทำไมที่ห้องชมรมดนตรีตอนเที่ยงวันนี้ แล้วไปสิงอยู่หน้าประตูนั่นเพื่อ..??? ไอ้เฟยมันเห็นหมดแล้วว่าแกแอบมาทำลับๆ ล่อๆ แล้วหายไป แกเอาอะไรมาใส่ไว้ในกางเกงฉันหรือเปล่า บอกมาซะดีๆ” เจ้าของห้องต่อว่าแขกที่นั่งอยู่บนเตียงอย่างหัวเสีย ถึงแม้จะมั่นใจว่าน้องชายไม่ได้เอาถุงยางอนามัยมาแอบใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ตามที แต่เขาก็อยากจะฟังจากปากผู้บริสุทธิ์ดูสักที
“ฮ่า...ฮ่า... ไอ้ถุงยางนั่นน่ะเหรอ ผมก็ว่าเสียงแม่บ่นอะไรตอนซักผ้า ใครจะไปทำอย่างนั้นล่ะพี่ ตัวเองแอบไปซื้อมาเอง แต่พอถูกจับได้แล้วก็มาโทษคนอื่นแบบนี้ก็ได้เหรอ” น้องชายกลั้นขำไว้ไม่อยู่ จะหาสาวไว้เพิ่มประสบการณ์เล่นๆ สักคน ก็ดันมาให้แม่จับได้ซะนี่ หลักฐานโชว์หราดิ้นไม่หลุดขนาดนั้นเขาเรียกว่าพวกไก่อ่อน ไม่รอบคอบเองก็ต้องโดนแบบนี้แหละ
(จบตอนที่ 1)